ตอนที่ 525 สกัดกั้น
หลินซินมองไปที่หน้าอกของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ตัวเขาที่เหลือบมองหน้าอกเสร็จได้มองไปยังรถม้าลอยฟ้าอีกครั้ง หลินซินได้ส่งเสียงอันดังลั่นออกมา “เจ้าชนะแล้ว”
หลินซินเลือกที่จะยอมแพ้ให้กับชะตากรรม ตัวเขาหลับตาลงก่อนที่จะเดินถอยหลังไป
พรึบ!
ประมุขผู้เก่าแก่ที่สุดของสถานศึกษาไท่ซูหลินซินเลือกที่จะจบชีวิตลง ในขณะที่ท้าทายปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายสําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500”
ต้วนมู่เฉิงได้ร่อนลงสู่พื้น ในขณะที่ร่อนลงมาตัวเขาก็เหลือบมองไปที่หมิงหยิน “ลอบโจมตีอย่างงั้นเหรอ?”
“ศิษย์พี่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านจริงๆ หอกของท่านสามารถจู่โจมผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ ช่างไร้เทียมทาน!”
ต้วนมู่เฉิงพยักหน้าเล็กน้อย “เจ้าเองก็เก่งขึ้นเหมือนกันนะ”
“ขอบคุณคําชม ศิษย์พี่”
ในขณะที่ทั้งสองคนกําลังชื่นชมกันและกันอยู่ เหล่าสาวกที่อยู่ที่ด้านนอกแท่นหินต่างก็ตกใจ และจนปัญญา พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะหันหลังหนี โชคยังดีที่ต้วนมู่เฉิงและหมิงซูหยินไม่ได้เห็นพวกเขาเป็นศัตรู
ในขณะเดียวกัน ผู้ฝึกยุทธจากสํานักต่างๆ ยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลินซินเป็นยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาไม่ได้ต่อกรกับจีเทียนเด๋าซะด้วยซ้ํา หลินซินต้องมาตายซะก่อน ผลการต่อสู้ที่เกิดความคาดหมายนี้จะไม่ทําให้ทุกคนตกใจได้ยังไงกัน?
ต่อสู้ที่เกิดแบบนั้นตัว
ข่าวการตายของหลินซินแพร่ไปทั่วหุบเขาอย่างรวดเร็ว
ณ ที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่ที่สาวกของสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ซ่อนตัวอยู่ หัวหน้าของกลุ่มสังเกตการณ์ได้มองไปที่ยอดเขาดันยางก่อนที่จะโบกมือ “ถอยก่อน ทุกอย่างจบลงแล้ว ออกเดินทาง…”
สาวกจากสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ที่มาชื่นชมการต่อสู้รีบเคลื่อนไหวในทันที
ในขณะเดียวกันสาวกจากสํานักเฮ้งชูไม่อาจเข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็นได้เลย ทุกคนจะอธิบายกับเจ้าสํานักได้ยังไง ถ้าหากสาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้าสามารถสังหารผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้แบบนี้?
“แจ้งว่าหลินซินตายแล้ว จีเทียนเด๋าไม่จําเป็นจะต้องเคลื่อนไหวซะด้วยซ้ํา!”
เหล่าอดีตสาวกของสํานักใหญ่ทั้งสิบที่เหลืออยู่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดแล้ว พวกเขาคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่พี่น้องที่ตายจากไปทุกคนจะได้ล้างแค้น การตายของหลินซินทําให้ทุกคนต้องพบกับความผิดหวังอย่างหนัก
“ไม่มีใครหยุดศาลาปีศาจลอยฟ้าได้จริงๆ อย่างงั้นเหรอ?”
ใครบางคนถอนหายใจออกมา “ข้าคงจะคาดหวังมากเกินไป.น่าขันซะจริง! ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบน่ะเหรอจะเอาชนะผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้ น่าขันโดยแท้…”
“ถ้าหากข้าเป็นจีเทียนเด๋า ข้าก็คงจะใช้พลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบที่มีทําลายล้างสถานศึกษาไท่ชูนั่นไปแล้ว จีเทียนเด๋ามีเมตตาเกินไปจริงๆ”
มันเป็นเหมือนกับสุภาษิตที่ว่า “ถอนรากถอนโคน” การที่จัดการถอนรากถอนโคนศัตรูทั้งหมดย่อมดีกว่าที่จะให้ศัตรูกลับมาแก้แค้นที่หลัง
ในขณะที่ผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนตัวอยู่กําลังจะจากไป รถม้าลอยฟ้าของศาลาปีศาจลอยฟ้าก็ออกเคลื่อนไหว รถม้าคันนั้นไม่ได้กลับไปยังศาลาปีศาจลอยฟ้า รถม้าได้พุ่งตรงไปยังทางที่สถานศึกษาไทชูตั้งอยู่
ต้วนมู่เฉิงและหมิงซูหยินกลับไปบนรถม้าอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวลูบเคราของตัวเองอย่างไม่แยแส ตอนนี้ตัวเขากําลังเหลือบมองหอคอยหลักของสถานศึกษาไท่ซู
หมิงซี่หยินพูดต่อ “แกนกลางของเขตแดนพลังจะต้องอยู่ที่ส่วนปลายของหอคอยหลักแน่ ข้าไม่คิดว่าจะมีใครกล้าพอที่จะหยุดยั้งพวกเราได้”
ไม่นานหลังจากนั้นสายตาของผู้คนที่อยู่เบื้องล่างก็ได้จับจ้องไปยังรถม้าล่องเมฆา รถม้าล่องเมฆากําลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มันกําลังมุ่งหน้าไปยังหอคอยหลัก
สาวกของสถานศึกษาไท่ซูต่างก็งุนงง
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่ยังไม่จากไปงุนงงเช่นกัน
“จีเทียนเด๋าพยายามจะทําอะไรกันแน่?”
“อย่าบอกว่าจีเทียนเด๋าคิดที่จะทําลายม่านพลังอย่างงั้นเหรอ?”
ไม่มีสาวกของสถานศึกษาไท่ซูคนไหนกล้าก้าวออกจากม่านพลังในโลกของการฝึกยุทธ เหตุผลที่ทําให้สํานักใหญ่ทั้งหลายกลายเป็นสํานักใหญ่ที่มีสาวกมากมายหลายคนได้เป็นเพราะม่านพลังที่มี
ในตอนที่สํานักใหญ่ทั้งสิบโจมตีศาลาปีศาจลอยฟ้าในอดีต เป็นเพราะม่านพลังที่ภูเขาทองมีจึงทําให้ไม่มีใครบุกรุกเข้าไปในศาลาปีศาจลอยฟ้าได้
“สถานศึกษาไท่ซูเป็นชาวลัทธิขงจื้อ ชาวลัทธิขงจื้อเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการสร้างเขตแดนพลัง ข้าเกรงว่าการจะทําลายม่านพลังได้คงจะต้องเป็นเรื่องยากแน่”
“จีเทียนเด๋าต้องการที่จะใช้พลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบที่มีทําลายสถานศึกษาไท่ซูอย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่เคยมียอดฝีมือคนไหนที่สามารถทําลายม่านพลังที่อยู่ตรงหน้าได้”
ลู่โจวในตอนนี้กําลังยืนอยู่ใกล้ๆกับพังงารถม้า ตัวเขาได้ผลักฝ่ามือของตัวเองไปด้านหน้าอย่างนุ่มนวล นิ้วบนฝ่ามือลู่โจวเริ่มส่องประกายแสงสีฟ้าขึ้น พลังฝามือสละปัญญากําลังจะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
สาวกของสถานศึกษาไท่ซูที่อยู่บนหอคอยหลักได้มองไปทางลู่โจว
“นี่มันวิชาของชาวลัทธิขงจื้อ ฝ่ามือสละปัญญา”
ซูวว!
พลังฝ่ามือสละปัญญาได้ลอยไปทางหอคอยหลัก ทันทีที่มันแตะต้องม่านพลัง ภาพอันน่าทึ่งก็ ได้ปรากฏขึ้น
แคร๊ก!
พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ได้กระทบกับม่านพลังที่ดูราวกับแผ่นกระจก ทันทีที่ฝ่ามือปะทะกับม่านพลัง นิ้วทั้งห้าและพลังฝ่ามือก็ได้ทะลุผ่านไป
ม่านพลังที่ต้องถูกพลังฝ่ามือโจมตีอ่อนแรงลงในทันที!
แม้ว่าจะผ่านม่านพลังมาได้ แต่พลังฝ่ามือก็ยังไม่หายไป มันยังเคลื่อนไหวไปที่ด้านหน้าต่อ
ตุ้ม!
พลังฝ่ามือได้พุ่งตรงไปยังด้านบนของหอคอยหลัก มันได้พุ่งทําลายส่วนบนก่อนที่จะกระทบเข้ากับพื้น
ตุ้ม!
ในที่สุดพลังฝ่ามือสละปัญญาก็แตะพื้น
ทั้งสถานศึกษาไท่ซูตกอยู่ในความเงียบ
หอคอยหลักเป็นเหมือนกับแกนกลางของเขตแดนพลังที่สถานศึกษาไทชูมี ในตอนนี้แกนกลางหลักได้ถูกทําลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็หมายความว่าม่านพลังของสถานศึกษาไทชูมีไม่อาจที่จะใช้การได้อีก ถ้าหากไร้ซึ่งม่านพลัง ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าออกสถานศึกษาแห่งนี้ได้ตามต้องการ
“จบแล้วล่ะ! อนาคตของสถานศึกษาไท่ซูจบลงแล้ว”
การตายของประมุขอย่างหลินซินเพียงคนเดียวก็สร้างความสิ้นหวังให้กับสาวกของสถานศึกษาไท่ซูมากแล้ว แต่พลังฝ่ามือสละปัญญาที่ทําลายม่านพลังได้ทําให้เหล่าสาวกสิ้นหวังมากกว่าเดิม
เหล่าผู้อาวุโสที่ยังเหลืออยู่รู้สึกผิด ทําไมสถานศึกษาไทชูถึงต้องท้าทายศาลาปีศาจลอยฟ้าด้วย? ทําไมถึงไม่มีใครยืนกรานให้หลินซินขอโทษ? ไม่ว่าจะเสียดายแค่ไหนแต่ในตอนนี้ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก
นอกจากสถานศึกษาไทชู ผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนอยู่ต่างก็กลืนน้ําลาย
ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงดังขึ้นจากรถม้าล่องเมฆา “ก่อนหน้านี้ข้าเคยให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าไม่เห็นค่ามัน…นี่ถือเป็นการลงโทษเล็กๆน้อยๆจากข้า”
ไม่มีใครกล้าพูดหรือโต้ตอบกลับมา
รถม้าล่องเมฆาที่ทําลายแกนกลางเขตแดนพลังเสร็จได้เดินจากไปในทันที
ผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็คิดอะไรขึ้นมาได้ มันคงจะเป็นการดีกว่าถ้าหากพวกเขาไม่ท้าทายศาลาปีศาจลอยฟ้า แม้แต่ม่านพลังของสถานศึกษาไท่ซูเองก็ยังถูกปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าทําลายได้ด้วยพลังฝ่ามือเพียงแค่ฝามือเดียว
1 ชั่วโมงต่อมา
รถม้าล่องเมฆากําลังบินอยู่เหนือสํานักเฮ้ง
ผู้อาวุโสและสาวกของสํานักเฮ้งชูยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับสถานศึกษาไทชู ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่รถม้าล่องเมฆาที่กําลังลอยอยู่บนฟ้า
รถม้าล่องเมฆาได้บินตรงมาด้วยความเร็วสูงจนไม่น่าเชื่อ
หลังจากนั้นไม่นานสาวกทั้งหลายก็มองเห็นดาบที่เต็มไปด้วยพลังสีฟ้า ดาบกําลังพุ่งตรงมาหาพวกเขา ดูเหมือนว่ามันจะเป็นดาบขนาดเล็กที่สวยงามที่รอบดาบเต็มไปด้วยพลังที่อัดแน่น ดาบเล่มเล็กกําลังปลดปล่อยอักษรูประหลาดออกมา มันเป็นอักษรที่แฝงไปด้วยแสงสีฟ้า
ครีดด!
เมื่อพลังดาบเข้าปะทะกับม่านพลัง ในตอนนั้นก็เกิดประกายไฟไปทั่ว ไม่นานนักพลังดาบก็ได้เจาะทะลุม่านพลังก่อนที่จะฝังตัวลงสู่พื้น
ตุ้ม!
ม่านพลังของสํานักเฮ้งชูแตกเป็นเสี่ยงๆ
หลังจากที่ม่านพลังจางหายไป รถม้าล่องเมฆาก็ได้หันหลังกลับก่อนที่จะลอยไปตามขอบฟ้าในทันที
ณ พระราชวังตะวันออกของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
องค์รัชทายาทหลิวจือรู้สึกมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด ในตอนนี้ตัวเขากําลังเพลิดเพลินไปกับการฮัมเพลงและการชื่นชมภาพวาดที่ตรงหน้า
“ฝ่าบาท ผลการต่อสู้ของหลินซินและจีเทียนเด๋าออกมาแล้ว” ขันทีคนหนึ่งได้พูดกับหลิวจือด้วยความเคารพ
หลิวจือถอนหายใจก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าพนันได้เลยว่าจีเทียนเด๋านั้นคงไม่คาดคิดว่าพวกเราจะมีไพ่ตายที่ทรงพลังแบบนี้ จีเทียนเด๋ายึดติดกับความสําเร็จที่เคยมีมากจนเกินไป และเพราะแบบนั้นจึงทําให้ตัวเขาต้องพ่ายแพ้ไปอย่างน่าสมเพช”
“องค์ชาย…ผลลัพธ์ก็คือ…” ขันที่พยายามจะพูดต่อ
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ…ข้าจะอธิบายเรื่องชุดเกราะให้กับเสด็จพ่อได้ฟังเอง ในขณะที่เสด็จพ่อเก็บตัวฝึกฝน ข้าจะรับผิดชอบส่วนที่เหลือในการกําจัดศาลาปีศาจลอยฟ้าต่อเอง” หลิวจือได้พูดออกมาอย่างมั่นใจ “อีกไม่นานเสด็จพ่อจะต้องกลายเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบและรวบรวมชนเผ่าอื่นทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวได้แน่”
หลังจากที่หลิวจือพูดจบ ตัวเขาก็ยังเห็นขันที่คนเดิมไม่จากไปไหน เมื่อเห็นแบบนั้นหลิวจือเริ่มแปลกใจ “เจ้ายังยืนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไรอีก?”
ขันทีตัวสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะคุกเข่าลง “ขออภัยด้วยองค์ชาย….ขออภัยด้วย…หลินซินพ่ายแพ้ หลินซินประมุขแห่งสถานศึกษาไท่ซูได้เสียชีวิตอยู่บนยอดเขาดันยางพ่ะย่ะค่ะ”