ณ อวกาศที่ไหนสักแห่ง มีเมืองหลวงที่ชื่อ ดรีมแลนด์ตั้งรกรากอยู่ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอาคารบ้านช่องและตึกสูงระฟ้า จนดูเหมือนกับไม่มีที่โล่งให้เห็น โดยมีกําแพงขนาดใหญ่ตั้งอยู่รอบเมือง มันสูงประมาณ 100 เมตร
ด้านบนของกําแพง มีป้อมปืนและเครื่องจักรจํานวนมาก เป็นป้อมปราการสําหรับคุ้มกันไม่ว่าจะช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน เพื่อเฝ้าระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวดรีมแลนด์ จังถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่ปลอดภัยที่สุดในการอยู่อาศัย แต่ว่ามันก็มีข้อเสียเช่นกัน
การรักษาความปลอดภัยเป็นปัญหาสําคัญสําหรับพื้นดินบนโลก หลังเกิดสงคราม เมืองหลวงเก่าๆหลายแห่งถูกลบล้างจากแผนที่และถูกทําลายจนพังพินาศ มันได้รับความเสียหายมากเกินไปบางส่วนของดินแดนหายวับ แผนดินแตกออกจากกัน กระจัดกระจายเกินกว่าที่มนุษย์จะอาศัยอยู่
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทําให้มนุษย์ตั้งรกรากบนดาวเคราะห์ดวงอื่น มันคือโอกาสที่ดีกว่าการใช้ชีวิตบนโลกมากกว่าเป็นไหนๆ บ่อยครั้งที่นักเดินทางส่วนใหญ่มาจากองค์กรและตระกูลต่างๆ จะอาศัยอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องสถานที่แห่งนั้นเอาไว้
แต่ดาวเคราะห์โลกก็คือที่อยู่อาศัยของคนจํานวนมากและมันเป็นเรื่องยากสําหรับพวกเขาที่จะจากมันไป พวกเขาเกลียดความจริงที่ว่าถ้าพวกเขาอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่น พวกเขาอาจจะต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงตลอดไป เพราะสัตว์อสูรมากมายนั้นสามารถทําการโจมตีพวกเขาได้ตลอดเวลา
เพราะแบบนี้ สถานที่สําคัญของดาวเคราะห์โลกจึงมีเพียงไม่กี่แห่ง
มีแค่สองวิธีเท่านั้นที่จะอาศัยอยู่ในเมืองหลวงครีมแลนด์ได้ นั่นคือร่ํารวยจริงๆ หรือเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลทรูดรีม และสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อผู้นําโดยทําทุกอย่างตามที่ได้รับคําสั่ง
ใจกลางเมืองมีตึกสูงเสียดฟ้าที่สูงใหญ่กว่าตึกอื่นๆ ทั้งตึกถูกสร้างด้วยกลาสเทียมซึ่งเป็นวัสดุ ที่แข็งแกร่งที่สุดที่รู้จักกันดีในห้วงอวกาศ
ภายในตึกชั้นบนสุด มีชายหัวโล้นในชุดสูทสีดํากําลังนั่งบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ติดกับโต๊ะทํางาน ชื่อของเขาคือ แจ็ค ทรูดรีม หนึ่งในผู้นําของสี่ตระกูลใหญ่
ทันใดนั้น หญิงสาวที่สวมชุดนักธุรกิจก็เดินเข้ามาในห้อง
“ท่านคะ มีรายงานมาว่าสมาชิกในตระกูลของเราเสียชีวิตค่ะ”
“นักเดินทางคนนั้นอยู่แรงค์อะไร?”
“แรงค์ D คะท่าน”
เหล่านักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว พวกเขาสามารถทํางานเป็นนักเดินทางโดยการเข้าร่วมกับองค์กร หรือ รับจ้างทั่วไปได้รัฐบาลโลกออกคําสั่งให้นักเดินทางเหล่านี้ มีแรงค์ขึ้นอยู่กับความยากของงานที่พวกเขาสามารถทําได้จนสําเร็จ
สําหรับบางอย่าง พลังพิเศษก็ไม่ได้สําคัญกับภายนอกมากนักคุณสมบัติของอุปกรณ์สัตว์อสูรระดับสูงที่สวมใส่ได้นั้นมีประโยชน์ยิ่งกว่า สิ่งสําคัญที่สุดคือ คุณจะใช้พลังพิเศษมีมีร่วมกับอุปกรณ์สัตว์อสูรระดับสูงได้อย่างไร
แรกเริ่ม นักเดินทางทุกคนจะเริ่มต้นในฐานะแรงค์ F ยิ่งคุณทําภารกิจมากเท่าไหร่คุณก็จะได้คะแนนผลงานมากขึ้นเท่านั้น โดยปกติแล้วมักจะใช้เวลาอยู่สองถึงสามปี สําหรับการไต่แรงค์เพื่อเลื่อนขั้นขึ้นไป
สามารถเลื่อนขั้นจากแรงค์ F ไปจนถึงแรงค์ A+
เนื่องจากวิธีการทํางานของระบบดังกล่าว จึงเป็นยากเสมอที่จะวัดความสามารถของแรงค์ F ได้ ทว่าสําหรับผู้ที่แข็งแกร่ง เขาสามารถเลื่อนขั้นแรงค์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ดังนั้น นักเดินทางส่วนใหญ่ ดูเหมือนว่าจะสนใจในเลเวลพลังน้อยลง เพราะมัวพุ่งเป้าไปที่แรงค์แทน
“แรงค์ D ของเราก็ตายในภายกิจอยู่บ่อยๆ บอกฉันทําไม?” แจ็คถาม
“แต่ท่านคะ ครั้งนี้มาจากฐานทัพแห่งหนึ่ง และเขาก็เป็นหนึ่งในความหวังของเราด้วย ชายคนนั้นชื่อเอียนค่ะ”
แจ็คนั่งคิดเรื่องนี้สักพัก เป็นเรื่องปกติที่เขามักได้รับรายงานจากตระกูลมากมายและอ งค์กรอื่นๆ เมื่อกลุ่มคนเหล่านั้นพบศพของคนในตระกูลของแจ็ค พวกเขาจะทําทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ร่างมาในสภาพดีที่สุด
แต่สิ่งที่ทําให้เขาลําบากใจ จริงๆแล้วก็คือคนที่เพิ่งตายไป เพื่อให้คนๆนั้นมีทักษะพิเศษที่เขาขโมยมาได้ แจ็คต้องไปสัมผัสพวกเขาและพบหน้ากันตัวต่อตัว และถ้าหากเป็นทักษะเลเวลต่ําจนเกินไป เขาก็ไม่ค่อยจดจํามัน
แต่เขาจําได้ว่าทักษะที่มอบให้เอียนนั้นค่อนข้างมีประโยชน์ เอียนใช้เวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้นในการเลื่อนขั้นจากแรงค์ F ขึ้นไปแรงค์ D และหวังว่าเขาจะทําได้ดียิ่งกว่านี้สําหรับอนาคตข้างหน้าของเขา
“ส่งรายงานมาให้ฉันดูได้ไหม?”
หญิงสาวจึงคลิกอุปกรณ์สื่อสารในมือของเธอ และทันใดนั้นภาพโฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของแจ็ค เขาใช้มือเลื่อนไปตามแท็บต่างๆและอ่านข้อมูลอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีภาพบางส่วนแนบมากับร่างของเอียน
“โอ้โห ช่างเป็นวิธีตายที่เลวร้ายจริงๆ” แจ็คเอ่ยขณะที่มองไปยังร่างกายของเอียนที่ขาดออกเป็นสองส่วน
แต่แล้วเขาก็เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ทําให้เขาสนใจและเริ่มซูมภาพเข้าไปที่คอของเอียน
“อเล็กซ่า ค้นหารายงานของ แดนนี่ เฟลทช์แมน เมื่อสองปีก่อนขึ้นมาให้ฉันดูหน่อย”
[ พบรายงานแล้วค่ะ ]ระบบคอมพิวเตอร์ของเขากล่าวขณะที่มีไฟล์อื่นแทรกขึ้นมา
แจ็คอ่านรายงานของพวกเขาทั้งสองคนอีกครั้ง และเห็นว่าสมาชิกในตระกูลคนอื่นก็มีรอยกัดที่คอเช่นเดียวกับเอียน ซึ่งปกติแล้ว แจ็คจะไม่จํารายละเอียดเช่นนี้ แต่แดนนี่ เฟลทซ์แมน เป็นถึงผู้ใช้พลังเลเวล 8 และเป็นนักเดินทางแรงค์ B
เขาเป็นหนึ่งในชายผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลทรูดรีม เมื่อเขาตาย มันสร้างความตกใจให้กับ แจ็คมากๆ และไม่มีคนไหนรู้ว่าใครเป็นคนลงมือสังหาร หรือ ทําได้อย่างไร
“กรณีของทั้งสองคนนี้มันเชื่อมโยงกันได้ไหม?” เขาคิด
“ชัดเจนค่ะ ว่าพวกเขาบังเอิญเจอเอียนในตอนที่ออกตามหานักเรียนสองคน ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียนมากนัก”
“เธอรู้ไหม ว่าพวกเขามาจากฐานทัพอะไร?”
พนักงานสาวสวยแตะไปที่แว่นตาที่เธอสวมอยู่ จนสามารถมองเห็นภาพได้ในเงาสะ ท้อนของเลนส์แว่น ประโยคและบทความต่างๆกําลังเลื่อนผ่านดวงตาทั้งสองข้างของเธอ
“ฐานทัพสองค่ะ”
“บางที นี่อาจจะถึงเวลาแล้วที่ฉันจะไปเยี่ยมพวกเขาเป็นเวลาสักพัก เอาล่ะ ฉันหาข้อมูลเพิ่มเติมเอง ในระหว่างนี้ ค้นหาสิ่งที่เธอทําได้เกี่ยวกับภารกิจสุดท้ายของเอียนด้วย”
แจ็คลุกขึ้นจากเก้าอี้และหลับตาลง ภายในตัวของเขา เขาสามารถมองเห็นเปลวไฟเล็กๆที่หมุนวนอยู่รอบๆท้องเขาประมาณสิบดวง ซึ่งแต่ละดวงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“ดูเหมือนว่าฉันจะมีทักษะเหลือน้อยอีกแล้ว ฉันคิดว่ามันคงเป็นโอกาสดีที่จะสะสมมันเพิ่มเอาไว้”