ตอนที่ 107 สกิลโลหิตปะทุ
มันช่างแตกต่างกับผู้เล่นคนอื่นๆที่ควินน์ต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาดูเก่งกาจมากกว่า มันจึง ทําให้ควินน์นึกถึงวอร์เด็นขึ้นมาเล็กน้อย เขาอ่านเกมออกและมีความสามารถขึ้นสูงเมื่อใช้ร่วมกับทักษะพิเศษของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีเลเวลพลังที่สูงที่สุดก็ตาม
[เคลื่อนที่ด้วยความเร็วลม ]
[สกิลของรองเท้าบู๊ทเปิดใช้งาน ]
เมื่อเปิดใช้งานสกิลติดตัวของรองเท้าบู๊ท เขาสามารถเพิ่มความเร็วและหลบหลีกหอกทั้งหมดที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินได้
“ว้าว เขาก็ค่อนข้างเร็วใช้ได้เลย ว่าไหม?” ใครสักคนในกลุ่มผู้ชมเอ่ยขึ้น
“ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะรองเท้าบู๊ทซะมากกว่า มันดูไม่มีอะไรโดดเด่น แต่มันอาจจะเป็นไอเท็มที่มีระดับกลางหรือระดับสูงก็ได้”
แม้ว่าควินน์จะสามารถจบการแข่งขันได้ทันที ด้วยการเหวี่ยงสกิลโลหิตฟาดฟันต่อไปเรื่อยๆ แต่เขาไม่ต้องการที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยวิธีแบบนั้น ในตอนนี้ มันถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสําหรับเขาในการต่อสู้ เพราะในโลกความเป็นจริง เขาต้องระวังตัวไม่ให้ตัวเองสูญเสียค่าพลังชีวิตไป
“อะไรเนี่ย น่ารําคาญ ร่อนไปร่อนมาอยู่ได้” ผู้ใช้พลังธาตุดินตะโกน แล้วเขาก็ยกมือของตัวเองขึ้นมา เพื่อสร้างกําแพงยาวสองข้างขนาบข้างควินน์เอาไว้
เมื่อเขาประกบมือเข้าหากัน กําแพงดินก็เคลื่อนที่ตามด้วย
“ตอนนี้ นายก็พุ่งมาได้แค่ทางเดียวแล้ว”
ควินน์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขาก็มีแผน
“สะกดจิต”
[ ใช้งานสกิลสะกดจิตล้มเหลว ผู้ใช้พลังไม่มีอาการชะงักงัน ]
“โอ้ ซวยล่ะ”
ปัจจุบัน ค่าเสน่ห์ของเขา อยู่ในระดับที่ต่ํามากๆ ซึ่งหมายความว่า มันไม่สามารถใช้งานกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าได้ ยิ่งศัตรูมีระดับพลังสูงขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่สกิลจะใช้ได้ผล ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น ทว่าที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ มันก็ใช้ได้ผลทุกครั้ง
ส่วนหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะควินน์โชคดี แต่อีกส่วนก็คือความจริงที่ว่า คู่ต่อสู้ที่ควินน์แข่งขันด้วยก่อนหน้านั้น พวกเขามีระดับพลังเพียงเลเวล 1 และเลเวล 2
ทันใดนั้น ผู้ใช้พลังธาตุดินก็สร้างกําแพงหินขึ้นมาใหม่ตรงหน้าของเขา พร้อมกับรัวหมัดใส่กําแพงนั้นนับครั้งไม่ถ้วน ชิ้นส่วนของกําแพงพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง และการโจมตีนี้รวดเร็วเกิน กว่าที่ควินน์จะตอบสนองได้ทันการณ์
ก้อนหินเหล่านั้นกระแทกร่างกายของควินน์ทีละก้อน ส่งผลให้เขาค่อยๆถอยร่น
[HP : 42/55 ]
[HP : 38/55]
[HP : 34/55 ]
ทว่าควินน์กัดฟันแน่นและพยายามไม่ล้มลง ในขณะที่ก้อนหินอีกชุดกําลังจะถาโถมเข้ามาหาเขาอีกครั้ง เขาก็ใช้สกิลก้าวพริบตาวาร์ปไปอยู่ข้างหน้าหินทั้งหมดและการโจมตีที่ว่าก็ผ่านหลังเขาไปอย่างง่ายดาย
“ฉันคิดว่า แม้เขาจะมีพลังสีแดงแปลกๆนั่น เขาก็ไม่มีทางเอาชนะผู้เล่นเลเวลสูงได้หรอก”
“ก็นะ นายเห็นรึเปล่า ว่าผู้ชายคนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน? ต้องเป็นเพราะเขาใส่อุปกรณ์สัตว์อสูรครบเซ็ทแน่ๆ ไม่มีทางหรอกที่ผู้ใช้พลังเลเวลสี่จะชกกําแพงหินให้กระจายออกไปได้ด้วยความเร็วแบบนั้น”
“ใช่ ฉันนึกแล้วว่าสุดท้ายแล้วมันก็แค่ละครปาที่”
แต่กลับมีคนหนึ่งที่คิดต่างออกไป “ไม่เอาน่า Bloodevolver ฉันสามารถเอาชนะหมอนั่นได้ สบายๆเลยนะ ฉันรู้ดีว่านายเจ๋งกว่านั้น”
[คุณรู้หรือยัง ว่าคุณขาดประสบการณ์ในการต่อสู้กับผู้ใช้ทักษะพิเศษจริงๆ ซึ่งมันแสดงให้เห็นแล้ว ]ระบบพูดขึ้นมา
‘เงียบไปเลย ฉันรู้หรอกน่า’
“แล้วมาดูกันว่าความแข็งแกร่งเป็นยังไง”
ในขณะที่เข้าปะทะเข้ากับหินที่ถาโถมมา ควินน์ใช้สกิลโลหิตฟาดฟันใส่หินทุกก้อนที่ขวางทางเขา สกิลนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก จนสามารถทําลายหินและรุดหน้าต่อไปได้
เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้ใช้พลังธาตุดินไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงกระโดดถอยหลังออกไปสองสามก้าว พร้อมกับสร้างกําแพงป้องกันเป็นแนวยาวหนาประมาณ 3 เมตรขึ้นมา
“ทลายกําแพงทิ้งซะ!” ควินน์ค่อยๆตั้งท่าเพื่อใช้สกิลอัดกระแทก ด้วยการดึงพลังงานจากปลายเท้าขึ้นสู่ส่วนบนของร่างกาย
“นั่นไง! มันคือท่าโจมตีที่ใช้กับฉัน!” เนทพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “แต่ฉันคิดว่าแค่นั้นมันไม่พอหรอก ทําไมถึงไม่ใช่พลังสีแดงๆนั่นมากขึ้นเพื่อทําให้กําแพงพังง่ายๆก่อนล่ะ หรือไม่ก็พยายามทําลายกําแพงรอบตัวเขาทิ้งไปซะ? ”
เนทมีความกังวลใจ แม้จะเห็นได้ชัดว่า Bloodevolver ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ที่ชัดไปกว่านั้น คือเขาดูเป็นมือสมัครเล่นมากกว่าเมื่อทําการต่อสู้
“เอานี่ไปกิน โลหิตปะทุ!” ควินน์โพล่งเสียงดังฟังชัด ในขณะที่เขาใช้สกิลอัดกระแทกออกไปเมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสมเขาก็เปิดใช้งานโลหิตสาดกระเซ็นในเวลาเดียวกัน
ค่าความแข็งแกร่งที่มีอยู่คือ 22 อีกทั้งยังบวกพลังโจมตีเพิ่มขึ้นอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เมื่อ รวมทั้งสองสกิลเข้าด้วยกันแล้ว มันจึงกลายเป็นการโจมตีที่มีพลังมหาศาล
เมื่อหมัดของเขากระแทกเข้ากับกําแพงหิน มันก็เริ่มแตกออกไปเสี่ยงๆ จนกระทั่งกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยกระเด็นไปจนทั่วสนามประลอง ผู้ชมการแข็งขันบางคนพยายามหลบเศษหิน เหล่านั้น ในขณะที่คนอื่นๆก็ยังนั่งอยู่บนอัฒจันทร์เชียร์เฉยๆ
“งี่เง่า แกจําไม่ได้หรือไงว่าการโจมตีพวกนั้นมันทําให้เราบาดเจ็บไม่ได้?”
การโจมตีของควินน์พุ่งทะลวงผ่านกําแพงเข้าไปโดยไม่มีท่าทีจะหยุด และนี่คือสิ่งที่ผู้ใช้พลังธาตุดินไม่คาดคิดมาก่อน
“ฉันจะต้องรับการโจมตีนั้นให้ได้!” เขาเอ่ยกับตัวเอง แต่เมื่อสกิลเข้าถึงตัวเขา ร่างกายของผู้ใช้พลังธาตุดินก็ระเบิด กลายเป็นอนุภาคสีน้ําเงินทันที พร้อมกับจบเกม
[Bloodevolver ได้รับชัยชนะ ]
ตอนนั้นเองที่ควินน์ทรุดลงไปกับพื้น การผสานสกิลเข้าด้วยกันและการใช้สกิลก่อนหน้านั้น ได้เผาผลาญค่าพลังงาน(Stamina)ของเขาไปทั้งหมด ไม่นานนัก เขาก็ถูกส่งตัวกลับไปยังล็อบบี้ของตัวเอง ที่ซึ่งค่าสถานะต่างๆของเขาจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่
ผู้ชมการแข่งขันทั้งสนามเงียบกริบ พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรออกไปกับสิ่งที่เพิ่งได้เห็น ในระหว่างการต่อสู้ที่ผ่านมา ผู้ใช้พลังธาตุดินไม่เคยถูกโจมตีเลยสักครั้ง แม้จะใส่อุปกรณ์สัตว์อสูรครบเซ็ต เขาก็ยังแพ้อยู่ดี อุปกรณ์เหล่านั้นทําให้การป้องกันของเขาเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งหมด แต่มันก็ไร้ประโยชน์เมื่อถูกการโจมตีสวนกลับแค่ครั้งเดียว
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันเนี่ย?” ใครสักคนเอ่ยขึ้น
“ฉันบอกนานแล้วว่าหมอนั่นมันแปลกๆ แล้วนายเห็นทักษะสีแดงประหลาดๆนั่นใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย นายล่ะ?”
“นี่ พวกนายสักคนอัปโหลดคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ออนไลน์ของเกมสิ บางที ผู้ใช้ทักษะโดยกําเนิดอาจจะเอาทักษะพิเศษของตัวเอง มาแอบเล่นอยู่ภายในเกมนี้ก็ได้”
ในขณะที่คนอื่นๆทยอยออกไปและพูดคุยกัน ร่างกายของเนทก็สั่นเทา เขาขนลุกไปทั่วทั้งร่าง และเสียวสันหลังวาบ เมื่อได้เห็นการโจมตีสุดท้ายของควินน์
“การโจมตีนั้น ไม่ใช่แบบเดียวกันกับที่เขาใช้กับฉัน มันเหมือนกันก็จริง แต่มีความแตกต่างอยู่”
เนทรู้ดีว่าถ้าควินน์ทําการโจมตีเขาเหมือนครั้งที่แล้ว ค่าพลังชีวิตของเขาจะลดไปไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ํา แต่สิ่งที่ได้เห็นไปแล้วทั้งหมด เขาก็น่าจะตายเหมือนกับผู้ใช้พลังธาตุดินคนนั้นแน่ๆ
“งั้นนายก็แข็งแกร่งขึ้นจริงๆสินะ ฉันเองก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้”
ตัดกลับมาที่ล็อบบี้ของควินน์ ค่าสถานะทั้งหมดของเขากลับคืนเป็นปกติแล้ว ควินน์ไม่ได้ทรุดอยู่บนพื้นและหอบหายใจอย่างหนักหน่วงเหมือนที่ผ่านมา
“สกิลโลหิตปะทุ ใช้สเตมิน่ามากกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก”
แม้ว่าเขาจะฝึกใช้สกิลโลหิตปะทุไปหลายครั้งในล็อบบี้ของตัวเอง แต่ในล็อบบี้การแข่งขัน มันไม่ได้ระงับการใช้งานค่าพลังงานของเขาเลยสักนิด ในระหว่างต่อสู้กับคู่แข่งเท่านั้นที่มันจะใช้ค่าสถานะปกติของเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่ควินน์ใช้สกิลโลหิตปะทุภายในเกม
ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของควินน์
[ผู้ใช้พลังพ่ายแพ้ ได้รับ 25 Exp ]
[ 40/100 Exp]
ในที่สุดหลังจากเอาชนะผู้ใช้พลังธาตุดินเลเวล 4 ได้ ระบบก็ให้รางวัลแก่เขาสําหรับความพยายามอย่างเต็มที่ แม้ว่าในการแข่งขันครั้งล่าสุดในวันนี้ เขาจะไม่เหนื่อยมากนัก แต่มันก็ทําให้ เขาเป็นกังวลมากทีเดียว มันยากที่จะเข้าสู่การแข่งขัน หลังจากที่การแข่งขันต่อไปนั้นมันดุเดือดยิ่ง
เป็นเรื่องปกติที่การแข็งขันใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่เมื่อเป็นเช่นนั้นมันค่อนข้างต่างกันอย่างลิบลับ เพราะงั้น เขาเลยตัดสินใจว่าวันนี้เขาจะหยุดพักก่อน
เขาออกมาจากเครื่องเล่นเกม VR แล้วก็ต้องตกใจทันที เมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“สวัสดี Bloodevolver ดูเหมือนว่าในที่สุดเราจะได้เจอกันสักทีนะ”