ตอนที่ 117 ผู้ใช้พลังไฟคนใหม่
หลังจากที่ได้เห็นกลุ่มอื่น ๆ จัดการกับกิ้งก่าบิน วอร์เด็นและทีมของเขาก็ตัดสินใจที่จะใช้กลยุทธ์ที่คล้าย ๆ กัน เรย์ร่าเดินนําหน้าเข้าไปในโขดหินที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ ก่อนยิงลูกธนูออกไปปักที่เท้าของกิ้งก่าตัวไหนสักตัว
หลังจากนั้น เธอจึงใช้พลังจิตของเธอ บังคับลูกธนูให้โจมตีรอบ ๆ หัวของสัตว์อสูร เพื่อสร้างความรําคาญให้กับมัน เจ้ากิ้งก่าตัวนั้นจึงตามลูกธนูมาโดยง่าย และตอนนี้ ก็ถึงคราวที่วอร์เด็นกับเอรินต้องลงมือจัดกันกับมันแล้ว
ธารน้ําแข็งก่อตัวขึ้นมาจากพื้น จนในที่สุดขาทั้งสี่ข้างของกิ้งก่าก็ถูกตรึงไว้ ตอนนี้ การเคลื่อนไหวของมันถูกจํากัดโดยสมบูรณ์ พอถึงจังหวะของวอร์เด็น เขาสร้างหอกน้ําแข็งขึ้นมาในมือและขว้างมันไปที่ตัวของเจ้ากิ้งก่าทันที ทว่าถึงจะแช่ขามันเอาไว้ก็เถอะ ปีกของมันก็ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ในแต่ละครั้ง มันป้องกันการโจมตีและยกปีกของมันขึ้นมาปกคลุมราวกับเต่า
‘เจ้าโง่!’ ราเทนพูดขึ้น ‘แกก็เห็นไม่ใช่รึไงว่ามันไม่ได้ผล’
“จะหุบปากไปหรือว่าจะช่วย!” วอร์เด็นสวนกลับขณะที่เขายังคงขว้างหอกน้ําแข็งออกไปจํานวนมาก จนกระทั่งวอร์เด็นรู้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้มันเริ่มเหนื่อยล้าและไม่ใช่ว่าการโจมตีทั้งหมดของเขาจะสร้างความเสียหายอะไรกับมันไม่ได้เลย
แต่การจัดการมันด้วยวิธีนี้ดูเหมือนจะใช้เวลานานเกินไป ก่อนที่จะได้ทันรู้สึกตัว เอรินก็กระโดดขึ้นไปเหนืออากาศพร้อมกับถือดาบยาวคู่ใจของเธอ เมื่อเธอลงมายืนยังพื้น เธอก็ตัดปีกข้างหนึ่งของเจ้ากิ้งก่าจนขาดสะบั้น
เลือดสีดําของมันเริ่มไหลทะลักออกมา ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น บาดแผลของมันก็เริ่มถูกแช่แข็ง ความเย็นยะเยือกได้คืบคลานอย่างช้า ๆ จนกระทั่งปีกข้างซ้ายของเจ้ากิ้งก่าถูกแช่เอาไว้อย่างสมบูรณ์
ตอนนี้ ปีกข้างหนึ่งนั้นถูกตรึงเอาไว้แล้ว ในที่สุด วอร์เด็นก็สามารถขว้างหอกน้ําแข็งพุ่งใสร่างกายของมันได้โดยตรง เพื่อฆ่ามันให้ตาย
“ในที่สุดเราก็ทําได้!” เรย์ร่าพูด ก่อนจะมองไปที่เจ้าตัวนั้น
เธอดึงคริสตัลของมันออกมาอย่างรวดเร็ว และเก็บไว้ในกระเป๋าใบเล็ก ๆ ของเธอสําหรับตอน
“นั่นแหละปัญหา” เอรินพูด “เราใช้เวลานานเกินไปที่จะฆ่าพวกมันเพียงตัวเดียว แม้ว่าพวกเราจะเยอะกว่า แต่กลับต้องใช้ถึงสามคนในการฆ่าหนึ่งตัว จะดีกว่าถ้าตอนนี้ เราหาหนอนเขี้ยวสักกลุ่ม”
ในตอนนั้นเอง พวกเขาได้ยินเสียงเชียร์ดังมาจากทางด้านซ้ายของพวกเขา ทีมที่นําโดยเบิร์ก เพิ่งจะเผาสัตว์อสูรห้าตัวที่อยู่ในวงเพลิงจนหมดสิ้น ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เอรินจึงแสดงสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ออกมา
“เร็วเข้า ไปที่อื่นกันเถอะ หาพวกหนอนเขี้ยวสักฝูงแล้วจัดการพวกมันซะ”
“รอเดี๋ยว!” วอร์เด็นตะโกนขึ้น “ฉันมีแผนแล้ว”
เบิร์กและทีมของเขา เพิ่งสังหารกิ้งก่าบินตัวที่แปดบริเวณนั้นเสร็จและตอนนี้ก็ต้องพักสักหน่อย เขาต้องการเวลาในการฟื้นฟู ค่า MC ก่อนที่จะใช้ทักษะพิเศษของตัวเองได้อีกครั้ง
“หนทางของฉันยังอีกยาวไกล” เบิร์กพูดพลางมองไปที่มือของเขา แม้ว่าพลังแห่งเปลวไฟของเขาจะแข็งแกร่ง และตัวเขาเองก็ยังถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในโรงเรียน แต่เขากลับไม่สามารถพูดอะไรได้หากเทียบกับคนในตระกูลเดียวกัน พวกเขานั้นสามารถใช้ทักษะได้นานกว่านี้ และยังสร้างเปลวไฟที่ทรงพลังได้มากว่าเขา
ตระกูลของผู้มีทักษะโดยกําเนิดในแต่ละตระกูล ล้วนมีความแตกต่างกัน เมื่อต้องสอนสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับพลังของตน พวกเขาก็มีวิธีการสอนของตัวเอง และสําหรับ ตระกูลเรดชิลด์ ทั้งหมดมันคือการฝึกฝนและค้นหา หลังจากที่สอนการใช้ทักษะพื้นฐานไปแล้ว พวกเขาต้องเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะพิเศษด้วยตัวเอง และต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้
“เฮ้ เบิร์กระวัง!” เสียงจากด้านข้างตะโกนบอก เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาสังเกตเห็นร่าง มนุษย์กําลังลอยมาทางเขา ก่อนที่เขาจะทันไหวตัว ร่างกายของคนดังกล่าวก็กระแทกเบิร์กเข้าอย่างจัง
ทั้งสองคนจมลงไปในกองทราย จนในที่สุดทุกอย่างก็หยุดนิ่ง
“ยัยบ้าเอ้ย.. เธอทํากับเพื่อนร่วมทีมของตัวเองแบบนี้ได้ยังไงฟะ” วอร์เด็นบ่นจึมงํา ขณะที่เขาพยุงตัวเองขึ้นจากพื้น “ขอโทษที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอยากให้ช่วยไหม?” จังหวะนั้นเอง วอร์เด็นก็เอื้อมมือของเขาไปให้เบิร์กแล้วดึงเขาขึ้นมา
“เฮ้! พวกนายคิดจะทําอะไรกันห้ะ!” อีกคนพูดขึ้นเสียงดัง ขณะที่เขาวิ่งเข้ามา “นายโผล่พรวดพราดมาชนหัวหน้าของพวกฉันนะ!”
“พอได้แล้ว ลิปบี้” เบิร์กพูด “ฉันมั่นใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ”
ลิปนี้เป็นสมาชิกคนหนึ่งในทีม เบิร์กเองก็รู้สึกประหลาดใจในการกระทําของวอร์เด็นอยู่เช่นกัน ถ้าคนปกติทําอะไรแบบนี้ เบิร์กคงเผาร่างของพวกเขาไปแล้ว ทว่าเหตุผลง่ายๆที่เขาไม่ทําก็เพราะเมื่อมองไปที่นาฬิกาของวอร์เด็น มันกลับแสดงระดับพลังที่เลเวลแปดอยู่
พลังของวอร์เด็นคืออะไรก็ไม่รู้ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีใครบางคนมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับเขา เบิร์กไม่ต้องการที่จะสู้ด้วย
“พวกเราขอโทษนะ!” เรย์ร่าพูดขณะที่เธอวิ่งมาโดยมีเอรินอยู่ข้างหลัง “เพื่อนร่วมทีม ของฉันดันทําตัวงี่เง่าน่ารําคาญ และฉันก็แค่อยากโยนเขาทิ้งไปที่ไหนสักแห่ง”
“อย่ากังวลไปเลย” เบิร์กกล่าว “อุบัติเหตุมันเกิดกันได้”
หลังจากที่ขอโทษเสร็จสรรพ ทั้งสามคนก็ตัดสินใจแยกตัวออกไปเพื่อล่าสัตว์อสูรอื่น ๆ อีกครั้ง และตอนนี้ วอร์เด็นก็มีทักษะธาตุไฟเรียบร้อย และพร้อมมากที่จะเผากิ้งก่าบินสักตัว
“ทําไมนายถึงปล่อยพวกมันไปแบบนั้น?” ลิปบี้ถาม
“คน ๆ นั้นเป็นผู้ใช้ทักษะเลเวลแปด ลองจับตาดูพวกเขาสักหน่อยละกัน” เบิร์กกล่าว
แทบทุกคนที่รู้ถึงทักษะพิเศษของเบิร์ก เนื่องจากเขามาจากหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ อย่างไรก็ตาม คงพูดเช่นนี้แบบเดียวกันไม่ได้สําหรับผู้ใช้พลังระดับสูง หรือพวกมีทักษะโดยกําเนิด การจับตาดูวอร์เด็น มันก็คือการจับตาดูคู่แข่ง
เบิร์กจําได้ว่า คนกลุ่มนั้นเดินไปข้างหลังโขดหินก้อนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเบิร์กจะไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขามาก่อน แต่เขาก็มั่นใจว่ากลุ่มของวอร์เด็นกําลังล่าสัตว์อสูรตรงข้ามของโขดหินนี้
“ทําไมพวกนั้นถึงเลือกที่จะย้ายจุด?” เบิร์กคิดในใจ
ความอยากรู้อยากเห็นนั้นเอาชนะเขาจนได้ และเขาก็ตัดสินใจที่จะไปสอดแนมและออกล่าใกล้ ๆ กับบริเวณที่วอร์เด็นล่าอยู่
หลังจากที่เดินไปรอบ ๆ โขดหินขนาดใหญ่ตรงกลาง เบิร์กก็เห็นวอร์เด็นและทีมของเขา จังหวะที่เบิร์กเห็นคนพวกนั้น เขาก็ได้เห็นวอร์เด็นลงมือเผากิ้งก่าบินตัวหนึ่งจนมอดไหม้ ด้วยพลังธาตุไฟเหมือยกับของเขา
“อะไรกัน? แต่ ได้ยังไง?” ลิปบี้เอ่ย “เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเรดชิลด์งั้นเหรอ?”
“ไม่ ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้นมาก่อนในชีวิต ดูเหมือนว่าเรามีคําถามที่ต้องค้นหาซะแล้ว”