My Vampire System – ตอนที่ 120

ตอนที่ 120 ชื่อของเจ้าตัวเล็ก

 

วอร์เด็นกลับขึ้นมายืนบนผืนทรายอีกครั้ง แต่เขาไม่ได้ขยับตัวมาสักพักหนึ่งแล้ว เขากําลังก้มหน้ามองพื้น เหนือศีรษะของเขากําลังมีเลือดไหลหยดลงมาจากหน้าผาก และค่อย ๆ หยดลงมายังพื้นดินที่ละหยดๆ

 

” หัวหน้า ทําไมมันถึงยืนเฉย ๆ ล่ะครับ?” ลิปปี้เอ่ยถาม

 

เรื่องนั้น เบิร์กให้คําตอบตัวเองไม่ได้เช่นกัน อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนที่เขากําลังเผชิญหน้าอยู่ เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขารู้สึกถึงราวกับกําลังเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่งในตระกูลของเขา

 

ต่อมา วอร์เด็นค่อย ๆ กลับมาขยับตัวอีกครั้ง หลังจากที่ลุกขึ้นมาได้ จากการโดนอัดลงไปนอนกับพื้น เขายกแขนขึ้นมาเช็ดเลือดช้า ๆ ก่อนจะจ้องมองไปที่แขนข้างนั้น

 

“ไหนพวกนายบอกว่าจะปกป้องฉัน”

 

“เฮ้ อย่ามองมาที่ฉันสิ ซิล” ราเทนพูด “วอร์เด็นเป็นคนสลบเหมือด ก่อนที่ฉันจะได้ทันทําอะไรด้วยซ้ํา

 

“บางที คงถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวแล้วใช่มั้ย?” ซิลเอ่ย

 

“ว่าไงนะ? แล้วฉันคนเดียวต้องมารับผิดชอบมันใช่รึไง!?” วอร์เด็นเถียงกลับราเทน “ถ้านายทําแบบนี้ นายจะเหงายิ่งกว่าเดิม แม้แต่ควินน์ก็จะไม่อยู่เคียงข้างนาย

 

“ควินน์ อา ใช่ ควินน์” ซิลพูดขณะที่เขามองไปรอบ ๆ ว่าควินน์นั้นอยู่ที่ไหน “ฉันไม่เห็นควินน์เลย”

 

“นี่อาจจะดีก็ได้” ราเทนกล่าว “เฮ้ ซิล ไอ้หมอนั่นที่อยู่ตรงหน้าน่ะ มันกําลังซ่อนควินน์จากพวกเรา?

 

ซิลจึงหันไปมองเบิร์กตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเขา ทว่า ใบหน้าของซิลไม่ได้เรียบเฉยแต่อย่างใด มันเหมือนกับปีศาจ ที่รู้สึกได้ถึงความโกรธ รวมไปถึงสัญชาตญาณ ทุกสิ่งทุกอย่าง เบิร์กสามารถสัมผัสได้เพียงแค่มันปรากฏอยู่บนใบหน้าของซิล

 

“ถอยไป!” เบิร์กตะโกนขณะที่เขายกแขนขึ้นมาตั้งการ์ดด้วยหมัดทั้งสองข้างและหมัดของเขาก็ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟอีกครั้ง

 

ขณะที่ซิลก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เบิร์กก็หมดความอดทน เขารู้ดีว่าเขาจําเป็นต้องโจมตีแล้วเขากางมือไปข้างหน้าพร้อมกันทั้งสองข้าง ก่อนจะปล่อยเปลวเพลิงออกไป ราวกับเครื่องพ่นไฟ

 

เมื่อไฟพุ่งเข้ามาหาตัวเอง ซิลก็วาดมือข้างหนึ่งเพื่อยกกองทรายขึ้นมา แล้วสาดมันลงไปบนกองไฟ จนกระทั่งมันดับสนิท

 

“เขาเอาทักษะของฉันไปตั้งแต่เมื่อไหร่?” เรย์ร่าเอ่ย ขณะชมการต่อสู้ “แล้วทําไมมันถึงแข็งแกร่งกว่าของฉัน ฉันไม่มีทางยกทรายได้ขนาดนั้นแน่ ๆ ”

 

“ทักษะของวอร์เด็นนั้นแปลกมาก” เอรินกล่าว “แต่ถ้าฉันจําไม่ผิด เขาสามารถควบคุมทักษะพิเศษได้สองทักษะ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะแบบนั้นก็ได้”

 

พอได้เห็นแบบนี้ เบิร์กก็ตกใจเช่นกัน เขาคิดว่าวอร์เด็นเป็นแค่คนที่รู้ความลับตระกูลของเขา โดยอาจจะทรมานสมาชิกคนหนึ่งในตระกูลและบังคับคน ๆ นั้นให้สอนให้ แต่ตอนนี้ เขากลับใช้ทักษะพิเศษอื่นได้ด้วย มันเป็นไปได้ยังไง?

 

ในขณะที่เบิร์กตกใจกับเรื่องทั้งหมด เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ไล่จากปลายเท้า

 

“นี่มันอะไรกัน?” เขาพูดขึ้น ขณะที่เห็นขาทั้งสองข้างของตัวเองถูกแช่แข็ง

 

จังหวะนั้นเอง เขาเปิดใช้พลังไฟล้อมขาทั้งสองข้างเอาไว้ น้ําแข็งจึงละลาย แต่สิ่งที่ซิลต้องการจะทําก็คือหยุดเขาไว้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ในขณะที่ตัวเองกําลังสร้างหอกน้ําแข็งและขว้างมันไปที่ไหล่ของเบิร์ก

 

หอกน้ําแข็งพุ่งหลาวออกไปและแทงไหล่ของเบิร์ก แต่เขาไม่สามารถบ่นอะไรได้ ตราบใดที่กองไฟกําลังลุกโชนขึ้นมาจากพื้นดินใต้เท้าเขา

 

“เขามีทักษะน้ําแข็งของเธอด้วยเหมือนกัน!” เรย์ร่าพูดขึ้น “นั่นคือทักษะพิเศษสามประเภทเลยนะ วอร์เด็นเก่งขนาดไหนกันเนี่ย!?”

 

ในขณะที่มือข้างหนึ่งปาหอกไฟไปเป็นจํานวนมาก มืออีกข้างหนึ่งก็ปลดปล่อยหอกน้ําแข็งราวกับห่าฝน ทว่าเบิร์กก็ยังสามารถหลบการโจมตีทั้งสองอย่างได้เป็นเวลาสักพัก

 

“เข้ามาเลย MC ของแกจะต้องหมดไม่ช้านี้แหละ!” เบิร์กพูด

 

ภายในห้องที่มืดสนิท ราเทนกําลังหัวเราะอยู่

 

“ฉันพนันได้เลย ว่าเจ้าหมอนี่คงคิดว่ามันจะชนะการต่อสู้ได้ ตราบใดที่มันรอให้ซิลเหนื่อย ก็นะ นั่นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก”

 

ตอนนี้ วอร์เด็นมีทักษะพิเศษทั้งหมดสามประเภท เมื่อใดก็ตามที่คัดลอกทักษะของคนอื่น เขาจะคัดลอกจํานวน MC ในร่างกายของคน ๆ นั้นมาด้วย เช่นเดียวกันกับทักษะพิเศษที่เขามีอยู่ในร่างกาย แต่ทักษะและเซลล์ของวอร์เด็นมันเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่านั้น

 

ตราบใดที่เขาคัดลอกทักษะ เขาสามารถเปลี่ยนเซลล์ MC ให้เป็นประเภทใดก็ได้ตามที่เขาต้องการ เมื่อใช้ทักษะธาตุไฟ เลเวลพลังก็คือระดับแปด ทักษะของเอรินก็คือเลเวลห้า และ ทักษะของเรย์ร่าก็คือเลเวลสอง ซึ่งก็หมายความว่า เขามีแต้ม MC จํานวนมากมายให้ใช้ และถ้าหากเขามีความจําเป็นตั้งแต่ต้น เขาสามารถเปลี่ยนเซลล์ทั้งหมดของเขาให้กลายเป็นค่า MC ประเภทเดียวกันได้เลย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ซิลสามารถควบคุมทรายขึ้นมาดับไฟได้ ในขณะที่เรย์ร่าไม่มีวันทําแบบนั้นได้ด้วยพลังของเธอ

 

เมื่อการต่อสู้ดําเนินต่อไป เบิร์กมั่นใจแล้วว่าวอร์เด็นคงไม่มีทางเหนื่อยแน่ ๆ นั่นบีบให้เขาต้องโต้กลับอย่างรวดเร็ว โดยเปลวไฟกําลังพุ่งมาจากทางขวาของเขาและน้ําแข็งก็กําลังพุ่งมาจากทางซ้าย เบิร์กจึงหมอบลงในท่าย่อตัวและค่อย ๆ ปล่อยให้ไฟปะทุอยู่ภายในร่าง

 

จากนั้น เมื่อการโจมตีของซิลเข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว เบิร์กก็กางแขนออกทันที ส่งผลให้วงเพลิงที่ปะทุอยู่ ระเบิดออกและทําลายการโจมตีที่พุ่งเข้ามาทั้งหมด

 

ทว่า ตอนนี้เบิร์กกําลังหอบหนักและเหงื่อท่วมตัว มันเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะป้องกันตัวเองเอาไว้ แต่เขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทําอะไรต่อหลังจากนี้

 

“ควินน์…อยู่ที่ไหน?” ซิลถามขณะที่เขาเดินไปหา

 

เรย์ร่าและเอรินอยู่ไกลเกินกว่าที่จะได้ยินคําพูดของวอร์เด็น แต่กังวลเหลือเกินว่าเขาอาจจะทําอะไรรุนแรงกว่านี้

 

“ไอ้บ้า ฉันขอร้อง อย่าทําอะไรบ้า ๆ เด็ดขาดนะ!” เรย์ร่าร้องตะโกน

 

“เดี๋ยวก่อน!” วอร์เด็นตะโกน “ราเทนโกหก ควินน์ปลอดภัยแล้ว เขาอยู่ที่อื่น ให้ฉันรับช่วงต่อนะ แล้วฉันจะแสดงให้นายเห็นเอง”

 

“ไอ้คนทรยศวอร์เด็น!? ราเทนตะโกนสวน “เอาล่ะ ฉันจะลงมือเอง ส่งไม้ต่อให้ฉัน”

 

“ฉันเหนื่อยแล้วสิ…” ซิลพูด

 

ในที่สุด วอร์เด็นก็กลับมาและยืนอยู่ตรงหน้าของเบิร์ก

 

“ฉันไม่ต้องการเป็นศัตรูกับนาย แต่นายโจมตีเราก่อน” วอร์เด็นกล่าว

 

ทันใดนั้น ความรู้สึกที่เบิร์กเคยสัมผัสได้จากเขา ณ ตอนนี้มันหายไปแล้ว เมื่อเขามองไปที่วอร์เด็น เขาก็ยังคงเหมือนเดิมเฉกเช่นในตอนแรก

 

“ฉันมาจากตระกูลเบรด คงจะดีที่สุดถ้าตระกูลของเราสองคนไม่เผชิญหน้ากัน”

 

ทันทีที่เบิร์กได้ยินนามสกุลของวอร์เด็น ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ตระกูลเบรดไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับสี่ตระกูลใหญ่ แต่นั่น เป็นเพราะพวกเขาเลือกที่จะไม่เป็นแบบนั้น พวกเขาเป็นตระกูลลับ ๆ ที่เลือกจะมีอิทธิพลไม่มากภายในโลก ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาเท่าไหร่

 

เบิร์กไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทําไม แต่พ่อของเขามักพูดเสมอว่าเขาจะไปพบใครบางคนใน ตระกูลเบรดเพื่อแสดงความเคารพอย่างจริงใจที่สุด

 

เบิร์กก้มหัวลงกับพื้นและเริ่มเอ่ยคําขอโทษ

 

“ฉันขอโทษด้วย ที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้น มันเป็นความผิดของฉันเอง มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้บ้างไหม?”

 

วอร์เด็นครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก เขาเกลียดการอ้างชื่อตระกูลของตัวเอง แต่เขามั่นใจว่าอย่างน้อยสี่ตระกูลใหญ่ก็ต้องรู้เรื่องนี้ แต่ในขณะที่เขาอ้างชื่อตระกูล เขาก็อาจจะใช้ประโยชน์อะไรจากมันได้บ้าง

 

“ไม่เป็นไร แต่ฉันคงต้องให้นายมอบคริสตัลของนายที่นายหาได้วันนี้ และเมื่อวานนี้มาให้กับเราซะ” วอร์เด็นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

“ตกลง”

 

ขณะที่เอริน เรย์ร่าและคนอื่น ๆ มองดูเหตุการณ์ไปพร้อม ๆ กัน พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขารู้ว่าวอร์เด็นเป็นผู้มีทักษะพิเศษโดยกําเนิด พวกเขารู้แม้กระทั่งชื่อตระกูลของเขา แต่พวกเขากลับไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลเบรดมาก่อนเลย

 

ทว่า ด้วยเหตุผลบางอย่าง คนจากสี่ตระกูลใหญ่กําลังก้มลงคํานับเขาเพื่อขอโทษ หรือแม้กระทั่งยอมมอบคริสตัลทั้งหมดของพวกเขาให้

 

“นายเป็นใครกันแน่ วอร์เด็น..” เรย์ร่าคิด

 

My Vampire System

My Vampire System

My Vampire System
Score 4.1
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง My Vampire Systemเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ ดัลกิที่ชั่วร้าย และเมื่อพวกเขานั้นต้องการความช่วยเหลือที่มากขึ้น มนุษย์กลุ่มหนึ่งจึงต้องออกโรง พวกเขาเหล่านั้นซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และพวกเขาก็เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ บางคนเลือกที่จะแบ่งปันความรู้ของพวกเขากับมนุษย์คนอื่นๆในโลก ด้วยความหวังว่าจะชนะสงครามครั้งนี้ ในขณะที่บางคน ยังคงเก็บซ่อนความสามารถไว้เพื่อตัวของเขาเอง ควินน์สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในสงคราม ทั้งบ้านและครอบครัวของเขา สิ่งเดียวที่เขาเหลือคือหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เขาไม่สามารถจะเปิดมันได้ แต่เมื่อหนังสือเปิดออก ในที่สุดควินน์ก็ได้รับระบบซึ่งคอยมอบภารกิจต่างๆ ให้เขาทำ และสุดท้ายทั้งชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนไป ยิ่งเขาทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็มีพลังมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งระบบได้มอบภารกิจหนึ่งให้แก่เขา และเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ “ถึงเวลากินอาหารแล้ว!” “คุณต้องดื่มเลือดมนุษย์ภายใน 24 ชั่วโมง” “HP ของคุณจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset