หลังจากที่เลเวลระบบของเขาอัพแล้ว ควินน์อัพแต้มคุณสมบัติไปที่ค่าความแข็งแกร่งทันที ในตอนนี้ถึงแม้เขาจะไม่ได้สวมถุงมืออสูร เขาก็มีค่าความแข็งแกร่งทั้งหมด 15 แต้ม ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถใช้สกิลอัดกระแทกโดยที่สวมถุงมืออสูร หรือไม่สวมก็ได้
ขณะที่ควินน์มองไปรอบๆห้อง ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่เขายังไม่เคยได้แตะต้อง ที่นี่ราวกับเป็นขุมทรัพย์ทองคำสำหรับเขาจริงๆ
เมื่อเขาเดินไปยังชั้นหนังสือถัดไป ก็ได้มาถึงยังมุมของหนังสือชุดใหม่ เขาวางมือบนหนังสือเล่มหนึ่งเพราะมันเป็นตำราแห่งทักษะเลเวล 3 เล่มแรกที่เขาเจอ
[ ตำราแห่งทักษะธาตุดิน เลเวล 3 ]
[ ไม่สามารถเรียนรู้ได้ คุณต้องการแปรสภาพเป็น 1000 Exp หรือไม่? ]
ควินน์วางหนังสือเล่มนี้ลงแล้วหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ยินที่ระบบพูดโดยที่หูไม่ฝาด แต่เมื่อทำอีกครั้งตัวเลขที่เขาได้รับนั้นถูกต้องอย่างชัดเจน ตำราแห่งทักษะเลเวล 3 ให้ค่า Exp กับเขาถึง 1000 แต้ม
ไม่มีความลังเลใดๆ ควินน์ตัดสินใจรับ Exp จากหนังสือเล่มนี้ทันที
[ 1050/3200 Exp ]
ควินน์จึงหยิบตำราสกิลที่อยู่ข้างๆเขามาไว้ในมือและในตอนนั้นเขาตั้งเป้าเอาไว้ว่าเขาจะได้รับ Exp 500 แต้มแน่ๆ เพราะที่ผ่านมากตำราสกิลทุกเล่มให้แต้ม Exp ครึ่งหนึ่งกับเขา
เป็นอีกครั้งที่เขาดูวุ่นวายไปหมด เขาคว้าหนังสือทุกเล่มบนชั้นที่ใช้การได้ ส่วนเล่มไหนใช้รับ Exp ไม่ได้ เขาก็โยนทิ้งไปที่พื้นจนระเกะระกะ แม้ว่าเขาอยากจะนำหนังสือพวกนี้กลับไปด้วยใจจะขาดเนื่องจากมันขายได้ราคาดี
จนถึงตอนนี้ตำราสกิลต่างๆก็ไม่สามารถเก็บไว้ใน ‘ช่องเก็บของ’เหมือนกับคริสตัลพวกนั้นได้และการนำติดตัวไปคงจะเป็นปัญหามากกว่าประโยชน์แน่ๆ หลังจากที่แปรสภาพหนังสือเหล่านี้ไปมากมาย ควินน์ก็อัพเลเวลขึ้นไปทั้งหมดถึง 2 เลเวลด้วยกัน
[ เลเวล 8 ]
[ HP : 45/45 ]
ไม่มีการปลดล็อคสกิลใหม่ แต่ควินน์ก็ยังคงได้รับค่าอัพคุณสมบัติเช่นเดิมในทุกครั้งที่อัพเลเวล ปัจจุบัน ค่าความแข็งแกร่งและค่าความเร็วของเขาคือ 15 เขาเลยตัดสินใจว่าจะอัพแต้มไปที่ค่าพลังงานของเขาสักที
หากมีการต่อสู้ที่เขาจำเป็นต้องใช้ท่าสกิลก้าวพริบตาและสกิลอัดกระแทกอยู่หลายต่อหลายครั้ง เขาจะต้องตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน หลังจากอัพค่าคุณสมบัติทั้งสองแต้มไปที่ค่าพลังงาน ค่าสถานะทั้งหมดของเขาก็ดูดีขึ้นมากทีเดียว
[ ความแข็งแกร่ง : 15(2) ]
[ ความเร็ว : 15 ]
[ พลังงาน : 14 ]
[ 510/12800 Exp ]
แม้ว่าจำนวน Exp ที่ต้องการในตอนนี้จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ควินน์คิดว่าถ้าระบบมันอัพจนถึงเลเวลสูงสุดแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น หรือจำนวน Exp ของเขาจะไม่สามารถเพิ่มได้อีกต่อไป
ตอนนี้ควินน์แตะต้องหนังสือแทบทุกเล่มที่อยู่ในคลังเก็บอุปกรณ์ ช่างน่าเสียดายที่ทักษะสกิลเลเวลสูงสุดที่เขาค้นพบได้ก็คือ ตำราสกิลเลเวลสาม ยิ่งเขาเดินลึกเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ ก็มีตำราเลเวลสูงตามๆกัน แต่สำหรับชั้นวางหนังสือที่อยู่ท้ายๆไม่กี่ชั้น ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียสักเท่าไหร่
ดูเหมือนว่าหนังสือพวกนี้จะซ้ำกันกับตำราแห่งทักษะเลเวลสามเล่มอื่นๆ ควินน์เลยหยิบมันออกมาเล่มหนึ่ง ซึ่งไม่มีข้อความใดจากระบบส่งมา เพราะมันเป็นตำราแห่งทักษะเลเวลสามที่เขาได้รับ Exp ไปแล้ว
‘เฮ้ บางทีปีเตอร์อาจจะใช้เจ้านี่ได้นะ?’ ควินน์คิด
มันเป็นแค่หนังสือหนึ่งเล่ม ที่ควินน์มั่นใจว่าเขาจะพกมันติดตัวได้อย่างปลอดภัย แต่ทันทีที่เขานึกถึงปีเตอร์ ความทรงจำก็แล่นเข้ามาหัวของเขา ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด
ปีเตอร์คือเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมเขาต้องมาติดแหงกอยู่ที่นี่และเขายังไม่รู้ว่าเขาต้องอยู่ดาวเคราะห์ดวงนี้อีกนานแค่ไหน หรือเขาจะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้จริงๆ ซึ่งพูดตามตรง ควินน์แค่พยายามอย่างสุดความสามารถเท่านั้นในสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องของปีเตอร์ ความโกรธเริ่มครอบงำจิตใจและร่างกายของเขา เขาจึงฉีกหนังสือเล่มนี้ทิ้งทันที ซึ่งเขายินดีที่จะรับฟังปีเตอร์ถ้าเขารอดชีวิตออกไปจากที่นี่ได้ แต่ควินน์จะไม่มีวันช่วยเหลือเขาอีกเด็ดขาด
ถ้าใครสักคนทรยศคุณสักครั้ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเหมือนเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จากนั้น เมื่อควินน์มองไปให้ทั่วตู้คอนเทนเนอร์เขาสังเกตเห็นว่ามีชั้นวางของอยู่ข้างในสุดซึ่งเขาไม่เคยไป เขาไม่ได้กังวลที่จะเดินไปที่นั่น เพราะมันดูโล่งๆเมื่อมองจากระยะไกล แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้เขาก็ได้เห็นว่ามีหนังสือเล่มเดียววางอยู่ตรงนั้น
เมื่อเขาแตะหนังสือบนชั้นวางของ ข้อความใหม่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
[ ตำราแห่งทักษะเลเวล 6 พื้นฐานแห่งเงา ]
หลังจากที่ได้เห็นข้อความแรกปรากฏ ควินน์แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าตำราแห่งทักษะเลเวล 6 จะให้แต้ม Exp กับเขามากเพียงใด บางทีสุดท้ายแล้วมันอาจจะทำให้เขาอัพถึงเลเวลสิบเลยก็ได้ ซึ่งเขาจะได้ปลดล็อคการใช้งาน ‘ร้านค้า’ในระบบของเขาสักที
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
[ ทักษะพิเศษนี้เข้ากันได้ดีกับระบบ ]
[ คุณต้องการเรียนรู้ทักษะเลยหรือไม่? ]
ด้วยความตกใจ ควินน์จึงทิ้งหนังสือไว้บนชั้นวางของแล้วถอยหลังร่น
จากหนังสือทั้งหมดทั้งปวงในตู้คอนเทนเนอร์ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับข้อความรูปแบบนี้ เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันคือความจริง แต่ระบบบอกเขาอย่างชัดเจนว่าเขาสามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้
ต่อมาควินน์จึงหยิบตำราตรงหน้าขึ้นมาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจและมีข้อความเช่นเดิมปรากฏขึ้น หลังจากทบทวนเรื่องนี้อยู่เป็นเวลานานพอสมควร เขาตัดสินใจว่าจะลองเก็บหตำราทักษะเล่มนี้ไว้ใน ‘ช่องเก็บของ’ ของเขา เพราะก่อนหน้านั้นมันใช้งานไม่ได้กับตำราเล่มอื่นๆ แต่เขาคิดว่ามันอาจจะใช้งานได้กับตำราเล่มนี้
และมันก็ทำให้เขาประหลาดใจเป็นที่สุด เพราะว่ามันได้ผล ตำราแห่งทักษะเลเวลหกถูกเก็บเอาไว้ในระบบของเขาอย่างปลอดภัย พร้อมกับคริสตัลสัตว์อสูรทั้งหมดของเขา
ก่อนที่จะเรียนรู้ทักษะพิเศษ ควินน์อยากมั่นใจว่าเขาสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังของมันให้ได้ก่อน บางทีเขาอาจจะรู้ว่าทำไมมันถึงเข้ากันได้กับระบบแวมไพร์ของเขา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น พวกแวมไพร์อาจจะเข้ากันได้ดีกับทักษะอื่นๆอีกมากมายเลย
หากเป็นในกรณีนั้นจริงๆ ควินน์ก็ไม่ต้องรีบร้อนอะไร เพราะปกติมนุษย์สามารถใช้ทักษะพิเศษได้เพียงอย่างเดียวไปตลอดทั้งชีวิต ซึ่งสำหรับควินน์ก็คงจะไม่ต่างกัน
เมื่อเขาเลเวลอัพและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเท่าไหร่ เขาก็คิดถึงเรื่องพวกนี้มากขึ้นและมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ระบบของเขาไม่ใช่ทักษะพิเศษ หนังสือที่พ่อแม่มอบให้เขาก็ไม่ใช่ตำราแห่งทักษะและความสามารถ ทว่ามันเปลี่ยนแปลงร่างกายของเขา ควินน์ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่กลับเป็นอะไรสักอย่างไปอย่างสิ้นเชิง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมสกิลต่างๆของเขาถึงใช้งานได้ในเกม ทั้งยังได้รับตัวเลือกให้เรียนรู้ทักษะพิเศษอื่นได้อีก
นี่เป็นข้อสรุปเดียวที่เขาสามารถสรุปได้
หลังจากเก็บหนังสือเล่มอื่นๆออกไป ควินน์จึงตัดสินใจปิดประตูตู้คอนเทนเนอร์และพักพิงอยู่ข้างในนั้น ที่นี่ดูปลอดภัยและเขารู้สึกเหนื่อยล้ามากๆ อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าตู้นี้แข็งแรงพอที่จะปกป้องเขาจากเหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ข้างนอกได้
เขาเอนกายนอนบนพื้นและหลับตาลงในทันที