[ กระบวนการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นขึ้นแล้ว ]
ทันที่ที่ข้อความนี้ปรากฏขึ้นมา ความเจ็บปวดแสนสาหัสได้แล่นไปทั่วทั้งร่างกายของควินน์ เขารู้สึกว่าภายในมันร้อนราวกับไฟ ตาขาวทั้งสองข้างของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นสีดำทั้งหมด รวมไปถึงฟันก็งอกยาวจนแหลมคมและมีขนาดใหญ่
แต่ความเจ็บปวดก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ร่างกายของเขากระตุกอย่างรุนแรงราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะถูกปลดปล่อย กงเล็บของเขาขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ผิวหนังและกล้ามเนื้อเริ่มเติบโตขึ้นไปทั่วร่าง จนเผยให้เห็นโครงสร้างของกระดูกที่ชัดเจนขึ้น รวมไปถึงเศษผมที่ร่วงลงจากศีรษะ
[ จิตใจของคุณไม่มั่นคง ]
[ ความต้องการเลือดของคุณถึงระดับสูงสุดแล้ว ]
[ ตอนนี้คุณกลายร่างเป็น (Bloodsucker) ปีศาจกระหายเลือด (อย่างไร้เหตุผล) ]
[ ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ]
[ สมถรรภาพร่างกายลดลงครึ่งหนึ่ง ]
[ ในร่างนี้สกิลที่เกี่ยวกับเลือดทั้งหมดจะไม่สามารถใช้งานได้ ]
แม้ว่าเขาจะได้รับข้อความอื่นเกี่ยวกับค่าสถานะหลังจากนั้น ควินน์ก็ไม่สามารถอ่านหรือเข้าใจข้อความใดๆได้อีก เพราะจิตใต้สำนึกของเขาหายไปแล้ว
กายหยาบยังคงอยู่ แต่ตอนนี้ ผู้ที่ยืนอยู่กลางลานประลองไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เขามีหนังศีรษะที่หนาขึ้น มือทั้งสองข้างงอกยาวไปด้วยกงเล็บอันแหลมคม และเป็นสิ่งมีชีวิตที่หลังค่อม
เมื่อมันลืมตาสีดำสนิทขึ้นมาและตกใจกับแสง มันก็ทรุดลงไปกับพื้นขณะที่ประสาทสัมผัสของมันพุ่งสูงเกินขีดจำกัด
“กรรรรรรรร!” จากนั้น มันก็ส่งเสียงกรีดร้องที่แหลมจนแสบแก้วหูดังก้องไปทั่วทั้งศูนย์ฝึกซ้อมอันกว้างใหญ่ เมื่อมันหลับตา มันวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ จนขณะที่มาถึงกำแพง มันก็ฝังกงเล็บเกาะไปตามผนังและเริ่มปีนป่าย
มันเคลื่อนที่ไปบนเพดานอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้กำปั้นของมันทุบไปที่หลอดไฟจนพังทลาย เมื่อไม่มีแสงที่สาดส่อง อสูรกายดูดเลือด ก็ลืมตาได้เต็มที่ มันสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มแจ้งราวกับเป็นช่วงเวลากลางวัน
มันปล่อยร่างจากเพดานสู่พื้น ด้วยการทิ้งตัวลงมาอย่างน้อยก็สักประมาณ 30 เมตร แต่เมื่อเข่าของมันกระแทกพื้นกลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจากการร่วงหล่นลงมา
อสูรกายเดินเตร่ไปจนทั่วศูนย์ฝึก ในขณะที่มันเขาไปในห้องไหน มันก็ทำลายแสงไฟทิ้ง สิ่งเดียวที่มันมีอยู่ภายในใจ นั่นคือความหิวและกำลังมองหาแหล่งเลือด
หลังจากกายร่างเป็นปีศาจกระหายเลือด ความคิดของควินน์ อารมณ์ของเขาทุกอย่างที่บ่งบอกว่าเขาเป็นมนุษย์นั้นได้หายไปจนหมดสิ้น ร่างกายของเขาทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว คือให้ความกระหายเลือดครอบงำจิตใจ กระทั่งในที่สุด เขาก็เดินวนกลับมาที่สนามประลองในศูนย์ฝึกซ้อมนี้ ราวกับมันไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไป เลยเริ่มเดินเป็นวงกลมเพื่อตามหาเหยื่อของมัน
หลังจากนั้นสักพัก วอร์เด็นและเอียนก็เข้ามาข้างใน แม้ว่าพวกเขาจะเงียบแค่ไหน ควินน์ก็ได้ยินเสียงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสียงฝีเท้าที่บางเบา หรือแม้กระทั่งเสียงกระซิบที่พวกเขาคุยกัน
มันหันศีรษะไปในทิศทางนั้นและเห็นว่ามีแสงสว่างสองดวงอยู่ไม่ไกล ในตอนแรกแสงเหล่านั้นล้อมรอบมนุษย์เอาไว้จึงบอกไม่ได้ว่าพวกเขาคืออะไร แต่เมื่อดับไฟ กล้าพูดได้เลยว่าอาหารของเจ้าปีศาจมาถึงแล้ว
****
เอียนและวอร์เด็นได้ยินเสียงอะไรบางอย่างพุ่งมาหาพวกเขา แต่มันมืดเกินกว่าที่จะมองเห็นได้
ในตอนนี้ พวกเขาถูกเจอตัวเข้าแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างมืดมืดอีกต่อไป เอียนจึงเลื่อนมือลงไปที่เข็มขัดของเขาเพื่อแตะหิน แต่ก่อนที่จะลดมือลงต่ำ สัตว์อสูรก็มาถึงตัวเขาในทันใด
ภายในความมืด พวกเขาปรับสายตาเล็กน้อยด้วยแสงไฟ LED ที่แนบติดกับผนังบริเวณสนามประลอง ทำให้พวกเขาเห็นแสงสว่างขึ้นแม้ว่าจะเห็นเพียงลางๆ ตอนนั้นเองที่สัตว์อสูรเข้าใกล้เขามากพอที่จะสามารถบอกได้ว่ามันมีลักษณะคล้ายมนุษย์
ขณะที่สัตว์อสูรเงื้อกรงเล็บพุ่งเข้าใส่ เอียนก็ปล่อยหมัดของตัวเองออกไปพร้อมๆกัน
“แกอยากจะต่อสู้ด้วยกำลังใช่ไหม!”
อย่างไรก็ตาม มือของสัตว์อสูรได้รับกำปั้นของเอียนเอาไว้เพื่อหยุดไม่ให้ถึงตัวมัน จากนั้นมันก็ใช้เล็บของมันจิกลงไปที่หมัดของเอียนจนเลือดไหลออกมา
“พละกำลังของไอ้ตัวประหลาดนี่มันอะไรกัน? เวรเอ้ย! ฉันเจอสัตว์อสูรมาทุกรูปแบบแล้วนะ!”
เมื่อได้กลิ่นเลือดที่ไหลออกมาจากมือของเอียน มันก็เริ่มคำรามและกรีดร้องเสียงดังมากขึ้น มันอ้าปากคว้างจนเผยให้เห็นเขี้ยวสองข้างขนาดใหญ่ จากนั้นมันก็ขยับหัวมันลงมาโดยค่อยๆเคลื่อนขากรรไกรเข้าใกล้เอียน แต่เมื่อกระตุ้นความแข็งแกร่งทั้งหมดของอุปกรณ์ที่เขาสวมใส่อยู่ เอียนก็พยายามผลักสัตว์อสูรออกไป ซึ่งทำให้การกระทำของมันชะงักเล็กน้อย
จากนั้นสัตว์อสูรก็ยกขาทั้งสอข้างขึ้นจากพื้นและกระโดดถีบเอียนจนลอยไปกระแทกกับกำแพง
มันเริ่มพุ่งเข้าใส่เอียนอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ก่อนที่มันจะถึงตัวเขา เก้าอี้เหล็กก็ลอยมาจากข้างหลังและกระแทกสัตว์อสูรจนมันกระเด็น
วอร์เด็นรีบรุดไปข้างๆเอียนและพยุงเขาขึ้นจากพื้น
“ขอบใจไอ้หนู”
“นั่นมันตัวอะไร?” วอร์เด็นถาม
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ดูเหมือนมันจะเป็นสัตว์อสูรที่คล้ายๆกันกับมนุษย์ ฉันไม่รู้เกี่ยวกับพวกมันมากเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดที่ฉันได้ยินมา มันจะมีสัตว์อสูรประเภทหนึ่งที่ทรงพลังที่สุดที่เคยถูกพบบนดาวเคราะห์เหล่านี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นมัน” เอียนตอบ
เก้าอี้หนึ่งตัวไม่ได้ทำให้สัตว์อสูรชะงักไปได้นาน ขณะที่กลิ่นเลือดคละคลุ้งรุนแรง มันดึงดูดสัตว์อสูรอย่างเต็มที่ และทันทีที่มันลุกขึ้นจากพื้น มันก็เริ่มวิ่งไปในทิศทางของทั้งสองคนอีกครั้ง
“แตะหินพลังงานของนายเร็วเข้า!” เอียนกล่าว
“หา?”
“เร็ว! หินพลังงาน”
ขณะที่ทั้งสองคนเปิดใช้งานหินพลังงาน สัตวอสูรตัวนั้นก็หยุดกะทันหันและยกแขนขึ้นปิดตาของมัน พร้อมกับถอยร่น
“เหมือนกับที่ฉันพูดไว้ไม่มีผิด” เอียนกล่าว “มันต้องเป็นตัวที่พังไฟทั้งหมดแน่ๆ คงจะแพ้แสงล่ะสิท่า”
แต่ทั้งสองคนไม่รอบคอบเอาเสียเลย ที่คิดว่าหินพลังงานจะให้แสงที่เพียงพอจนทำให้อสูรกายตรงนั้นยอมอยู่ห่างจากเหยื่อของมัน
สัตวอสูรตัวดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องใช้การมองเห็นใดๆ เพื่อที่จะรับรู้ว่าทั้งสองคนอยู่ตรงไหน แค่กลิ่นเลือดอย่างเดียวก็มากโข เมื่อมันอยู่บนเขตอัฒจันทร์ มันทำการกระชากเก้าอี้บนนั้นและเหวี่ยงไปที่พวกเขาทั้งคู่
โชคดี ที่เก้าอี้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่เป็นโลหะ ดังนั้น เอียนและวอร์เด็นจึงสามารถควบคุมมันทิ้งไปได้ แต่เก้าอี้มากมายก็ยังคงถูกเหวี่ยงมาใส่ด้วยจำนวนที่น่าตกใจ ซึ่งแต่ละตัวล้วนถูกกระชากออกมาจากที่นั่งบนอัฒจันทร์
จากนั้น สัตว์อสูรก็พุ่งออกเข้ามาโดยปิดตาของมันเอาไว้ เมื่ออสูรกายเข้าใกล้ทั้งสองคน มันก็เริ่มทำการโจมตีแบบสุ่มไปทั่ว
“มันรู้ได้ไงว่าเราอยู่ตรงไหน!” เอียนกล่าว
‘วอร์เด็น ออกไปจากตรงนี้ซะ!’ ราเทนเอ่ยขึ้นทันควัน
‘หมายความว่าไง?’ วอร์เด็นถามกลับ
‘แกไม่เห็นหรือไง ว่ามันโจมตีเอียนคนเดียว มีบางอย่างจากเอียนดึงดูดมัน’
ด้วยคำพูดของราเทน วอร์เด็นตัดสินใจแยกตัวให้ห่างจากเอียนและวิ่งไปยังลานกว้างของสนามประลอง ซึ่งมันเป็นอย่างที่เขาพูด อสูรกายตัวนั้นไม่สนใจวอร์เด็นเลยสักนิด อีกทั้งยังคงโจมตีเอียนไม่มีหยุด
‘เราต้องช่วยเขา ราเทน นายสลับกับฉันเร็วเข้า’
‘ไม่!’ ราเทนตอบ
‘เราอาจจะตายก็ได้!’
‘แกมีโอกาสมาตั้งแต่แรก ถึงเวลาแล้วที่แกจะได้เรียนรู้บทเรียนสักที ออกจากกะลาของแกซะวอร์เด็น’
จากนั้นเสียงใหม่จากใครสักคนก็ปรากฏขึ้น
‘ฉันจะช่วยนายเอง’
เอียนและเจ้าอสูรกายยังคงต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง น่าเสียดาย สำหรับเอียนแล้วอย่างเดียวที่เขาสามารถควบคุมโลหะในลานประลองนี้ได้ ก็คือ เก้าอี้ ซึ่งต้องใช้เวลามากพอสมควรในการดึงดูดสิ่งของเข้ามาหาเขา เอียนจึงมีเพียงเก้าอี้เหล็กสองตัวที่ถูกกระชากออกมาจากอัฒจันทร์และใช้เป็นโล่กำบังจากการโจมตีของศัตรู
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เจ้าปีศาจทำการโจมตีด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของมัน มันก็ฉีกกระชากเก้าอี้ออกเป็นเสี่ยงๆ การจู่โจมของมันทรงพลังมากเกินไป
ทันใดนั้น เจ้าปีศาจกระหายเลือดก็กระโจนขึ้นไปในอากาศและอ้าปากกว้างอย่างน่าสยดสยอง เอียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยัดท่อนแขนของเขาเข้าไปในปากของมัน โดยคาดหวังว่าจะหลบเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงได้
เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
[ กำลังดูดเลือด ]
[ HP : 10/100 ]
[ HP : 14/100 ]
เอียนรับรู้ได้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้กำลังดูดเลือดจากแขนของเขา เขาจึงต้องการที่จะผลักมันและโจมตีสัตว์อสูรกลับไป แต่ฉับพลันที่เขี้ยวมันทะลุเข้าผิวหนัง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ภายใต้อัมพาตเล็กน้อยและร่างกายไม่สามารถขยับไปไหนได้
[ HP :25/100 ]
ในขณะที่อสูรกายกำลังง่วนอยู่กับการกินอาหารอยู่ มันจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีวัตถุมีคมลอยมาจากทิศทางไหน วัตถุนั้นทำมาจากโลหะที่มีลักษณะเหมือนกับหอกพุ่งตรงเข้าใส่และทำการแทงทะลุไหล่ของอสูรกายตัวนี้ทันที การโจมตีมันช่างรวดเร็วและทรงพลังจนทำให้มันกระเด็นออกจากเอียน
เมื่อเอียนยืนขึ้นและมองไปยังใจกลางของสนามประลอง เขาเห็นวอร์เด็นยืนอยู่ตรงนั้น โดยที่เก้าอี้เหล็กมากมายจากอัฒจันทร์ล้อมรอบตัวเขา
“ฉันแค่อยากจะตามหาควินน์..’สัตว์เลี้ยง’ของฉันก็เท่านั้นเอง” เจ้าตัวเล็กกล่าว