ตอนที่ 99 ทีมเดียวกัน
ในเมื่อไม่มีใครคุยด้วยและไม่มีใครช่วยเขาออกจากเรื่องที่เขาเผชิญอยู่ ปีเตอร์ก็มัก จะออกไปเดินเล่นคนเดียวบริเวณรอบๆโรงเรียน จิตสํานึกของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจจากคําพูดทั้งหมดของเรย์ร่า ใจหนึ่งเขาก็รู้สึกว่าตัวเองกําลังจะถูกลงโทษในสิ่งที่เขาทําลงไป แต่เรย์ร่าก็ปล่อยเขาไว้แบบนั้น
เขารู้สึกว่าตัวเองสําคัญน้อยลงกว่าเมื่อก่อน เขาไม่สมควรได้รับอะไรทั้งนั้น
หลังจากที่เดินวนรอบโรงเรียนไปสองสามรอบ เขาก็ตัดสินใจเดินกลับไปที่ห้องพักของเขาตามปกติ
แต่เมื่อเขาเข้ามาในห้อง เขารู้สึกช็อคมากที่สุดในชีวิต เพื่อนทั้งสองคนที่
คิดว่าหายตัวไปและอาจจะตายแล้วบนดาวเคราะห์ดวงนั้นกําลังนั่งอยู่ข้างใน
“พวกนาย…” ปีเตอร์เริ่มเอ่ยคําพูดด้วยน้ําตาคลอเบ้า
“ออกไป!” วอร์เด็นตะโกนใส่พร้อมกับชี้ไปที่ประตู
“ว่าไงนะ.”
“ฉันบอกให้ออกไป!” วอร์เด็นตวาดใส่เขาอีกครั้ง “ปีเตอร์ ถ้านายไม่ออกไป ฉันไม่รู้เห มือนกันว่าจะทําอะไรกับนายบ้าง”
“แต่นี่ก็ห้องของฉันเหมือนกัน” ปีเตอร์พยายามร้องขอ
“ฉันไม่สน! ฉันจะขอให้พวกเขาย้ายห้องให้ แต่นายจะไม่ได้อยู่กับเราอีก!”
ปีเตอร์หันไปมองควินน์เพื่อขอความช่วยเหลือโดยคาดหวังว่าเขาจะพูดอะไรให้สักอย่าง แต่ควินน์กลับเบือนหน้าหนีไปด้วยร่างกายที่สั่นเทา
ควินน์ไม่ชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จําเป็นต้องจัดการให้มันเด็ดขาด สิ่งที่ปีเตอร์ทํานั้นไม่สมควรได้รับการอภัย เขาและวอร์เด็นอาจตายได้ และถ้าเขายังอยู่แค่เลเวล 1 เขาคงจะถูกหนูจอมตะปบตัวแรกที่เห็นเขาฆ่าไปแล้ว
ปีเตอร์ยืนตัวแข็งที่อด้วยความสะเทือนใจ เขาไม่รู้เลยว่าจะทํายังไงต่อฉับพลันที่เขา เห็นเพื่อนทั้งสองคน เขาก็หวังว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นอย่างที่เคยเป็นมา เขาพยายามจะบอกทั้งคู่ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหน แต่วอร์เด็นและควินน์ไม่ยอมให้เขาพูดอะไรเพื่อแก้ตัวเลยสักนิด
วอร์เด็นจึงเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มหนึ่งเขวี่ยงไปทางปีเตอร์ หนังสือเล่มนั้นกระแทกกับกําแพงและร่วงลงพื้น
“ครั้งต่อไป มันจะเป็นที่หน้าของนาย ถ้านายยังไม่ออกไปจากห้องนี้อีก” วอร์เด็นกัดฟันพูด
“ปีเตอร์ ขอร้อง ไปซะ” ควินน์เอ่ย
เมื่อควินน์เอ่ยประโยคนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ไม่มีการให้เขาชดใช้ในสิ่งที่ทําลงไป หรือแม้แต่ถามเหตุผลด้วยว่าทําไม พวกเขาทั้งสองคนตัดสินใจแล้วว่าปีเตอร์ไม่ใช่เพื่อนของพวกเขาอีก
ปีเตอร์เบิดประตูและบิดมันไว้ข้างหลัง ขณะที่เขาเดินออกมา เขามองไปรอบๆก็ไม่มีที่ไหนให้เขาไปทั้งสิ้น ตอนนี้ดึกมากแล้ว และเกือบจะถึงเวลาเคอร์ฟิว เขาจึงไม่สามารถออกไปข้างนอกได้และส่วนอื่นๆในอาคารก็กําลังจะปิดในไม่ช้า
ในเมื่อไม่มีที่ๆจะไปและไม่มีใครให้ฟัง เขาจึงปักหลักตรงโถงทางเดินหอพักและลงนอนขดตัวเป็นลูกบอลที่พื้น แล้วร้องให้จนหลับไป
เช้าวันต่อมา เมื่อควินน์และวอร์เด็นลืมตาตื่น พวกเขาได้ยินเสียงเอะอะวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยู่ด้านนอก พวกเขาจึงเปิดประตูออกไปดูก็เห็นกลุ่มคนมารวมตัวกันนอกห้องของตัวเอง และนักเรียนพวกนั้นก็มุงอยู่รอบๆอะไรบางอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”
“ดูที่พื้นสิ ข้างล่างนั้นเปียกไปหมดเลย”
“เขาร้องให้เพราะต้องออกมานอนข้างนอกคนเดียวหรือเปล่า ฉันคิดว่าเมื่อคืนฉันก็ได้ยินเสียงอะไรสักอย่างนะ”
เด็กผู้ชายคนหนึ่งจากคนมุง คุกเข่าลงพลางกระชากผมของปีเตอร์ให้ศีรษะเขายกจากพื้นเพื่อปลุกให้ตื่น
“เฮ้ เป็นแกรึเปล่าที่ปลุกฉันขึ้นมากลางดึก?” เด็กผู้ชายคนดังกล่าวเอ่ยถาม ก่อนที่จะตัดสินใจทําอะไรสักอย่าง เขามองไปที่นาฬิกาข้อมือของปีเตอร์และสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้พลังเลเวล 1 ส่วนเขาคือเลเวล 2 ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้แสดงให้คนอื่นๆเห็น ว่าเขาไม่ได้อยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร
“ถ้าแกอยู่ที่นี่แล้วทําตัวเหมือนหมา แกก็หัดเรียนรู้ที่จะหุบปากซะบ้าง” เขาพูดก่อนที่ จะยกมือขึ้นตบหน้าปีเตอร์ทันที
ณ จุดนี้ ปีเตอร์ยอมแพ้อย่างราบคาบ เขาไม่สนแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขา มันไม่ได้เจ็บปวดมากเท่าไหร่หลังจากถูกตบไปสองสามครั้ง เขาไม่รู้จะตอบโต้ไปทําไมถ้าเขาเจ็บตัวมากขึ้น? ในเมื่อคนที่เคยใส่ใจเขาและช่วยเหลือเขาก่อนหน้านั้น ปีเตอร์ก็กลับพยายามจะฆ่าทั้งคู่ด้วยมือของตัวเอง
นี่คือสิ่งที่ปีเตอร์ต้องการ เขาควรจะได้รับบทลงโทษสําหรับการกระทําของเขา
เมื่อเด็กผู้ชายคนดังกล่าวเปื้อมือขึ้นเพื่อจะตบหน้าปีเตอร์อีกครั้ง เด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ ในขณะที่เขากําลังหันหน้าไปมองหมัดก็พุ่งเข้าใส่ต่อหน้าต่อตา
การชกครั้งนี้หนักหน่วงมากจนกระทั่งได้ยินเสียงกรามร้าว เด็กผู้ชายคนนั้นกระเด็นและทรุดลงไปกับพื้นทันที
ในขณะที่ปีเตอร์เงยหน้าขึ้นมองผ่านน้ําตาที่คลอเบ้า เขาก็เห็นควินน์ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับสีหน้าของความโกรธ
“ฉันไม่ได้ทําเพื่อนาย” ควินน์เอ่ย “ถ้าใครสักคนปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนเศษสวะแบบนั้น ฉันจะทํากับมันเหมือนกัน”
จากนั้น ควินน์ก็เดินออกไปพร้อมกับวอร์เด็น และมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารโดยไม่ได้เห ลียวหลังมองปีเตอร์
“เฮ้ นั่นใครวะ?”
“ฉันไม่แน่ใจ แต่เขาดูเจ๋งดีนะ”
“ฉันจําไม่ได้แฮะ เคยเห็นเขาในโรงเรียนไหม?”
“ไม่เคยเหมือนกัน”
หลังมื้อเช้า นักเรียนทุกคนต้องเข้าห้องเรียนของตัวเองเพื่อเรียนวิชาในช่วงเช้าตามปกติ ก่อนที่ทั้งหมดจะมุ่งหน้าไปเรียนคาบเรียนวิชาต่อสู้ เป็นวิชาถัดไป ทุกคนนั่งที่นั่งของตัวเองตามเดิม ซึ่งก็หมายถึงวอร์เด็นและควินน์กําลังนั่งข้างๆกัน โดยมีปีเตอร์นั่งใกล้ๆ
“พวกเขากลับมาแล้วจริงๆด้วย”
“ฉันได้ยินมาว่า พวกรุ่นพี่ปีสองผลักเขาเข้าไปในประตูมิติล่ะ”
“เหลือเชื่อเลยที่พวกเขารอดมาได้”
แค่การซุบซิบภายในโรงเรียนเท่านั้น แต่มีการพูดถึงกันบ่อยครั้งภายในห้องเรียนของเดล เพราะนักเรียนที่หายตัวไปอยู่ห้องเดียวกันกับพวกเขา
ในที่สุด เดลก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ขณะที่เขาเตรียมตัวแจ้งข่าวให้เด็กๆของเขาได้ทราบ
“สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ผมภูมิใจที่จะแจ้งให้ทราบว่า กําหนดการวันออกไปสํารวจนอกประตูมิติของชั้นปีที่หนึ่งได้รับการยืนยันแล้ว ซึ่งปัจจุบันย้ายไปเป็นสัปดาห์หน้า ดังนั้น ช่วยเตรียมตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้นะ อ้อแล้วอย่าลืมฝึกซ้อมกับ เพื่อนร่วมทีมตัวเองด้วย ทีมเดิมที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้นั่นแหละ เพราะนั่นคือทีมที่พวกเธอต้องเดินทางร่วมกัน”
นั่นหมายความว่า ปีเตอร์ยังคงต้องร่วมทีมเดียวกัน เช่นเดียวกับคนอื่นๆ