สกิลโฮลี่ไลท์ใช้ได้มากสุดสองครั้งในหนึ่งนาที แม้จะมีไม้คทาที่ช่วยคูลดาวน์ของมันลงได้ 6 วินาที แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ยังไม่ทันการอยู่ดี…
แต่ถ้าคำนวณดูแล้ว เซียวเฟิงน่าจะใช้เวลาสักประมาณห้านาทีในการกวาดล้างดันเจี้ยนนี้ด้วยตัวคนเดียว
ถ้าไม่มีสกิลโฮลี่ไลท์ป่านนี้เขาน่าจะตายไปนานแล้ว!
“กี๊ซ!”
นักธนูกระดูกแผลงศรออกมาใกล้หูเซียวเฟิงและเขาหลบมันได้ แต่ก็ยังมีพวกมอนสเตอร์ตัวอื่นวิ่งเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับเขาจากทุกรอบด้าน
-83!
ลูกไฟยิงมาใส่ด้านหลังของเขาจากมุมอับและตัวเลขความเสียหายก็ชัดเจนมาก นั่นคือบอสแน่นอน…แบนชีตัวนี้จะต้องเป็นบอสที่มีพลังโจมตีจากระยะไกล
เซียวเฟิงใช้โพชั่นรักษาตัวเองพร้อมกับโพชั่นมานาให้เขากลับมาอยู่ในจุดที่สามารถใช้สกิลได้อีกครั้ง
ครั้งนี้ชายหนุ่มพบว่าสร้อยเขี้ยวหมาป่ามีประโยชน์ในการช่วยฟื้นพลังชีวิตกับมานา 1% ที่สูงกว่ายาโพชั่นทั่วไป
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าโพชั่นระดับกลางก็ให้ประโยชน์น้อยกว่าอัตราการฟื้นฟูของสร้อยมาก
นี่ทำให้เซียวเฟิงคิดว่าหลังจากนี้เขาคงต้องมีการจัดระเบียบการใช้ไอเทมเสียแล้ว อีกอย่างคือเขาคิดจะเปลี่ยนอุปกรณ์ของตัวเองหลังจากเสร็จธุระกับเฉียนโตวโตว
เขามีเป้าหมายคือโซนภารกิจด่วนพิเศษเลเวล 15 ที่ตัวเองกำลังจะไปถึงแล้ว และที่นั่นจะต้องให้ไอเทมระดับเงินและระดับทองกับเขาอย่างแน่นอน!
“สกิลโฮลี่ไลท์ ได้รับการเลื่อนเป็นเลเวล 2”
โฮลี่ไลท์ (กลาง: 0/500)
ฟื้นฟูพลังชีวิตของฝ่ายเดียวกัน 15% + ค่าจิตวิญญาณของผู้ใช้
คูลดาวน์: 30 วินาที
มานาที่ใช้: 15 หน่วย
หลังจากผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมง เซียวเฟิงก็ได้รับแจ้งว่าสกิลของเขาเลื่อนเลเวลสักที
โฮลี่ไลท์เป็นสกิลแรกและเป็นสกิลที่เขาใช้มากที่สุด ดังนั้นมันจึงเป็นสกิลแรกที่เลื่อนเลเวล…
โฮลี่ไลท์แบบใหม่นี้มีคูลดาวน์เดียวกัน แต่ที่เปลี่ยนคือเพิ่มการฟื้นฟูเป็น 15% นั่นหมายความว่าความเสียหายที่มีต่อมอนสเตอร์ธาตุมืดเองก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นี่คือการอัพเกรดขั้นยิ่งใหญ่…
เซียวเฟิงหันกลับไปใช้สกิลโฮลี่ไลท์ใส่พวกมอนสเตอร์ทันที
“คุณได้จัดการพลหอกกระดูก เลเวล 25 ได้รับค่าประสบการณ์ 500”
“คุณได้จัดการพลธนูกระดูก เลเวล 25 ได้รับค่าประสบการณ์ 500”
“คุณได้จัดการแบนชี เลเวล 20 ได้รับค่าประสบการณ์…”
…
ตัวแจ้งเตือนดังไม่หยุด พลังชีวิตหลอดสุดท้ายของมอนสเตอร์หมดลงและเหลือแต่กระดูกในห้องโถงนี้
“เลเวลของคุณเพิ่มขึ้นกลายเป็นเลเวล 14 ได้รับแต้มอัพค่าสถานะ 1 แต้ม”
ค่าประสบการณ์มากมายทำให้เขากลายเป็นเลเวล 14 ในทันที
เซียวเฟิงไม่ได้นับว่าเขาจัดการมอนสเตอร์ไปกี่ตัว แต่น่าจะเกือบหนึ่งพันตัวเห็นจะได้
อย่างไรก็ตามมันยังคงเหลือมอนสเตอร์บางประเภทที่สกิลของเซียวเฟิงไม่สามารถทะลุกำแพงไปหาพวกมันได้
เขาแค่จัดการมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเขามาเท่านั้น…
แม้จำนวนของพวกมันจะมีมากล้นเหลือแต่ด้วยพลังชีวิตที่น้อยนิดทำให้เซียวเฟิงสามารถจัดการมันลงได้อย่างไม่เป็นอันตรายมากนัก
ทันใดนั้น เซียวเฟิงก็หันไปมองและพบกับพวกกระดูกที่วิ่งเข้ามาหาอีกจำนวนมาก
เขาไม่ได้คิดอะไรมากและใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการเก็บไอเทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งระดับเงิน ระดับทองหรือแม้แต่ระดับน้ำเงิน
เขาใช้เวลาสามนาทีในการเก็บยไอเทมทั้งหมดและวิ่งหนีฝูงมอนสเตอร์ที่อยู่รอบตัว พร้อมกันนั้นเขาก็หันกลับไปใช้สกิลจัดการพวกมัน
พื้นที่ของดันเจี้ยนนี้กว้างมาก เขาใช้เวลากว่าสามชั่วโมงในการจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมด
เซียวเฟิงได้รับผลประโยชน์อย่างสุดซึ้ง อย่างแรกเลยคือเขาใช้เก็บของตัวเองจนเต็มครบทั้ง 100 ช่อง ซึ่ง 80 ในนั้นเป็นไอเทมระดับเงิน และกว่า 10 ชิ้นเป็นไอเทมระดับทอง ถ้าเอาไปปล่อยขายได้จะต้องรายได้ดีมากแน่ๆ
ค่าประสบการณ์ของเขาในตอนนี้คือ 85% ของเลเวล 14 ไม่ไกลจากการอัพเลเวลอีกครั้ง…
น่าเสียดายที่ไม่มีบอสระดับอีลิต ที่นี่มีแต่บอสธรรมดาทั้งนั้น ซึ่งทำให้เขาไม่ได้รับของมีค่าอะไรมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมอนสเตอร์ก็ให้อุปกรณ์เขามากพอแล้ว…
“นี่มัน…”
เขามองไปยังซากของแบนชีที่เป็นบอสของดันเจี้ยนนี้ เขาใช้เวลานานมากในการจัดการมัน
ที่ซากของมันมีไอเทมระดับสีทองเลเวล 35 บ่งบอกว่าตัวมันเป็นบอสเลเวล 35 ซึ่งไอเทมก็ล้ำหน้าเลเวลของเขาไปมาก
เซียวเฟิงผิดหวังนิดหน่อยและหันไปมองป้ายไม้สีดำบนพื้นที่มีข้อความเขียนไว้ว่า…โทเคน
“เอ๋?” เซียวเฟิงหยิบแผ่นไม้นั่นขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
กิลด์โทเคน
ระดับ: พิเศษ
ใช้เพื่อสร้างกิลด์
จริงดิ!
เซียวเฟิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาดีใจมากที่ได้ของล้ำค่ามาแบบนี้
แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ราคาที่แท้จริงของโทเคนกิลด์ แต่มันน่าจะสร้างความแตกตื่นให้กับเขตฮัวเซียได้อย่างแน่นอน…
เขาโยนไอเทมระดับเงินออกไปแล้วใส่ป้ายไม้นี้แทน เขาใช้เวลาทั้งวันวนอยู่ในดันเจี้ยนนี้เพื่อเก็บกวาดส่วนที่เหลือ
เซียวเฟิงไม่ได้สนใจพวกที่หนีไปแล้วสักเท่าไหร่ ใจหนึ่งเขาอยากจะสำรวจชั้นที่สองของดันเจี้ยนนี้แต่ดูจากกระเป๋าเก็บของของเขาแล้วมันก็ไม่ควรสักเท่าไหร่ จนสุดท้ายก็ต้องเลือกที่จะกลับไปยังเมือง
เขาส่งข้อความไปหาเฉียนโตวโตว และเธอบอกให้เขาไปรอยังโกดังของเมืองเทียนหลงก่อน
เซียวเฟิงไปถึงที่นั่น และไม่นานนักเธอมาถึง
“พี่เซียว! ได้อะไรมาบ้างวันนี้?” หญิงสาวรีบวิ่งมาหาเขาอย่างตื่นเต้นพร้อมดวงตาที่กะพริบรัว ๆ เธอรู้ว่าเซียวเฟิงไม่มีทางเรียกเธอมาเพราะเรื่องเล็กน้อยแน่นอน อีกทั้งยังพาไปเจอกันในเขตที่ไม่ค่อยมีคนพลุ่กพล่านด้วย…
“เอาของเข้าไปในโกดังก่อนแล้วค่อยว่ากัน ฉันจะส่งของให้เธอ” เซียวเฟิงพูดขึ้น แม้ว่าการเอาของเข้าโกดังจะเสียเงินไปบ้างแต่ก็แลกกับความปลอดภัยที่คุ้มค่า
“โว้ว! ไอเทมเงิน! พี่เซียวไปเอามาจากไหนเนี่ย? คุณภาพก็ดีมากด้วย แค่นี้ก็เอาไปประมูลได้แล้ว!”
การส่งของให้กันและกันมีจำนวนจำกัดที่สิบชิ้น แต่แค่นี้ก็ทำให้เฉียนโตวโตวมีความสุขแล้ว
“มะ…มีอีกเหรอ?” เซียวเฟิงโยนไอเทมเข้าไปในช่องส่งของอีกสิบชิ้น แล้วก็อีกสิบชิ้น…
“พี่เซียว… นี่มัน…!” หญิงสาวตะลึงและได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายด้วยความแตกตื่น
เซียวเฟิงโยนไอเทมให้กับเธอหลายต่อหลายสิบชิ้น จนตอนนี้รวมกันได้แปดสิบชิ้นแล้ว
“…” เฉียนโตวโตวยืนนิ่งจากการได้รับของใหญ่แบบนี้ทั้งหมดถึงแปดสิบชิ้นรวมกัน
ตอนที่เธอคิดว่ามันจบแล้วเซียวเฟิงก็เอามาให้เธออีกสิบชิ้น
“พี่เซียวไม่ได้ไปปล้นใครมาใช่ไหม?… ฉันเริ่มกลัวพี่แล้วนะ…” หญิงสาวเปลี่ยนสีหน้าจากตื่นเต้นเป็นกังวลถึงขีดสุดแทน ทุกไอเทมที่อีกฝ่ายโยนมาแต่ละชิ้นมีค่ามากพอที่จะให้ทุกคนหันมาฆ่ากันเองเพื่อมันเลยด้วยซ้ำ!
และอย่างสุดท้ายที่เซียวเฟิงโยนให้กับเธอก็คือโทเคนกิลด์
หญิงสาวขยี้ตาตัวเอง และเมื่ออ่านข้อมูลของมันเป็นการยืนยันก็แทบกระโดดโลดเต้นอย่างคนบ้า
“รักพี่เซียวที่สุดเลย!” เธอตะโกนลั่นด้วยความดีใจและหอมแก้มเขาโดยไม่รู้ตัว