ผัวะ!
เซียวเฟิงทุบหัวชาวบ้านด้วยโทเทมทองคำของเขาจนมันตายในครั้งเดียว
-1188! คริติคอล!
เซียวเฟิงที่ใช้แค่สกิลบัฟเท่านั้นยังสามารถฆ่าชาวบ้านอย่างง่ายดาย เขาเดินไปที่ไหนก็มีศพเกิดขึ้นทุกเมื่อ
พวกคนที่ตามมาต่างก็ตกตะลึงกับตัวเลขความเสียหายนี้ ฮีลเลอร์ที่สามารถฆ่ามอนสเตอร์พวกนี้ได้โดยที่ไม่ต้องรับการช่วยเหลือแบบนี้มันสุดยอดจริง ๆ นี่อาจจะเป็นความสามารถที่แท้จริงของผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเขตฮัวเซียก็ได้!
เฉียนโตวโตวมองเขาด้วยความตื่นเต้นแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเซียวเฟิงเก่งแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นพลังของเขามันก็อดใจไม่ได้สักที
ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้เล่นสายปกติ อย่างน้อย ๆ ก็ยังรู้ว่ามอนสเตอร์ระดับนี้ไม่อาจถูกจัดการได้ด้วยตัวคนเดียวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วยยิ่งแล้วใหญ่ นี่คือความต่างชั้นระหว่างเซียวเฟิงกับผู้เล่นทั่วไป…
“มาสเตอร์ฮีลเลอร์สุดยอดจริงๆ”
ผู้เล่นคนอื่นต่างก็ตกตะลึงจนอุทานออกมา ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นฮีลเลอร์ที่สามารถจบภารกิจด่วนได้ด้วยตัวคนเดียว
เซียวเฟิงเมินพวกเขาแล้วตรงไปยังใจกลางเมืองร้างที่เจอบอสเป็นหัวหน้าทหารชาวบ้าน
เฉียนโตวโตวเดินตามเขาไปด้วยในขณะที่คนอื่นกำลังถอยกลับออกมา
“จะเอายังไงกับพวกนั้นดี?” หญิงสาวถามเซียวเฟิง
“ปล่อยไปก็ได้” ชายหนุ่มไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงเสียพวกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเขาเลยนอกจากดูถูก…
เซียวเฟิงยกไม้คทาขึ้นมาใช้สกิลโฮลี่ไลท์และค้อนแห่งการพิพากษาที่สร้างความเสียหายรวมกันแล้วมากกว่า 2000 แถมยังติดคริติคอลอีกด้วย เฉียนโตวโตวตะลึงหนักมาก
เขาจัดการบอสทั้งหมดได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงและโชคดีมากที่ได้ไอเทมระดับสีทองมาด้วย
เข็มขัดผู้กล้า
ระดับ: สีทอง
ประเภท: เข็มขัด
เลเวลอุปกรณ์: 15
เงื่อนไขที่ต้องการ: ค่าความทนทาน ต้องไม่ต่ำกว่า 75
ค่าสถานะ
เพิ่มอัตราการหลบ +15%
ค่าความแข็งแกร่ง +18
ค่าความทนทาน +23
ค่าความว่องไว +18
ค่าจิตวิญญาณ +18
ค่าความฉลาด +18
พิเศษ
กระโดดโลดเต้น : เพิ่มอัตราการหลบอีก 10% เป็นเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง
เซียวเฟิงดีใจมากที่เห็นของแบบนี้ เขาถอดเข็มขัดสีทองออกแล้วใส่มันทันที
อุปกรณ์อื่นของเขาแทบจะไร้ประโยชน์แล้ว เพราะเลเวลที่เริ่มสูงทำให้ค่าสถานะของพวกมันเริ่มต่ำลง ส่วนไอเทมชิ้นอื่นเขาก็มอบให้กับเฉียนโตวโตวไป
หญิงสาวเองก็เลเวลสูงขึ้นเพราะได้รับการแบ่งค่าประสบการณ์ นอกจากนี้เซียวเฟิงเองก็ยังได้เหรียญทองมาอีกหนึ่งเหรียญด้วย แต่ตอนนี้เขาเป็นเศรษฐีพันล้านแล้ว เพราะฉะนั้นช่างมัน…!
“พี่เซียวจะไปเมืองอื่นกับฉันอีกไหม?” เฉียนโตวโตวถามขึ้น เพราะคิดว่าหลังจากภารกิจนี้เธอจะต้องเดินทางไปที่อื่นอีก แต่ดูเหมือนเซียวเฟิงจะไม่อยากไปไหนแล้ว
“งั้นเดี๋ยวฉันจะช่วยเธอทำภารกิจและได้รับตำแหน่งยศเพื่อเอาไปซื้อที่ดินได้ตามใจชอบก็แล้วกัน” เซียวเฟิงปรบมือพร้อมเสนอไอเดียออกมา เขาไม่อยากเดินทางไปทุกเมืองที่มีมากกว่า 10,000 แห่งหรอกนะ
“เยี่ยมเลย!” เฉียนโตวโตวดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น แม้จะไม่ได้ออกเดินทางด้วยกันแต่การซื้อที่ดินเองได้ก็ไม่เลว เธอไม่คิดว่าเซียวเฟิงจะช่วยเธอจนถึงขนาดนี้…
“ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะอะไรบางอย่าง แต่ก็ส่ายหัวแล้วพาเธอไปยังวิหารแห่งแสงด้วย
เซียวเฟิงสนิทกับพวก NPC ในนี้มาก เขาอาจจะช่วยเฉียนโตวโตวได้รับตำแหน่งสักนิดหนึ่งก็ยังดี
แต่คู่พี่น้องนิโคลัสก็เรียกพวกเขาก่อนที่จะเริ่มเดินทาง
“พี่เซียวอยู่รึเปล่า?”
“ว่าไง?” เซียวเฟิงถามกลับ เพราะน้ำเสียงอีกฝ่ายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ซางกวงโดนผู้เล่นคนอื่นรังแกน่ะ และเราสู้มันไม่ได้ด้วย” เจ๋าซือพูดขึ้น
“หา?” เซียวเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก อาโอเชินแม้จะเป็นเด็กแต่ก็เก่งพอตัว ไม่คิดเลยว่าจะถูกลั่นแกล้งแบบนี้ได้
“เป็นไอ้คนเดียวกับที่สร้างปัญหาที่ตำหนักนั่นแหละ พวกเราท้าเขาออกมาสู้นอกเมืองแต่ก็เก่งเกินจนล้มพวกเราสองคนได้” เจ๋าซืออธิบาย
“ผู้เล่นที่สร้างปัญหาที่ตำหนักงั้นเหรอ? เขาชื่ออะไรน่ะ?” เซียวเฟิงขมวดคิ้วและทบทวนคำพูด นักธุรกิจหลายคนอิจฉาตำหนักขุมทรัพย์มากจนอาจจะส่งคนมาก่อกวนได้
“เขาชื่อหานเฟิง ถึงชื่อจะคุ้นหูก็เถอะแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า” เจ๋าซือพูดต่อ
“หานเฟิง?” เฉียนโตวโตวที่ได้ยินการสนทนาก็มองหน้าเซียวเฟิง
“พวกนายอยู่ที่ไหน? เดี๋ยวจะไปหา” เซียวเฟิงถามกลับ
หานเฟิงเป็นคนที่อยู่อันดับสุดท้ายในรายชื่อเซเลปคนดังและจะต้องเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจจนล้มอาโอเชินได้
ชายหนุ่มรีบเรียกเสี่ยวเสวียออกมาโดยไม่แคร์สายตาผู้คนก่อนจะพุ่งทะยานฝ่าฝูงชนไปยังตำแหน่งของเจ๋าซือ
“พี่เซียว เจ้านั่นจะต้องเชื่อว่าแหวนของพี่ต้องขายได้ราคาสูงกว่านี้แน่!” เฉียนโตวโตวกอดเขาอยู่ด้านหลังแล้วตะโกนบอก
เซียวเฟิงไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกนิโคลัสอยู่ไม่ห่างจากเมืองร้างเท่าไหร่ เสี่ยวเสวียสามารถพาพวกเขาไปถึงที่หมายได้ภายใน 10 นาที
ก่อนที่เขาจะไปถึงก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งพูดออกมาไม่หยุด
“เฮ้ยไอ้หนู กินข้าวเที่ยงยัง? ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวจะส่งตีนให้กิน!”
“เลิกเป็นนักดาบเถอะ เหวี่ยงดาบได้กระจอกเหมือนเด็กหัดเดินเลย”
“ทำการบ้านเสร็จยังอ่ะเรา? เล่นเกมดึกดื่นแบบนี้เดี๋ยวแม่เอ็งตีก้นลายหรอก”
“หยุดตามเถอะน่า ไอ้กระจอกอย่างแกตามฉันไม่ทันหรอก”
“เลิกเล่นเกมแล้วไปนอนไป๊ไอ้เด็กอมมือ พรุ่งนี้มีสอบปลายภาคไม่ใช่หรือไง?”
“เฮ้ย นี่ตูพูดเพื่อตัวของเอ็งนะเว้ย พ่อแม่เอ็งเสียเงินส่งเอ็งมาเรียนแต่กลับมาเล่นเกมจนดึกดื่นเนี่ยนะ? พ่อแม่เอ็งจะเสียใจนะเว้ย”
…
เซียวเฟิงมองออกไปก็เห็นนักธนูหนุ่มที่กำลังวิ่งและมีคนกำลังวิ่งไล่ตามเขาอยู่ อาโอเชินนั่นเอง!
นักธนูคนนั้นชื่อหานเฟิงและเป็นคนที่ปากหมาสุดๆ
อาโอเชินวิ่งตามเขาอย่างไม่ลดละด้วยความโกรธขั้นสุด ทุกครั้งที่หยุดหานเฟิงก็จะยิงธนูออกมายั่วยุเขาเสมอ
“บล็อก!”
ถึงจะโกรธแค่ไหนแต่อาโอเชินก็ยังจับดาบฟันผ่าลูกธนูได้เสมอโดยไม่เสียพลังชีวิตเลย
สิ่งที่เขาโกรธที่สุดในตอนนี้คือหานเฟิงไม่กล้าสู้ซึ่ง ๆ หน้ากับเขาเสียที!
“พี่เซียวมาแล้ว!” คู่พี่น้องนิโคลัสอุทานลั่นหลังจากที่เพิ่งกลับมาใหม่เพราะโดนหานเฟิงยิงตายไป
เสี่ยวเสวียนั้นสะดุดตาเกินไปจนทำให้มองเห็นตั้งแต่ระยะไกลโข
อาโอเชินที่ได้สติก็หยุดไล่ตามหานเฟิงแล้ววิ่งไปหาเซียวเฟิงแทน
“เฮ้ยไอ้หนู หยุดทำไมวะ? โตแล้วก็กล้า ๆ หน่อย ตามฉันมาสิวะ ไม่งั้นอนาคตเอ็งจะลำบากนะเว้ย!” หานเฟิงหัวเราะลั่นแต่อีกฝ่ายก็เมินเขาเสียอย่างนั้น
“เฮ้ย? พาเพื่อนมาอีกเหรอ? มาดิวะ เดี๋ยวตูฆ่าทิ้งให้เลย!” หานเฟิงมองไปเห็นเซียวเฟิงกับเฉียนโตวโตวที่กำลังจ้องมองเขาลงมาจากม้าอย่างองอาจ
“เฉียนโตวโตวนี่หว่า!” เขาจดจำหญิงสาวได้แม้จะปกปิดตัวตนอยู่ก็ตาม
“เอาเงินกับแหวนตูคืนมานะเว้ย! ไอ้พวกนักธุรกิจหน้าเลือดตายห่าไปซะ! เอาเงินมานะเว้ย!”
เฉียนโตวโตวรู้สึกใจคอไม่ดีสุดๆ