บทที่ 18 ภารกิจพิเศษ
เซียวเฟิงได้เงินจากไนฟก่อนที่เขาจะกลับถึงหมู่บ้านซะอีก รวมแล้ว 450 หยวน เกินกว่าที่คิดไว้ 50 หยวน ทำให้เขาคิดได้ว่ายังไงพวกระดับหัวหน้ากิลด์ก็รวยจริง ๆ นั่นแหละ
และพอกลับมาถึงหมู่บ้าน เขาก็ต้องช็อกตาค้างกับภาพที่เห็น แทนที่จะเรียกว่าหมู่บ้านเริ่มต้นนี่มันหมู่บ้านขอทานชัด ๆ ชุดขาวของพวกผู้เล่นนั้นมอมแมมไปหมด ได้แต่มองพวกผู้เล่นที่สวมชุดระดับเขียวเดินผ่านไปผ่านมา เซียวเฟิงพูดอะไรไม่ออกได้แต่คิดว่าดีแล้วที่เขาซื้อชุดใหม่มา
มีคนอยู่ไม่มากเท่าไหร่ เขาจึงหานักบวชเฒ่าเจออย่างรวดเร็ว แต่ที่แปลกใจสุดคือเขาเจอกับเสี่ยวหม่าด้วย อีกฝ่ายนั่งหลับตาอยู่ด้านหน้ารูปเคารพ มองไม่ออกว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไอสีดำที่เคยล้อมรอบตัวเขาอยู่ก็ไม่มีแล้ว น่าจะเป็นเพราะแสงศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่แห่งนี้ แล้วเขาก็ไม่ได้สังเกตว่าเซียวเฟิงนั้นมาที่นี่
“โอ้ กลับมาแล้วหรือท่านนักบวชฝึกหัด รวบรวมดอกไม้มาแล้วใช่ไหม ?” นักบวชเฒ่าต้อนรับเซียวเฟิง แล้วรับดอกไม้ไปทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาให้ไปทั้งหมด 32 ดอกแทนที่จะเป็น 10 พวกที่เกินมาคือของที่เหลือจากการขายของ
“นักบวชฝึกหัดเอ๋ย พระเจ้าได้รับทราบการพิสูจน์ตน และตอบรับความจงรักภักดีของเจ้าแล้ว” นักบวชเฒ่าดูประหลาดใจมากในตอนที่รับดอกไม้ไปจากเขา และแสงสว่างได้ห้อมล้อมตัวเขาเอาไว้
“คุณสำเร็จภารกิจ [บททดสอบสำหรับนักบวชฝึกหัด]”
“คุณได้รับรางวัลภารกิจ เรียนรู้สกิล [โฮลีไลท์] ””
“คุณได้รับรางวัลพิเศษ เรียนรู้สกิล [ชำระล้าง]”
เขาแปลกใจมาก นอกจากที่เขาทำภารกิจสำเร็จแล้วเขายังได้รับสกิลพิเศษอีกด้วย!
สกิลระดับสูงในเกมนี้นั้นสำคัญมาก! แต่ละคนสามารถเรียนรู้ได้ทุก ๆ 5 เลเวลเท่านั้น เพราะฉะนั้นพวกผู้เล่นระดับสูงมักจะบอกว่าพวกตำราสกิลที่ได้จากบอสนั้นมีค่ามาก เพราะพวกอุปกรณ์นั้นถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยนแต่สกิลนั้นจะอยู่ติดตัวไปตลอด!
เซียวเฟิงตรวจสอบสกิล 2 อย่างที่ถูกเพิ่มขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
[แสงศักดิ์สิทธิ์] ความเชี่ยวชาญ: 0/100
คำอธิบาย: เพิ่มพลังชีวิตให้กับพันธมิตรในทันที โดยจะคิดจาก (10%จากพลังชีวิตสูงสุดของเป้าหมาย + ค่าจิตวิญญาณของตัวเอง)
คูลดาวน์: 15 วินาที
ค่ามานาในการใช้: 15 หน่วย
[ชำระล้าง] ความเชี่ยวชาญ: 0/100
คำอธิบาย: ลบล้างสถานะออกจากพันธมิตร 1 คน โอกาสสำเร็จเท่ากับ (เลเวลของเป้าหมาย + เลเวลสกิล – เลเวลของสถานะผิดปกติ) × 100%
คูลดาวน์: 15 วินาที
ค่ามานาในการใช้: 15 หน่วย
เขาปิดหน้าต่างสกิล แล้วก็คิดได้ว่าคงจะต้องเน้นไปที่ค่าสถานะจิตวิญญาณเป็นหลัก โชคดีที่แต้มค่าสถานะที่เขายังไม่ได้ใช้ยังเหลืออยู่
เซียวเฟิงมองไปทางเสี่ยวหม่าแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายยังนั่งอยู่ด้วยความเคารพแถมดูท่าว่าจะหลับไปแล้วด้วย เขาก็เลยเลือกที่จะไปหานักล่าหม่าเพื่อจัดการภารกิจให้เรียบร้อย
“มาแล้วสินะพ่อหนุ่ม ขอบคุณที่ช่วยลูกชายข้าเอาไว้ ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไรดี!” เมื่อนักล่าหม่าเห็นเซียวเฟิงก็เดินไปหาอย่างตื่นเต้น ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้รับข้อความจากระบบ
“คุณสำเร็จภารกิจส่วนตัว [คำขอร้องจากนักล่าหม่า] ได้รับค่าประสบการณ์ 500 หน่วยและอุปกรณ์ประสงค์แห่งนักล่า”
หลังจากสิ้นเสียงเตือน บางอย่างก็ถูกเพิ่มเข้ามาในกระเป๋าของเขา นั่นสร้างความประหลาดใจให้ชายหนุ่มไม่น้อย
ประสงค์แห่งนักล่า
คุณภาพ: เขียว
ประเภทของสวมใส่: แหวน
เลเวล: 1
ข้อจำกัดของสวมใส่: ค่าความว่องไวมากกว่า 10
คุณสมบัติ:
อัตราคริติคอลเพิ่มขึ้น +1%
ค่าความแม่นยำเพิ่มขึ้น +1%
แหวนระดับเขียว! ถึงแม้จะมีเลเวลแค่ 1 แต่มันเป็นเครื่องประดับ! ถึงจะไม่ได้เพิ่มค่าสถานะพื้นฐาน แต่อัตราการดรอปน่าจะต่ำที่สุดในเกมแล้ว ถึงจะเป็นบอสที่เซียวเฟิงกำจัดไปก็ยังดรอปให้แค่เครื่องประดับระดับเขียวเหมือนกัน
นี่น่ะเหรอรางวัลของภารกิจส่วนตัว! ถึงจะเป็นเครื่องประดับสำหรับคลาสโจมตีกายภาพ เซียวเฟิงก็เอามันไปใช้อยู่ดี และมองไปที่นักล่าหม่า
“ว่าแต่นักล่าหม่า ท่านพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับไอสีดำรอบ ๆ ตัวของเสี่ยวหม่าไหม?”
“พ่อหนุ่ม เจ้าก็สังเกตเห็นเหรอ…”
ดูท่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้นักล่าหม่าเจ็บปวดพอสมควร แต่เขาก็บอกความจริงกับเซียวเฟิงไป “จริง ๆ นี่เป็นความลับที่ไม่ควรบอก แต่เจ้าช่วยลูกข้าเอาไว้ เพราะงั้นข้าจะบอกก็แล้วกัน”
“แต่เรื่องมันยาว เพราะฉะนั้นให้เสี่ยวหม่าเป็นคนบอกแล้วกัน ตอนนี้เขาอยู่ที่เทวสถานของนักบวช ลองไปถามเขาตอนเขาตื่นก็แล้วกัน”
“คุณจะรับภารกิจพิเศษไหม [ความลับของหมู่บ้านเริ่มต้น] ?”
เขาได้รับภารกิจพิเศษหลังจากภารกิจส่วนตัว! เขาจึงรับอย่างไม่ลังเล
“ผมยอมรับ”
แต่เขาไม่ได้เต็มใจนักที่จะต้องรอเสี่ยวหม่าฟื้น หลังจากที่รับภารกิจมาเขาก็เข้าป่าไปเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลทันที ชายหนุ่มเปิดดูรายละเอียดของอันดับทันที เขตฮัวเซี่ยถูกจัดอยู่อันดับที่ 7 ในหมวดเขตที่มีเลเวลสูงที่สุด นับเป็นเขตที่น่ากลัวมาก และถ้ายังคงเป็นอย่างนี้อยู่ อีกไม่นานจะต้องมีคนเปลี่ยนคลาสอย่างแน่นอน เซียวเฟิงรู้สึกคุ้นเคยกับพวกมอนสเตอร์ในป่าแล้ว เขาผ่านกลุ่มผู้เล่นเข้าไปในป่าลึก ไปหยุดอยู่ที่ภูเขาของมอนสเตอร์เลเวล 9 ลิงกระหายเลือด เพราะมีลิงจำนวนมากอยู่เป็นกลุ่มที่นี่ ชายหนุ่มจึงสามารถเก็บเลเวลได้ไวมาก แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะโดนคนในเขตมอนสเตอร์เลเวล 8 บอกเตือน
“นายอย่าไปไกลกว่านี้เลย ลิงพวกนี้แข็งแกร่งมาก นายจะไปตายซะเปล่า ๆ นะ”
จากตรงนี้ก็จะเข้าเขตป่าลึกแล้ว เป็นเขตของพวกเสือเลเวล 9 ที่แข็งแกร่งมาก เซียวเฟิงคิดว่าเขตนี้คงจะสงบสุขน่าดูเพราะเขาเพิ่งพบคนแค่ 2 คนเท่านั้น
นักรบกับนักธนู พวกเขายังหนุ่ม และมีชื่อที่คล้ายกันมาก คนหนึ่งคือนิโคลัส เถียซูส่วนอีกคนคือนิโคลัส เจ๋าซือ
“ชื่อนิโคลัสนี่คือกิลด์สินะ?” ชื่อของพวกเขาทำให้เซียวเฟิงนึกอะไรบางอย่างออกจึงถามออกไป พวกคนของกิลด์จะมีคำนำหน้าชื่อประมาณนี้
“เปล่า พวกเราแค่อยู่ที่เดียวกัน และชื่อคล้าย ๆ กันเฉย ๆ แล้วเราก็บังเอิญมาอยู่ที่เดียวกัน”
นักรบที่ชื่อเถียซูเขาตัวใหญ่ และสูง ส่งยิ้มมาให้อย่างจริงใจ
มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่ในเขตนี้ และยังดูเป็นคนดี นักธนูชื่อเจ๋าซือจัดการมอนสเตอร์โดยมีเถียซูคอยต้านเอาไว้ พวกเขามีเลเวล 6 และยังทำงานเป็นทีม ทำให้พวกเขาเก็บเลเวลได้ไวมาก
“โว้ว นายเป็นนักบวช! เยี่ยม! ถ้านายเข้าร่วมกิลด์นายจะเป็นชายหนุ่มคนเดียวท่ามกลางสาว ๆ เลยนะ แจ่มไปเลยนี่!” เมื่อเทียบกับเถียซู เจ๋าซือดูห่าม ๆ กว่า เขายักไหล่ และยิงธนูออกไประหว่างนั้นก็ระวังรอบ ๆ ไปด้วย
“อย่าไปสนใจเขาเลยน่ะ ถ้านายต้องการมาร่วมทีมกับเราก็ได้นะ เสือพวกนี้โหดมาก”
เถียซูจัดการเสือไปหนึ่งตัวก่อนที่จะส่งคำชวนให้เซียวเฟิง
“ได้”
เขาคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบรับคำเชิญ ค่าประสบการณ์ที่ได้จากมอนสเตอร์เลเวล 8 กับ 9 นั้นไม่ต่างกันมาก วิธีนี้อาจจะทำให้เขาเก็บเลเวลได้ไวกว่า
“กินยาผิดมารึเปล่า? ฉันอยากได้นักบวชสาวสวยมากกว่า! เราจะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพราะ ๆ กับขางาม ๆ เลยนะ ทำไมต้องเป็นนักบวชชายด้วยเนี่ย?”
ดูเหมือนเจ๋าซือไม่เต็มใจที่จะร่วมมือกับเซียวเฟิง
“อย่าเรื่องมากน่า! ยาเพิ่มพลังชีวิตของเราใกล้จะหมดแล้วนะ หรืออยากจะเดินกลับไปที่หมู่บ้านตอนยาหมดล่ะ?”
“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องช่วยฉัน ฉันยินดีที่จะถูกฆ่ามากกว่าที่จะให้เขาช่วย”
เถียซูยิ้มให้เซียวเฟิงด้วยความลำบากใจก่อนจะพูดว่า “อย่าใส่ใจเลยนะ เขาไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นหรอก จริง ๆ แล้วเขาก็เป็นคนดีนะ”
“ฉันรู้” เซียวเฟิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แล้วก็ส่งคำขอร้องเข้าทีม
“แด๊ดต้องการที่จะเข้าร่วมทีมของคุณ จะรับหรือไม่?”
ทั้งเถียซู และเจ๋าซือก็นิ่งไปทั้งคู่ พวกเขามองไปบนหัวของเซียวเฟิงแล้วก็มองไปทางอื่นโดยไม่ได้พูดอะไร
“งั้น ลุยกันเลยเถอะ เรามีนักบวชแล้วตอนนี้เรารับมือกับมอนสเตอร์ทีละ 2 ตัวได้แล้ว”
พวกเขาทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นในการจัดการพวกเสือ มีปัญหาแค่พลังชีวิตของเถียซู ที่อยู่แถวหน้าของการปะทะลดลงตลอดเวลา
“ช่วยฉันหน่อย!”
เซียวเฟิงได้ยินเสียงตะโกนของเถียซูระหว่างที่เขากำลังสู้อยู่ พลังชีวิตของเขาลดลงมา 30 แล้ว เขามีพลังชีวิตอยู่เกือบ ๆ 80 หน่วย และกำลังลดลงมากว่าครึ่งแล้ว
“ได้เลย”
เซียวเฟิงมองว่าอีกฝ่ายอยู่ในจุดอันตราย แต่พอเขาเห็นว่าเถียซูยังดูสบายดีอยู่ ชายหนุ่มจึงหันกลับไปสู้กับพวกเสือต่อ
“พวกอย่าล้อเล่นน่า ฉันสะดุ้งเลยนะเนี่ย”
เถียซูเรียกเซียวเฟิงอีกรอบ
“อย่าตื่นเต้นไปสิ พลังชีวิตยังเหลืออีกตั้งเยอะ”
“ก็มันกลัวนี่! พลังชีวิตฉันหายไปกว่าครึ่งแล้วนะ สกิลขั้นต้นเพิ่มพลังชีวิตได้ครั้งละ 20 หน่วยเอง ถ้าช้าไปอาจจะใช้ไม่ทันได้นะ!”
เถียซูยังคงเตือนอยู่ เซียวเฟิงก็คิดว่ามีเหตุผลอยู่เหมือนกัน
“โอเค ๆ”
เซียวเฟิงไม่รีรออีกต่อไป เขาใช้สกิลใส่อีกฝ่ายทันที
+57!
ตัวเลขสีเขียวลอยขึ้นมาบนหัวของเถียซู และพลังชีวิตที่เหลืออยู่ครึ่งเดียวกลับมาเต็มในทันที
“โห้ว!”
พวกเขาตะลึงไปเพราะตัวเลขที่ได้นั้นสูงมาก ๆ
“เพิ่มมาได้ตั้ง 60 หน่วย? นี่ทำได้ยังไงเนี่ย? ”
“เจ๋งโคตรเลย!”
“จัดการมอนสเตอร์ต่อไปสิ! อย่ามัวแต่ตะลึงกันอยู่” เซียวเฟิงขัดพวกเขาที่ยังทึ่งไม่หาย
“ฮ่าฮ่า! ดูท่าคงจะไม่ต้องห่วงแล้วมั้ง ไปจัดการมอนสเตอร์ได้แล้ว!”
เซียวเฟิงที่กำลังจัดการกับพวกเสืออยู่หยุดมืออย่างเงียบ ๆ เขามองไปที่พวกบ้าพลังทั้ง 2 แล้วเลือกที่จะไปโฟกัสกับการฮีลแทน
สมาชิกทั้งสองยิ่งโชว์พาวกว่าเดิม ด้วยการสู้เสือทีละ 4 ตัว แม้แต่เจ๋าซือก็ออกมาสู้ด้วยการฮิตแอนรัน*[1]
“ไม่ ๆ แด๊ด! ฮีลฉันที! ตอนนี้กำลังดีเลย!”
จากการร่วมมือของพวกเขา กองศพเสือก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ หลอดค่าประสบการณ์ของเซียวเฟิงใกล้ที่จะเต็มแล้ว อย่างไรก็ตามค่ามานาของเซียวเฟิงกลับลดลงอย่างต่อเนื่องจากการที่ต้องฮีลคน 2 คนพร้อม ๆ กัน ถึงแม้จะมีมานาอยู่ที่ 50 และสร้อยสีเขียวคอยช่วย แต่มานาของเขาก็ฟื้นขึ้นมาไม่ทัน
[1] ฮิตแอนรัน หมายถึงเทคนิคการเล่นเกมแบบตีไปและวิ่งหนีไปด้วย