เครื่องสุ่มรางวัลกะพริบอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หลิวเฉียงเหว่ยได้รางวัลทุกครั้งที่เธอสุ่ม ส่วนเซียวเฟิงไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง
“สุ่มต่อไป! ฉันจะไปเอาแต้มมาให้เราเพิ่ม!”
เซียวเฟิงทำสีหน้าดุร้ายและให้แต้มทั้งหมดของเขากับหลิวเฉียงเหว่ยประมาณสี่ถึงห้าแสนแต้ม
เซียวเฟิงรู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขา โชคไม่ดีของเขาจะทำให้ไม่ได้อะไรนอกจากเสียเวลา ดังนั้นชายหนุ่มจึงยอมให้หลิวเฉียงเหว่ยสุ่มไป และด้วยโชคของเธอ เธอก็จะได้อาร์ติแฟกต์ไม่ช้าก็เร็ว
ดังนั้นเซียวเฟิงที่รู้สึกเก็บกดอย่างมาก ก็รู้สึกอยากฆ่าอย่างช่วยไม่ได้ แต่มันไม่ใช่แค่การฆ่าระบายอารมณ์เท่านั้น การฆ่าผู้เล่นจะทำให้เขาได้แต้มมากขึ้นและตัดคู่แข่งออกไปบ้างด้วย เนื่องจากผู้เล่นทุกคนอาจสุ่มได้อาร์ติแฟกต์ ยิ่งผู้เล่นน้อยเท่าไร ก็ยิ่งดีสำหรับเขาเท่านั้น…
ดังนั้นเซียวเฟิงจึงเลิกยุ่งกับเครื่องสุ่มรางวัลและเดินออกจากเขตปลอดภัยพร้อมความโกรธของเขา
หลิวเฉียงเหว่ยกลายเป็นแรงงานสุ่มรางวัล เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากกดสุ่มซ้ำ ๆ โดยไม่มีการบ่น
[ยินดีด้วย คุณโรส! คุณได้รับ ‘ขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมของคุณ!’]
น่าแปลกที่หลังจากที่เซียวเฟิงจากไป หลิวเฉียงเหว่ยก็ได้ ‘ขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมของคุณ’ เมื่อเห็นตัวอักษรสีขาวบนหน้าจอ หลิวเฉียงเว่ยก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด
และผู้ชมคนอื่น ๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดโชคอันน่าสะพรึงกลัวของเธอก็สิ้นสุดลงเสียที
ธอร์ละสายตาที่จ้องหลิวเฉียงเหว่ยเขม็งไปและหันหลังออกจากเขตปลอดภัยไปสู่สนามรบที่วุ่นวาย ตอนนี้เขาแค่ต้องสุ่มฆ่าคนที่นั่น และนั่นก็จะทำให้เขาได้แต้มสมบัติมากมาย เนื่องจากอีเวนต์นี้กำลังจะสิ้นสุดลง และผู้เล่นก็ได้ขนแต้มมากมายระหว่างทางที่มายังพื้นที่โบนัสติดตัวมาด้วย
“ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียทำเกินไปแล้ว! ใครให้สิทธิ์พวกนายมาครองพื้นที่โบนัสและขวางเราไม่ให้เข้าไปน่ะ?”
“เฮ้ย! นายโทษพวกเราเหรอ? นายคิดว่าเราไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าพวกนายเล็งต่อสู้กับพวกเราเป็นการส่วนตัวน่ะ?”
“พี่น้อง! ปกป้องพื้นที่โบนัสให้ถึงที่สุด! อย่าปล่อยให้พวกเขาเข้ามาสุ่มรางวัลได้! รออีกครึ่งชั่วโมงอีเวนต์ก็จะจบลงแล้ว!”
“ใช่แล้ว! ให้พวกเขาได้สิ้นหวังกัน!”
“ทุกคน! เล็งโจมตีไปที่ผู้เล่นจากเขตฮัวเซีย! พวกเขามาจากเขต ๆ เดียว พวกเขาจะต่อสู้กับการรวมเขตได้ยังไง”
“พี่น้องจากเขตฮัวเซีย! ฉันมาจากเขตแอฟริกาใต้! ฉันไม่ใช่หนึ่งในพวกที่ต่อต้านเขตฮัวเซียอย่างแน่นอน! ฉันเป็นเพื่อน! ให้ฉันเข้าไปเถอะ!”
เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมงก่อนสิ้นสุดอีเวนต์ การสู้รบก็ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ มีผู้เล่นมากกว่าหมื่นคนบนเกาะมหาสมบัติที่แยกออกเป็นสองกลุ่มและต่อสู้กันเอง
แน่นอนว่าผู้เล่นจากเขตฮัวเซีย มีจำนวนเกือบ 3,000 คน ซึ่งทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่พวกเขาประเมินจำนวนผู้เล่นจากเขตอื่นต่ำไป ทั้งหมดมีมากกว่าผู้เล่นจากเขตฮัวเซียเกือบสองเท่า ตอนนี้ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ผู้เล่นเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องและพวกเขาก็ต้องล่าถอยต่อไป
“ฮ่า ๆ! พวกเขาเป็นเพื่อนของเราจากเขตแอฟริกาใต้! ปล่อยให้พวกเขาเข้ามา!”
“พี่น้องจากฮัวเซีย! พวกเรามาจากเขตเกาหลีเหนือ! ประเทศของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีขนาดนี้! เราจะไม่ทำอะไรไม่ดีกับพวกนายหรอก!”
แม้ว่าผู้เล่นหลายพันคนในเขตฮัวเซียจะเสียเปรียบ แต่ทั้งหมดก็ไม่หวั่น พวกเขาเร่าร้อนมากขึ้นในการต่อสู้ครั้งนี้ และตะโกนต่อไป
ในระหว่างนี้ ผู้เล่นบางคนที่มาจากเขตเล็ก ๆ เนื่องจากพวกเขามีจำนวนน้อย พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นในเขตฮัวเซียเพื่อเข้าสู่พื้นที่โบนัส
บางเขตมีผู้เล่นน้อยมากจนไม่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมกลุ่มรวมเขต พวกเขาไม่มีโอกาสต่อสู้ร่วมกับผู้เล่นจากเขตฮัวเซีย บางเขตที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขตฮัวเซีย ดังนั้นผู้เล่นของพวกเขาจึงสามารถเข้าไปได้
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เขตเล็ก ๆ บางเขตก็เข้าฝั่งเขตฮัวเซีย และประกาศว่าพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มรวมเขต
ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียปล่อยให้พวกเขาทั้งหมดเข้ามา ดังนั้นศัตรูที่พวกเขาต้องเผชิญจึงลดลงอย่างมาก ความกดดันของพวกเขาก็ด้วย
เซียวเฟิงบัฟให้กับตัวเองในการต่อสู้ แม้ว่าผู้เล่นในเขตฮัวเซียจะเสียเปรียบ แต่เซียวเฟิงต้องการแต้มมากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นเขตฮัวเซียก็อยู่ทั่วพื้นที่โบนัสและพวกเขาก็กระจัดกระจายเกินไป ต่อให้เซียวเฟิงอยากแจกบัฟของตัวเองให้กับพวกเขา แต่ชายหนุ่มก็สามารถให้บัฟกับผู้เล่นไม่กี่สิบคนเท่านั้น นั่นไม่ได้ทำให้เกิดความแตกต่าง ดังนั้นจึงล้มความพยายาม
“หอกแสงศักดิ์สิทธิ์!”
นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวเฟิงได้ลองใช้สกิลใหม่ของเขา เขาสลับไปถือคทารักษาด้วยมือซ้าย และกำมือขวาของเขา ลำแสงสีทองทอดยาวก่อตัวเป็นหอกสองคมในมือของเขา ปลายหอกทั้งสองด้านมีรูปร่างใบหอกและส่องแสงสีทอง มันเหมือนกับค้อนแห่งการพิพากษา
จากนั้นเซียวเฟิงก็ขว้างหอกไปยังผู้เล่นฝั่งตะวันตกแบบสุ่ม ๆ
-102!
เพราะเลเวลสกิลของหอกของแสงศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นเพียงเลเวลหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ได้สร้างความเสียหายสูงนัก แต่ด้วยค่าสถานะพื้นฐานที่ทรงพลังของเซียวเฟิง ผู้เล่นชาวตะวันตกที่มีพลังชีวิตครึ่งเดียวก็ถูกฆ่าตาย
แน่นอนว่ามันไม่ได้สร้างความเสียหายที่สูงสำหรับเซียวเฟิงเพราะเขาเคยชินกับการโจมตีผู้เล่นอื่นด้วยความเสียหายหลักพัน
อันที่จริง ในการสู้รบที่ไม่มีนักบวชแบบนี้ ตัวเลขความเสียหายสีแดงที่อยู่ในอากาศมักจะอยู่ที่ประมาณยี่สิบหรือสามสิบหน่วย แม้แต่ความเสียหายคริติคอลก็ยังแค่ห้าสิบหน่วยเท่านั้น เนื่องจากไม่มีบัฟจากนักบวช พลังชีวิตของผู้เล่นระดับสูงจึงอยู่ที่ประมาณสามร้อย ตัวเลขความเสียหายหลักสิบนั้นก็สูงมากแล้ว
ดังนั้นตัวเลขความเสียหายสามหลักที่เกิดจากเซียวเฟิงจึงดึงดูดความสนใจของผู้เล่นใกล้เคียงทั้งหมด
“มีผู้เล่นระดับเทพอยู่! ช่วยกันฆ่าเขาก่อน!”
ผู้เล่นประมาณสี่ถึงห้าคนมารวมกันคราวครั้งเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการฆ่าเซียวเฟิง
เนื่องจากเซียวเฟิงสวมชุดแฟชั่นอยู่ ดังนั้นผู้เล่นจากเขตฮัวเซียจึงไม่รู้ว่าเป็นเขาในตอนแรก พวกเขาเห็นว่าชายหนุ่มต่อสู้กับผู้เล่นชาวตะวันตกและถือว่าเขาเป็นพวก ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่ามีกลุ่มคนกำลังพุ่งไปหาเซียวเฟิง นักรบสองคนก็เข้ามาปกป้องเขา
“มาเร็ว! ปกป้องนักเวทไว้!”
พวกเขาเห็นเซียวเฟิงโจมตีระยะไกล และเขาถือคทา ดังนั้นจึงคิดว่าเขาเป็นจอมเวท
“ค้อนแห่งการพิพากษา!”
แต่เซียวเฟิงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา นักรบสองคนนั้นตกตะลึงเมื่อเห็นค้อนสีทองก่อตัวขึ้นในอากาศและทุบผู้เล่นชาวตะวันตกทั้งห้าคน
-1860! คริติคอล!
-908
-899!
-911!
-1788! คริติคอล!
ในพริบตา ตัวเลขความเสียหายที่น่าสะพรึงกลัวทั้งห้าก็ลอยอยู่เหนือผู้เล่นชาวตะวันตกทั้งห้าคน พวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนอง ศพห้าศพนอนอยู่บนพื้น ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ
เยี่ยมเลย!
เซียวเฟิงรู้สึกสบายใจมากเมื่อใช้ค้อนของเขา
“เวรล่ะ! นี่มันเจ้าแห่งฮีลเลอร์นี่นา!”
นักรบทั้งสองก็รู้สึกประหลาดใจพร้อมกันเมื่อเห็นตัวเลขความเสียหายและสกิลค้อนที่คุ้นเคย ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าคนที่พวกเขาอยากปกป้องเป็นใครและจากไปทันที
เขาเป็นนักบวช แต่เขาไม่ต้องการการคุ้มครองเลย ด้วยเป็นคนที่ต่อสู้กับกิลด์ที่มีผู้เล่นนับพันได้ด้วยตัวคนเดียว
“อะไรกัน!”
“มันเป็นไปได้ยังไง”
“ตัวเลขความเสียหายหลักพัน?”
ผู้เล่นที่อยู่ใกล้เคียงทุกคนตกตะลึง แต่ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียไม่ตกตะลึง พวกเขารู้ดีจากตอนที่เซียวเฟิงต่อสู้กับกิลด์กลอรี่แล้ว แต่ผู้เล่นจากเขตอื่นต่างกลัวแทบตาย
เขาทำความเสียหายสูงขนาดนั้นได้ยังไง? ผู้เล่นทำมันได้ด้วยเหรอ?
พวกเขามองไปที่พลังโจมตีของพวกเขา ซึ่งมากกว่าหนึ่งร้อยหน่วย และตัวเลขความเสียหายที่เกิดจากพวกเขาก็มีค่าประมาณยี่สิบหรือสามสิบหน่วยเท่านั้น พวกเขาคิดว่าพวกเขามาถึงโลกใหม่แล้ว
จะมีความเสียหายที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ยังไง?
แต่ผู้เล่นของเขตฮัวเซียไม่สนว่าพวกเขาจะตะลึงจนตัวแข็งยังไง พวกเขาฉวยโอกาสและโต้กลับทันที ซึ่งทำให้ผู้เล่นจากเขตอื่นได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากในคราวเดียว บางคนที่มีพลังชีวิตเหลือเพียงเล็กน้อยก็ถูกฆ่าตาย ผู้เล่นที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงในทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เซียวเฟิงเข้าร่วมสู้กับพวกเขา มันก็กลายเป็นการสังหารหมู่ เมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มไล่ล่า ผู้เล่นจากเขตอื่นที่ได้เห็นความเสียหายของเซียวเฟิงก็วิ่งหนีทันที ในการต่อสู้ระยะประชิดเช่นนี้ พวกเขาคงทำอะไรเขาไม่ได้
บางคนก็ยังไม่เห็นเขาต่อสู้ แต่หลังจากที่พวกเขาได้เห็น ต่างก็พากันหนีเหมือนถูกผีไล่ตาม ไม่ว่าเซียวเฟิงจะไปที่ไหน พวกเขาก็ไม่สนใจอะไรนอกจากวิ่งหนี
ความสมดุลในสนามรบถูกทำลายโดยเซียวเฟิง แม้ว่าจะมีผู้เล่นจากเขตอื่นเพิ่มขึ้น แต่พวกเขาก็ถูกผู้เล่นของเขตฮัวเซียไล่ล่าซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าพวกเขาครึ่งหนึ่ง แต่อีกฝั่งทั้งหมดก็ต้องวิ่งหนี เพราะเมื่อพวกเขาหยุด ผีที่น่าสยดสยองจะมาฆ่าพวกเขา ไม่มีใครสามารถเอาชีวิตรอดจากพลังโจมตีแบบนั้นได้
“ตู้ม!”
ลูกธนูสีดำหนึ่งลูกพุ่งไปที่เซียวเฟิง เขาหลบทัน แต่ลูกศรก็ระเบิดเมื่อกระทบพื้น แรงกระแทกของลูกศรทำให้ชายหนุ่มเสียพลังชีวิตไปยี่สิบหน่วย
“หืม?”
เซียวเฟิงหันกลับมาและเห็นว่าผู้เล่นผิวดำกำลังเล็งธนูมาที่เขา อีกฝ่ายดูคุ้นหน้าคุ้นตา เซียวเฟิงจำได้ว่าเป็นคนที่ไล่ตามชายหนุ่มจากกิลด์โบราณ ชื่อเหนือหัวของเขาแสดงให้เห็นว่า อีกฝ่ายคือทรราชพายุเพลิงและมาจากเขตอัฟกัน
“ฟิ้ว!”
ลูกศรสีดำอีกดอกถูกยิงจากทรราชพายุเพลิงไปยังเซียวเฟิง ลูกธนูของเขาพุ่งช้ากว่าลูกธนูของนักธนูคนอื่น ๆ เล็กน้อย และมันยังหนากว่า แต่พวกมันสามารถระเบิดได้ ซึ่งทำให้พวกมันน่ากลัวกว่า เนื่องจากเขาสามารถสร้างความเสียหายให้กับเซียวเฟิงได้พลังโจมตีของเขาจึงต้องสูงอย่างแน่นอน
“ตู้ม!”
คราวนี้เซียวเฟิงพยายามสกัดกั้น แม้ว่าคทารักษาจะสกัดลูกศรสีดำได้ แต่การระเบิดก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี ลูกธนูระเบิดตรงหน้าเขา และสร้างความเสียหายห้าสิบหน่วย มันเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับการโจมตีของธอร์เลย!
เซียวเฟิงรีบพุ่งไปที่ทรราชพายุเพลิงทันที เขาไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้ยิงใส่เขาอีกแล้ว การโจมตีแบบนี้สามารถทำอันตรายเขาได้
แต่ทรราชพายุเพลิงก็ไม่ได้โง่ เขาเห็นเซียวเฟิงพุ่งตรงมาที่เขา ก็วิ่งหนีทันที และเมื่อได้เห็นความเสียหายที่เกิดจากเซียวเฟิงแล้ว ชายผิวดำคนนี้จะไม่ยอมให้เซียวเฟิงเข้ามาใกล้มากพอ
ขณะที่ทรราชพายุเพลิงกำลังวิ่ง เขาก็หันหลังกลับมายิงอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดเซียวเฟิง
ค่าความว่องไวของทรราชพายุเพลิงก็สูงเช่นกัน เขาวิ่งเร็วมาก เนื่องจากเป็นนักธนูและสามารถโจมตีจากระยะไกลได้ เซียวเฟิงจึงไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาอย่างรวดเร็วได้
แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าเซียวเฟิงมีสกิลระยะไกล ความเสียหายของหอกแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่สูงพอ ชายผิวดำเลยลืมมันไป ตอนนี้เซียวเฟิงอัญเชิญหอกแสงมาในมือของเขา และชายหนุ่มก็ไม่ได้ยิงมันในทันทีแต่ยังคงร่ายเวทต่อไป หอกแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์จะทำให้เกิดเอฟเฟกต์การควบคุมหลังจากการร่ายค้างสามวินาที