บทที่ 237 ยอมเสียทุกอย่าง
หวงฟูตงไลมีสีหน้าหม่นหมองและซีดเซียวมาก เฉียนโตวโตวก็กำลังยิ้มแข็ง ๆ อยู่ข้าง ๆ เช่นกัน
เธอส่งข้อความส่วนตัวไปหาหานเฟิงเพื่อสั่งให้เขาหุบปากหลายครั้ง แต่หานเฟิงยังคงพูด ราวกับว่าเขาไม่เห็นข้อความส่วนตัวของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้น เขามีความมั่นใจมาก สามารถตะโกนจำนวนเหรียญทองคำหลายล้านเหรียญได้ตามต้องการ และดูไม่มีความกังวลเลย เพราะเขาไม่จำเป็นต้องใช้เงินของตัวเองจ่าย อีกทั้งผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็ไม่มีความสงสัยว่าการเสนอราคาของหานเฟิงเป็นแค่ละครหลอกตา ท้ายที่สุด… ห้องวีไอพีหมายเลข 1 เองก็เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
“รู้ตัวเขาแล้ว เขาคือ หานเฟิง เกรียนอินเทอร์เน็ตอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย เขาสร้างชื่อเสียงจากอีเวนต์ล่าสมบัติเซิร์ฟเวอร์ในครั้งนี้”
ในห้องวีไอพีหมายเลข 2 ชายหนุ่มที่ทรงพลังรายงานต่อคราวน์ปรินซ์
“เขาเองสินะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่คำพูดของเขาจะทำให้หวงฟูตงไลและผู้เล่นคนอื่นอารมณ์เสีย เจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ด้วยหรือเปล่า? มีความบาดหมางระหว่างเจ้าแห่งฮีลเลอร์กับกิลด์แอนติควิตี้หรือเปล่า? หานเฟิงได้คำสั่งจากเจ้าแห่งฮีลเลอร์งั้นเหรอ?”
คราวน์ปรินซ์พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ดีแล้วก็ถามต่อ
“ไม่ มันน่าจะเป็นนิสัยส่วนตัวของเขา ตามข่าวที่ได้มา เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่าจะอยู่ในอาณาจักรออร์คและอยู่กับกิลด์วูล์ฟในตอนนี้…”
ชายหนุ่มผู้ทรงพลังยังคงพูดต่อไป เนื้อหาของข่าวนี้จะทำให้ผู้เล่นหลายคนที่ไม่รู้ต้องตกใจ เครือข่ายข่าวกรองของกิลด์ไดนัสตี้นั้นน่าทึ่งมาก
“อาณาจักรออร์ค? กิลด์วูล์ฟ? ช่างมันเถอะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์จะไม่อยู่ที่นี่ หานเฟิงก็ช่วยให้ป่วนพวกแอนติควิตี้ให้เราอยู่ดี” คราวน์ปรินซ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ แล้วเราต้องให้ความสนใจกับการเกณฑ์คนและการตั้งฐานของกิลด์แอนติควิตี้ด้วยหรือเปล่า?” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วถามอีกครั้ง
“เราต้องให้ความสนใจกับมันอยู่แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับสมัครคนในที่สาธารณะ แต่ฐานที่ตั้งกิลด์พวกเขาจะเลือกเช่าในเมืองหลักแน่นอน” คราวน์ปรินซ์ส่ายหัว แต่เขายังคงตอบ
“รับทราบ!”
ในที่สุดแล้ว คทานักปราชญ์ที่เสียหายก็ถูกขายให้กับบุคคลในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ในราคาหนึ่งล้านเหรียญทอง แต่มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ยังให้ความสนใจกับราคาจนกระทั่งการประมูลสิ้นสุด พวกเขาทั้งหมดกำลังฟังว่ากิลด์แอนติควิตี้นั้นหัวเสียขนาดไหน
ในท้ายที่สุด กิลด์แอนติควิตี้ก็ออกจากโรงประมูลไปอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเสียหน้าไปแล้ว และผู้เล่นหลายคนก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับกิลด์ที่เพิ่งแจ้งเกิดนี้ ในตอนแรก พวกเขามั่นใจขนาดที่กล้าหาเรื่องกิลด์ไดนัสตี้ แต่ผ่านไปไม่นานก็ต้องอารมณ์เสียหลังจากถูกคนในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ด่ากราด
“การประมูลสิ้นสุดลงแล้วหรือ? ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
ณ ชั้นสองของป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก เซียวเฟิงได้รับข้อความจากเฉียนโตวโตวแล้วเขาก็ตอบกลับทันที
จากนั้นเซียวเฟิงได้ทิ้งเครื่องหมายมิติไว้ใต้เท้าของเขาด้วยแหวนห้วงมิติ ชายหนุ่มกำลังจะกลับไปที่เมืองเทียนหลงเพื่อไปเอาคทานักปราชญ์ที่เสียหายมา จากนั้นก็ใช้แหวนห้วงมิติเพื่อเทเลพอร์ตกลับมา เขายังไม่ได้หนังสือสกิลของนักบวชเลย ชายหนุ่มเองก็ยังไม่อยากออกจากแผนที่นี้ อย่างไรก็ตามการเดินทางไปมาด้วยแหวนนี้เป็นเรื่องที่สะดวกมากจริง ๆ
“จะกลับแล้วเหรอ? ฉันไปกับนายด้วย”
ซือเยี่ยจิ๋งตะโกนใส่เซียวเฟิง และเธอก็ถามหลังจากเห็นเซียวเฟิงนำคัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมืองออกมา
“เดี๋ยวฉันกลับมา แหวนระดับเทพเจ้าของฉันมีความสามารถเทเลพอร์ต” เซียวเฟิงแสดงคุณสมบัติของแหวนห้วงมิติให้เธอดู
“ไม่ ๆ ฉันจะออกจากระบบน่ะ ฉันมีสอบตอนบ่าย กลัวจะพลาดมื้อเที่ยงเอา ฉันจะออกจากระบบที่จุดเกิด ครั้งต่อไปที่ฉันเข้าสู่ระบบ เราจะมาเจอกันที่นี่”
ซือเยี่ยจิ๋งเผยแววตาอิจฉาของเธอทันที จากนั้นเธอก็ดูคุณสมบัติที่สะดวกสบายของแหวนห้วงมิติในมือของเซียวเฟิงและบอกเขา
“หืม? สายขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย? ตกลง ฉันจะออกจากระบบหลังจากที่ฉันกลับไปแล้ว”
เซียวเฟิงตบหน้าผากของเขา จากนั้นก็สังเกตว่านี่ใกล้จะเที่ยงแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดเลย เขาพลาดมื้อกลางวันอีกแล้ว
ซือเยี่ยจิ๋งออกจากระบบที่จุดเกิด เซียวเฟิงก็กลับไปที่เมืองเฮ่ยฉีด้วยคัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมือง จากนั้นเขาก็มายังเมืองเทียนหลงผ่านจุดเทเลพอร์ต
ก่อนที่เซียวเฟิงจะส่งข้อความถึงเฉียนโตวโตว เธอก็ออกจากระบบก่อนแล้ว ก่อนที่เธอจะออกจากระบบ เธอทิ้งข้อความถึงเซียวเฟิงว่าเธอจะไปที่วิลล่าแล้วส่งคทานักปราชญ์ให้เซียวเฟิง
เซียวเฟิงคิดว่ามันคงใช้เวลาไม่นานในการไปที่โฮลี่ซิตี้ ดังนั้นเขาจึงไปที่โฮลี่ซิตี้ในช่วงเวลาที่เฉียนโตวโตวกำลังมาที่วิลล่า นอกจากไปเยี่ยมเสี่ยวไป๋แล้ว ก็ว่าจะไปซื้อยาหายากเป็นหลัก
ท้ายที่สุด ด้วยแหวนห้วงมิติ จำนวนการซื้อต่อครั้งก็สูงกว่าเมื่อก่อนเป็นสิบเท่า และถ้าทิ้งเครื่องหมายมิติไว้ตรงท้ายร้าน NPC ก็จะไม่ต้องประสบกับการพยายามที่ไม่คุ้มค่าอีกต่อไป การเดินทางไปมาสะดวกด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที
โฮลี่ซิตี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่สว่างไสวซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะเช่นเคย ไม่มีผู้เล่นคนใดมาที่นี่ และมีเพียงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ในเมือง
ฉายาอาร์คบิชอปของเซียวเฟิงทำให้เขาเดินในเมืองได้อย่างอิสระ ในไม่ช้า เขาก็มาถึงสระน้ำศักดิ์สิทธิ์และเห็นเสี่ยวไป๋ที่กำลังอาบแสงศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะถูกคุมขังไว้โดยเทพธิดาแห่งแสง และเซียวเฟิงก็ไม่สามารถเรียกมันออกมาผ่านช่องสัตว์เลี้ยงได้ การอยู่ในสระศักดิ์สิทธิ์ก็มีข้อดีอยู่บ้าง นั่นคือเลเวลของเสี่ยวไป๋นั้นจะเท่ากับเลเวลของเซียวเฟิงเสมอ มันไม่ได้แบ่งค่าประสบการณ์ของเซียวเฟิงไปและสามารถตามเลเวลของเซียวเฟิงได้ซึ่งเท่ากับ 21
เสี่ยวไป๋ยังคงขี้อ้อน เมื่อเห็นเซียวเฟิง เธอก็เข้ามาในอ้อมแขนของเขาทันที เซียวเฟิงยีหัวของเสี่ยวไป๋ขณะที่ชายหนุ่มกำลังป้อนอาหารให้กับเธอที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ช่างดูแตกต่างจากภาพที่เยือกเย็นและกระหายเลือดในวันที่มันต่อสู้กับกิลด์กลอรี่ได้
หลังจากเล่นกับเสี่ยวไป๋ได้สักพัก เซียวเฟิงก็ไปที่ร้านขายยาของ NPC และซื้อยาหายากมากกว่า 1,000 ชุด จากนั้นก็ออกจากระบบหลังจากทิ้งเครื่องหมายมิติไว้
“หืม?”
เมื่อเซียวเฟิงลืมตาบนเตียง สายตาของเขาเต็มไปด้วยผมสีบลอนด์เป็นประกายระยิบระยับ เขามองไปที่เซียวหลิงที่คร่อมเอวเขาอย่างประหลาด แล้วก็ถอดหมวกสำหรับเล่นเกมออก
เมื่อเซียวเฟิงยกผ้าห่มบาง ๆ ขึ้น ชายหนุ่มก็เห็นเซียวหลิงสวมกางเกงขาสั้นสำหรับใส่อยู่บ้านซึ่งสั้นถึงต้นขาอยู่ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงสัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นของเซียวหลิงผ่านเอวได้อย่างชัดเจน
“พี่ ช่วงนี้เย็นชากับองค์หญิงเซียวหลิงเกินไปหรือเปล่า?”
ตอนแรกเซียวหลิงโน้มตัวมาข้างหน้า แต่พอเธอเห็นเซียวเฟิงลืมตา เธอก็เอนตัวกลับด้วยความตื่นตระหนก และแสร้งทำเป็นสงบ จากนั้นเธอก็พูดกับเซียวเฟิง
“ไม่หรอก”
หลังจากคิดแล้วเซียวเฟิงก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ในสองวันนี้ เขาต้องเข้าร่วมอีเวนต์ล่าสมบัติของเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นและใช้เวลากับเธอน้อยลง
“วันนี้… เธอมาหาฉันอีกแล้ว” เซียวหลิงไม่ได้โต้เถียงกับเซียวเฟิงเรื่องเมื่อกี้ แล้วเธอก็พูดเรื่องใหม่ขึ้นมาทันที
เซียวเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง ‘เธอ’ จากปากของเซียวหลิงคือภรรยาคนใหม่ของเซี่ยกวงเหว่ย และเธอก็เป็นแม่เลี้ยงของเซียวหลิงด้วย เธอเป็นคนที่ขายมิดซัมเมอร์กรุ๊ปให้กับหลิวเฉียงเหว่ยและเธอก็เป็นผู้หญิงที่เลวทรามมาก
นั่นเป็นเหตุผลที่เซียวเฟิงพาเซียวหลิงย้ายที่อยู่หนีอย่างต่อเนื่อง มรดกของเซี่ยกวงเหว่ยครึ่งหนึ่งเป็นของเซียวหลิง แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องการได้มันทั้งหมดมาโดยตลอด
ด้วยทรัพยากรทางการเงินที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นเจ้าของตอนนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลากว่าที่เธอจะพบวิลล่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่ได้ออกจากเมืองเฉิงไห่ แต่เซียวเฟิงไม่คิดว่าเธอจะเจอเร็วขนาดนี้
เซียวเฟิงลูบผมสีบลอนด์ที่เกือบจะยาวลงมาถึงเอวของเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าฉันเซ็นสัญญามรดก เธอจะไม่มายุ่งกับฉันอีก”
เซียวหลิงกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติและไร้ซึ่งความยับยั้งชั่งใจด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส
เซียวเฟิงหยุดนิ่งทันที หากเซียวหลิงเซ็นในข้อตกลงการรับมรดก… นั่นหมายความว่าเธอเลือกที่จะสละมรดกทั้งหมดและเลือกจะไม่ได้อะไรเลย
“เจ้าพี่โง่ นายจะเลี้ยงฉันใช่ไหม?”
เซียวหลิงมองมาที่เซียวเฟิงและถามอย่างกังวล เธอเลือกที่จะยอมเสียทุกอย่างเพราะเธอแค่ต้องการอยู่กับเซียวเฟิง
“ใช่ ตลอดไป” เซียวเฟิงพยักหน้า
“ฮึ ก็ตามที่คาดไว้ล่ะนะ เสน่ห์ขององค์หญิงเซียวหลิงนั้นสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ไม่มีใครต้านทานมันได้หรอก”
เซียวหลิงพึมพำอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็ล้มลงและพิงไหล่ของเซียวเฟิง ซึ่งชายหนุ่มก็สัมผัสถึงความชื้นบนไหล่ของเขาได้ในไม่ช้า
เซียวเฟิงเงียบ เซียวหลิงนั้นมีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น เธอเกิดมาพร้อมกับความงามไร้ที่ติ อีกทั้งยังเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย และควรจะได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
ทว่า…ภายในสามเดือน พ่อของเธอก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน แม่เลี้ยงของเธอก็บังคับให้เธอต้องไร้บ้านเพื่อยึดมรดก
และต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือเซียวเฟิง…
ร่างกายที่เรียวและเล็กของเซียวหลิงพิงร่างกายของเซียวเฟิงซึ่งอบอุ่นและอ่อนนุ่ม แต่ตอนนี้เด็กสาวตัวสั่นเล็กน้อย และจุดเปียกชุ่มบนไหล่ของเซียวเฟิงก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แกร๊ก!
แต่ประตูห้องของเซียวเฟิงถูกเปิดออกมาในเวลานี้ เฉียนโตวโตวยืนอยู่ข้างนอกพร้อมดวงตาเปิดกว้าง เธอมองไปที่ฉากบนเตียงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
“พี่เซียว โทษที่เบาที่สุดคือติดคุกสามปี ส่วนโทษสูงสุดคือประหารชีวิตเลยนะ ถ้าชอบร่างกายที่อ่อนกว่าวัย มาหาฉันก็ได้นะ”
“เธอเป็นแม่บ้านที่ไม่ดีเลย! กล้าดียังไงมารบกวนพวกเรา!”
เซียวหลิงเช็ดหน้าของเธอบนไหล่ของเซียวเฟิง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นนั่งและพูดกับเฉียนโตวโตวด้วยความโกรธ
“ก็ได้ ๆ ฉันผิดไปแล้ว แต่องค์หญิงเซียวหลิง ช่วยลงจากพี่เซียวก่อนได้ไหม?” เฉียนโตวโตวอ่อนข้อให้แต่เธอไม่คิดจะออกไป กลับกันเธอจ้องไปที่เซียวหลิงอย่างอิจฉาแทน
“ฮึ่ม!”
เซียวหลิงพ่นลมและสะบัดผมสีบลอนด์ยาวของเธอ จากนั้นเธอก็ลงจากเซียวเฟิง หลังจากลุกจากเตียงและสวมรองเท้าแตะแพนด้าแล้ว เธอก็เดินจากไปอย่างไม่พอใจ
“พี่เซียว พี่ตามใจเซียวหลิงมากเกินไปแล้วนะ”
จากนั้นเฉียนโตวโตวก็เดินเข้าไปในห้องของเซียวเฟิงและพูดอย่างอิจฉา
“เธอเองก็ต้องทำด้วย และควรตามใจเซียวหลิงมากกว่าที่ฉันทำอีก”
เซียวเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เถียงไม่ได้ในขณะที่เขาแต่งตัว
“ก็ได้ หลิวเฉียงเหว่ยเคยบอกฉันว่าพี่อาจจะเป็นพวกโรคจิต เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อเรื่องนี้เลยนะ”
เฉียนโตวโตวพยักหน้า จากนั้นเธอก็มองไปที่เซียวเฟิงขึ้นและลงด้วยสายตาแปลก ๆ และเธอก็รู้สึกสิ้นหวัง
เซียวเฟิงไม่อยากคุยกับเธอ เขาลงไปข้างล่างและล้างหน้าล้างตา เฉียนโตวโตวยังไม่ได้กินกลางวัน ดังนั้นเซียวเฟิงก็เลยทำอาหารกลางวันสองจาน
“พี่เซียว เราจะออนไลน์ตอนนี้เลยหรือเปล่า?”
หลังจัดการอาหารกลางวันเสร็จ เฉียนโตวโตวก็นั่งบนโซฟาและพักผ่อนสักพักแล้วเธอก็ถาม
“ฉันจะออกไปข้างนอกก่อน แล้วเดี๋ยวกลับมาทีหลัง ขอยืมกุญแจรถของเธอด้วย”
เซียวเฟิงออกมาจากห้องครัวและพูดขณะที่เขาเช็ดมือ
หนิงเคอเค่อและเซียวหลิงกินอาหารกลางวันกันไปก่อนแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังทำการบ้านอยู่ในห้องของเซียวหลิง ดังนั้นเซียวเฟิงจึงต้องทำความสะอาดห้องครัวเอง
“ได้เลย”
เฉียนโตวโตวโยนกุญแจรถออดี้ของเธอให้เซียวเฟิง หญิงสาวไม่ได้ถามเซียวเฟิงว่าเกิดอะไรขึ้น แม้จะอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเซียวเฟิงเพิ่มก็ตาม
เซียวเฟิงไม่ได้พูดอะไร หลังจากได้กุญแจแล้ว เขาก็รีบออกไป รถออดี้สีขาวแล่นออกจากวิลล่าบนภูเขาพร้อมเสียงเครื่องยนต์