บทที่ 38 กระบองกระทิงทอง
“มอ!”
เมื่อพลังชีวิตของราชากระทิงต่ำกว่า 90% มันก็โหดร้ายขึ้นมาก ตอนนี้ร่างของมันใหญ่เท่าตึกสองชั้น รวมไปถึงค่าสถานะของมันก็เพิ่มไปอีกเท่าตัว มันเหวี่ยงกระบองฆ่าผู้เล่นไปเป็นจำนวนมาก ไม่มีใครต้านความเสียหายของมันได้เลยสักคน รวมไปถึงพวกนักรบอีกสองกลุ่มที่เข้ามาก็โดนฆ่าตายในทันที ก่อนที่พร้อมกันนั้นบอสจะวิ่งออกมา
“ไม่นะ!”
พวกผู้เล่นเก่งๆ ทั้งหลายเริ่มเข้ามาสู้กับบอสแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้ากระทิงไม่ได้คิดจะสู้กับพวกเขาสักเท่าไหร่ มันใช้สกิลพิงค์อายอีกครั้ง และพุ่งเข้าหาแนวหลังของทุกกิลด์
พลั่กๆๆ!
ตอนนี้ราชากระทิงยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก พื้นดินสั่นไหวทุกครั้งที่มันวิ่งผ่าน ในขณะเดียวกัน ในมือของมันก็เหวี่ยงกระบองไปมาสังหารผู้เล่นไปเป็นจำนวนมาก เพียงชั่วพริบตาก็มีแต่ศพเต็มไปหมด
“อย่าแตกตื่น! ตั้งสติไว้!”
ราชากระทิงพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นนับร้อยกระจัดกระจายไปทั่ว ผู้เล่นจากทั้งสี่กิลด์สติเตลิดกันถ้วนหน้า ตอนนี้ราชากระทิงน่ากลัวเกินกว่าจะต่อกรด้วยได้แล้ว มีคนตายทุกวินาที แม้ว่าหัวหน้ากิลด์จะตะโกนเรียกสติของพวกเขา แต่ก็ยังไม่สามารถจัดกระบวนทัพกลับมาได้
“เวร! ช่างมัน! เอาเป็นว่าตอนนี้ฆ่าแม่งเลยก็แล้วกัน!”
ที่หัวหน้ากิลด์ตัดสินใจแบบนั้น เพราะเขายอมแพ้ที่จะจัดกระบวนรบและคิดออกไปจัดการมันแทนแล้ว! พวกผู้เล่นโถมเข้าใส่บอสตัวนี้ แล้วพวกเขาก็ตายกันไปครึ่งหนึ่ง อัตราการเกิดใหม่สวนทางกับชีวิตที่เสียไป แต่ดูเหมือนว่าเจ้ากระทิงเองก็หยุดใช้สกิลพิงค์อายไปแล้วเหมือนกัน ในจังหวะที่มันหยุดลง ผู้เล่นนับร้อยต่างพุ่งเข้าใส่มันอย่างไม่เกรงกลัว จนทำความเสียหายมหาศาล
“ฉิบหาย! พวกดูมส์เดย์ลีกมันโจมตีฉัน!”
“อ๊า! พวกนักบวชของวอร์สปิริตรีบฮีลฉันเดี๋ยวนี้! พวกเทาท์แมนมันโจมตีพวกเรา!”
“เวรเอ๊ย! อู๋จี้! ฉันจะฆ่าแก!”
“พวกเรา! ไอ้พวกเทาท์แมนมันทรยศ! เล่นมันเลย!”
“หัวหน้าเราให้คำสั่งแล้ว! จัดการไอ้พวกดูมส์เดย์ลีกได้เลย!”
…
ทว่าหลังจากที่ราชากระทิงหยุดการโจมตี สถานการณ์ก็ปั่นป่วนถึงขีดสุด พวกนักรบราวๆ 200 คนกลับมาฆ่าฟันกันเอง พวกเขาหยุดโจมตีบอสใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียง และหันมายิงสกิลถล่มใส่กันอย่างบ้าคลั่ง
เฉียนโตวโตวเองก็ถูกลูกหลงอยู่ในฝูงชน เธอไม่เห็นเพื่อนทั้งสามของเธอแล้ว และด้วยสถานการณ์ที่ตะลุมบอนกันแบบนี้เธอจึงร้องออกมา
“อ๊า! ใครก็ได้ช่วยด้วย!”
สถานการณ์วุ่นวายแบบสุดๆ ทุกกิลด์หันมาฆ่าฟันกันเองมั่วไปหมด พวกผู้เล่นที่อยู่ในแนวรบเดียวกันแต่ต่างกิลด์ก็หันมาโจมตีใส่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ในกรณีแบบนี้ ถ้ามีผู้เล่นคนไหนโจมตีใส่กันก็จะต้องมีการโจมตีสวนกลับไปบ้าง แต่นี่มันยิ่งกว่านั้นเพราะทุกคนในที่นี้กำลังฆ่ากันอย่างไม่เลือกหน้าต่อให้ไม่รู้จักกันก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นสกิลยิงกระจายของพวกนักธนูก็ฆ่าผู้เล่นไปหลายรายแล้ว
มันเละเทะไปหมด!!
“บ้าเอ๊ย! พวกเทาท์แมนมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
พวกหัวหน้ากิลด์ยังคงโจมตีกระทิงอยู่ที่ด้านหน้าสุด และไม่คิดว่าจะมีการหักหลังกันเองแบบนี้ ถึงจะไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นคนเริ่มก่อนก็จริง แต่ก็มั่นใจได้เลยว่าสถานการณ์นี้คงไม่จบลงง่ายๆ แน่ ยิ่งไปกว่านั้นราชากระทิงเองก็มีพลังชีวิตเหลือแค่ 50 หน่วยเท่านั้น พวกเขาไม่มีเวลามาสนใจอะไรอีกแล้ว
“พวกนักธนูของดูมส์เดย์ลีกฟังฉัน! เล็งไปที่บอสแล้วใช้สกิลเดี๋ยวนี้!” ลอว์ก็อตออกคำสั่งที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ห่าฝนธนูพุ่งเข้าใส่ราชากระทิง และสังหารผู้เล่นเป็นจำนวนมากกว่า 100 ศพรอบตัวบอส
ราชากระทิงเหลือพลังชีวิตแค่ 40 หน่วยเท่านั้น
“เวรล่ะ! มันเล็งบอสไว้นี่หว่า! แล้วพวกนักเวทย์หายไปไหนกันหมด? ฆ่าไอ้พวกที่คิดจะล้มบอสลงซะ!”
เหลืออีกแค่ 30 หน่วย
“นักธนูทั้งหลาย! ฆ่าคนที่คิดจะเข้าไปฆ่าบอสซะ!”
เหลืออีกแค่ 20 หน่วย
“พวกมิดซัมเมอร์! พุ่งเข้าไปแล้วเตรียมเก็บของซะ! ฆ่าคนอื่นให้หมด!”
ด้วยความปั่นป่วนในแนวหลัง หัวหน้าของกิลด์จึงคิดไอเดียว่าจะแย่งของที่ดรอปจากบอสทั้งหมดไป แต่คนจากอีกหลายกิลด์ก็พยายามจะหยุดคนอื่นที่เข้าไปหาตัวบอสเช่นกัน พวกเขาใช้ทุกสกิลที่มีเพื่อฆ่าทุกคนที่จะเข้าไปหาบอส ทุกคนไม่สนใจเรื่องเวลาคุ้มครองของดรอปอยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นคนฆ่าบอส แต่เวลาคุ้มครองก็มีอยู่แค่ 3 นาทีเท่านั้น ในช่วงนี้ก็แค่ฆ่าทุกคนที่เข้ามาก็สิ้นเรื่อง!
ข้อตกลงก่อนหน้านี้ถูกฉีกทิ้งอย่างง่ายดาย เพื่อของดรอปที่มีค่าดั่งทองแล้ว ทุกกิลด์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา!!!
“มาเร็ว! เราต้องเข้าไปจัดการมัน!”
พวกนักรบทั้งหลายรีบวิ่งเข้าไปหาราชากระทิง แต่ก็ถูกฆ่าทิ้งด้วยฝนลูกธนู บางคนก็ถูกฆ่าจากคนในกิลด์เดียวกันเพราะไม่รู้จักกัน แต่ก็ไม่มีใครยอมแพ้ ต่างก็ยังคงพุ่งต่อไป
ในตอนนี้พลังชีวิตบอสเหลือแค่ 10 หน่วยแล้ว
พวกผู้เล่นต่างก็โลภมาก แม้แต่หัวหน้ากิลด์เองก็วิ่งเข้าไปประจัญบานในนั้นด้วย ไนท์ คูนเนอร์ที่รอจังหวะนี้มานานก็ได้เตรียมมีดสีเงินของเธอเพื่อจะจัดการกับบอสตัวนี้ และเชื่อว่าในจังหวะสุดท้ายที่บอสจะตาย ด้วยพลังโจมตีของตัวเอง เธอจะต้องสังหารมันได้แน่!!
ราชากระทิงตอนนี้พลังชีวิตเหลือแค่ 5 หน่วยเท่านั้น
ไนท์ คูนเนอร์ตั้งสมาธิ ด้วยความว่องไวที่เธอมีมากกว่าคนอื่น มีดสีเงินในมือกำลังพุ่งออกไปและจะจัดการบอสตัวนี้ มันต้องตายจากการโจมตีครั้งนี้แน่ๆ! แต่ในจังหวะนั้นก็ได้มีผู้เล่นคนหนึ่งที่ใส่ชุดธรรมดาพร้อมปกปิดชื่อเอาไว้ ใช้ไม้เท้าในมือฟาดหัวราชากระทิงจนมันตาย!!
-7!
เลขความเสียหายเกิดขึ้น พร้อมกับพลังชีวิตของราชากระทิงตัวนี้ที่หมดลง
หัวหน้ากิลด์ทั้งหลายมองในกล่องข้อความพร้อมกัน พวกเขากำลังจะออกคำสั่งให้ทุกคนเข้าไปเก็บของทั้งหมดที่เจอ แต่ก็ยังไม่มีใครพบว่าบอสตัวนี้ถูกใครฆ่า ทว่าถ้าไม่มีใครเก็บของภายใน 3 นาทีนี้ พวกเขาก็จะเก็บได้
ราชากระทิงล้มลง แต่แสงประกายส่องของไอเทมที่ดรอปมาก็ถูกเก็บเอาไว้ก่อนที่มันจะตกถึงพื้นโดยใครบางคน ผู้เล่นทุกคนตะลึง พวกเขามองไปยังพื้น และไม่เห็นว่ามีอะไรเลย แล้วพวกเขาก็ถูกฆ่าโดยฝนธนู
…
“ทีมของคุณได้จัดการอีลิตบอสเลเวล 8 ราชากระทิงแดง และได้รับค่าประสบการณ์ 4,500 หน่วย”
“ฮ่าๆ”
“สุดยอดไปเลยพวกเรา!”
ในพื้นที่กลางหนองน้ำพิษนั่นมีบางคนขำกลิ้งอยู่บนพื้น ชายคนนั้นคือเซียวเฟิงและทีมของเขา
“เจ๋งไปเลย! นายฆ่าบอสได้เป็นคนสุดท้าย!”
เจ๋าซือลุกขึ้นมานั่ง และยกย่องเซียวเฟิงที่จัดการเจ้ากระทิงนั่นได้
“ฮ่าๆๆ ฉันล่ะอยากเห็นหน้าพวกมันตอนที่พวกเราไปฉกของจากบอสที่พวกมันตีกันมาตั้งนานจริงๆ!” เจ๋าซือหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“เก็บเอาไว้เป็นความลับนะ ไม่งั้นพวกมันจะต้องเห็นเราเป็นศัตรูแน่” เถียซูบอกมา
“ลูกพี่รีบดูไอเทมกันเถอะ!” เฉียนโตวโตวรบเร้าให้เขาเปิดกระเป๋าออกมา
“โอเคๆ”
ชายหนุ่มพยักหน้า เขามีสติดีกว่าทุกคนในที่นี้ แต่เขาเองก็อยากเห็นไอเทมที่ดรอปมาจากบอสเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงรีบเปิดมันออกมา ทันใดนั้นดวงตาของเซียวเฟิงก็เปล่งประกายออกมา เขาเจออุปกรณ์ที่มีแสงสีทองในกระเป๋า เขาเห็นแสงจากการจัดการบอสก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีของสีทองแบบนี้!
“อะไรน่ะ? ทำไมนายถึงได้ตื่นเต้นแบบนั้น?” พวกเขาต่างสงสัยที่เห็นเซียวเฟิงมีท่าทีเป็นแบบนั้น ….อุปกรณ์ที่ทำให้เซียวเฟิงประหลาดใจจะต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่ๆ และพวกเขาก็ทายถูก เซียวเฟิงหายใจเข้าลึกๆ และบอกพวกเขาอย่างเรียบง่าย
“อุปกรณ์ระดับตำนาน!”
กระบองกระทิงทอง
คุณภาพ: ทอง
ประเภทของสวมใส่: อาวุธถือสองมือ
เลเวล: 8
ความต้องการ: ค่าความแข็งแกร่งต้องไม่ต่ำกว่า 50
ค่าสถานะพื้นฐาน:
พลังโจมตี: 15-16
ค่าความแข็งแกร่ง: +16
ค่าความว่องไว: +15
ค่าความฉลาด: +15
ค่าความทนทาน: +15
ค่าจิตวิญญาณ: +15
สกิล:
[แข็งแกร่งดั่งกระทิง] แพสซิฟสกิล ลดความเสียหาย 5% จากผู้เล่นคนอื่น
[พลังกระทิง] โจมตีอย่างรุนแรงใส่เป้าหมายเดียว ทำความเสียหาย 180% ของพลังโจมตี มีโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะมึนงง คูลดาวน์ 30 วินาที
“โว้ว!” ทั้งสามตะลึงพร้อมจดจ้องมายังอุปกรณ์สีทองนี้
“อาวุธตำนาน!”
“ค่าสถานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อยากได้ไหมเถียซู?”
เซียวเฟิงรู้สึกผิดหวังจนต้องส่ายหน้าเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นอาวุธระดับทอง แต่เลเวลมันก็ต่ำเกินไป พร้อมกับค่าสถานะที่ไม่สูงอีก ทำให้เขาไม่ได้สนใจมันสักเท่าไหร่
“โว้ว! มันดีมากเลยนะ ทำไมนายถึงบอกว่ามันยังไม่ดีอีกล่ะ? แค่พลังโจมตีมันก็แรงกว่า 30 แล้วนะ!” เจ๋าซือตะโกนออกมา
“ไม่ได้ มันมีค่ามากเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก ฉันใส่ไม่ได้ด้วยเพราะว่าค่าสถานะไม่พอ นายนั่นแหละต้องใช้มัน!” เถียซูรีบค้าน
“ให้ฉันใช้เหรอ? แต่ว่ามันเป็นอาวุธของพวกนักรบไม่ใช่หรือไง?” เซียวเฟิงไม่เข้าใจ
“นายไม่รู้เหรอ? ว่าอาวุธในมิธน่ะขึ้นอยู่กับประเภทของมัน อาวุธพวกไร้คมส่วนใหญ่และคทามักจะถูกใช้โดยคลาสนักบวชและนักรบ เพราะหลังจากนี้นักบวชก็จะเป็นพาลาดินแล้วก็จะสามารถใช้อาวุธของพวกนักรบได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกนักเวทย์ และนักบวชเองก็ใช้คทาร่วมกันได้ ในขณะที่พวกนักธนู และนักฆ่าก็ใช้มีดด้วยกันได้ มีแค่ธนูเท่านั้นแหละที่ถูกจำกัดไว้” เจ๋าซืออธิบาย
เซียวเฟิงพยักหน้าเข้าใจ จำได้ว่าอาวุธเริ่มต้นเองก็เป็นแบบไร้คมเหมือนกัน จากนั้นเขาก็มองไปที่คำอธิบายคลาส และพบว่านักบวชเองก็สามารถใช้โล่มือเดียวได้เหมือนกัน แถมชายหนุ่มยังมีค่าความแข็งแกร่งตั้ง 50 หน่วยอีก ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้กระบองกระทิงทองได้ !
แสงสีทองฉายออกมา และกระบองกระทิงทองก็ปรากฏอยู่ในมือของเซียวเฟิง