บทที่ 44 ผลกระทบจากการเปลี่ยนคลาส
“ประกาศถึงทุกคนในเซิร์ฟเวอร์นี้! ผู้เล่นในเขตฮัวเซียคนหนึ่งได้เปลี่ยนคลาสเป็นคนแรก มอบแต้มสงคราม 50 แต้มให้กับเขตฮัวเซีย!”
“ประกาศถึงทุกคนในเซิร์ฟเวอร์นี้! ผู้เล่นในเขตฮัวเซียคนหนึ่งได้เปลี่ยนคลาสเป็นคนแรก มอบแต้มสงคราม 50 แต้มให้กับเขตฮัวเซีย!”
“ประกาศถึงทุกคนในเซิร์ฟเวอร์นี้! ผู้เล่นในเขตฮัวเซียคนหนึ่งได้เปลี่ยนคลาสเป็นคนแรก…”
“ประกาศถึงทุกคนในเซิร์ฟเวอร์นี้! ผู้เล่นในเขตฮัวเซียคนหนึ่งได้เปลี่ยนคลาสเป็นคนแรก…”
“ประกาศถึงทุกคนในเซิร์ฟเวอร์นี้! ผู้เล่นในเขตฮัวเซียคนหนึ่งได้เปลี่ยนคลาสเป็นคนแรก…”
นี่เป็นช่วงเวลากลางดึก แต่จำนวนผู้เล่นในเกมก็ยังเยอะกว่าพันล้านคน ทำให้ทั้งเกมต้องตะลึงกับคำประกาศนี้
“โว๊ยยย! พวกชาวจีนมันชนะเราอีกแล้ว!”
“พวกชาวจีนมันแซงอเมริกาเหนือของพวกเราไปหลายรอบแล้ว ฉันไม่คิดว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องโชคแล้วล่ะ อังเดร ไปหามาซะ ว่าหมอนั่นเป็นใครแล้วทำไมถึงเร็วกว่าธอร์!”
“น่าสนใจดีนี่ พวกชาวจีนอีกแล้วงั้นเหรอ เขาเป็นนักดาบหรือไง? ฝีมือจะเก่งเทพอะไรขนาดนั้น!”
…
“ประกาศถึงทุกคนในเขตฮัวเซีย ผู้เล่น *** ได้เปลี่ยนคลาสของเขาเป็นคนแรก ได้รับคะแนนเขต 100 แต้ม อาวุธสำหรับคลาส และตำราสกิล ผู้เล่นทั้งหลายก็อย่ายอมแพ้ล่ะ!”
“ประกาศถึงทุกคนในเขตฮัวเซีย ผู้เล่น *** ได้เปลี่ยนคลาสของเขาเป็นคนแรก…”
“ประกาศถึงทุกคนในเขตฮัวเซีย ผู้เล่น *** ได้เปลี่ยนคลาสของเขาเป็นคนแรก…”
ผู้เล่นในเขตฮัวเซียได้รับข้อความนี้กันทุกคน และกำลังถกเถียงเรื่องของผู้เล่นคนนี้อยู่ มิธที่เพิ่งจะเปิดเกมได้ไม่นานมานี้ แต่ที่เขตหัวเซียกลับมีคะแนนเขตมากกว่าที่อื่นเสียอีก
“หน๊อย หมอนั่นอีกแล้ว! เก่งอะไรเบอร์นั้น! มีคนเป็นล้านแต่เขากลับเป็นคนแรกเนี่ยนะ!”
“น่าสมเพชยิ่งนักที่พวกเราไม่รู้จักตัวตนของเขา ทำไมต้องปกปิดตัวตนด้วยล่ะ?”
“ว้าว! เขาอยากได้แฟนไหม? ฉันทำกับข้าว และอุ่นเตียง*[1]ได้นะ”
“โว้ว! เป็นคนแรกไม่พอยังได้อาวุธกับตำราสกิลอีกต่างหาก โคตรเจ๋งเลย”
“พวกเราต้องรีบแล้วล่ะ เซียวเฟิงเปลี่ยนคลาสไปแล้ว เราจะช้าไม่ได้” เถียซูบอก พวกเขายังอยู่ที่เกาะกลางนั่นอยู่เลย
“โชคร้ายที่สถานที่แบบนี้ไม่เหมาะกับเราอีกต่อไปแล้ว คนอื่นกำลังจะมาแล้วด้วย” เจ๋าซือมองไปยังฝูงผู้เล่นที่กำลังจะมาที่นี่อย่างสิ้นหวัง
“พวกเขาเข้ามาที่นี่ไม่ได้ในเร็ววันหรอก ช่างมันไปก่อน หลังจากนี้ค่อยว่ากัน”
ณ เมืองเทียนหลง ทางด้านของเซียวเฟิงเอง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนแรกก็จริง แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่เลิกประหลาดใจในไอเทมทั้งสองชิ้นนี้ที่ได้มาอยู่ดี
คทารักษา
ระดับ: น้ำเงิน
ประเภทของสวมใส่: คทามือเดียว
เลเวล: 10
ข้อจำกัดของสวมใส่: พาลาดิน และผู้ประกอบพิธีกรรม
คุณสมบัติ:
ค่าความแข็งแกร่ง: +114
ค่าความทนทาน: +14
ค่าความฉลาด: +14
ค่าจิตวิญญาณ: +14
สกิล:
[ฮีลลิ่ง] สกิลแบบแพสซิฟ เพิ่มพลังการรักษา 10%
[ปฐมพยาบาล] สกิลแบบแพสซิฟ ลดคูลดาวน์ทุกสกิลฮีล 10%
อันแรกคืออาวุธเลเวล 10 ค่าสถานะของมันก็อยู่ในขั้นกลาง ๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังโจมตีเลย แต่สองแพสซิฟนั่นเข้ากับเขาได้ดีสุด ๆ เซียวเฟิงวางอาวุธเก่าของเขาทันทีแล้วรีบอ่านตำราสกิลนี้
[ค้อนแห่งการพิพากษา]
ความต้องการ: พาลาดิน หรือผู้ประกอบพิธีกรรม
คำอธิบาย: สามารถรวบรวมลำแสงเพื่อเปลี่ยนอาวุธให้กลายเป็นค้อนยักษ์แห่งความยุติธรรม และโจมตีศัตรูด้านหน้าทั้งหมด สร้างความเสียหายธาตุแสง (พลังโจมตี x เลเวลสกิล) คูลดาวน์ 60 วินาที
ตำราสกิลโจมตี!
เซียวเฟิงตื่นเต้นขึ้นมาทันทีที่เห็นรายละเอียด
สกิลเองก็มีคุณภาพที่ต่างกันออกไป เช่นสกิลที่ได้จาก NPC อันนี้ เมื่อเทียบกับสกิล [โจมตีหนัก!] ซึ่งดรอบจากจระเข้พิษ มันก็ถือว่าแตกต่างกันมา เพราะ [โจมตีหนัก!] มีเลเวลสูงสุดที่ 3 ในขณะที่สกิลที่ได้มาใหม่ไม่ใช่!
ตำราสกิลที่เซียวเฟิงได้มา… มันมีเลเวลสูงสุดที่เลเวล 5 !
ตามข้อมูลของค้อนแห่งการพิพากษา พลังของมันน่าจะมีประมาณ 500% หลังจากที่มันเป็นเลเวลสูงสุดแล้ว เซียวเฟิงตะลึงในความน่ากลัวนี้ และรีบเรียนมันทันที
“คุณได้เรียนรู้สกิล [ค้อนแห่งการพิพากษา]!”
“ยินดีด้วย เจ้าได้กลายเป็นสุดยอดผู้ประกอบพิธีกรรมแล้ว ได้โปรดใช้พละกำลังในทางที่ถูก และคอยช่วยเหลือผู้อื่นที่ยากไร้ ข้ามีสกิลมากมายสำหรับคลาสนี้ สามารถเลือกที่จะเรียนได้เลย และในเมื่อเจ้าเป็นคนแรกที่ได้เป็นคลาสนี้ ดังนั้นจึงไม่เสียค่าเล่าเรียน”
หญิงสาวยิ้มให้กับเซียวเฟิงอย่างอ่อนโยน และเปิดหน้าต่างร้านค้าให้เขา ซึ่งภายในนั้นมีสกิลเลเวล 10 ที่นักบวชเฒ่าหมู่บ้านเริ่มต้นแสดงให้เขาดูอยู่ด้วย แต่เซียวเฟิงเองก็เรียนสกิลอวยพรอาวุธไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องเลือกจากอีกสามอันที่เหลือ
อันที่จริงชายหนุ่มสามารถเรียนสกิลพวกนี้จากนักบวชคนเดิมได้อีกหลังจากนี้ แต่ว่าถ้าคราวถัดไปเซียวเฟิงก็จะต้องจ่ายเงินเพื่อที่จะเรียนสกิลในราคา 10 เหรียญทอง และด้วยเขาให้เงินของตนกับเฉียนโตวโตวไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเหลือพอที่จะเอาไปใช้เรียนสกิลได้ แต่โชคยังดีที่เขาคือผู้เล่นคนแรกในสายคลาสนี้ ดังนั้นทุกอย่างจึงฟรี
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เซียวเฟิงก็เลือกอวยพรความกล้า ด้วยสกิลเสียสละที่แหวนของเขามีอยู่บวกกับคทารักษาแล้ว เซียวเฟิงจะสามารถลดความเสียหายไปได้มากทีเดียว
หลังจากเปลี่ยนคลาสแล้ว เซียวเฟิงก็เดินออกจากลาน และเปิดดูหน้าจอข้อมูลตัวเอง
ตัวละคร: แด๊ด
เลเวล: 10
คลาส: ผู้ประกอบพิธีกรรม
ชื่อเสียง: 80
สถานะหลัก: แสง
พลังชีวิต: 269/269
ค่ามานา: 255/255
พลังโจมตีกายภาพ: 85-93
พลังโจมตีเวทย์: 59-61
พลังป้องกันกายภาพ: 56-61
พลังป้องกันเวทย์: 45-49
ค่าสถานะพื้นฐาน:
ค่าความแข็งแกร่ง: 85
ค่าความทนทาน: 74
ค่าความว่องไว: 59
ค่าความฉลาด: 62
ค่าจิตวิญญาณ: 65
แต้มค่าสถานะที่เหลือ: 0
สกิลคลาส: [โฮลี่ไลท์](1) [ชำระล้าง](1) [อวยพรอาวุธ](1) [อวยพรกล้าหาญ](1)
สกิลเฉพาะตัว: สอดแนมขั้นสูง และเก็บของ
อุปกรณ์:
อาวุธ: คทารักษา
เกราะ: หมวกเขา เกราะไหล่อัศวิน เกราะหนังกระทิง กางเกงกระทิง ถุงมือขนกระทิง เกราะแขนหมาป่า เข็มขัดหมาป่า และรองเท้าหมาป่า
อื่น ๆ: ฮันเตอร์วีล แแหวนแห่งศรัทธา และสร้อยเขี้ยวหมาป่า
อุปกรณ์พิเศษ: ถูกปกปิดเอาไว้
ค่าสถานะของเขาจัดว่าสูงมาก ถ้าใช้กระบองกระทิงทองน่าจะมีพลังโจมตีเกิน 100 เลยก็ได้ ถ้าไม่นับของเล็กน้อยแล้ว มันก็ถือว่าชายหนุ่มมีอุปกรณ์และไอเทมที่ครบเครื่องมาก ๆ
หลังเซียวเฟิงมาที่เมืองเทียนหลง มันก็มีอะไรมากมายให้ทำ เช่นเขาต้องไปขยายกระเป๋าที่เขตค้าขาย แถมยังต้องไปเรียนสกิลเฉพาะตัวที่ไม่ได้เรียนที่หมู่บ้านเพราะคนเยอะอีกต่างหาก แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดว่าเขาจะต้องเสียเงินเพื่อมันหรอก เขามีแค่ 2 เหรียญทองที่เพิ่งได้จากการทำเควสเท่านั้น
เมื่อมองไปยังเงินจำนวนน้อยนิดเขาก็เริ่มสิ้นหวัง
NPC พวกนี้มันกินเงินเกินไป อัตราการขยายกระเป๋าอยู่ที่ 1 ช่องต่อ 1 เหรียญทอง ถ้ารู้แบบนี้เขาคงไม่เอาเงินไปฝากกับเฉียนโตวโตวหรอก
“แพงเกินไปแล้วโว้ย!” เซียวเฟิงที่กำลังหงุดหงิดเดินออกจากเขตค้าขายเพื่อไปรับเควส
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาต้องไปจัดการมอนสเตอร์เพื่อเงิน แต่ขณะนั้นระบบของเกมนี้กลับแสดงข้อความขึ้นมาให้เขา
“ประกาศผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ ผู้เล่นคนหนึ่งในเขตอเมริกาเหนือเป็นคนที่สองในการเปลี่ยนคลาส มอบแต้มสงคราม 40 แต้มให้เขตอเมริกาเหนือ!”
“ประกาศผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ ผู้เล่นคนหนึ่งในเขตอเมริกาเหนือเป็นคนที่สองในการเปลี่ยนคลาส…”
“ประกาศผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ ผู้เล่นคนหนึ่งในเขตอเมริกาเหนือเป็นคนที่สองในการเปลี่ยนคลาส…”
“ประกาศผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ ผู้เล่นคนหนึ่งในเขตอเมริกาเหนือเป็นคนที่สองในการเปลี่ยนคลาส…”
…
คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว!
เซียวเฟิงมองนาฬิกาก็พบว่านี่ยังเป็นตอนเช้าอยู่เลย เพราะเมืองเทียนหลงมันใหญ่เกินไปเขาจึงต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าถึงจะเปลี่ยนคลาสได้ หมอนั่นเริ่มตามเขาทันแล้ว!
“อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะเปลี่ยนคลาสได้อีกครั้ง?”
ชายหนุ่มไม่ยอมเสียเวลาอีกแล้ว เขาเดินไปยังวิหารเมืองเทียนหลง และส่งข้อความให้กับคู่นิโคลัส
“พวกเราเลเวล 10 แล้ว เหลือแค่ช่วยเฉียนโตวโตวเก็บเลเวลเท่านั้น ตอนนี้เธอเองก็เลเวล 9 แล้ว อาจจะเป็นเลเล 10 ได้ก่อนเที่ยงนี้” เถียซูรีบตอบกลับ
เซียวเฟิงครุ่นคิดสักพัก และยังไม่กลับไปช่วยพวกเขา เพราะยังไงเสียก็ไม่ได้รางวัลอะไรอยู่แล้ว ตอนนี้เขาต้องไปหาไฮพรีสคนหนึ่งมากกว่า
วิหารมีชื่อเต็มว่า ‘วิหารแห่งแสง’ ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเทียนหลงที่เต็มไปด้วยอาคารมากมาย แถมหอคอยของวิหารนี้ก็ยังเป็นส่วนที่สูงที่สุดในเมืองนี้ด้วย
[ไวท์สปิริตฟลาว์เวอร์] คือเควสเก็บวัตถุดิบในหมู่บ้านเริ่มต้น ซึ่งหาได้ทั่วไปด้านนอกวิหารนี้ ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่รายล้อมไปหมด บวกกับบรรยากาศอันสูงส่งของวิหารนี้ มันก็ทำเอารู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว
“คุณอยู่ในรัศมีของวิหารแห่งแสง อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้น!”
หลังชายหนุ่มได้ยินเสียงจากระบบ มุมปากของเขาก็ยิ้มออกมา
มี NPC พาลาดินสองคนอยู่ที่ประตูวิหาร พวกเขาไม่ได้สนใจอะไรเซียวเฟิงเท่าไหร่ เหมือนกับรูปปั้นหินสองตัวยังไงยังงั้น ชายหนุ่มไม่สามารถวิเคราะห์เลเวลพวกเขาได้ จึงได้เลือกที่จะเมินพร้อมกับเดินเข้าไปข้างใน
วิหารแห่งแสงเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่ขัดกับทั้งเมืองที่เป็นแบบจีน ด้านในก็กว้างขวางพร้อมไปด้วยพวกพาลาดินจำนวนมาก NPC นักบวช และเหล่าผู้ประกอบพิธีกรรมมากมายเดินกันให้ว่อน
“อย่าขยับ! ที่นี่คือวิหารแห่งแสง ห้ามนักผจญภัยเข้าใกล้!”
เมื่อเซียวเฟิงเดินเข้าไปลึกขึ้นอีก เขาก็ถูกหยุดเอาไว้โดยพาลาดินสองคนที่ยื่นหอกมาขวางทางเขา
“ฉันมาหาไฮพรีส!” เซียวเฟิงเห็นไฮพรีสคนหนึ่งในชุดคลุมสีขาวที่ด้านในวิหารนี้ เขาโชว์แหวนเงินให้ดู
“โอ้? แหวนแห่งศรัทธา ให้เขาเข้ามา” ไฮพรีสที่ได้ยินเสียงจากหน้าประตูแล้วเห็นแหวนเงินในมือของเซียวเฟิง เขาก็บอกพาลาดินสองคนให้พาเซียวเฟิงเข้ามา น้ำเสียงฟังดูไม่ได้เป็นการออกคำสั่งสักเท่าไหร่
“รับทราบ! ไฮพรีส!” แล้วพาลาดินทั้งสองคนนั้นก็เก็บอาวุธ ทำตามที่ไฮพรีสสั่ง
[1]อุ่นเตียง: คือหน้าที่ต้องคอยปรนนิบัติดูแลสามีให้ดีโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง