บทที่ 48 เควสเนื้อเรื่อง
“บ้าไปแล้ว! อุปกรณ์ที่ดีที่สุดของฉันมันแค่ระดับเงินเองนะ เขาได้ระดับเทพเจ้าจากไหนเนี่ย?”
“ตายแล้ว! ทำไมถึงได้มีของตำนานเยอะแบบนั้นกัน!”
“โคตรเจ๋งเลย! เขาไปหามาจากไหนกันเนี่ย? เขาจะต้องฆ่าบอส ที่เก่งที่สุดมาแล้วแน่ ๆ!”
“พวกผู้เล่นระดับท็อปทั้ง 5 คนเลือกที่จะปกปิดชื่อตัวเองงั้นเหรอ? …คนเดียวกันแน่ ๆ”
“เป็นไปไม่ได้! เป็นคนจากฮัวเซียเกือบทั้งหมดเลยเหรอ? พวกเรายอมแพ้เหอะ!”
“ไม่! ถ้าบอสมันดรอปไอเทมระดับเทพเจ้า มันจะต้องดรอปไอเทมระดับทองด้วยแน่ ๆ! มีความเป็นไปได้ที่ 5 อันดับนั้นจะเป็นคนเดียวกันด้วย!”
“หน๊อย! จะเก่งเกินไปแล้ว!”
“เฮ้ พี่ชายคนที่อยู่อันดับหนึ่งน่ะ ฉันเป็นรองหัวหน้ากิลด์ดามะจินเต๋า ฉันขอซื้อของระดับเทพเจ้าด้วยเงินทั้งหมดที่ฉันมีเลย ตอบกลับด้วยถ้าอ่านแล้ว!”
…
ในหน้าเพจฟอรั่มของเขตฮัวเซียเต็มไปบทสนทนาเกี่ยวกับรายการอุปกรณ์ มีแต่คนพูดถึงมันมากมาย พวกเขาล้วนแล้วแต่อยากจะรู้ว่าคนใน 5 อันดับบนคนนั้นเป็นใครกันแน่
ไอเทมระดับเทพเจ้าดึงดูดผู้คนมากมาย หลาย ๆ คนเองก็อยากจะซื้อมันให้ได้ ในขณะที่บางคนก็อยากจะหาว่าใครเป็นเจ้าของ
…
เซียวเฟิงไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาสร้างนั้นส่งผลมากแค่ไหน ตอนนี้เขากำลังมองไอเทมระดับเทพเจ้า “วัฏจักรชีวิต”
วัฏจักรชีวิต
ระดับ: เทพเจ้า
ประเภทของสวมใส่: ต่างหู
เลเวล: 20
ข้อจำกัดของสวมใส่: ไม่มี
ค่าความแข็งแกร่ง: +30
ค่าความทนทาน: +30
ค่าความว่องไว: +30
ค่าความฉลาด: +30
ค่าจิตวิญญาณ: +30
อัตราโจมตีโดน: +5%
อัตราหลบ: +5%
อัตราคริติคอล: +5%
สกิล:
[เทวะ] ผู้สวมสามารถใส่ได้โดยไม่ต้องการเลเวลขั้นต่ำ แต่ค่าสถานะจะถูกลดไป 10% ต่อเลเวลที่ขาดไป
[วัฏจักรชีวิต] เมื่อมีพลังชีวิตต่ำกว่า 1 ทุกความเสียหายที่ได้รับจะถูกลบไปด้วยมานาที่เหลืออยู่ และจะตายก็ต่อเมื่อมานาและพลังชีวิต เหลือ 0
[วัฏจักรชีวิตสำรอง] เมื่อมีมานาเหลือต่ำกว่า 1 จะสามารถใช้พลังชีวิตในการร่ายสกิลได้ ทำได้เฉพาะตอนที่มีพลังชีวิตสูงกว่า 50% เท่านั้น
นี่มันคือโคตรแห่งต่างหูเลยนี่หว่า!
เซียวเฟิงตะลึง นี่แหละคือไอเทมระดับเทพเจ้า! ถ้าเขาสามารถใช้ไอเทมนี้ได้ ทั้งพลังชีวิตและมานาของเขาจะคูณสอง!
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเขาสามารถใช้มันได้ทันทีเลยด้วย!
ชายหนุ่มมีเลเวลแค่ 12 ก็จริง แต่ด้วยสกิลพิเศษของมันทำให้เขาใส่ มันได้ แม้ว่าจะต้องยอมโดนหักค่าสถานะก็ตาม นั่นหมายความว่าชายหนุ่มจะได้รับค่าสถานะเสริมแค่ 5 เท่านั้น แต่มันก็ยังดีไม่ใช่หรือไง !
เซียวเฟิงใส่มันไปทันทีโดยไม่ลังเล นี่แหละคือของที่ดีที่สุดในเกมมิธ! นอกจากไอเทมพวกนี้แล้ว ราชากระดูกก็ดรอปเงินเป็นจำนวนมากราว ๆ 30 เหรียญทองได้
ยิ่งไปกว่านั้น ก็มีแผนที่ประหลาดหล่นมาด้วย มันถูกเขียนด้วยภาษาของคนตาย ดังนั้นเขาอ่านไม่ออกแน่ ๆ หลังจากที่เก็บของเข้าไปหมดแล้ว เซียวเฟิงก็มองหาผลตะวันแดงที่เป็นจุดประสงค์หลัก
ไอเทมที่ดรอปมาจากราชากระดูกทำให้เซียวเฟิงพอใจมากจนแทบอยากจะไปบวกกับลิชตัวนั้นต่อ แต่เขาก็ไม่กล้าทำเพราะแค่ ราชากระดูกก็ทำเอาเขาหืดขึ้นคอแล้ว และถ้าไม่มีผลไม้พวกนี้เขาคงจะปราบมันลงไม่ได้
แม้ว่าเซียวเฟิงจะมีไอเทมระดับสุดยอดของเกมแล้วก็จริง แต่เขาก็น่าจะไม่สามารถจัดการบอสระดับสูงได้แน่ ๆ!
สิบนาทีต่อมา ใบหน้าของเซียวเฟิงกลายเป็นสิ้นหวัง เพราะเขาตรวจดูต้นไม้ทุกต้นแล้ว แต่ก็ยังไม่พบผลตะวันแดงเลยสักลูก ชายหนุ่มรู้สึกสิ้นหวังมาก ๆ เขาต้องการ 50 ผลเพื่อจบเควส แต่ในตอนนี้เขามีเพียงแค่ 7 ผลเท่านั้น เซียวเฟิงจึงวางแผนที่จะออกจากเกมไปก่อนแล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่
ตอนนี้เริ่มจะสายแล้ว ขณะนี้เป็นเวลา 7 โมงครึ่ง เมื่อชายหนุ่มถอดหมวกเกมมิ่งออกและเปิดประตูไปก็พบกับเซียวหลิงที่ขยี้ตาตัวเองเดินมาในชุดนอนที่หลุดลุ่ย เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน สาวน้อยหาวออกมาอย่างงัวเงีย เซียวเฟิงรู้เลยว่าเธอเล่นเกมดึกแน่ ๆ
ดังนั้นเขาจึงเดินไปยังห้องครัวเพื่อทำข้าวเช้า ทว่าหลังจากที่เปิดตู้เย็น ชายหนุ่มก็พบว่าขนมที่ซื้อมาทั้งหมดหายไปจนเกลี้ยง
“เซียวหลิง ข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะนะ กินก่อนออกไปด้วย”
ไม่มีแม้กระทั่งนม แต่ไม่เป็นไรเขาใช้โยเกิร์ตแทนก็ได้ หลังจากที่ทำข้าวเช้าด้วยไข่แล้ว เขาก็พบว่าน้องสาวของเขายังอยู่ในห้องน้ำอยู่เลย จึงบอกเธอไว้แบบนั้นก่อนที่จะกลับเข้าไปในเกมใหม่
ทว่าก่อนที่จะเข้าไปนั้น เซียวเฟิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาน่าจะต้องหาพี่เลี้ยงเพื่อมาคอยดูแลเธอ ตอนนี้เขากำลังโฟกัสอยู่ที่เกมมิธ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เขาไม่ได้มีเวลาสนใจเซียวหลิงนัก และเพราะว่าร่างกายของเซียวหลิงนั้นอ่อนแอ ชายหนุ่มจึงไม่อยากให้เธอกินขนมมากนัก
ยิ่งไปกว่านั้น เงินที่เขาได้จากเกมมิธมันก็มากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก ด้วยอัตรา 1 เหรียญทองต่อ100 หยวน ซึ่งมันน่าจะเพียงพอให้เขาจ่ายค่าจ้างคนดูแลน้องสาวเขาได้
เซียวเฟิงไม่รอช้าแล้วเริ่มประกาศรับสมัครผ่านอินเทอร์เน็ตทันที เขาต้องการคนมาคอยดูแลเด็กหญิงอายุ 13 แถมยังบอกด้วยว่าเด็กคนนี้รับมือยากหน่อย จึงต้องการคนที่มีความสามารถมากจริง ๆ
หลังจากลงประกาศไปแล้ว เขาก็ใส่หมวกเกมมิ่งเพื่อกลับเข้าไป ในมิธ…
ชายหนุ่มโผล่มาที่ป่ามู่กวางอีกครั้ง ซึ่งหลังจากมองไปรอบ ๆ ก็เห็นผลตะวันแดงมากมาย จากที่ตอนแรกเขามีแค่ 7 ตอนนี้เขาจึงเก็บได้ 20 ผลแล้ว
“เฉียนโตวโตวกำลังเรียกหาคุณอยู่ รับสายไหม?”
เฉียนโตวโตวโทรเข้ามาได้ถูกเวลามาก
“ลูกพี่ ฉันเลเวล 10 แล้ว! มาช่วยเควสทดสอบให้ฉันที ตอนที่ลูกพี่ไม่อยู่พวกนิโคลัสเองก็บอกว่าจะช่วยฉันเคลียร์เควสให้ แต่พวกเราดันตายซะก่อนจะได้เห็นมอนสเตอร์ซะอีก” เฉียนโตวโตวพูดเชิงดูถูก “ตอนนี้พวกเขากำลังจะตั้งทีมใหม่กันล่ะ และกำลังจะไปหานักบวชกับนักรบสายป้องกันเพิ่ม”
“รอฉันที่ทางเข้าเขตก็แล้วกัน” เซียวเฟิงพูดก่อนที่จะวางสายไป จากนั้นเขาก็กางกระดาษวาร์ป กลับไปยังเมืองเทียนหลง
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าผลตะวันแดงจะกลับมาเมื่อไหร่ และเขาเองก็ไม่คิดจะรอมันด้วยจึงได้ตัดสินใจจะไปช่วยเพื่อนของเขาก่อน
ถึงแม้คู่นิโคลัสจะเก่งพอตัว และสามารถผ่านเควสได้ง่าย ๆ แน่ถ้าพวกเขารู้เทคนิค ทว่าด้วยจำนวนเควสที่แหวนเงินซึ่งเขาใส่อยู่นั้นรีกลับมาพอดี ชายหนุ่มจึงไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไป
หลังจากกลับมาที่วิหารแห่งแสง เซียวเฟิงก็ถามไฮพรีสเพราะเขาไม่รู้ว่าจะกลับไปยังที่เดิมได้ที่ไหน
“โอ้ เจ้านี่เอง เจ้าเอาผลตะวันแดงกลับมาได้ไหม?” ไฮพรีสที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องโถงถามเขา
“ยังไม่ได้เก็บมาเลย เพราะตอนที่ผมเข้าไปในป่ามันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น…” เซียวเฟิงเล่าเรื่องของลิชตัวนั้น และมอบแผนที่ประหลาดพร้อมกับผลตะวันแดง 20 ผลให้
“โอ้? นี่มัน…” ชายแก่มองแผนที่อย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีที่ได้อ่านข้อความบนนั้น
“เยี่ยมมากนักผจญภัยเอ๋ย! ทำได้ดีมาก! ข้าปลาบปลื้มกับความสามารถของเจ้าจริง ๆ! เจ้าเอาข้อมูลสำคัญกลับมาได้! พลังแห่งแสงจะต้องศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพราะเจ้าแน่ ๆ!”
เมื่อไฮพรีสบอกกับเขา เซียวเฟิงก็หวั่นเกรงว่าเควสของเขาน่าจะล้มเหลวไปแล้ว แต่ก็มีข้อความเหล่านี้ปรากฏขึ้นมา
“คุณไม่สามารถทำเควส [เก็บผลตะวันแดง] ได้สำเร็จและไม่ได้รับรางวัล!”
“คุณได้เปิดเควสเนื้อเรื่องแล้ว [สงครามพันล้านปีระหว่างแสงสว่างและความมืด]!”
มันคือเควสเนื้อเรื่อง!
เซียวเฟิงประหลาดใจมาก มันมีเควสมากมายในเกมมิธ แต่เควส ที่สำคัญที่สุดในเกมนี้ก็คือเควสเนื้อเรื่องซึ่งมันจะมีรางวัลให้มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นมันจะช่วยพัฒนาโลกของเกมไปได้อีกด้วย
“ท่านไฮพรีส ในนั้นมีอะไรกันแน่?” เซียวเฟิงถาม เขาอ่านภาษา ในแผนที่นั่นไม่ออกอยู่แล้ว
“นี่คือแผนการชั่วร้ายของเผ่าปีศาจ! ขอเชิญท่านนักผจญภัยตามข้ามา!” ไฮพรีสบอกและพาเซียวเฟิงไปยังด้านหลังของวิหารแห่งแสง โดยในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเรื่องราวที่ชายแก่คนนี้บอกมา
เมื่อไม่กี่วันก่อน กองทัพแสงที่สังกัดวิหารแสงในเมืองเทียนหลง ซึ่งนั่นรวมไปถึงไฮพรีสกับพวกพาลาดินได้พบกองกำลังแห่งความมืดใกล้ ๆ นี้ และพวกเขาไม่ยอมให้มีพวกโสโครกเหล่านั้นในพื้นที่นี้แน่ ๆ ดังนั้นจึงได้เข้าต่อสู้กัน และไฮพรีสเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ทว่าเพราะพวกปีศาจก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากกองทัพแสงเหมือนกัน ดังนั้นมันก็เหมือนกับแพ้ทั้งสองฝ่าย
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กองกำลังปีศาจคิดอ่านวางแผนจะลักลอบเข้ามาในป่ามู่กวาง และพวกมันก็ทำสำเร็จจนได้!
ตามที่ไฮพรีสบอกมา มีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ในป่ามู่กวางที่มีพลังแห่งแสงหนาแน่นคอยสนับสนุนอยู่ หากเมืองเทียนหลงต้องปะทะกับกองทัพปีศาจก็สามารถใช้มันได้
ทางฝั่งเซียวเฟิง เขาเองก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะผลตะวันแดงที่เขาใช้จัดการพวกปีศาจในนั้นก็รุนแรงใช่ย่อย