สกายอาจจะพูดถูก หลังจากสมาชิกส่วนใหญ่ของวอร์สปิริตฮอล์เปลี่ยนคลาสของพวกเขาและมาที่เมืองเซิงสุ่ยแล้ว พวกเขาย่อมสามารถฆ่าบอสตัวนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อถึงตรงจุดนั้น หัวหน้ากิลด์สามารถขอให้ผู้เล่นหนึ่งหมื่นคนเปลี่ยนกันรับดาเมจได้ แม้ว่าพวกเขาจะถูกฆ่าในทันที ศพของพวกเขาก็ยังสามารถขวางไม่ให้บอสวิ่งออกมาได้ !
แต่ในตอนนี้มีสมาชิกชั้นยอดของกิลด์น้อยกว่า 1,000 คนที่เปลี่ยนคลาสแล้ว มันจึงเป็นการยากที่จะต่อกรกับบอสเลเวล 30
แต่เซียวเฟิงก็เข้าใจความเร่งรีบของสกายเช่นกัน บอสเลเวล 30 มีโอกาสที่จะดรอปกิลด์โทเคน และจุดเกิดใหม่ของบอสนั้นก็อยู่ใกล้กับเมืองเซิงสุ่ย ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของกิลด์วอร์สปิริตฮอล์ จึงเป็นธรรมดาที่สกายอยากที่จะสังหารบอสตัวนี้
กิลด์โทเคนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการก่อตั้งกิลด์ ไม่ว่าสมาชิกกิลด์วอร์สปิริตฮอล์จะมีสักกี่คน พวกเขาก็เป็นเพียงแค่กองทรายกองหนึ่งจนกว่าที่จะได้รับการสถาปนา พวกเขาขณะนี้สามารถใช้ระบบก่อตั้งทีมกับระบบกระซิบได้เท่านั้น ทว่าหลังการสถาปนาของกิลด์ สมาชิกจะมีช่องทางพูดคุยของกิลด์ และสามารถที่จะรวมกันเป็นกิลด์ที่เหนียวแน่นได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ตัวนี้ก็อาจดรอปกิลด์โทเคนอันแรกของมิธ
นี่จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลถ้าสกายสามารถเป็นบุคคลแรกในเขตฮัวเซียที่ได้จัดตั้งกิลด์
มีผู้เล่นหลายร้อยล้านคน และกิลด์ขนาดใหญ่อีกนับไม่ถ้วนในเขตฮัวเซีย มันคือตลาดที่มีการแข่งขันสูง ถ้าเขาสามารถกลายเป็นบุคคลแรกที่ก่อตั้งกิลด์ได้สำเร็จ กิลด์วอร์สปิริตฮอล์ก็จะโด่งดัง และความแข็งแกร่งกับชื่อเสียงของกิลด์ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ผู้เล่นจะโหมเข้ามาเมื่อพวกเขาเปิดรับสมาชิกใหม่
นั่นเป็นผลดีของการมีชื่อเสียง กิลด์โทเคนอันแรกของเขตฮัวเซียนั้นเย้ายวนมาก มันยุติธรรมที่จะบอกว่ากิลด์โทเคนทำให้หัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่ในเขตฮัวเซียคลั่งไคล้ได้เลยทีเดียว!
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สกายจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และรีบเร่งอย่างมาก เขาตั้งใจที่จะฆ่าบอสตัวนี้ถึงแม้ว่ากิลด์ของเขาจะยังไม่แข็งแกร่งพอ!
“เตรียมพร้อมโจมตี! กลุ่มนักเวทย์และกลุ่มนักธนูต้องเตรียมตัวให้พร้อม!”
“พวกนั้นดึงบอสออกมาแล้ว! เริ่มกันเลย! ยิงมัน! ยิงไปที่บอส!”
ไนฟทำการป้องกันดาเมจเกือบสิบวินาที และดึงดูดความเกลียดชังของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์เอาไว้ทั้งหมด จากนั้นสกายก็ตะโกนสั่งให้ผู้เล่นคนอื่นโจมตีบอสยักษ์ในทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ทันใดนั้นฝนธนูก็ปรากฏขึ้นในทันทีราวกับฝูงตั๊กแตน! เสี่ยงหึ่งๆ เกิดขึ้น แล้วลูกศรหลายลูกก็ถูกสาดลงใส่ร่างของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์และเกิดการสั่นของอากาศ
ในขณะเดียวกันเมจหลายร้อยคนก็พลันโบกคทาพร้อมกัน ทำให้ยักษ์น้ำแข็งโดนกลบในกองลูกไฟ ลูกศรน้ำแข็ง และสายฟ้าอันหนาแน่น ทำให้ร่างสูงขนาดตึกสามชั้นของมันถูกปกคลุมไปด้วยสกิลอัน นับไม่ถ้วนในเวลาอันสั้น
-1!
พลาด!
-1!
คริติคอล! -2!!
พลาด!
พลาด!
…
ตัวเลขดาเมจจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนหัวของยักษ์น้ำแข็ง ผู้พิทักษ์นั่นในขณะนี้ราวกับควันที่เกือบจะรวมกันเป็นเมฆสีแดง แต่ดาเมจที่แท้จริงนั้นน้อยนิด ส่วนมากจะโจมตีไม่โดน และสกิลมากมายที่พุ่งลงไปบนตัวบอสก็ทำดาเมจได้เพียงหนึ่งเท่านั้น
แต่ถึงอย่างไรพลังชีวิตของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ก็ลดลงไปกว่า 100 ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สังเกตเห็นหลอดพลังชีวิตของบอสตัวนี้
– 71,875/72,000 –
มันยังเหลือพลังชีวิตอีกกว่า 70,000 ซึ่งนั้นมากกว่าพลังชีวิตของราชากระดูกทองคำ แต่นี่ก็ถือว่าปกติ เพราะบอสตัวนี้มีเลเวลสูงกว่าราชากระดูกทองคำถึง 10 เลเวล
“โจมตีใส่มันต่อไป! กลุ่มเมจต้องดูมานาไว้ให้ดี ระวังอย่าให้ขาดช่วงเด็ดขาด!”
“กลุ่มนักธนูต้องรีบทำดาเมจให้เร็วที่สุด! กลุ่มนักบวชจับตาดูพลังชีวิตของผู้เล่นแนวหน้า! กลุ่มนักรบต้องหาโอกาสเพื่อที่จะเข้าช่วยเหลือในเวลาที่เหมาะสม!”
เป็นที่เห็นได้ชัดว่าสกายนั้นไม่กลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังชีวิตอันมหาศาลของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ เขายังคงออกคำสั่งอย่างบ้าคลั่งต่อไป
เซียวเฟิงยังสังเกตเห็นว่าผู้เล่นชั้นสูงของวอร์สปิริตฮอล์มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง คลาสที่แตกต่างกันทำหน้าที่ของตัวเอง เป็นรูปแบบที่มีเสถียรภาพ และไร้ความสับสน นอกจากไนฟซึ่งเป็นผู้เล่นแนวหน้าเพียงคนเดียวก็ยังมีนักรบกว่า 200 คนที่ยืนอยู่รอบทะเลสาบน้ำแข็งคอยสนับสนุน ส่วนนักฆ่า และคลาสอื่นๆ ที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แบบกลุ่มก็ยืนอยู่รอบๆ ผู้เล่นที่อยู่ระยะไกลเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน
“อร๊ากก!” ยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์กรีดร้อง ใบหน้าของมันที่ดูเหมือนกับรูปสลักน้ำแข็งแสดงให้เห็นถึงความโกรธของมัน ก่อนจะเหวี่ยงขวานน้ำแข็งแล้วทุบมันลงไปยังไนฟที่อยู่ใต้เท้าของมัน
เปรี้ยง!
ขวานน้ำแข็งพลาดตัวของไนฟ กระเด็นทิ่มลงไปบนพื้นของทะเลสาบที่แข็งตัว ทำให้ชั้นน้ำแข็งของทะเลสาบที่เรียบราวกับกระจกแตกในทันที และรอยร้าวที่คล้ายกับใยแมงมุมก็ปรากฏขึ้นบนนั้นในขณะเดียวกันกับที่เศษน้ำแข็งมากมายกระจายออกไปในทุกทิศทาง
ไนฟหลบการโจมตีของยักษ์น้ำแข็งได้ แต่เขาก็ยังโดนสะเก็ดน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่ ซึ่งถึงแม้สะเก็ดน้ำแข็งจะถือว่าเล็กสำหรับยักษ์น้ำแข็ง แต่แท้จริงแล้วมีขนาดใหญ่พอๆ กับก้อนอิฐน้ำแข็งสำหรับพวกผู้เล่นเลยทีเดียว!
ก้อนอิฐน้ำแข็งสองก้อนกระเด็นโดนหัวของไนฟเต็มๆ แน่นอนว่าเขามึนอยู่หลายวินาที แต่พลังชีวิตของเขาก็กลับมาเต็มในทันทีหลังจากได้รับการรักษาจากกลุ่มนักบวชที่แข็งแกร่ง ไนฟส่ายหัวเพื่อรักษาสติของเขาเอาไว้ และจากนั้นก็รีบกลิ้งผ่านหว่างขาของยักษ์น้ำแข็งมาปรากฏตัวขึ้นข้างหลังตัวของยักษ์ …เขาหลบเท้าอันมหึมาของยักษ์น้ำแข็งได้สำเร็จ!
พลาด!
-1!
-1!
…
ตัวเลขดาเมจอันนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนหัวของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ราวกับว่ามีใครบางคนโยนระเบิดควันสีแดงไปบนหัวของบอสตัวนี้ ตัวเลขดาเมจมากมายรวมตัวกันเป็นเมฆ สีแดง และพลังชีวิตของยักษ์น้ำแข็งก็ถูกลดลงไปแล้ว 2,000 ถึง 3,000
“พวกเราลดพลังชีวิตมันได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์แล้ว! ไนฟ! นายถอยออกมาได้เลย! ทีมรับช่วงต่อทีมแรกต้องผลัดกันโจมตีบอส! และพวกนายก็ไม่จำเป็นต้องกลับมาหลังจากที่นายถูกฆ่า! ใช้เวลานั้นไปทำภารกิจเพื่อเอาค่าประสบการณ์ที่พวกนายเสียไปกลับคืนมาดีกว่า!”
ภายใต้การโจมตีอันหนักหน่วงของผู้เล่นมากมายหลายคน พลังชีวิตของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ก็ถูกทำให้ลดลงไป 10 เปอร์เซ็นต์หรือเท่ากับ 7,200 หน่วยในเวลาน้อยกว่า 10 นาที แต่พลังชีวิตที่ลดลงก็หมายความว่ายักษ์น้ำแข็งกำลังจะเริ่มใช้สกิลของมันแล้วเช่นกัน!
ไนฟถอยหนีในทันที ในฐานะที่เขาเป็นนักรบโล่คนเดียวที่สามารถทนต่อการโจมตีของบอสตัวนี้ได้ เขาจึงต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีครั้งนี้ ทิ้งให้ผู้เล่นคนอื่นต้องต้านสกิลของบอสตัวนี้ด้วยชีวิตของพวกเขา!
กลุ่มของผู้เล่นที่ได้เตรียมตัวพร้อมแล้วเดินออกมาข้างหน้า มีผู้เล่นห้าคนและไม่ใช่ทุกคนที่มีคลาสเป็นนักรบ หนึ่งในนั้นเป็นนักฆ่าและอีกสองคนเป็นเมจ พวกเขาทุกคนดูใจเย็นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย
คนแรกเป็นนักรบ เขาพยักหน้าให้กับไนฟ และรีบวิ่งเข้าไปแทนที่ไนฟในทันที นักรบเถื่อนคนนั้นวิ่งเข้าไปชนบอส ในขณะเดียวกันจืออี้ก็ได้ใช้สกิลอวยพรชีวิตกับนักรบเถื่อน แต่เธอรู้อย่างแน่นอนว่าการเพิ่มพลังนี้นั้นไม่พอที่จะช่วยชีวิตของเขาได้
“ฮึมมมม!”
นักรบคนนี้กลายเป็นเป้าหมายของยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ในทันที มันเปิดปากอันใหญ่โตของมันและสูดหายใจราวกับลมพายุ หอบเอาน้ำแข็ง และหิมะที่มองเห็นได้เข้าไปในตัวของมัน ก่อนจะเป่าและพ่นพายุนั้นออกมา พายุอันหนาวเหน็บออกปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างไร้มุมอับ มันไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้ และนักรบเถื่อนคนนั้นก็ถูกแช่แข็งด้วยอากาศอันหนาวเย็นจนกลายเป็นรูปสลักในทันที เขาถูกฆ่าด้วยดาเมจที่มากกว่า 500 และกลายเป็นศพ ก่อนที่แสงสีขาวจะสว่างจ้าเพื่อบอกให้รู้ว่าชายคนนั้นถูกส่งกลับไปยังเมืองหลักแล้ว!
“เฮ้! เจ้าโง่น้ำแข็ง มองมาทางนี้!”
ไนฟออกไปข้างหน้าในทันทีที่ยักษ์น้ำแข็งหยุดใช้สกิลของมัน เขาเควี้ยงดาบและโล่ที่อยู่ในมือลงใส่เท้าทั้งสองข้างของยักษ์น้ำแข็ง ทำให้สะเก็ดน้ำแข็งกระเด็นไปทั่ว
“ฮึมมมม!”
ยักษ์น้ำแข็งกลับมาเกรี้ยวกราดอีกครั้ง มันใช้วิธีเดียวกันนี้ในการโจมตีไนฟ ด้วยการยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นและกะจะเหยียบลงไปที่ตัวของไนฟ แต่บอสนั้นมีขนาดใหญ่มากและใช้เวลานานในการเคลื่อนที่ ไนฟจึงสามารถใช้โอกาสนี้หลบออกมา แต่พื้นของทะเลสาบกลับแตกออกอีกครั้ง
เปรี๊ยะ!
เมื่อยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์กำลังใช้สกิลของมัน การโจมตีของผู้เล่นพลันถูกหยุดไปก่อนที่จะกลับมาเริ่มขึ้นอีกครั้ง ร่างของบอสยักษ์ถูกคลุมรอบไปด้วยสกิลหลายอย่าง และพลังชีวิตของมันก็ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง
วอร์สปิริตฮอล์ชำนาญในการใช้เทคนิค และจัดเป็นกิลด์ที่ทรงพลังอย่างแน่นอน สมาชิกของกิลด์มีประสบการณ์มากมายในการรับมือกับบอส และหัวหน้ากิลด์ก็กล้าที่จะโจมตีบอส ซึ่งถึงแม้มีเพียงแค่ไนฟเท่านั้นที่เกือบจะต้านทานดาเมจของบอสไว้ได้ก็ตามที แต่ไนฟเองก็สามาถต้านได้เพียงการโจมตีปกติของบอสเท่านั้น เขาจะถูกฆ่าด้วยสกิลของมันอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อพลังชีวิตของไนฟลดลงเป็นจำนวนมากและบอสเกือบจะใช้สกิลของมัน ไนฟจะถอยออกมาในทันที และนักรบคนอื่นจะเข้ามาแทนที่เพื่อต้านดาเมจของสกิลจากบอสด้วยชีวิตของพวกเขา โดยหลังจากที่สกิลของบอสจบลง ไนฟก็จะวิ่งเข้าหาบอสอีกครั้ง
จากการสังเกตการต่อสู้ที่ดุเดือดกับบอสตัวนี้ เซียวเฟิงรู้สึกได้ว่าเขาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทั้งรู้สึกตื่นเต้น และหมกมุ่นอยู่กับความคิด เพราะแม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ แต่เขาก็เล่นเกมนี้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นการต่อสู้แบบทีมครั้งนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมให้กับเขา ทำให้ชายหนุ่มสนใจมันเป็นอย่างมาก
แต่เซียวเฟิงก็ยังอยากจะรู้ว่ากิลด์วอร์สปิริตฮอล์จะทำอย่างไรต่อไป เพราะยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ยังมีพลังชีวิตอีก 90 เปอร์เซ็นต์ และมันจะต้องมีสกิลอีกมากมายรวมถึงสกิลขั้นวิกฤติ ไนฟทำได้เพียงต้านทานการโจมตีแบบปกติของมันอย่างยากเย็น และเหลือกำลังเสริมอีกเพียงสี่กองเท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถต้านดาเมจของยักษ์น้ำแข็งได้!
“พวกเรา พลังชีวิตของมันลดลงไป 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว! ไนฟถอยออกมาได้แล้ว! กำลังเสริมรีบๆ วิ่งเข้าไปแทนที่เขาเร็วเข้า!”
เวลาสิบนาทีผ่านไป และพลังชีวิตของยักษ์น้ำแข็งก็ลดลงไปอีก 10 เปอร์เซ็นต์อีกหน สกายจึงออกคำสั่งให้ไนฟถอยออกมาอีกครั้ง เปิดให้ผู้เล่นเมจคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหาบอส
จืออี้ไม่แม้แต่จะอวยพรชีวิตให้กับผู้เล่นคนนี้ ทุกคนรู้ดีว่าผู้เล่นเมจนั้นบอบบางและมีพลังชีวิตที่น้อยนิด ดังนั้นเมจคนนี้จึงไม่มีทางที่จะถูกช่วยไว้ได้ ทุกคนได้แต่หยุดการโจมตี และมองเมจนั่นโดนสกิลของบอสฆ่าอย่างไม่มีทางช่วยเหลือได้
…
“พวกเราลดพลังชีวิตของมันลงไป 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว! ไนฟ! กำลังเสริมรีบวิ่งเข้าไปแทนที่!”
…
“พวกเราลดพลังชีวิตของมันลงไป 40 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไนฟ! กำลังเสริม….!”
…
ภายใต้การโจมตีอันดุเดือด พลังชีวิตของยักษ์น้ำแข็งยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และอีกไม่นานพลังชีวิตของมันจะถูกลดลงไปถึงครึ่ง ซึ่งทุกคนต่างรู้ว่าพวกเขาต้องเผชิญกับบททดสอบที่ใหญ่มากขึ้นนับจากนี้ เพราะบอสจะใช้สกิลที่โหดๆ เมื่อพลังชีวิตของมันต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
พลังป้องกันของบอสจะลดลงเมื่อมันดุร้าย ดังนั้นนี่จึงนับเป็นโอกาศที่ยอดเยี่ยมในการทำดาเมจ ผู้เล่นที่มีคลาสดาเมจทั้งหมดจะใช้สกิลของพวกเขาในตอนนั้น
แต่ในขณะเดียวกัน พลังโจมตีของบอสและความเร็วในการโจมตีก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในระหว่างที่อยู่ในสถานะดุร้ายอีกด้วย …บอสตัวนี้มีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว มันจะสามารถฆ่าผู้เล่นได้ในทันทีแน่นอนหลังจากเข้าสู่สถานะดุร้าย!
ซึ่งในตอนนั้นมันคงจะอันตรายอย่างมากสำหรับไนฟที่แทบจะไม่สามารถทนต่อการโจมตีของบอสได้เลย
“มันเหลือพลังชีวิตแค่ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้ไนฟรีบๆ ถอยออกมา! หนีออกไปที่ขอบของทะเลสาบน้ำแข็ง! ส่วนกำลังเสริมจงชะลอบอสเอาไว้! ได้โปรดทนต่อไปอีกหน่อย! หวังว่าบอสจะไม่ใช้สกิลที่รุนแรงเกินไป!” สกายดูมืดมน เขามองไปยังผู้เล่นคลาสมือสังหารคนสุดท้ายของกลุ่มกำลังเสริม