“ดึงความสนใจของพวกมันให้แตกกลุ่มกันได้ไหม?”
ซอดออฟไดนัสตี้ขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา มอนสเตอร์ที่อยู่ในโซนจะมีความสามารถที่สูงกว่ามอนสเตอร์ระดับเดียวกันแบบปกติ อีกอย่างการโจมตีของมันก็ยังมาพร้อมกับสถานะเผาไหม้ แถมแนวหน้าของทีมยังมีกันแค่ 2 คนอีกต่างหาก …แบบนี้มันยากเกินไป!
“มีแต่ต้องลองเท่านั้น เราไม่รู้ระยะการโจมตีของพวกมันก็จริง แต่มันอยู่กันค่อนข้างกระจาย เราอาจจะสามารถแยกพวกมันออกจากกันได้ นักธนูอายุ 17 ช่วยโจมตีใส่พวกมัน ไนฟจะดึงพวกมันออกไปตอนที่มันเข้ามา แล้วถ้าเกิดว่าพลาดล่ะก็ซอดออฟไดนัสตี้จะต้องเข้าไปลากพวกมันออกไปสัก 2 ตัว ส่วนท่านไนท์ คูนเนอร์ก็ให้จัดการพวกมันตัวหนึ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แนวหลังจะคอยสนับสนุนเอง” เล่าสวีวางแผนให้อย่างรวดเร็ว
“ได้”
“ไม่มีปัญหา”
“งั้นช่วยเสริมพลังให้กับเขาที ท่านฮีลเล่อร์ใช้อวยพรชีวิตให้กับไนฟที ส่วนจืออี้ก็คอยช่วยซอดออฟไดนัสตี้แล้วกัน” เล่าสวีพูดแล้วก็พยักหน้า
“เขาใช้สกิลนั้นไม่ได้ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ท่านหัวหน้าของมิดซัมเมอร์รบกวนส่วนของซอดออฟไดนัสตี้ด้วย” จืออี้พูดทันทีที่ได้ยินคำแนะนำของเล่าสวี
“อะไรนะ? ท่านฮีลเลอร์ไม่มีสกิลอวยพรชีวิต?” คนอื่นๆ นอกจากไนฟกับจืออี้ต่างพากันตกใจ
“พอดียังเรียนไม่ได้น่ะ” เซียวเฟิงพูดออกมาอย่างราบเรียบ
“จากการที่เขาไปถึงอันดับสูงๆ ได้ด้วยตัวเอง ทำให้สกิลที่เขาเลือกเลยค่อนข้างต่างจากทั่วๆ ไปน่ะ…”
“น่าเสียดาย! ท่านฮีลเลอร์เป็นนักบวชที่อยู่อันดับบนสุดของเกมเลยนะ แถมยังสามารถปลดคลาสลับได้อีก… เฮ้อ”
“…. ท่านหัวหน้าของกิลด์มิดซัมเมอร์ รบกวนด้วยครับ” เล่าสวีขออีกฝ่ายอย่างจำใจ โชคดีที่โรสก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอทำตามที่ฝ่ายตรงข้ามร้องขออย่างง่ายๆ
ทั้งไนฟและซอดออฟไดนัสตี้ได้รับการเสริมพลังเรียบร้อย ตอนนี้พลังชีวิตของไนฟอยู่ที่ 240 หน่วย ส่วนของซอดออฟไดนัสตี้อยู่ที่ 200 หน่วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณไอเทมระดับเขียวของโรส
“ท่านฮีลเลอร์ได้เรียนสกิลอวยพรอาวุธกับอวยพรกล้ามาหรือเปล่า?” เล่าสวีถามเซียวเฟิงอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ไม่ต้องห่วง ยังไงฉันก็ยังเป็นคลาสนักบวชอยู่นะ” เซียวเฟิงยิ้มให้ ทำให้เล่าสวีเลยโล่งใจในทันที
“ท่านฮีลเลอร์ ช่วยเสริมความแกร่งด้วยอวยพรอาวุธให้กับไนท์ คูนเนอร์ แล้วก็อวยพรความกล้าให้เพลิงอมตะที จืออี้คอยช่วยนักธนูอายุ 17 ส่วนหัวหน้าของกิลด์มิดซัมเมอร์ฝากทางกลอรี่แอโรลว์ แล้วหลังจากนี้ช่วยจัดการเรื่องสนับสนุนด้วย นักบวชต้องคอยจัดการเวลาของบัฟด้วย ถ้าเกิดว่าบัฟหายไปก็เพิ่มใหม่ให้เร็ว” เล่าสวีสั่งงานให้ทุกๆ คนทันที ซึ่งนี่ก็เป็นแผนการที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับทีม และทุกคนก็เห็นด้วย
จืออี้กับโรสพยักหน้าแล้วโบกไม้เท้าเพื่อบัฟให้กับคนที่ได้รับหน้าที่
เซียวเฟิงวาดคทาแห่งการรักษา ทำการใช้อวยพรอาวุธให้กับไนท์ คูนเนอร์ แล้วเธอก็วิ่งไปยังแนวหน้าทันที หากแต่หญิงสาวกลับเดินโซเซแล้วก็ล้มลงกับพื้น เธอหันกลับไปทางเซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจ เหมือนกับกำลังมองพวกมอนสเตอร์อยู่
ชายหนุ่มร่ายอวยพรอาวุธครั้งที่ 2 ให้กับเพลิงอมตะทันที เขาเป็นคลาสนักเวทย์อยู่คนเดียวในปาร์ตี้ ทั้งยังเล่นเป็นจอมเวทย์ธาตุไฟอีกด้วย
“ว้าว!” เพลิงอมตะร้องออกด้วยความประทับใจ เสียงตะโกนของเขาดังสะท้อนไปทั่วทั้งถ้ำ ทำให้พวกสลาแมนเดอร์ที่อยู่ตรงนั้นหันมาสนใจทางนี้ทันที
“จะตะโกนทำไมเนี่ย? ฉันตกใจหมดไอ้โง่!” ซอดออฟไดนัสตี้ที่กำลังจะลอบโจมตีพวกสลาแมนเดอร์โพล่งขึ้นมาทันที เพราะเขาตกใจกับเสียงตะโกนนั่นที่ทำให้เสียจังหวะ
“มีอะไร?” เล่าสวีถามขึ้นมา
“ฉัน… อ่อ…” เพลิงอมตะพูดตะกุกตะกัก เขามองไปที่หน้าต่างค่าสถานะของตัวเองและมองไปทางเซียวเฟิงแล้วกลืนน้ำลายก่อนพูดออกมา “ท่านฮีลเลอร์… เพิ่มพลังเวทย์ให้ได้ตั้ง 110 หน่วยแน่ะ!”
“พูดอะไรของนายน่ะ? 110 หน่วย? ตาฝาดหรือไง?”
หลังจากที่ได้ยินทุกคนก็ตะลึงงันไป พวกเขาต่างจ้องไปทางเซียวเฟิงด้วยสายตาประหลาดใจ
“นี่แน่ใจป่ะเนี่ย ขอดูหน่อย” แน่นอนว่าเพลิงอมตะเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ระบบไม่มีทางที่จะผิดพลาดได้ เขาส่งหน้าต่างสถานะของตนเองให้คนอื่นดูทันที
“เห้ย! ค่าพลังโจมตีเวทย์มากกว่า 170 หน่วย! เจ๋งสุดๆ เลย! ระดับนี้สามารถจัดการมอนสเตอร์ได้ในครั้งเดียวเลยนะ!”
“พลังเวทย์ของเขาเพิ่มขึ้นมามากกว่า 100 หน่วย! ท่านฮีลเลอร์เพิ่มค่าสถานะโดยเน้นค่าความฉลาดใช่ไหม?”
พวกเขาจ้องมาทางเซียวเฟิงแล้วก็มองไปที่ค่าสถานะของเพลิงอมตะด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“อ่า แบบนั้นแหละ” เซียวเฟิงพูดออกมาตรงๆ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้นซะทีเดียว ในตอนแรกเขาเน้นเพิ่มค่าพละกำลังเพื่อใช้ในการโจมตี แล้วต่อมาเขาก็เพิ่มค่ามานาเพื่อให้ใช้สกิลแสงศักดิ์สิทธิ์ได้ถี่ยิ่งขึ้น
แล้วหลังจากที่เปลี่ยนคลาสเป็น ‘ผู้ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์’ พลังในการรักษาและเสริมพลังก็เพิ่มมากขึ้นด้วยผลจากสกิลที่มี ตอนนี้เขาน่าจะเก่งกว่าพวกเอลฟ์เสียอีก
และอีกอย่าง… ไอเทมของเขาก็ถือว่าดีที่สุดในเขตฮัวเซียแล้ว
ไนท์ คูนเนอร์ที่ยืนอยู่ก็เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พอมองไปทางคนอื่นที่ต่างอุทานและตะโกนออกมาเธอก็เงียบปากแล้วยืนดูค่าสถานะของตัวเองอย่างเงียบ ๆ
“จากผลของสกิลอวยพรอาวุธ พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 150 หน่วยเป็นระยะเวลา 60 วินาที”
เธอเองก็เกือบจะอุทานออกมาเหมือนกันตอนที่เห็น แต่ก็เงียบเอาไว้ได้ทัน
“เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย พลังของท่านฮีลเลอร์เจ๋งอย่างไม่ต้องสงสัย และฉันก็เชื่อว่าพวกเราจะต้องเคลียร์โซนได้สำเร็จเป็นทีมแรกแน่!”
ว่าแล้วพวกเขาก็เริ่มทำตามแผนทันที นักธนูอายุ 17 ยิงธนูออกไปหาพวกมอนสเตอร์ ลูกธนูทั้งหมดเข้าที่หัวของพวกสลาแมนเดอร์ทำให้พวกมันพากันมาทางนี้ทันที
-57!
“ดึงความสนใจมาได้ 6 ตัว! ดีมาก! อีก 4 ตัวฝากด้วย! ที่เหลือฉันเอง!” ดวงตาของไนฟเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น แล้วเขาก็รับมือกับสลาแมนเดอร์อีก 6 ตัวที่พุ่งเข้ามาหาตนเองทันที
“เดี๋ยวทางฉันจัดการให้ 1 ตัว ส่วนอีกตัวทางท่านไนท์ คูนเนอร์จะรับมือเอง” ซอดออฟไดนัสตี้เองก็ใช้สกิลดึงความสนใจของสลาแมนเดอร์มาทางเขา 1 ตัวเช่นกัน
ไนท์ คูนเนอร์นำหน้าออกมาเพื่อจัดการตัวที่เหลือ เธอกำมีดในมือแน่นแล้วจัดการกับมันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน หญิงสาวพุ่งหลบทันทีที่สลาแมนเดอร์โจมตีเข้ามา ก่อนที่มีดสั้นในมือจะพุ่งใส่หลังของสลาแมนเดอร์ราวกับลำแสงสีเงิน
-201!
-137!
ตัวเลขความเสียหายจำนวนมหาศาลโผล่ขึ้นมาเหนือหัวของสลาแมนเดอร์
“โห! นั่นเจ๋งเลย! ไนท์ คูนเนอร์ลดพลังชีวิตมันไปได้ 1 ใน 3 ในครั้งเดียวเลย!”
“สมกับที่เป็นไนท์ คูนเนอร์… เขาเจ๋งจริงๆ!”
เพลิงอมตะกับกลอรี่แอโรลว์ที่กำลังจะมาช่วยไนท์ คูนเนอร์จัดการสลาแมนเดอร์ชะงักไป พวกเขามองไปที่พลังชีวิตของสลาแมนเดอร์ที่ลดลงไป 1 ใน 3 ในชั่วพริบตา
“ความเสียหายสูงมาก! มากกว่า 200 หน่วยอีก!”
นักธนูอายุ 17 เองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะทั้งนักธนูและมือสังหารต่างก็เน้นค่าสถานะของตัวเองไปที่ค่าพละกำลังและค่าความว่องไว เพราะฉะนั้นพลังโจมตีจึงควรจะไม่แตกต่างกันมาก และไนท์ คูนเนอร์ก็น่าจะมีไอเทม ค่าสเตตัส และเลเวลที่ไม่ต่างกับพวกเขามากนัก
แต่อีกฝ่ายกลับสามารถลดพลังชีวิตของมอนสเตอร์ลงไปได้ 1 ใน 3 ในครั้งเดียว!
ถึงจะใช้สกิล แต่ความเสียหายก็ไม่ควรที่จะมากขนาดนั้น!
แต่พวกเขาไม่ได้รู้ว่าเจ้าตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันกับตัวเลขความเสียหายที่ปรากฏขึ้นมา เพราะมันเป็นอะไรที่เธอไม่สามารถทำได้! หญิงสาวมองไปทางเซียวเฟิงด้วยอารมณ์ที่หลากหลายพร้อมกับหลบการโจมตีสวนกลับของพวกสลาแมนเดอร์ไปด้วย
“ไนท์ คูนเนอร์นี่เก่งจริงแหะ ดูท่าว่าจะเข้าท่ามากเลยนะเนี่ย มีหวังในอนาคตคงจะโด่งดังขึ้นไปกว่านี้อีกแน่” เล่าสวีเองก็ตะลึงเหมือนกัน เขาลอบมองเซียวเฟิงแล้วหันไปมองทางโรสพร้อมกับรอยยิ้ม
“เคยได้ยินมาว่าไนท์ คูนเนอร์เข้าร่วมกับมิดซัมเมอร์ ซึ่งจากที่เห็น คนทั้งสองก็ดูจะทำงานเข้าขากันดีนะเนี่ย”
เขารู้สึกตื่นเต้นกับข่าวใหญ่ครั้งนี้
โรสพยักหน้ายอมรับเรื่องที่ไนท์ คูนเนอร์เข้าร่วมกิลด์ อันที่จริงไนท์ คูนเนอร์ถือเป็นไพ่ตายของกิลด์ด้วยซ้ำ!
“ฮ่าฮ่า ยินดีด้วย! การที่ท่านไนท์ คูนเนอร์ได้เข้าร่วมกับมิดซัมเมอร์แบบนี้ นี่มันก้าวใหญ่ของวงการเลยนะเนี่ย!”
ดวงตาของเล่าสวีเปล่งประกาย ก่อนที่เขาจะโค้งให้กับโรส
“คุณเล่าสวีสุภาพเกินไปแล้ว ครั้งหน้าเราคงจะต้องขอความช่วยเหลือเหมือนกัน”
โรสพูดตอบกลับอย่างสุภาพ ทำให้บรรยากาศเย็นชาน่าอึดอัดหายไปในทันที
ตอนที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ สลาแมนเดอร์ตัวแรกก็ตายจนได้ เพราะไนท์ คูนเนอร์นั้นสร้างความเสียหายได้มาก ทำให้พลังชีวิตอีกครึ่งของมันหมดลงอย่างรวดเร็ว
ไนท์ คูนเนอร์พุ่งไปจัดการตัวที่สองซึ่งไนฟกำลังรับมืออยู่ในทันที ส่วนนักธนูอายุ 17 ที่รู้สึกประทับใจในการโจมตีของเธอ เขาตัดสินใจที่จะปล่อยหญิงสาวไว้คนเดียวแล้วหันไปช่วยซอดออฟไดนัสตี้แทน
หลังจากนั้นไม่นานสลาแมนเดอร์ทั้ง 6 ตัวก็ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว และแม้จะเหลือพวกมันอีก 4 ตัว ทว่าพวกมันก็ถูกจัดการลงทีละตัวๆ ก่อนที่พวกเซียวเฟิงจะเดินลงไปยังชั้นต่อไป
นอกจากพวกสลาแมนเดอร์ก็ยังมีมอนสเตอร์ขนาดเล็กๆ อีก 2 กลุ่ม แต่ด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงมาก พวกมันจึงตายอย่างรวดเร็ว โดยส่วนมากเป็นฝีมือของไนท์ คูนเนอร์กับเพลิงอมตะ
หลังจากที่จัดการพวกมอนสเตอร์ไปได้ 3 กลุ่ม พวกเขาก็มาถึงห้องบอสจนได้ ดังนั้นคนทั้งหมดจึงติดต่อกับอีกทีมถึงความคืบหน้า แต่ทว่าอีกทีมยังไม่ถึงไหนเลย ดังนั้นหลายๆ คนในทีมจึงเสนอขึ้นว่าควรจะเข้าไปจัดการบอสเลยเพื่อไม่ให้เสียเวลา!
“พวกเราไม่ต้องรอพวกเขาหรอก ลุยกันเลย”
พวกเขาอยู่ที่ด้านหน้าของถ้ำ มันเป็นโพรงขนาดใหญ่… ใหญ่ยิ่งกว่าถ้ำของพวกสลาแมนเดอร์เสียอีก มันใหญ่เสียจนพวกเขาสามารถเห็นร่างของบอสได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว!