บทที่ 89 กากอะ
“เฮ้ย!”
“ประมาทไป!”
“จัดการพวกลูกน้องก่อน! ไม่งั้นพวกเราก็จัดการบอสไม่ได้แน่ ๆ!”
ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาตะโกนบอกทุกคนให้เลี่ยงไปจัดการพวกมนุษย์ต้นไม้ก่อน
แต่พวกมันมีพลังชีวิตมากกว่า 1,000 หน่วย การจัดการอย่างรวดเร็วจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนพลังชีวิตของบอสนั้นก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยไม่รีรอเลยแม้แต่น้อย
“ห่านเอ๊ย!”
“เราทำความเสียหายได้ไม่มากพอ! พลังชีวิตมันกลับมาที่ 20% แล้ว!”
ไนฟตะโกนออกมา เพราะเขาเน้นการป้องกัน ค่าความเสียหายที่ทำได้จึงไม่มากเท่าไหร่
“เรามาช่วยแล้ว! อดทนไว้!”
แต่ในตอนนั้นเสียงฝีเท้าจำนวนมากก็มุ่งมาทางนี้ และกลุ่มคนที่ตายไปก่อนหน้าทั้ง 14 คนก็ได้ตามมาสมทบแล้ว!
“มาได้จังหวะพอดี! จัดการพวกมนุษย์ต้นไม้ก่อนเร็ว!” ไนฟตะโกนออกมาด้วยความยินดี
พวกเขาลงมือทันทีโดยไม่ได้รีรอ แล้วก็มีแสงและสีของสกิลต่างๆ วูบวาบกันเต็มไปหมด
ด้วยจำนวนคนที่มากขึ้น มนุษย์ต้นไม้จึงไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้และถูกจัดการไปอย่างรวดเร็ว
“พลังชีวิตของบอสหยุดเพิ่มแล้ว! จัดการมันได้เลย!”
แต่อย่างไรก็ตามพลังชีวิตของบอสก็เพิ่มขึ้นไปกว่า 15% โชคยังดีที่ตอนนี้มันไม่มีสกิลอื่นๆ อีกแล้ว และยังถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากกลุ่มคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาวะที่พร้อมสุดๆ อีกด้วย
“เร็วเข้า! ใกล้ความเป็นจริงแล้ว!”
ในที่สุดพลังชีวิตของบอสก็หมดลง มันสลายไปในที่สุดพร้อมกับดรอปไอเทมจำนวนนับไม่ถ้วนมาให้
ซึ่งก็เป็นเล่าสวีที่รับหน้าที่เก็บไอเทมทั้งหมด เพราะเขาไม่ได้ต้องการไอเทมพวกนั้น คนอื่นๆ จึงไว้ใจให้เขาทำงานนี้
“5 เหรียญทอง ของระดับทอง 1 ชิ้น ของระดับเงิน 2 ชิ้น ของระดับน้ำเงินอีก 3 ชิ้น”
ไม่แปลกใจที่บอสรยางค์ต้นไม้จะให้ของระดับสีทองกับพวกเขา ดวงตาทุกคู่ต่างจ้องไปทางไม้เท้าสีทองในมือของเล่าสวี
รากพฤกษาอัคคี
คุณภาพ: ทอง
ประเภทของสวมใส่: ไม้เท้า 2 มือ
เลเวล: 15
ข้อจำกัดของสวมใส่: ค่าความฉลาดมากกว่า 75
คุณสมบัติ:
พลังโจมตีเวทย์ + 20
อัตราคริติคอลเวทย์ +5%
ค่าความแข็งแกร่ง +17
ค่าความว่องไว +17
ค่าความทนทาน +17
ค่ามานา +23
ค่าความฉลาด +23
สกิล
[เชื้อเพลิงผลาญ] ตีตราสัญลักษณ์เพลิงบนเป้าหมาย 10 วินาที แล้วเป้าหมายจะเสียพลังชีวิต 1% ทุกๆ วินาที หลังจากหมดระยะเวลาสัญลักษณ์จะระเบิดสร้างความเสียหายอีกครั้งตามจำนวนความเสียหายที่ทำได้ระหว่างที่ติดสัญลักษณ์
“โห! นี่มันสุดยอดเลยนะเนี่ย!”
ทุกคนมองอาวุธชิ้นนั้นด้วยความปีติ ถึงจะมีสกิลแค่อย่างเดียวแต่ก็เป็นสกิลที่สมกับระดับของอาวุธแล้ว
มันสามารถสร้างความเสียหายได้ 10% ของพลังชีวิตเป้าหมายแถมยังทำความเสียหายเพิ่มเติมด้วย เป็นอาวุธที่ดีมากในการจัดการกับบอส!
เพลิงอมตะจ้องมองมันด้วยความกระตือรือร้น เพราะเขาเป็นนักเวทย์สายไฟ ไม้เท้าอันนี้จึงเหมาะกับเขามาก
“งั้นแบ่งเหรียญทองกันก่อน ส่วนไม้เท้าอันนี้ก็ใช้วิธีทอยเต๋า คนที่แต้มสูงที่สุดจะได้ไป เอาแบบนี้นะ?” เล่าสวีบอกออกมา
“แต่พวกเราเป็นคนที่ออกแรงมากกว่าคนที่ตายไป 14 คนนั้นนะ ไม่คิดว่ามันลำเอียงไปหน่อยหรือไง?”
พวกคนที่มองไม้เท้าอยู่ย้ายสายตาอันเคร่งเครียดมาทางฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาที่พูดอย่างเย็นชาทันที
เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าด้วยกันทั้งนั้น ทำให้ไม่มีใครพอใจในสิ่งที่ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาพูด
“ถ้าแกมีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้น แกคงคิดว่าตัวเองจัดการบอสด้วยตัวคนเดียวได้สินะ” ซอดออฟไดนัสตี้เป็นคนแรกที่ตอบโต้เขา
“ใช่แล้ว! ทุกคนในนี้ก็ช่วยกันทั้งนั้น ถึงนายจะทำผลงานที่มากกว่าคนอื่นๆ ก็จริง แต่เรื่องไอเทมนายไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจคนเดียว เราไม่ใช่ทาสชั้นเลวนะ” นักเวทย์อีกคนพูดเสริม เพราะเขาเป็นถึงรองหัวหน้ากิลด์ เขาจึงไม่ได้เกรงกลัวฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินดังนั้นฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาก็ทำหน้าเหี้ยมเกรียมในทันทีจนเล่าสวีต้องเข้ามาห้ามทัพ
“ท่านพาลาดินแห่งการรักษา การแบ่งของแบบนี้เป็นวิธีที่แฟร์ที่สุดและทุกคนก็ควรทำตาม ทุกคนจะได้ของจากการสุ่มเท่านั้น อย่างเช่นในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่อย่างงั้นมันก็จะไม่แฟร์กับไนท์ คูนเนอร์ กับนักธนูอายุ 17 ที่ทำผลงานได้เยอะเหมือนกัน”
เพราะสิ่งที่เล่าสวีพูดถูกต้อง และฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาก็ไม่สามารถทำอะไรเล่าสวีในที่สาธารณะได้ เขาเลยต้องยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างเงียบๆ
“งั้นทุกคนก็ยอมรับข้อเสนอ ผู้เล่นที่เป็นนักบวช และนักเวทย์ทอยเต๋าตัดสินได้เลย ใครจะเป็นคนเริ่ม?” เล่าสวีพูดแล้วมองไปรอบๆ
“งั้นฉันเริ่มก่อน!”
เซียวเฟิงว่าแล้วก็ทอยเต๋าในทันที
98!
หลังจากลูกเต๋าหยุด เซียวเฟิงก็เอาแต่มองผลลัพธ์ที่ออกมาด้วยความพึงพอใจ
คนอื่นๆ ที่เห็นอย่างงั้นก็มองไปทางเซียวเฟิงด้วยใบหน้าคร่ำเครียด
“งั้นตาฉันแล้ว!” เพลิงอมตะทอยเต๋าออกไปด้วยความกังวล แล้วพอลูกเต๋าหยุดเขาก็ช็อกทันที
23!
“กาก!” เซียวเฟิงโพล่งออกมาแล้วยืนกอดอกอย่างสบายใจ
“ตาฉัน!” จืออี้ทอยออกไปด้วยท่าทางที่ท้าทาย แล้วพอผลลัพธ์ออกมาหน้าสวยๆ นั่นก็ค้างไปในทันที
9!
“ฮ่า โคตรกาก” เซียวเฟิงพูดออกมาโดยไม่ได้มองผลลัพธ์ด้วยซ้ำ
ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาทอยเต๋าออกไปเงียบๆ ถึงเขาจะเป็นพาลาดินที่ใช้ค้อนแล้วก็ไม้คทา แต่เขาก็สามารถใช้ไม้เท้า 2 มือได้ด้วย ถึงจะไม่ค่อยเข้ากันก็ตาม ซึ่งคนอื่นๆ ต่างก็มองตามโดยไม่ได้พูดอะไร
แต่ดวงของเขาก็ยังไม่ดีพอ หน้าเต๋านั้นออกมาเป็น 27
“กากๆ น่า” เซียวเฟิงพูดโดยไม่ได้หันหน้ามามอง และฉันคือพาลาดินแห่งการรักษาก็ได้แต่นิ่งค้างไป ก่อนที่เขาจะชายตามองมาทางเซียวเฟิงด้วยความเคืองแล้วก็ถอยไปโดยไม่ได้พูดอะไร
“ตาฉันแล้ว!”
“กาก!”
…
“กากว่ะ!”
…
ตอนนี้ทุกคนต่างทอยเต๋าไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่โรส และเซียวเฟิงก็ยังคงเยาะเย้ยทุกคนที่แพ้เขา
“ดูท่าไม้เท้าอันนี้จะเป็นของท่านฮีลเลอร์สินะ”
เล่าสวีพูดอย่างจนใจ รอบแรกเซียวเฟิงทอยได้ 99 รอบนี้ก็ 98 ดวงคนอื่นๆ สู้เขาไม่ได้เลย ดูท่าคงต้องให้ไม้เท้ากับเซียวเฟิงไปแหงๆ
“ยังก่อน! ฉันยังไม่ได้ทอย”
ตอนแรกเล่าสวีคิดว่าโรสจะยอมแพ้อีกรอบ แต่รอบนี้เธอขัดเขาซะก่อน จนแม้แต่ผ้าคลุมหน้าสีขาวนั่นก็ไม่สามารถปิดบังความมั่นใจของหญิงสาวได้
ทว่าตอนนี้เล่าสวีได้ให้ไม้เท้าเซียวเฟิงไปแล้ว เขาก็เลยอึดอัดที่โดนเตือนแต่ก็ยังอนุญาตให้เธอทอยเต๋าได้
เซียวเฟิงนั้นไม่ได้สนใจการกระทำของโรสเลยแม้แต่น้อย
“ก…” เซียวเฟิงกะจะเยาะเย้ยเหมือนเดิม แต่ก็เงียบปากในทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างมองไปยังตัวเลขของโรสที่ทอยออกมาได้
99!
ทุกคนในนั้นต่างเงียบกันหมด ส่วนโรสนั้นยังคงไม่พูดอะไร เธอเพียงเดินออกมาแล้วฉวยไม้เท้าทองคำในมือของเซียวเฟิงไป ก่อนที่ริมฝีปากภายใต้ผ้าคลุมหน้าของหญิงสาวจะขยับเอ่ยปาก
“กากอะ” เสียงเย็นเยียบแต่ไพเราะดังขึ้น ซึ่งเซียวเฟิงก็สามารถจับสำเนียงเยาะเย้ยของอีกฝ่ายที่แฝงภายในเสียงอันไพเราะราวกับดนตรีนั้นได้
“คิก…”
ใครบางคนในนั้นกลั้นไม่ไหวแล้วหลุดเสียงหัวเราะออกมา แต่เจ้าตัวก็ปิดปากในทันทีแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
แต่ก็ไม่ใช่คนเดียว หลายคนตรงนั้นต่างกลั้นหายใจและตัวสั่นเล็กน้อยที่ต้องพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ
เซียวเฟิงทำหน้าเครียด เขามองอย่างทิ่มแทงไปทางด้านโรสที่เอาไม้เท้าไปจากเขา
หลังจากได้ไม้เท้าไป เธอก็เดินถอยกลับไปอย่างสง่างาม แม้ว่าคนอื่นๆ จะมองด้วยสายตาแปลกๆ ไล่หลังมาก็ตามที
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่สังกัดกิลด์ใหญ่ๆ และรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างดูมส์เดย์ลีคกับมิดซัมเมอร์ที่ได้ออกคำสั่งฆ่าเซียวเฟิงดี ซึ่งพวกเขาก็เห็นท่าทีที่เกลียดชังของเธอที่มีต่อเซียวเฟิงอย่างชัดเจนตอนที่ชายหนุ่มมาเข้าร่วมทีม พวกเขาจึงพยายามที่จะไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกไปในตอนนี้
“ฉันต้องขอโทษด้วย ในตอนแรกเราไม่ได้เชิญให้มิดซัมเมอร์มาเข้าร่วม แต่ไนท์ คูนเนอร์ดื้อดึงที่จะให้เธอเข้าร่วมให้ได้ เราเลย…”
ไนฟแอบส่งข้อความให้กับเซียวเฟิงอย่างลับๆ เขารู้ดีถึงความบาดหมางระหว่างเซียวเฟิงกับกลุ่มของมิดซัมเมอร์ดี
“ไม่เป็นไร หลังจากนี้ค่อยเอาคืนก็ยังได้” คำพูดอันเย็นชาของเซียวเฟิงทำให้ไนฟสั่นกลัว
ส่วนของชิ้นอื่นๆ นั้นก็ยังมีคนแบ่งกันอยู่ แต่ของที่ระดับต่ำกว่าระดับทองไม่ใช่สิ่งที่เซียวเฟิงต้องการ
“ไปกันเถอะ ยังมีบอสตัวสุดท้ายอยู่อีก”
พวกเขาเข้าไปยังเขตที่ลึกมากกว่านี้ และต่างเร่งรีบเดินทางต่อจนในที่สุดก็มาถึงห้องบอสตัวสุดท้ายแล้ว
ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้ ผนังรอบข้างก็ได้กลายเป็นสีแดงสดไปแล้ว เช่นเดียวกับอุณหภูมิของมันที่พุ่งสูงขึ้นจนทุกๆ คนเริ่มรู้สึกร้อน
“ที่นี่มันร้อนเกินไปไหมเนี่ย จากทางเข้าน่าจะลงมาลึกกว่า 100 เมตรได้แล้วมั้ง”
“ดีที่ในเกมไม่มีเหงื่อออก ไม่งั้นป่านนี้พวกเราคงเหงื่อท่วมตัวไปแล้ว”
“หุบปากน่า! หยุดคุยกันเรื่องเหงื่อๆ ไคลๆ ซะที! ขยะแขยงว้อย!”
“ไปกันเถอะ อย่ามาเสียเวลากับจุดนี้เลย”
“ไม่ต้องห่วงน่า เราเร็วกว่าพวกเขตอเมริกาเหนืออยู่แล้ว พวกนั้นแค่บอสตัวที่ 2 ก็ไม่ไหวแล้วมั้ง”
…
ในตอนที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น พวกเขาก็มาถึงห้องของบอสตัวสุดท้ายแล้ว
“นั่นแมกม่า อย่าเข้าไปใกล้ล่ะ มันไม่ใช่ฉากหลังธรรมดา ถ้าตกลงไปคงได้ตายแน่ๆ”
สิ่งแรกที่เห็นคือสะพานสีแดงสดที่มีแม่น้ำแมกม่าอยู่ด้านล่าง และเมื่อเห็นอย่างนั้นทุกคนจึงรู้ทันทีว่าทำไมที่นี่ถึงได้ร้อนนัก
…หลังจากสังเกตดีๆ จะพบว่าแม่น้ำแมกม่าสายนี้ได้ก่อตัวเป็นวงกลมเข้าล้อมรอบแท่นหินกลมขนาดใหญ่ที่มีสีแดงสด และตรงจุดที่เป็นพื้นราบบริเวณนั้นนั่นเอง มันก็ได้มีบอสตัวสุดท้ายที่พวกเขาต้องสู้ยืนอยู่!