“….ควรจะส่ง…หรือเอาไงดีวะ..”
หลัวงทานอาหารเข้าเสร็จ ผมกลับมาที่ห้อง นั่งคุกเข่าทับส้นเท้า ในหัวเต็มไปด้วยความกลุ้ม
เหตุผลคือตรงหน้าผม มีสมาร์ทโฟนของผมเองวางไว้กับพื้น ภาพหน้าจอฉายเรื่องห้องแชทผมกับพ่อ ตรงช่องพิมพ์แชท ผมพิมพ์ค้างไว้ว่า “ไว้ครั้งหน้าค่อยคุยกับใหม่นะครับ”
ใช่แล้ว ผมลังเลว่าจะส่งแชทนี้หาพ่อดีหรือไม่ส่งดี เพราะจะปล่อยให้พ่อกับผมจบลงแบบนี้มันคงดูไม่ค่อยดี
ส่วนห้องข้างๆ สเตอร์แมนกริฟนั่งเล่นอยุ่ในห้องนั้นกับโนโนอะจัง ผมได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานของโนโนอะที่เล่นกับแมวลอยเข้าหู ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งเพราะถ้าสเตอร์แมนกริฟไม่อยู่บ้าน โนโนอะคงมานั่งเล่นกับผมแล้วล่ะ
“เอาวะ ส่งก็ส่ง ช่่างแม่งละไอ้สัส”
ผมกล่าวด้วยความกราดเกรี้ยว ออกแรงกระทืบนิ้วตรงช่องแชทที่ปุ่มคำว่า ส่งข้อความ
..ส่งไปแล้ว ทำไปจนได้ ผมระบายลมหายใจด้วยความตื่นเต้น ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องเครียดถึงขนาดนี้ แต่ว่าสำหรับผมมันคือเรื่องใหญ่จริง เอาจริงๆในชีวิตผมจำได้ว่าเพิ่งจะเคยแสดงความโมโห ออกอารมณ์ชัดเจนก็วันที่เจอพ่อนี่แหละ
“….เอ๋? ตอบกลับด้วยเหรอวะ?”
เร็วมากจนคาดไม่ถึงว่าพ่อจะตอบเร็วขนาดนี้ ผมตรวจดูเนื้อหาหน้าจอมือถือ พ่อผมส่งมาว่า “เข้าใจแล้ว”
เป็นคำสั้นๆแค่สามพยางค์ แต่ทำผมรู้สึกดีเอามากๆ
“..ไม่นึกว่าจะดีใจขนาดนี้ นี้ นี่กุลืมเรื่องเมื่อวานได้ง่ายไปรึเปล่าเพียงได้เห็นแค่ข้อความแค่นี้เอง”
ผมยังนึกถึงวันที่โดนเมิน และความโกรธเกรี้ยวอของผม คิดว่าเรื่องเมื่อวานผมคงไม่ลืมไปตลอดชีวิต
ควรจะตอบอะไรให้พ่อรู้สักนิดดีมั้ยนะ…
“คาสึโตะคุง ว่างมั้ย ขอเวลาแปบนึงสิ “
“คุณคาสึมิ?”
ผมหันไปตอบกลับ เห็นคุณคาสึมิกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนรินกะยืนอยู่ข้าวหลังคุณคาสึมิ
“เธอชอบรินกะที่ตรงไหน บอกฉันหน่อยได้มั้ย”
“จ..จู่ๆมาถามเรื่องนี้เพราะอะไรครับ”
“เออน่า บอกได้รึเปล่าล่ะ”
ผมไม่รู้จุดประสงค์คำถามหรอก แต่ดูจากรินกะที่อยู่ข้างหลัง ส่งสายตาเป็นประกายราวกับคาดหวังคำตอบผมอยู่ …
“ผ..ผมชอบ.ทุกๆอย่างของรินกะครับ”
“ไม่สิไม่เอาแบบนี้ คนเรามันต้องมีเรื่องสักเรื่องที่ไม่ชอบอีกฝั่งบ้างแหละ รู้รึเปล่าว่ารินกะทำตุ๊กตาคาสึโตะคุงด้วยนะ แล้วก็แอบถ่ายรูปเธอตอนไม่รู้ตัวด้วย”
“เรื่องนั้นผมทราบอยู่แล้วครับ ม่า ก็สมเป็นเธอนั่นแหละครับ”
“ใจกว้างเกินไปแล้ว เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยอมยกโทษให้ได้ง่ายๆเลยเหรอ”
“อันนั้นมันอีกเรื่องหนึ่งครับ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ใช้ความรุนแรงสักหน่อย ผมก็รับได้นะครับ”
หลังจากผมตอบไป รินกะที่อยู่ข้างหลังก็กล่าวขึ้น
“เห็นม้ั้ยล่ะโอเน่จัง บอกแล้วว่าคาสึโตะน่ะรักหนูในสิ่งที่เป็นทั้งหมดเลย สายสัมพันธ์ของสามีภรรยาชนะทุกสิ่งค่ะ”
“……ถ้าอีกฝั่งไม่ใช่คาสึโตะคุง ป่านนี้น่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปแล้วนะ น้องชั้นรู้มั้ยเนี่ย”
คุณคาสึมิพูดอย่างปลงตกหลังฟังคำพูดรินกะ
ผมเข้าใจความรู้สึกคุณคาสึมินะ แต่ก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าเรื่องรินกะมันไม่มีผลกระทบอะไรกับผมเลย
“งั้นขอถามกลับกันบ้าง รินกะชอบคาสึโตะคุงที่ตรงไหนเหรอ”
“ชอบทุกตรงเลยค่ะ ย้ำนะคะ ทุกตรงค่ะ”
“เล่าแบบคร่าวๆให้ฟังได้มั้ย”
“ก่อนอื่นเลย ก็เริ่มจากบรรยากาศจากเขาค่ะ ความรู้สึกของคาสึโตะที่ตรงไปตรงมา สามารถมองเห็นได้แม้จะอ่านผ่านทางแชทก็ตาม สิ่งนี้เหนือคนอื่นละ เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นเหนือใคร บางครั้งอาจจะดูเหยาะแหยะไปบ้าง แต่นั่นก็เป็นจุดที่เขาน่ารักดี …ในฐานะภรรยา หนูพอใจกับเรื่องนี้ แล้วก็สายตาคาสึโตะอบอุ่นและอ่อนโยนเวลาเขามองมาที่หนู เพียงแค่คาสึโตะมอง หนูก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนสุดๆจากแววตาของเขาค่ะ อ้อ แน่นอนว่าหนูชอบแววตาที่คาสึโตะมองมามากที่สุดค่ะ นัยตาดำขลับกับขนคิ้วที่ออกจะหยาบกร้านนิดๆ มันดูดีมาก แล้วก็แก้มเขาก็นุ่มกว่าที่คิดไว้อีกค่ะ ตอนสัมผัสแล้วมันเด้งดึ๋ง จับแล้วรู้สึกดีสุดๆ นี่ยังไม่พอนะคะ ยังมีอีกเยอะที่ต้องเล่าต่อ เช่นมือกับนิ้วของเขาที่ใหญ่ เวลาจับแล้วรู้สึกถึงดี ใจเต้นตึกตักด้วยค่ะ อ้อ แล้วก็ยังมีเรื่อง……. “
รินกะพูดยาวแบบนันสต็อปไม่พักหายใจหายคอ คุณคาสึมิเห็นสภาพรินกะเลยหันมาถามผมว่า
“คาสึโตะคุงเห็นแบบนี้แล้ว ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ”
“หือ แล้วมันมีอะไรที่แปลกล่ะครับ”
“คาสึโตะคุง ชั้นว่าเธอโดนน้ำมันพรายเข้าให้ละมั้ง ไอ้นี่มันใจกว้างเกินเบอร์ไปมากเลยนะ”
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะครับ…”
มนุษย์เป็นสิ่งที่ปรับตัวได้เมื่อเกิดความเคยชิน ผมเข้าใจนิสัยเธอหมดแล้ว เลยชินกับเรื่องนี้และชอบเธอนี่แหละ
“อ๊ะ ใกล้ได้เวลาไปซ้อมงานไอดอลละนี่นา”
“อ้อ นานะรออยู่ข้างล่างแมนชั่นแล้วนะ รีบไปเถอะ”
คุณคาสึมิดูมือถือเลยบอกรินกะ ก่อนจะรีบวิ่งไประเบียง มองหานานะแล้วตะโกน กล่าว “ไปดีมาดีนะคะ” พร้อมโบกมือ
ผมลังเลว่าจะเดินไปส่งเธอที่่หน้าประตูดีมั้ย และสุดท้ายก็ตัดสินใจ เดินไปส่ง
รินกะเดินไปเปิดตู้รองเท้า หยิบรองเท้ามาสวม มือจับลูกบิด
“เอ่อ…ไปดีมาดีนะครับ”
“…เอ๋! คาสึโตะ”
“…ทำไมถึงตกอกตกใจขนาดนั้นเหรอครับ”
รินกะเบิกตากว้างมองมาที่ผมราวกับเห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อในสายตา
“ผมเดินมาส่งตรงประตูนี่มันแปลกมากเหรอครับ”
“อืม นี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะ ชั้นดีใจมากๆเลยค่ะ”
ดูจากท่าทีกับคำพูดรินกะ เธอไม่ได้โกหก รินกะดีใจจริงๆ
“ร..รู้สึกแปลกดีนิดๆนะคะที่ถูกสามีเดินมาส่งก่อนออกไปข้างนอก”
“ยังไม่ได้เป็นสามีนะครับ เป็นคนรักกันทั่วไปนะครับ”
“อาร่า ยังจะพูดแบบนี้อีกเหรอคะ ทั้งที่จิตสำนึกความเป็นสามีอุตส่าปลุกขึ้นมาแล้วแท้ๆ”
“……”
จิตสำนึกความเป็นสามีงั้นเหรอ
“เป็นอะไรเหรอ คาสึโตะ”
“…เปล่าครับ แค่คิดว่า เวลาแบบนี้ ถ้าเป็นสามีภรรยากัน มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เป็นปกติสินะ”
“มีอะไรรึเปล่านิ”
“เปล่าครับ แค่คิดอะไรเพลินๆเกี่ยวกับเรื่อง การพูดไปดีมาดีน่ะครับ”
“ยิ่งฟังยิ่งงง ถ้ามีใครพูดไปดีมาดี (อิตเตะรัชไชย) อีกฝั่งก้ต้องพูดกลับว่า จะไปแล้วนะคะ (อิตเตะคิมัส) อยู่แล้วนี่นา”
“ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น …อืมม จะว่าไงดี เหมือว่า มันต้องมีฟีลอยากทำอะไรจากใจตรงๆมากกว่านี้น่ะ”
“พูดตรงๆเหรอ? ไม่เข้าใจหนักกว่าเก่าอีก ขอแบบพูดจาชัดๆสั้นๆได้มั้ยคะ”
“เหรอ จะบอกว่า …อืม..สรุปเธอไม่เข้าใจจริงๆสินะ”
“ไม่เลย ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว คาสึโตะพูดอะไรออกมาชั้นไม่เข้าใจสักอย่างเลยค่ะ”
“ถ้าเป็นรินกะ.. ไม่สิ..เพราะเป็นรินกะนี่แหละ ผมเลยคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจดีที่สุดนะครับ อันนี้ไม่ได้แกล้งตีมึนใช่มั้ยครับ”
“ไม่ได้ตีมึนเลย ไม่เข้าใจจริงๆไม่ได้โกหกค่ะ”
รินกะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง สีหน้าท่าทาางกลับมาเป็นคูลไอดอล จ้องตามองผมตรงๆ
..สรุปว่าผมควรพูดออกไปสินะ ไม่สิ แทนที่จะพูด ใช้การกระทำเลยน่าจะดีกว่า
“เน่ คาสึโตะ ไม่พูดอะไรเลยชั้นก็ไม่รู้เรื่องนะคะ รีบบอกมาเร็วๆสิคะ”
“…หลับตาก่อนแล้วผมจะบอกให้ฟัง”
“แบบนี้เหรอ…”
รินกะหลับตานิ่งไร้การป้องกันตัว ผมเห็นเธอหลับตาเรียบร้อย นึกถึงสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ หัวใจผมเต้นโครมคราม แต่ก็ก้าวไปหาเธอ1ก้าวโดยไม่ลังเล
….ไม่นะ เดี๋ยวสิ
ปกติเวลาแบบนี้ จะต้องโดนโนโนอะจังมาขัดจังหวะตอนเข้าด้ายเข้าเข็มนี่หว่า
ผมเลยหันไปดูข้างหลังก่อน โอเค ชัวร์ละไม่มีใครอยู่
ผมได้ยินเสียงโนโนอะยังเล่นกับสเตอร์แมนกริฟอย่างสนุกสนาน ทำได้ดีมากเจ้าเหมียว ถ่วงเวลาน้องไว้ก่อนนะ
ผมตัดสินใจเด็ดขาด เชยคางรินกะเบาๆ
“……………………”
ผมรีบจูบรินกะก่อนที่เธอจะลืมตา
ด้วยความรีบและฝีมือการจูบอันห่วยแตกของผม เลยทำได้แค่แตะริมฝีปากชนกันเท่านั้น
แต่ว่า…ความรู้สึกพึงพอใจอย่างหาสาเหตุไมได้ เอ่อล้นในตัวผม มันทำให้หัวใจพองโตเลยล่ะ
“อืม ไปดีมาดีนะครับ รินกะ”
“เอ๋?…อ๋า?…เอ๊ะ…เอ๋?”
รินกะลืมตามองพร้อมกล่าวตะกุกตะกัก เหมือนยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยังช้อคกับเหตุการณ์ตะกี้
“เฮ้ ..รินกะ?”
“เอ่อ..อืม..คือว่า…”
“ครับ ไปดีมาดีนะครับ งานวันนี้พยายามเข้านะครับผม”
ผมเห็นเธอยังตัวแข็งทื่อ เลยเดินไปดันหลังเธอออกไปถึงหน้าประตู
“จ…จะไป..แล้วนะคะ”
รินกะยังตะลึงไม่หาย เดินเปิดประตูออกไปนอกแมนชั่น ปิดประตูก่อนใช้มือหยิกแก้มตัวเอง
หลังจากนั้น สามวินาทีต่อมา
“อ๊ายยยยยยยยยยยยยย”
ผมได้ยินเสียงตะโกนสุดน่ารักของรินกะลอดผ่านประตูมาเลย
ตอนเช้าแบบนี้ ตะโกนซะลั่นเดี๋ยวก็เจอกระถางดอกไม้พร้อมก้อนอิฐจากห้องอื่นปลิวมาหรอกครับ
แต่ว่า รินกะที่เป็นแบบนี้แหละ น่ารักดีครับ ฮะฮะ
ผมตัดสินใจจะกลับไปที่ห้องตัวเอง
ทว่าพอถึงห้องรับแขก โนโนอะเดินต่อกแต่ก มาหาผมที่ห้องโดยมีสเตอร์แมนกริฟตามติดข้างหลัง
เกือบไปแล้ว นี่ถ้าไม่มีสเตอร์แมนกริฟ ผมคงไม่ได้จูบรินกก่อนแน่นอน
“เน่ คาสึโตะโอนี่จัง มาเล่นกันเถอะค่ะ”
“อืม ได้สิ”
“…หือ?”
โนโนอะเงยหน้ามองผม เอียงคอด้วยท่าทางน่ารัก
“เป็นอะไรเหรอครับ โนโนอะจัง”
“คาสึโตะโอนี่จังยิ้มด้วยแหละ”
“เอ๋?”
ผมเอ่ยปากไม่รู้ตัว ยิ้มด้วยเหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย
“ทำอะไรมากับพี่รินกะเหรอคะ”
“อืม ม่า ทำเรื่องน่าสนุกมาครับ”
“เรื่องอะไรคะ บอกหน่อยสิ”
“ยังเร็วไปสำหรับโนโนอะจัง ไว้คราวหน้าค่อยบอกนะ”
“อืม…อ๋อ รู้แล้ว จูบรับขวัญพี่รินกะก่อนไปข้างนอกสินะคะ”
“รู้ได้ไงเนี่ย”
“ว้าววว คาสึโตะโอนี่จังขึ้นครูสู่ความเป็นผู้ใหญ่แล้ว ว้าววววว”
โนโนอะจังกระโดดโลดเต้นกล่าวอย่างดีใจ
…ตูยังไม่ได้ขึ้นครูเฟ้ย
“เห คาสึโตะคุงเป็นฝ่ายเปิดก่อนด้วยสินะ “
“ห๊ะ คุณคาสึมิอยู่ด้วยเหรอครับ”
“แหม พูดแบบนั้นมันเสียมารยาทนะคะ ชั้นเป็นพี่สาวนะ ? จะว่าไป จูบครั้งนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะ บอกหน่อยได้มั้้ย ม่า ถึงชั้นจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็เถอะ แต่ก็อยากจะฟังอยู่ดีนะ”
“คุณมาถามเรื่องพรรค์นี้กับแฟนของน้องสาวเนี่ยนะ”
“ไม่เห็นเป็นไรสักหน่อย เอ้า เหลามาสิ”
“….ริมฝีปาก รู้สึกได้ถึงความร้อนแรง แล้วก็เหมือนไฟช็อตนิดๆครับ”
“โฮร่า ร้อนแรงแถมไฟช้อตด้วยเหรอ ชั้นเข้าใจความรู้สึกนั้นดี แล้วมีอย่างอื่นอีกมั้ย”
“พอเหอะคร้าบบบคุณพี่”
เป็นเช้าที่สดใสวุ่นวายดีแท้
ไว้ถ้ารินกะกลับมาถึงบ้าน ค่อยทำให้เธอตื่นเต้นมากกว่านี้ดีกว่า
…..ผมเพิ่งรู้สึกว่า ตัวเองกำลังคาดหวังเรื่่องแนวนี้ขึ้นมาละ
แปลว่าผมกำลังรอคอยให้รินกะกลับมาบ้านอย่างใจจดใจจ่อและสนุกเมื่อเวลานั้นมาถึงสินะ
“ตูชักจะเป็นโจรบ้ากามแล้วสินะ”
การไปส่งแฟน และเฝ้ารอเธอกลับมา แล้วก็ก่อนหน้าที่ได้พูดว่า “ไปดีมาดีนะ” เรื่องทุกเรื่องในวันนี้ของผม มันคือครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่ผมเกิดมาเลย
เพราะฉะนั้น วันนี้ ตอนรินกะกลับมาถึงบ้าน ผมจะได้พูดคำนี้เป็นครั้งแรกให้คนอื่นฟังว่า “ยินดีต้อนรับกลับมาครับ”
*****
จบ CH 16 epilouge
เขร้ กะว่าจะแปลชั่วโมงเดียว แต่นี่เอาชดเชยจากเมื่อวาน แปลเกือบสองชั่วโมง เล่นเอาซะทีเดียวจบตอนเลย น่าจะอิ่มหนำสำราญนะครับ ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วนะครับผม แล้วเดี๋ยวค่อยว่าอีกทีจะแปลเรื่องไหนต่อดีครับ
หายไปนานเลยต้องขออภัย ตอนหน้าก็จบเล่มสองนะครับ ดูก่อนว่าจะพักสักนิดมั้ย หรือจะแปลเล่มสามเลย แต่ว่าวันที่ 22 น้องเอมม่าเล่ม2ออกแล้วนะ เลยจะไปอ่านก่อน ดูว่าน่าแปลเรื่องไหนมากกว่ากันครับ
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้นะครับ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon