Night Ranger – ตอนที่ 12 หน้ากากมีดคู่

ไพรอซีนเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปมาสนุกสนานกันในตอนค่ำ ไดเฟียสวางระเบียบการณ์ของทุกประตูในบาร์อย่างเข้มงวด แต่ละประตูมีอันธพาลที่ได้รับการฝึกให้คุ้มครองเขา การเข้ามานั้น ผู้คนต้องปราศจากอาวุธโดยไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตามสมาชิกแก๊งอาเชรอนมีหน้าที่ปกป้องชีวิตของพวกเขา

 

นี่เป็นสิ่งที่ยุติธรรมงั้นเหรอ?

 

นอกจากนักผจญภัยระดับต่ำที่ไม่รู้จักความตายแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ต่างปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด สำหรับคนโง่ที่ฝ่าฝืน ร่างของพวกเขาจะถูกทิ้งไว้ที่ท่อระบายน้ำตอนเช้าของวันถัดมา

 

อย่าไปยั่วอันธพาลในแต่ละท้องถิ่น นี่เป็นกฎการอยู่รอดของนักผจญภัย

 

อย่างไรก็ตาม มาร์วินถือว่านี่เป็นข้อยกเว้นในคืนนี้

 

ถ้าคนพวกนี้ไม่ขัดขวางเขา เขาก็ไม่ขัดขวางพวกมัน นี่คือหลักการของมาร์วิน แก๊งอาเชรอนได้พยายามลอบสังหารเขา ดังนั้นเขาจึงต้องตอบโต้กลับ

 

มาร์วินเตรียมพร้อมแล้วสำหรับคืนนี้ ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้ว มีดสั้นคู่อยู่ในมือทั้งสองของเขา มีดมากกว่า 2 เล่มถูกเหน็บไว้ที่เอวรวมถึงมีดโค้งที่สำรองไว้ นี่เป็นขีดจำกัดของเขาและหากน้ำหนักมากกว่านี้มันจะลดความคล่องตัวของเขา

 

เขาสวมหน้ากากดำปิดครึ่งใบหน้า ไม่ใช่ว่าเขาต้องการปกปิดตัวตน แต่จากประสบการณ์ของเขา คนที่ไม่รู้จักนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า

 

วันนี้เขาจะส่งความกลัวให้กระจายไปทั่วแก๊งอาเชรอนตามที่เขาต้องการ

 

ที่ห้องครัว

 

เขาเคยถามคนรอบๆสลัมและพบว่าทุกๆวันจะมีคนส่งผัก ผลไม้ ไวน์และสิ่งอื่นๆผ่านทางห้องครัวไปจนถึงห้องเก็บของ

 

นั่นคือยามที่ขี้เกียจที่สุด

 

19.30 ในช่วงหัวค่ำ รถเข็นส่งของได้นำสิ่งของมาส่งตามเวลา ยาม 2 คนเดินเข้ามาและเริ่มตรวจสอบสินค้าในคนเข็น

 

ในเวลานั้น มาร์วินได้ซ่อนตัวและเข้าไปด้านในอย่างราบรื่น

 

ห้องครัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวปลาและมีพ่อครัว 2 คนกำลังทำอาหารอยู่หน้าเตา ไม่มีใครกล้าจ้องมองไปทางอื่น

 

จากมุมนี้มีเสียงร้องไห้เบาๆดังออกมา

 

มาร์วินขมวดคิ้ว

 

มีอันธพาลแก๊งอาเชรอนกำลังทุบตีเด็กสาวที่น่าสงสาร!

 

เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 5-6 ปียังดันทุรังอยู่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่ 2 คนทุบตี เธอไม่พูดแม้แต่ขอโทษและกลั้นน้ำตาเอาไว้ มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ดังออกมา

 

“แม่ของเจ้ามันตายไปแล้ว! อย่าลืมกลับไปหาพ่อของเจ้าด้วย! ไอ้ลูกโสเภณี พวกแกมันดื้อรั้นด้วยกันทั้งคู่”

 

ชายร่างผอมสาปแช่งออกมา “มันกล้ามาขอเงินพวกเรา! มันก็ต้องรับลูกค้าและตอนนี้มันตายเพราะติดโรค นังโสเภนีนั่นก็สมควรแล้ว!”

 

“คนโกหก!” เด็กผู้หญิงตัวเล็กถูกคว้าผมไว้และพูดต่อด้วยความโกรธ “แม่ยังไม่ตาย! แม่แค่ต้องการเงิน! หนูสามารถหานักบวชมารักษาแม่ได้! เอาเงินมา!”

 

“กลับไปหาแม่ของเจ้าซะ!” ชายอีกคนตบไปที่ใบหน้าของเด็กสาวอย่างแรง

 

เด็กสาวโดนตบ ใบหน้าของเธอบวมเปล่ง เลือดเริ่มไหลออกมาจากหางตา

 

“เอาเงินของหนูคืนมา!” ความตายไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเธอ เธอกัดฟันและตะโกนเสียงดัง

 

ชาย 2 คนมองหน้ากันและชายร่างผอมบีบกำปั้นและพยักหน้า

 

มาร์วินรู้ว่าพวกมันกำลังจะฆ่าเธอ

 

 

ชิ้ง!

 

 

มีดโค้งถูกชักออกมา พ่อครัวทั้งสองต่างสั่นกลัวและเริ่มมีสีหน้าซีดเซียว

 

“ทำงานของพวกเจ้าไป!” ชายร่างผอมพูดออกมาเบาๆ “จำไว้ว่าพวกเจ้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

 

หนึ่งในพ่อครัวที่เป็นคนหนุ่ม เขากำมีดในมือแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความโกรธ

 

“อย่า” พ่อครัวแก่กว่าห้ามเขาไว้ด้วยความรู้สึกหมองหม่น “นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราสามารถจัดการได้”

 

ชายร่างผอมถือมีดไว้ในมือและคว้าไปที่ไหล่ของเด็กสาว

 

เธอไม่มีแรงในการดิ้นรนอีกต่อไป เธอจ้องมองเขา แสดงให้เห็นว่าเธอพร้อมจะตาย

 

เป็นความรู้สึกอึดอัดยากที่อธิบายให้ถูกราวกับถูกผีจ้องมองลงมา

 

“เด็กน้อย ตายซะเถอะ!” ชายร่างผอมตะโกนออกมา

 

ประกายแสงวาววับสว่างออกมา

 

เลือดไหวทะลักไปทั่วไปหน้าของเด็กสาว

 

หัวของชายร่างผอมที่มีสีหน้าประหลาดใจร่วงลงกับพื้น

 

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาด้านหลังของเขา

 

[ตัดคอ ใช้งานประสบความสำเร็จ!]

 

[โบนัสลอบโจมตี….ความเสียหายx2]

 

[เป้าหมายตายแล้ว! ได้รับค่าประสบการณ์ต่อสู้ 22 หน่วย]

 

ด้วยการโจมตีของมาร์วิน รวมไปถึงสกิลตัดคอและโบนัสโจมตีที่เพิ่มขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ได้คล้ายกับสกิลระดับสูง [ตัดหัว]! ซึ่งเป็นคลาส 3 [อาชญากรนอกรีต]

 

ร่างของมาร์วินขยับไปยังเพื่อนของชายร่างผอมที่ไม่ทันเตรียมตัว เขากำลังดึงอาวุธเพื่อปกป้องตัวเอง แต่โชคร้าย มือซ้ายของมาร์วินตวัดกลับมาอย่างแม่นยำ เปิดศีรษะของชายคนนั้นออก

 

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางมากที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะรักชีวิต แต่เมื่อพวกเขาถูกโจมตีจุดตาย พวกเขาจะตายอย่างแน่นอน

 

สมองของชายที่โชคร้ายถูกเปิดออก ร่างกายของเขาค่อยๆล้มลง

 

พ่อครัวทั้ง 2 คนต่างหวาดกลัว

 

เด็กสาวคนนั้นพยายามเงยหน้าขึ้นไปมองมาร์วิน

 

ดวงตาของเขาเปล่งประกายแสงสีแดงออกมาขณะหนึ่ง

 

“เจ้าชื่ออะไร?” มาร์วินถามขณะที่พ่อครัว 2 คนกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ

 

เด็กสาวมองไปยังมาร์วินที่สวมหน้ากากและกำลังถือมีดทั้ง 2 อยู่โดยไม่เกรงกลัวและตอบกลับ “อิสซาเบล”

 

“เป็นชื่อขุนนาง?” มาร์วินตั้งข้อสังเกต

 

“ท่านพ่อตั้งให้ข้า” อิสซาเบลพูด

 

“บอกข้ามา ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมขอโทษและหลบหนีออกมาเมื่อพวกมันถูกทุบตีเจ้า?”

 

เด็กสาวกัดฟัน “มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น”

 

ทางนี้ทางเดียว มิเช่นนั้นแม่ของเธอจะตาย เธอไม่มีทางเลือก เธอยอมถูกทุบตีจนตายดีกว่าไม่พยายามทำอะไรเลย

 

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ในขณะนั้น ยาม 2 คนที่กำลังตรวจสอบสินค้าที่รถเข็นวิ่งเข้ามาในห้องครัว ด้วยความตกใจ พวกเขาได้กลิ่นเลือด

 

มาร์วินหันมาและเดินผ่านชั้นวางอย่างเงียบๆ

 

ยาม 2 คนมองไปที่เด็กสาวที่อยู่ใกล้ศพ พวกเขาตกใจมาก จากจุดบอดด้านหลังมาร์วินก้าวเท้าและกระโจนเข้ามา อาวุธทั้งสองในมือของเขาตวัดไปมาอย่างเหมาะเจาะ

 

ด้วยการโจมตีที่มีประสิทธิภาพ ยาม 2 คนไม่มีเวลาชักอาวุธออกมา ก่อนที่กระโหลกของพวกเขาจะถูกเปิดออก

 

นี่คือความสามารถของอาวุธคู่! ทั้งมือซ้ายและมือขวาสามารถผสานการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถจัดการสองเป้าหมายในเวลาเดียวกันได้

 

กลิ่นเลือดโดยมาจากห้องครัวแรงขึ้น ปัญหานี้ไม่ค่อยใหญ่มาก เนื่องจากคนในบาร์มักคิดว่าเป็นการฆ่าสัตว์

 

เมื่อมองไปที่ฉากที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ อิสซาเบลก้าวออกมาและถามเสียงเบาๆ “คุณคือศัตรูของแก๊งอาเชรอนใช่ไหม?”

 

“ข้าจะฆ่าพวกมันคืนนี้” มาร์วินตอบ

 

เขาไม่ได้สนใจเด็กสาวตัวน้อยๆ ความดื้นรันของเธอชนะใจเขา

 

“คุณอยากได้คำแนะนำไหม?” เด็กสาวเดินมาหาเขาพร้อมด้วยดวงตาที่สว่างไสว “หนูรู้จักทุกคนในแก๊งอาเชรอนและรายละเอียดหลายอย่าง”

 

“หนูรู้ว่าหัวหน้าของพวกมันซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดิน หนูรู้ทาง”

 

มาร์วินหัวเราะและลูบหัวอิสซาเบล

“เจ้ากล้าหาญมาก”

 

หลังจากที่พูด เขาส่งมีดให้กับเธอ

 

“ถือไว้ อิสซาเบล คืนนี้พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน”

 

เด็กสาวที่ถือมีดสั้นไว้ในมือราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เธอสูดลมหายใจเข้าและถามขึ้น “พวกเราจะแอบลอบสังหารที่ไหนกันก่อนที่ดี?”

 

“ไม่” มาร์วินเตะประตูห้องครัวและเดินผ่านประตูทางเท้าพร้อมมีดสั้นทั้งสองเล่ม

 

“พวกเราจะฆ่ามันซึ่งๆหน้านี่แหละ”

 

 

ตราบใดที่เขาก้าวเข้ามาในบาร์ได้ เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวเอง

 

ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งเท่ากับตัวเขาในอดีต แต่ปัจจุบันเขาเป็นเรนเจอร์ ไม่ใช่โจร

 

สกิลของเขาในตอนนี้เหมาะกับการเผชิญหน้าโดยตรงมากกว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขา ฟุตเวิร์ค การใช้มีดและประสบการณ์ ทั้งหมดใช้ในการกำจัดเหล่าอันธพาลที่เข้ามาโดยไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้เขามีระดับ 3 แล้ว อันธพาลทั้งหมดให้ค่าประสบการณ์แค่คนละ 10 หน่วยเท่านั้น มันเป็นเรื่องน่าขำ

 

พวกมันเป็นเพียงแค่พรมเช็ดเท้าที่มีไว้เหยียบย่ำ

 

เมื่อมาร์วินเตะประตูห้องครัว เหล่าอันธพาบต่างถือมีดมาเชตี้วิ่งเข้ามาโจมตี

 

นักเลงดาบ ระดับ 3 HP 78!

 

โชคร้ายที่พวกมันทั้งหมดสวมเสื้อผ้าฝ้ายธรรมดา ไม่ได้สวมชุดเกราะแต่อย่างใด ค่า HP ของมนุษย์ที่ไม่ได้สวมเกราะเหมือนกับไม่มี โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้ามาร์วิน ผู้เชี่ยวชาญในการโจมตีจุดตาย

 

เคร้ง! มีด 2 เล่มปะทะกัน ความแข็งแกร่งของมาร์วินด้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามนิดนึง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยการบิดข้อมือเบาๆ มีดโค้งของเขาสามารถหลุดลอดไปตามแนวของมีดมาเชตี้ได้และตวัดไปตัดข้อมือของอันธพาลคนนั้นทันที

 

“อ๊ากกกกก!”

 

เสียงร้องได้ดึงความสนใจของทุกคน

 

ทั่วทั้งบาร์เริ่มเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึงและทุกคนลุกขึ้นยืน!

 

บางคนกำลังมองหาต้นเหตุ! และดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาสามารถจัดการได้ง่ายๆ

 

แขกบางคนถอยไปหลบด้านหลังคนอื่นและมองฉากตรงหน้าอย่างตื่นเต้น แก๊งอาเชรอนกำลังขยายอำนาจ ดังนั้นคนบางกลุ่มอาจจะไม่พอใจ

 

พวกเขากำลังสงสัยว่าแก๊งไหนที่กล้าลุกขึ้นต่อต้าน

 

แต่เมื่อพวกเขาเห็นผู้บุกรุกเป็นเพียงนักดาบที่สวมหน้ากากและเด็กผู้หญิงที่เคยถูกทุบตี ใบหน้าที่ตื่นเต้นของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่สิ้นหวัง

 

“เป็นนักผจญภัยที่บ้าบิ่นเป็นบ้า”

“เรนเจอร์คนนี้ดูเหมือนจะเก่งอยู่นะ แต่เขามีเพียงคนเดียว….เขากำลังมองหาความตายอย่างนั้นรึ?”

“ใช่แน่เลย คงใช้ชีวิตมามากพอแล้วมั้ง”

 

นี่คืออาณาเขตของแก๊งอาเชรอน พวกเขาได้เปรียบและมีสมาชิกกว่า 20 คน มีทีมขนาดเล็กอีก 2 ทีมที่มีคลาสและรวมถึงสมาชิกที่ไว้ใจได้ของไดเฟียส

 

ในสายตาของพวกเขา นักผจญภัยระดับต่ำนี่กำลังเมาและอาละวาด

 

เมื่อผู้คนกำลังพูดไปมา มาร์วินได้จบชีวิตของสมาชิกแก๊งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

เด็กสาวกำลังมองหาโอกาสแทรกตัวเองหลบเข้าไป เธอไม่ต้องการเป็นภาระให้กับมาร์วิน

 

“ฆ่ามัน!” เสียงน่าปวดหัวดังขึ้นมา

 

นักผจญภัย 6 คนที่อยู่ในชุดเดียวกันออกมาจากฝูงคนที่ล้อมรอบมาร์วิน โจร 2 นักดาบ 3 และอีก 1 ไม่รู้ว่ามีคลาสอะไรอีกอาจจะเป็นโร๊ก

 

มาร์วินมองไปยังพวกเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูล

 

สำหรับ 6 คนนี้ถือเป็นศัตรูที่ต่อสู้ได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะเมื่อถูกรุม

 

“ชายคนนี้มันบ้าไปแล้ว!”หนึ่งในนั้นพูดอย่างสนุกสนาน

 

นักดาบอีก 3 คนคำรามและวิ่งเข้ามา

 

มาร์วินหัวเราะเยาะและพุ่งตัวไปยังบาร์และกระโดด!

 

เขากระโดดไปบนคาน

 

ความว่องไว 18 แต้มของเขาช่วยให้เขาทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้

 

‘น่าเสียดายที่ข้ายังไม่มีก้าวไร้แรงโน้มถ่วงหรือว่าข้าจะวิ่งผ่านปัญหานี้ไปเลยดี’

 

มาร์วินได้ความคิดใหม่และใช้ฝีเท้าที่ว่องไว เขากระโดดไปยังคานที่ 2 และถีบไปที่หนึ่งในเสาเหล่านั้น

 

เขามาถึงด้านหลังของหนึ่งในนักดาบภายในพริบตา

 

การใช้ความเร็วในการพุ่งลงมา เขาวางมีดในรูปแบบของกรรไกร!

 

ทุกคนต่างตกตะลึง นักเลงดาบยกมีดมาเชตี้ขึ้นมาป้องกันตัวตามสัญชาตญาณ

 

เคร้ง! มีดมาเชตี้แตก รวมไปถึงกระดูกคอด้านซ้ายของนักดาบคนนั้น

 

“อ้ากก!” เสียงร้องดังออกมาจากลำคอของเขา มาร์วินเดินหลับไปตัดคอของเขาอีกครั้ง เพื่อส่งเขาไปสู่สรวงสวรรค์

 

“บัดซบบ!” ชาย 5 คนที่อยู่ใกล้ๆบ้าคลั่งขึ้นมาทันที

 

มาร์วินเตะโต๊ะ กระแทกเข้าใส่นักเลงดาบ 2 คน

 

ด้วยความรวดเร็ว เขาพุ่งตัวไปยังหนึ่งในโจรทั้งสอง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset