Night Ranger – ตอนที่ 32 เสียงเพลงในเส้นทางลับ

ภายในอุโมงค์มาร์วินเริ่มรู้สึกผ่อนคลายหัวใจของเขายังคงเต้นเร็ว เกือบจะถูกเจอตัวแล้ว!

 

‘โชคดีที่มีโนลล์สูงที่อยู่ด้านข้างขวางสายตาของพวกมันถ้าพวกมันพบข้าหล่ะก็ข้าคงจะมีปัญหา มีโนลล์เเละหมาป่ากลายพันธุ์จำนวนมากดังนั้นว่าแม้ว่าข้าจะใช้ซ่อนตัว ข้าก็ไม่สามารถหลบหนีได้ ‘

 

มาร์วินรู้สึกกลัวตอนนี้จริงๆ เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะมีหมอผีเกิดมาในกลุ่มโนลล์ พวกมันไม่ใช่โคโบลด์ที่มีเลือดบรรพบุรุษของพวกมันที่เป็นมังกรตัวใหญ่ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของพวกมัน ดังนั้นหมอผีชนิดนี้จะมีคลาสที่โดดเด่นมากในหมู่ของพวกโนลล์ มาร์วินไม่เข้าใจ โลกของเฝยหนานเต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากกลุ่มของโนลล์จะมีหมอผีระดับ 2 ที่ทำให้ระดับความอันตรายของพวกมันเพิ่มขึ้นไปอีก มาร์วินจะต้องจำกัดเป้าหมายเฉพาะ เท่านั้นถึงจะเป็นไปได้ที่จะชนะ หลังจากนี้หมอผีที่แข็งแกร่งที่คอยสนับสนุนพันธมิตรนั้นในสนามรบจะเป็นพลังที่ร้ายกาจมากเนื่องจากคลาสของหมอผีจะถูกจำกัดด้วยสายเลือดจึงถือว่าเป็นระดับที่สองของคลาสเสมอ อย่างไรก็ตามเนื่องจากภัยพิบัติครั้งใหญ่เนืเวทมนตร์ของพวกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับบ่อเวทย์มนต์จักรวาลและเนื่องจากกระเเสเวทมนตร์ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในทวีปเฝยหนานแทนที่จะส่งผลกระทบในทางลบต่อคาถาของพวกมันเเต่กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นหลังจากภัยพิบัติครั้งใหญ่หมอผีคือกลุ่มที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด

 

มาร์วินจำได้ว่าในบริเวณโดยรอบของเทือกเขาร็อคกี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะมีกลุ่มหมอผีที่ถูกเนรเทศโดยพ่อมดสร้างเมืองขนาดใหญ่ขึ้นหลังจากภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ แม้ว่าเมืองของพวกมันจะมีอยู่เพียงไม่ถึงสามปีเท่านั้นแต่ถ้าไม่ใช่เพราะพระเจ้าบางองค์กำหนดเป้าหมายไว้อาจทำให้ทวีปทางใต้เสียหายได้ ผู้นำของเมองเป็นหมอผีที่ถูกปลุกโดยพระเจ้า 3 องค์ ผู้เล่นมักจะพูดถึง [สามพี่น้องเเห่งโชคชะตา] ทั้งหมดเป็นเทพเจ้าที่สวยงามมาก หมอผีโนลล์ที่มาร์วินที่พบในหุบเขาริเวอร์ไวท์ไม่สามารถเทียบได้กับหมอผีที่ตื่นขึ้นมาจากสวรรค์ แต่เขาก็ไม่สามารถประมาทมันได้

 

เขาสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังใช้ [ดวงตาเเห่งความเจ็บปวด] อยู่เสมอซึ่งหมายความว่ามันเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมานอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าพลังวิเศษของมันแข็งแกร่งมาก ดวงตาเเห่งความเจ็บปวดนั้นใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องแต่มันสามารถใช้ได้นานแสดงให้เห็นว่าสายเลือดของมันแข็งแก่รงมาก ชนิดของเจ้าตัวที่แต่งตัวประหลาดนี้เป็นความซวยของผู้ใช้ซ่อนตัวเช่นมาร์วิน ถ้ามาร์วินเป็นโจรเขาจะถูกฆ่าเเน่นอน! โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นโจร ข้อดีของเรนเจอร์คือแม้ว่าซ่อนตัวจะถูกจำกัดแต่ความสามารถในระยะใกล้ก็ยังน่าประทับใจ

 

มาร์วินพักในอุโมงค์และไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พร้อมที่จะกลับไป เมื่อเขาเดินผ่านทางแยกเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ที่จาง ๆ อยู่เบื้องหลังก้อนหินขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นเส้นทาง เสียงนั้นอ่อนโยนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าการได้ยินของมาร์วินนั้นพิเศษพร้อมกับเส้นทางลับที่เงียบสงบเขาจะไม่สามารถได้ยินเรื่องนี้ได้

 

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

 

มาร์วินตกใจเขารีบเข้าหาและติดหูไว้ที่ก้อนหิน เสียงค่อยๆเปลี่ยนไป ดูเหมือนจะใช้ภาษาเก่าแก่มากในการร้องเพลง มาร์วินฟังอย่างระมัดระวังสักครู่ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่านี่เป็นภาษาของพวกแอนซ์

 

แอนซ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่เสียชีวิตไปนานแล้วพวกเขาเป็นที่มาของพ่อมดแต่พวกเขาก็หายตัวไปในแม่น้ำสายยาวของประวัติศาสตร์โดยทั่วไปสถานที่ต่างๆในทวีปเฝยหนานมีลูกหลานของแอนซ์อยู่บ้าง ในช่วงเวลาสำคัญเช่นงานศพการเคารพต่อพระเจ้าหรือบรรพบุรุษและโอกาสอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันจะมีผู้อาวุโสที่คอยรับผิดชอบในการอธิษฐานด้วยภาษาของแอนซ์ แต่คนทั่วไปจะไม่สามารถพูดหรือเข้าใจภาษาโบราณของแอนซ์ได้แต่มาร์วินเข้าใจ!

 

เขาตรวจสอบความรู้ชั้นสูงของเขาและพบว่า [ภาษาแอนซ์] เขาก็รู้สึกว่าคลาสขุนนางเป็นคลาสที่ดีกว่าคลาสพลเรือน มันมาพร้อมกับความชำนาญในการขี่ม้าการบัญชีและความสามารถในการปฏิบัติอื่น ๆ และมันก็ยังสามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญในทุกภาษาที่หายาก! ในเกมมีผู้เพียงเล็กน้อยที่เล่นตรวจสอบคลาสขุนนางและมาร์วินไม่มีความสนใจใด ๆ ต่อคลาสนี้ เป็นผลให้เขาไม่ทราบความลับของมันคราวนี้เขาเข้าสู่ร่างของชนชั้นสูงและในที่สุดก็สามารถสัมผัสกับประโยชน์ของคลาสนี้ได้! เขาฟังอย่างระมัดระวังและพบว่าเสียงนั้นโหดร้ายและกำลังร้องเพลงเพียงสี่ประโยค:

 

“ดอกไม้หนึ่งดอกไม้สองดอกคืนนี้ปีศาจจะไม่กลับบ้าน”

“เกลียดเสียงฝนที่ตกลงมาเกลียดเสียงฟ้าร้องที่ทำให้ข้านั่งอยู่ในบ่อน้ำเเละร้องไห้”

“แต่งตัวด้วยชุดสีขาวสำหรับการเฉลิมฉลองแต่งกายด้วยสีดำสำหรับงานศพระฆังเที่ยงคืนยังไม่หยุดเสียง”

“ผู้ตายยังไม่ตาย”

 

เสียงน่ากลัวมาก ยิ่งเขาฟังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งกลัวมากยิ่งขึ้น ทั้งสี่ประโยคเพลงดังกล่าวยังคงสะท้อนอยู่ในสมองของเขาเป็นเวลานานมาก! และแล้วมาร์วินก็บังคับตัวเองให้ย้ายออกไป เมื่อเสียงค่อยๆเงียบลงเขาก็มองไปข้างหลัง

 

“มีบางอย่างอยู่ภายใน!”

 

ตอนนี้เสียงที่น่ากลัวนั้นสามารถทำให้มาร์วินกล้าหาญได้ ความรู้สึกแบบนี้ไม่อาจอธิบายได้ … มันน่ากลัวใช่ไหม?

มาร์วินขมวดคิ้วและตรวจสอบสถานะแต่ไม่พบการตรวจสอบความกลัวหรืออะไรที่คล้ายกัน นอกจากนี้เขายังสวม [ของขวัญของวาเนสซ่า] ซึ่งเพิ่มความต้านทานความกลัวของเขาขึ้น 10 เเต้ม เวทมนตร์ความกลัวสามัญทั่วๆไปจะไม่สามารถใช้กับเขาได้แต่ความรู้สึกที่น่ากลัวจริงๆเเล้วมาจากก้นบึ้งของหัวใจ! มันไม่ใช่ความกลัว แต่เสียงนี้รู้สึกราวกับว่ามันก่อให้เกิดเสียงสะท้อนภายในหลอดเลือดของเขา

 

มีสมบัติหรือสัตว์ประหลาดกันแน่ที่อยู่ข้างใน?

 

มาร์วินมองไปที่ก้อนหินที่อยู่ข้างหลังเขาด้วยใบหน้าหวั่นๆ ในที่สุดเขาก็เรียกความกล้าของเขาออกมาและโยนเรื่องนี้ไปที่อื่นในขณะนี้ เขาต้องมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายของเขา เขาไม่อาจสับสนกับสิ่งเหล่านี้ได้ เสียงร้องแปลกๆนี้จะต้องรอจนกว่าเขาจะฟื้นฟูพื้นที่ของหุบเขาริเวอร์ไวท์สำเร็จได้

 

 

มาร์วินรีบเดินออกจากเส้นทางลับและเดินกลับเข้าไปในบ้านไร่อย่างตื่นตระหนกและนั่งอยู่ข้างๆรอล่า

 

“เธออยากทำอะไรล่ะ?”

 

หญิงสาวคนนี้กลัวมาก เธอนั่งและคิดอย่างนั้นสักครู่นึงเธอรู้สึกมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ปล่อยให้เธอออกไปผู้ชายคนนั้นเขาจะห่วงใยฉันได้อย่างไร? ใช้ร่างกายของฉันก่อนแล้วค่อยฆ่าฉันให้ตาย? หรือฉันจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับพวกโนลล์เหล่านั้นเพียงเฉือนฉันให้ขาดเป็นสองท่อนหรือมากกว่านั้น?รอล่าคิดมากมาย ยิ่งเธอคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งมีเหตุผลที่น้อยที่เธอจะสามารถยอมรับได้ ไม่ว่าเธอจะแย่ซักเท่าไหร่เธอก็ยังดีกว่าพวกโนลล์ใช่ไหม?

 

“มันอาจจะเป็นครั้งแรก”

 

ขณะที่เธอคิดถึงเรื่องนี้เธอก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเมื่อมาร์วินเเก้มัดเธอเธอยากจะรีบหนีออกไปทันที … เเต่ถูกยับยั้งอย่างรวดเร็วโดยมาร์วิน

 

“เดินต่อไปหรือเจ้าจะอยากตาย”

 

มาร์วินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาในขณะที่วางกริชโค้งไว้ที่คอของเธอ เสียงของเขาเหน็บหนาวมากอาจเป็นเพราะเขายังคงทุกข์ทรมานจากอิทธิพลของเสียงร้องเพลง รอล่ากลัวและเริ่มหิวเธอเพิ่งจะใช้ความกล้าหาญหายในทันที

 

‘ฉันเดาว่าฉันคงเกิดมาภายใต้ดวงดาวที่ไม่ดี’

 

เธอเพียงแค่ปิดตาเเละรอชะตากรรมของเธอ เธอคาดหวังได้อย่างไรว่าในเวลานั้นมาร์วินจะถามเธอด้วยความงุนงงว่า “เจ้าทำอะไร?”

 

”อ่า!” รอล่าเปิดตาของเธอที่ดูไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย

 

มาร์วินกล่าวเบาๆว่า “เตรียมตัวให้พร้อมแล้วข้าจะพาเจ้าออกจากพื้นที่ของพวกโนลล์l”

 

 

ถ้าเป็นมาร์วินเพียงคนเดียวการเดินทางออกจากพื้นที่ของพวกโนลล์นั้นง่ายมากแต่การมีภาระอย่างรอล่าก็เป็นเรื่องที่ลำบากมากยิ่งขึ้น รอล่าไม่ได้มีความสามารถในคลาสใด ๆ ดังนั้นไม่เพียงแต่เธอจะไม่สามารถช่วยเขาได้เธอก็ยังเป็นภาระอีกด้วย

โชคดีที่มาร์วินคิดอย่างนั้น เขาล่อกวาดล้างผู้เฝ้าระวังพื้นที่สำคัญบางส่วนและลากรอล่าออกจากหุบเขาริเวอร์ไวท์สามวันต่อมาเมื่อรอล่ายืนอยู่อีกครั้งที่หน้าเมืองริเวอร์ชอว์เธอก็มีความสุขมาก

 

‘สุดท้ายก็ได้ออกมาจากที่นั่น!’

 

เธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในหุบเขาริเวอร์ไวท์นื่องจากพวกของโนลล์ เธออาจถูกกิน ทั้งทอดหรือแม้แต่นึ่ง: ทุกคนไม่ได้เเม้เเต่จะมีโอกาสที่จะสัมผัสความรู้สึกนี้นี้ รอล่ารู้สึกยินดีที่ได้รอดชีวิตและเกือบจะร้องไห้

 

“ขอบคุณ, ขอบคุณมากค่ะ” เธอขอขอบคุณมาร์วิน

 

แม้ว่าผู้ชายคนนี้ที่มีดวงตาที่ดุร้าย แต่เขาก็ดูไม่ได้ร้ายเท่าที่เธอคิด … มาร์วินยังสวมหน้ากากอยู่กระซิบอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็ถามว่า “เจ้ารู้เส้นทางไปยังอ่าวอัญมณีใช่หรือไม่?”

 

”อ่า!” รอล่าตกใจ

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่ลูกสาวของหอการค้า ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนหลอกลวง แต่ข้าตัดสินใจที่จะให้เจ้าได้รับโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง “

 

มาร์วินเอากระเป๋าออกมาและมอบให้รอล่า “มีเงินอยู่ภายในนี่น่าจะเพียงพอสำหรับเจ้าที่จะเดินทางไปอ่าวอัญมณีและน่าจะพอเหลืออยู่บ้าง เจ้าสามารถใช้มันเพื่อจ้างกำลังคนบางส่วนเพื่อปกป้องเจ้าหรือติดสินบนบางคนได้ “

 

“ข้าต้องการให้เจ้าทำอะไรบางอย่างให้กับข้า”

 

โลล่ามองมาร์วินตกใจ

 

“คุณรู้เกี่ยวกับฉัน?” เธอมองเขาอย่างน่าสงสัย ลอร์ดแห่งหุบเขาริเวอร์ไวท์เล่าให้ท่านฟังใช่ไหม? คุณเป็นคนของเขาหรือ? “

 

รอล่ากำลังตื่นตะหนก มาร์วินไม่ได้อธิบายใดๆ “มั้งนะ”.

 

“ทำไมคุณไว้ใจฉัน?” รอล่าหยิบกระเป๋าเงินนั้นความรู้สึกมากมายผสมอยู่ในหัวใจของเธอ

 

“ข้าแค่คิดว่าเจ้ายังไม่ค้นพบตัวเองว่าเจ้าไม่อยากที่จะเป็นคนหลอกลวง” มาร์วินเสริมเบา ๆ ว่า “บางทีเจ้าอาจจะไม่ได้เลวร้ายนัก”

 

“ข้าต้องการให้เจ้ามีโอกาส.”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset