ท่านจวนเอาหยกน้ำดีทรงวงแหวนออกมาจากอกพลางวางเอาไว้ในมือของเปียวจื่อ จากนั้นก็เอียงตัวเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเขาเล็กน้อย
“คุณท่านตงฟางวางใจเถอะ ฉันจะบอกแทนคุณให้เป๊ะเลย” หลังจากที่ฟังคำของท่านจวนเสร็จ เปียวจื่อก็รีบลุกขึ้นมา ก่อนจะพูดรับประกันด้วยความจริงจัง
“อือ ไปเถอะ” ท่านจวนพยักหน้า ก่อนจะโบกมือให้เปียวจื่อ แล้วทั้งสองคนก็แยกกันไป
“เฮีย ภรรยาของอาจารย์ฟื้นแล้ว” หลี่ต๋าคางกับส้าวส้วยเพิ่งกลับมาที่สถานตากอากาศ โหจื่อรายงานกับพวกเขาด้วยใบหน้ายินดี
ตอนแรกที่หลี่ต๋าคางยังหน้าดำคร่ำเครียดเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ไม่ทันเปลี่ยนรองเท้า ก็รีบขึ้นไปด้านบน
ตอนแรกเพื่อการรักษาเมี๋ยวชุ่ยให้ดีที่สุด หลี่ต๋าคางเลยให้คนเปลี่ยนชั้นสองเป็นห้องวิจัย จากนั้นก็อยู่ที่นั่นมาตลอด
“ที่รัก ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?ดีขึ้นหรือยัง?” เมื่อเห็นเมี๋ยวชุ่ยที่มีสายสีเขียวระโยงระยาง หลี่ต๋าคางที่เป็นชายชาตรีก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที
ใบหน้าเมี๋ยวชุ่ยนั้นไร้สีสัน ก่อนจะพิงตู้พลางมองมาที่หลี่ต๋าคางอย่างอ่อนโยน จากนั้นปากก็มีรอยยิ้มขึ้นมา
“ที่รัก ทำไมคุณตัวเปื้อนไปหมดเลย?ไม่รู้จักไปล้างหน้าล้างตา ดูสิว่าคุณสกปรกขนาดไหน”
เมื่อได้ยินเมี๋ยวชุ่ยหยอกล้อตัวเอง หลี่ต๋าคางก็ดวงตาแดงก่ำ เขาเลยหันไปไม่กล้ามองเมี๋ยวชุ่ย พลางพยายามทำให้อารมณ์ของตัวเองเป็นปกติ
หลายปีมานี้เมี๋ยวชุ่ยนั้นลำบากกันมาไม่น้อย มีหลายครั้งที่แย่งมาจากพญายมกลับมาไม่น้อย หลายครั้งเมี๋ยวชุ่ยบาดเจ็บ ในใจของหลี่ต๋าคางก็โทษตัวเองเป็นอย่างมาก ว่าตัวเองปกป้องคนรอบกายไม่ได้
“จริงสิ ที่รัก ลูกเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?เสี่ยวฉงกับวี่เฟยไม่ได้บาดเจ็บอะไรใช่ไหม?ทำไมจู่ๆ โรงพยาบาลถึงระเบิดได้ล่ะ?คุณหาเจอไหมว่าใครเป็นคนทำ?”
เมี๋ยวชุ่ยเองก็บาดเจ็บขนาดนั้นแล้วแต่กลับไม่สนใจเลย แถมยังคิดถึงแต่การปลอบใจของพวกหยางฉง
เมื่อเห็นเมี๋ยวชุ่ยถามเรื่องระเบิดออกมา สีหน้าของหลี่ต๋าคางก็หนักใจเข้าไปใหญ่
“ท่านจวนเป็นคนทำ เขาแย่งลูกไปแล้ว ตอนนี้เสี่ยวฉงกับวี่เฟยยังอยู่ที่โรงพยาบาล แม้จะยังไม่ฟื้น แต่ร่างกายไม่ได้มีอะไรร้ายแรงขนาดนั้น”
“อะไรนะ?เด็กน้อยถูกแย่งไปงั้นเหรอ?!ซือ……” เมื่อได้ยินว่าเด็กถูกท่านจวนแย่งไป เมี๋ยวชุ่ยก็นั่งไม่ติด ก่อนจะนั่งขึ้นมาจากเครื่องช่วย
เพียงแค่ขยับมันก็ส่งผลถึงแผลแล้ว หลังจากที่หายใจอย่างเยือกเย็นก่อนจะรับสารอาหารเหลวเข้าไป
ตอนนี้มันทำให้หลี่ต๋าคางตกใจอยู่ไม่น้อย ก่อนจะยื่นมือออกไปพยุงเมี๋ยวชุ่ย แต่กลับมีสิ่งสกปรกขวางเอาไว้ เลยต้องเรียกคนอื่นมา
แพทย์พยาบาลด้านนอกได้ยินเสียงของหลี่ต๋าคางก็รีบเข้ามาทันที ก่อนจะพยุงเมี๋ยวชุ่ยที่สำลักสารอาหารเหลวนั้นขึ้นมา
“อะแฮ่มๆ อะแฮ่มๆ ……” เมี๋ยวชุ่ยคิดว่าตัวเองนั้นเจ็บไปทุกอณูของร่างกาย เพียงแค่ไอจามก็ยังเปลืองแรงเลยล่ะ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เธอเองก็ยังจับมือของหลี่ต๋าคางเอาไว้แน่น
“ที่รัก คุณไม่ต้องกังวลไปนะ ไอ้บ้าที่แย่งลูกของเสี่ยวฝางไป ฉันเองก็จับตงฟางเย่นได้แล้ว ถ้าเกิดเขาไม่พาลูกกลับมาอย่างปลอดภัย งั้นตงฟางเย่นก็ไม่ต้องคิดจะออกไปโดยที่ยังมีลมหายใจได้แล้ว”
เป็นสามีภรรยากันมาหลายปี หลี่ต๋าคางเองก็รู้ว่าเมี๋ยวชุ่ยอยากจะพูดอะไร เลยจับมือของเธอ จากนั้นจึงพูดอย่างตั้งใจ
“อะแฮ่มๆ ……ที่รัก……จะต้อง จะต้องพาลูกกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้นะ!” เมื่อพูดคำนี้จบ ต่อหน้าเมี๋ยวชุ่ยก็มืดดำ และเป็นลมไปอีกครั้ง
เมื่อแพทย์พยาบาลเห็นดังนั้น ก็รีบเข้าทำการช่วยเหลือ หลี่ต๋าคางเลยอดไม่ได้ที่จะถอยออกจากห้องวิจัย
“เฮีย หญิงที่ห้องใต้ดินคนนั้นน่ะคุณจะทำอย่างไรเหรอ?ฉันเพิ่งจะฝึกฝนไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรที่มีประโยชน์ออกมาเลย ดูท่าทีแล้วไม่รู้จริงๆ ว่าท่านจวนอยู่ที่ไหน”
“ข่าวแพร่ออกไปนานแล้ว ท่านจวนไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย”
โหจื่อมองหลี่ต๋าคางที่มีสีหน้าเคร่งเครียด เลยบอกความจริงออกไป ตงฟางเย่นเองก็หัวแข็งไม่เบา ถูกทำร้ายจนไม่เหลือชิ้นดี แต่กลับยังกัดฟันไม่ยอมก้มหัวให้
มันทำให้ชายอย่างโหจื่อ อดไม่ได้ที่จะยอม
ถ้าไม่ใช่ว่าตงฟางเย่นเป็นผู้หญิง คนต่อไปที่จะได้เป็นเจ้าบ้านของตระกูลตงฟางก็คงจะไม่ใช่เขา
“ในเมื่อตงฟางเย่นทำให้เขาออกมาไม่ได้ งั้นก็เอาคนที่เหลือของตระกูลตงฟางมาให้หมด ฉันไม่เชื่อหรอกว่าไอ้นั่นมันจะทนไหว”
ครั้งนี้หลี่ต๋าคางโหดร้ายแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้เขายังแคร์ความเป็นมิตรอยู่บ้าง เลยไม่ได้ทำให้ตระกูลตงฟางตายเรียบ เพราะสนใจเพียงท่านจวนคนเดียวเท่านั้น
แต่ตอนนี้ท่านจวนบังคับเขา ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็โทษที่เขาไม่ยั้งมือไม่ได้
โหจื่อไม่แปลกใจกับการตัดสินใจของหลี่ต๋าคางในครั้งนี้เลย เขาไม่ใช่คนในอ่อน ถ้าเกิดคนอื่นบอกว่าฆ่าคนของตระกูลตงฟางแล้วจะเอาลูกของหลี่ฝางกลับมาได้ โหจื่อจะต้องลงมืออย่างไม่กะพริบตาแน่นอน
เพียงไม่นาน พวกแก่ป่วยใกล้ตายของตระกูลตงฟางก็ถูกจับไปที่สถานตากอากาศ จากนั้นพวกที่ถูกทำร้ายจนไม่เหลือซากอย่างตงฟางเย่นเมื่อได้เห็นบรรพบุรุษของตัวเอง ก็แทบบ้า
“หลี่ต๋าคาง!แกแค้นอะไรก็ปรี่เข้ามาหาฉันเลย!ปล่อยพวกเขาไป!พวกเขาบริสุทธิ์นะ!”
ถึงตงฟางเย่นจะตะโกนสุดเสียง แต่สีหน้าของหลี่ต๋าคางก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
“พวกเขาบริสุทธิ์ งั้นหลานชายของฉันไม่บริสุทธิ์เหรอ?เขาเกิดมาไม่กี่ชั่วโมง ยังต้องใช้ตู้อบทารกเพื่อมีชีวิตอยู่เลย ตอนที่ท่านจวนจับเขาไป ทำไมไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้าง?”
ตงฟางเย่นต้องหุบปากไปเพราะคำพูดของหลี่ต๋าคาง อึกอักอยู่เล็กน้อย ในที่สุดก็ก้มหัวของตัวเองลง
“ฉันบอกว่า ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ขอเพียงคุณปล่อยคนอื่นๆ ของตระกูลตงฟางเท่านั้น”
ตอนแรกคิดว่าเมื่อตัวเองบอกเรื่องที่เกี่ยวกับท่านจวน แล้วหลี่ต๋าคางจะปล่อยคนอื่นๆ ในตระกูลตงฟาง
แต่เรื่องนั้นมันถูกยืนยันแล้วว่าตงฟางเย่นคิดมากไปเอง หลี่ต๋าคางหัวเราะเสียงเย็นชา จากนั้นก็มองเหยียดใส่เธอพลางพูด “คุณไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับฉัน”
เมื่อมองแววตาเย็นชาของหลี่ต๋าคาง ตงฟางเย่นก็เลิกดึงดัน เลยยิ้มอย่างขมขื่นออกมา หรือจะเรียกว่าผลกรรมสนองก็ได้
ถ้าเกิดก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้มีปัญหากับตระกูลหลี่ บางทีทั้งหมดนี้อาจจะเป็นแบบนี้ น่าเสียดาย ที่บนโลกนี้ไม่มียาความเสียดาย เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ พูดมากไปก็ช่วยอะไรไม่ได้
“เจ้าบ้านเขากลับมาที่ตระกูลตงฟางน้อยมาก แถมยังไปมาคนเดียว โดยเฉพาะช่วงหลายปีมานี้ เรารู้เรื่องของเขาน้อยมาก ฉันรู้เพียงว่าเขาซื้อคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ชานเมืองของเมืองตงไห่ ฉันส่งที่อยู่ให้พวกคุณได้ แต่จะหาเขาเจอไหม ฉันเองก็ไม่กล้ารับประกัน”
NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 1265 ก้มหัว
Posted by ? Views, Released on November 17, 2021
, NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
Status: Ongoing
พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….
Recommended Series
Comment
Facebook Comment