เห็นได้ชัดเลยว่าอาซาโทสนั้นกะจะเอาเมี๋ยวชุ่ยให้ถึงตาย แต่ยังดีที่ก่อนหน้านี้เมี๋ยวชุ่ยเคยฝึกการแกล้งตาย เธอเลยสามารถทำให้ตัวของตัวเองนั้นเข้าสู่การหลับลึกได้ เลยสามารถทำให้เหมือนกับว่าเธอตายไปแล้วได้
หลังจากที่อาซาโทสมั่นใจแล้วว่าเมี๋ยวชุ่ย ‘ตาย’ แล้ว ก็พาเสี่ยวผิงอันจากไป
“คุณจะบอกว่าอาซาโทสฟื้นขึ้นมางั้นเหรอ?แถมเขายังพาตัวผิงอันไปอีกงั้นเหรอ?” หลังจากที่หลี่ต๋าคางได้ฟังเมี๋ยวชุ่ยเล่าแล้ว ก็ดูไม่ดีเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าอึมครึมเหมือนเมฆดำ ภายใต้แววตามีแต่ความโกรธ
“ที่รัก คุณรีบติดต่อท่านผู้อาวุโสเถอะ ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ง่ายๆ แล้วล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับผิงอันไม่ได้ ฉันจะไปช่วยเขา”
เมี๋ยวชุ่ยพยายามยันตัวจะลุกขึ้นมา แต่ตัวของเธอนั้นหนักเกินไป ยังไม่ทันจะยืนดีก็เซลงกับฟื้น ยังดีที่หลี่ต๋าคางมือไวเลยกอดเอาไว้ทัน ครั้งนี้เลยไม่ทำให้เจ็บตัวซ้ำสอง
“ที่รัก คุณอย่าร้อนใจไป ตอนนี้ร่างกายคุณอ่อนแอมาก อย่าหุนหัน เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง ฉันจะต้องทำให้คนพวกนั้นมาชดใช้เอง”
หลี่ต๋าคางกอดเมี๋ยวชุ่ยเอาไว้ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก
หลังจากที่ท่านผู้อาวุโสรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นที่สถานตากอากาศแล้ว เขาที่มีสีหน้านิ่งเฉยก็ร้อนรนขึ้นมา
ขนาดตอนที่หลี่ต๋าคางไปถึงต้าเซี่ยหลงเช่วแล้ว เขายังเดินออกมารับหลี่ต๋าคางกับเมี๋ยวชุ่ยที่ด้านหน้าด้วยตัวเองเลย
“พวกพ้องต๋าคาง คุณจะต้องคุมอารมณ์เอาไว้ให้ได้นะ อย่าหุนหันพลันแล่น เรื่องนี้พวกเราสืบได้แล้ว คุณรออีกสักหน่อย เดี๋ยวก็จะมีข่าวคราวแล้วล่ะ”
ท่านผู้อาวุโสเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พลางพูดด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจหลี่ต๋าคาง
แต่หลี่ต๋าคางนั้นกลับไม่ได้อยากจะฟังเขาสักเท่าไหร่ เลยเห็นเพียงหลี่ต๋าคางชายตามองท่านผู้อาวุโสอย่างเย็นชาเล็กน้อย พลางพูดด้วยเสียงเย็นจับใจ
“พวกเขาแทบจะมาขี้บนหัวกูอยู่แล้ว แกยังจะบอกให้เก็บอารมณ์ไว้อีกเหรอ?ท่านผู้อาวุโส ไม่ว่าครั้งนี้คุณจะพูดอย่างไร พวกอ่อนหัดที่ญี่ปุ่นนั่นก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตต่อไปเลย”
เมื่อพูดจบ หลี่ต๋าคางก็กอดเมี๋ยวชุ่ยที่หลับใหลอีกครั้งก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องวิจัยของต้าเซี่ยหลงเช่ว
“ท่านผู้อาวุโส แล้วนี่จะทำอย่างไรดี?ถ้าเกิดหลี่ต๋าคางทำอะไรขึ้นมาจริงๆ หัวหน้าเกรงว่าจะนั่งไม่คิดแล้วล่ะ”
หลิวฮุยเห็นเงาของหลี่ต๋าคางที่ห่างไปไกล ก็ถามด้วยความหนักใจ
“เห้อ ครั้งนี้คนญี่ปุ่นพวกนั้นมาแตะกับสิ่งที่ไม่ควรของหลี่ต๋าคางแล้วจริงๆ เกรงว่าวันนี้มันจะเปลี่ยนไปจริงๆ”
ท่านผู้อาวุโสคิดถึงผลที่หลี่ต๋าคางจะระเบิดออกมาก็ปวดหัวเป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ตกจริงๆ คนญี่ปุ่นพวกนั้นจะไปยั่วโมโหเพื่ออะไรกันนะ?ไม่อยากมีชีวิตอย่างยืนยาวหรือไง?
หรือพวกเขาคิดว่าหลี่ต๋าคางนั้นน่ากลั่นแกล้งเหมือนที่ตาเห็นจริงๆ งั้นสิ?
หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าสั่งการหลี่ต๋าคางเอาไว้ ไม่ให้เขาทำอะไรบ้าๆ ไม่แน่ว่าองค์กรต้าเซี่ยหลงเช่วนั้นคงจะไม่มีทางก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาได้
ชายคนนี้ถ้าเกิดว่าเขาโกรธขึ้นมาจริงๆ ละก็ คงจะไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่จะขวางเขาเอาไว้ได้เลยล่ะ
“หลิวฮุย ช่วยฉันต่อสายกับหัวหน้าหน่อยสิ เรื่องในครั้งนี้เหมือนจะปิดเอาไว้ไม่อยู่แล้วล่ะ”
ท่านผู้อาวุโสถอนหายใจหนักอีกครั้ง เพราะได้คิดสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ในใจแล้ว
“ท่านผู้อาวุโส ภรรยาของฉันน่ะฝากคุณดูแลก่อนสักพักก็แล้วกัน” หลี่ต๋าคางมองเมี๋ยวชุ่ยที่หลับใหล ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจนน่ากลัว
“พวกพ้องต๋าคาง คุณมั่นใจเหรอว่าจะทำแบบนี้น่ะ?คุณรู้ไหมว่าพวกเบื้องบนนั้น……”
ตอนแรกท่านผู้อาวุโสยังอยากจะโน้มน้าวหลี่ต๋าคาง เพื่อหวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจได้ แต่เมื่อเขาพูดไปครึ่งหนึ่ง หลี่ต๋าคางก็พูดตัดบทขึ้นมา
“คุณไม่ต้องมาโน้มน้าวฉัน คนพวกนั้นสมควรตาย พวกเขามาเล่นกับขีดจำกัดของฉันมาหลายครั้งแล้ว ก็อย่าโทษว่าฉันลงมือหนักไปก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นความอาฆาตในตาของหลี่ต๋าคาง ท่านผู้อาวุโสก็รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็คงจะห้ามเขาไม่ได้แล้ว
“เห้อ ถ้าคุณดื้อดึงแบบนี้ งั้นฉันเองก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว หลี่ต๋าคาง ในเมื่อฉันมานั่งอยู่บนที่ของท่านผู้อาวุโสต้าเซี่ยหลงเช่วแล้ว ก็ควรรับผิดชอบในสิ่งที่ฉันสั่ง”
“หัวหน้าพูดออกมาขนาดนั้นแล้ว ถ้าคุณยังดึงดันที่จะทำอะไรล่ะก็ ฉันเองก็ต้องใช้ไม้แข็งให้คุณอยู่ที่นี่แล้วล่ะ”
เสียถอนหายใจอย่างหนักใจ แววตาของท่านผู้อาวุโสนั้นเข้มงวดขึ้นมามาก หลังจากที่เขาพูดออกไปแล้ว จู่ๆ ก็มีชายติดอาวุธชุดดำสามสี่สิบคนโผล่ออกมาจากทุกทิศทุกทาง
หลี่ต๋าคางมองไปรอบๆ พลางเลิกคิ้วขึ้น “ท่านผู้อาวุโส คุณคิดว่าแค่คนพวกนี้ จะมาขวางหลี่ต๋าคางอย่างฉันได้เหรอ?”
เมื่อเพิ่งจะพูดออกไป ชายชุดดำก็เอาอาวุธนั้นเข้ามาหวังจะทำร้ายที่หัวของหลี่ต๋าคาง สีหน้าของท่านผู้อาวุโสนั้นค่อยๆ หนักใจขึ้น
“หลี่ต๋าคาง อย่าใช้อารมณ์เป็นใหญ่ หัวหน้าบอกแล้ว ว่าจะพวกเขาจะออกไปพาตัวของหลานและภรรยากลับมาอย่างปลอดภัย ตอนนี้คุณรอก็เพียงพอแล้วล่ะ”
จะว่าไป ท่านผู้อาวุโสนั้นไม่อยากเป็นศัตรูกับหลี่ต๋าคางเลย ไม่เพียงแค่เพราะกำลังที่แข็งแกร่งของเขา แต่ยิ่งกว่านั้นคือเขาเห็นหลี่ต๋าคางเป็นเพื่อนไปแล้ว
แต่หลี่ต๋าคางนั้นไม่ยอมรับสิ่งที่ท่านผู้อาวุโสวางไว้ เลยยิ้มขึ้นมา ก่อนจะระเบิดความโกรธขึ้นมา
“คนที่ทำร้ายฉันต้องตาย”
หลังจากที่พูดคำเย็นชานี้ออกไป ร่างกายของหลี่ต๋าคางก็หายไปต่อหน้าต่อตา สีหน้าของท่านผู้อาวุโสก็แย่เข้าไปใหญ่ เลยเตือนลูกน้องของตัวเองขึ้นมาอย่างดัง
“ระวัง!”
แต่มันก็เป็นเพียงเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น ชายชุดดำที่อยู่ใกล้หลี่ต๋าคางมากที่สุดนั้นรับคำก่อนจะล้มลง
เพียงไม่นาน ชายชุดดำที่ดูโหดร้ายก็ล้มระเนระนาด จากนั้นท่านผู้อาวุโสก็มองคนที่ตัวเองเลือกมาอย่างดีล้มลงต่อหน้าทีละคนๆ
นี่มันเหมือนหลี่ต๋าคางเป็นคนฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวเลยล่ะ
“ท่านผู้อาวุโส รบกวนช่วยพูดกับเบื้องบนหน่อย ให้พวกเขาอย่าได้มาล้อเล่นกับฟางเส้นสุดท้ายของความรู้สึกฉัน”
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที หลี่ต๋าคางก็ทำให้ชายชุดดำทุกคนนั้นล้มลง แต่เขาก็ยังไม่ได้ลงมือถึงขั้นที่จะตาย เพียงแค่ทำให้คนเหล่านั้นสลบไปเท่านั้นเอง
“พอแล้วล่ะๆ คุณไปเถอะ” ท่านผู้อาวุโสนั้นรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเอาหลี่ต๋าคางไว้ไม่อยู่ เขาทำแบบนี้ก็เพื่อจะได้รายงานเพียงเท่านั้น
เลยโบกมือให้หลี่ต๋าคางอย่างจนปัญญา จากนั้นก็หันหน้าไปอีกด้าน เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางห้ามหลี่ต๋าคางไม่ให้ไปได้ คนญี่ปุ่นเหล่านั้นก็ฆ่าคนในครอบครัวไปแล้ว เป็นใคร จะมาห้ามความโกรธเอาไว้ได้เล่า?
หลี่ต๋าคางเลยมองเมี๋ยวชุ่ยที่อยู่ในห้อง จากนั้นก็หายตัวไปในทางเดิน
พวกหลี่ฝางนั้นบินมาพอดี กำลังเตรียมจะเอาโทรศัพท์โทรหาพวกฉินวี่เฟยเพื่อบอกว่าปลอดภัย แต่ก็ถูกพวกคนติดอาวุธเหล่านั้นขวางทางเอาไว้
“เฮ้ พวกคุณเป็นใครน่ะ?เปิดทางให้คุณชายเดี๋ยวนี้ อย่ามาขวางทางพวกเรา” ไขจี๋เออขมวดคิ้วพลางมองคนที่ขวางทางอยู่ ก่อนจะไล่พวกเขาด้วยความรำคาญ
เพียงแค่คนเหล่านั้นไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะยื่นมือไปผลักไขจี๋เออไปข้างๆ ด้วยท่าทีน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก
“คุณหลี่ฝาง นายของพวกเราอยากเจอคุณ”
เมื่อได้ยินสำเนียงภาษาจีนที่เกินทนของพวกเขา หลี่ฝางก็ขมวดคิ้วขึ้น พลางเอาโทรศัพท์กลับไปไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม ก่อนจะพูดปฏิเสธออกไป
“ขอโทษนะ ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาไปเจอนายของพวกคุณหรอก”
เมื่อพูดจบ หลี่ฝางก็พาคนอื่นๆ จากไป แต่พวกนักรบเหล่านั้นกลับไม่ยอม เลยไม่มีท่าทีจะเปิดทางให้พวกเขาเลยแม้แต่น้อย