“ท่านผู้อาวุโส ต้องฝากพวกเธอไว้ที่คุณด้วย” หลังจากที่บอกลาฉินวี่เฟยกับหยางฉงแล้ว หลี่ฝางก็บอกท่านผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายอีกครั้ง
“ไม่มีปัญหา คุณก็ระวังให้มากแล้วกัน” ท่านผู้อาวุโสตบไหล่ของหลี่ฝาง หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ เขาก็พาพวกหยางฉงกับฉินวี่เฟยจากไป
พวกท่านผู้อาวุโสไปได้ไม่นาน ก็มีรถลินคอล์นยาวสีดำมาจอดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาล
มีหญิงใส่ชุดกิโมโนทยอยลงมาจากรถ ก่อนจะเรียงกันอยู่หน้าประตูโรงพยาบาลมากมาย ท่านนายพลหญิงค่อยๆ เดินลงมาจากรถท่ามกลางการพยุงของคนใช้
เมื่อคนในโรงพยาบาลเห็นดังนั้น ก็ทยอยวิ่งออกมา จากนั้นจึงคุกเข่าลงหน้าโถงของโรงพยาบาล
แต่ว่าท่านนายพลหญิงกลับทำเหมือนไม่เห็นคนที่คุกเข่าลงต่อหน้าตัวเอง จากนั้นก็เดินตรงไปหาหลี่ฝาง
“บอกพวกเขาชัดเจนหรือยัง?” ท่านนายพลหญิงยื่นมือออกมาจัดแจงเสื้อผ้าของหลี่ฝาง ก่อนจะยิ้มพลางถาม
ท่าทีสนิทสนมแบบนี้หลี่ฝางรู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก แต่เพื่อเอาชนะใจของท่านนายพลหญิง เขาเลยพยายามกดความเกลียดชังในใจเอาไว้
“พูดชัดเจนแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังไปที่สนามบิน คุณเคยบอกฉัน ว่าจะทำให้พวกเขาออกมาอย่างปลอดภัย ฉันหวังว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูด”
เพื่อรับประกันความปลอดภัยของพวกฉินวี่เฟย หลี่ฝางเลยกล่าวซ้ำอีกครั้ง
ท่านนายพลหญิงปิดปากหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ซบอยู่ในอ้อมกอดของหลี่ฝางเหมือนไม่มีกระดูกอย่างไรอย่างนั้นเลย
“โฮะๆ ……ตอนนี้ฉันไม่ได้อารมณ์ดีมากนะ หรือไม่อย่างนั้น คุณก็มากล่อมฉันสักหน่อย ไม่แน่ว่าถ้าฉันอารมณ์ดีแล้ว อาจจะตอบตกลงกับคุณก็ได้?”
หลังจากที่หลี่ฝางได้ยินคำของท่านนายพลหญิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที จากนั้นจึงผลักเธอออกจากอกของตัวเอง พลางหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น
“คุณหมายความว่าอย่างไร?เมื่อครู่คุณสัญญาแล้วว่าจะให้พวกเขาไปอย่างปลอดภัย หรือว่าตอนนี้คุณอยากจะกลับคำงั้นเหรอ?”
ท่านนายพลหญิงถูกเขาผลักจนเซ เกือบจะล้มลงบนพื้นแล้ว ยังดีที่ชายกล้ามโตที่อยู่ข้างๆ กอดเธอเอาไว้ได้ทัน
“สามหาว!แกกล้าทำตัวไร้มารยาทกับท่านนายพลงั้นเหรอ!” ชายกล้ามโตทนหลี่ฝางมานานแล้ว เมื่อเห็นเขายื่นมือออกมาผลักท่านนายพลหญิงในครั้งนี้ ก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที
“มากเกินไปแล้วนะ ฉันเป็นถึงคู่ครองของท่านนายพลเลยนะ แกกล้ามาใช้คำพูดแบบนี้กับฉันเหรอ!ใครก็ได้มานี่หน่อย ตบเข้าที่หูของมันเดี๋ยวนี้!”
หลี่ฝางนั้นไม่ได้กลัวชายกล้ามโตเลยแม้แต่น้อย เลยยกตำแหน่งคู่ครองของท่านนายพลของตัวเองขึ้นมา พลางเรียกคนรับใช้ที่ท่านนายพลหญิงพามาด้วยเพื่อสั่งสอนอย่างเสียงดัง
คนรับใช้เหล่านั้นมองหน้ากันอยู่นาน เพราะไม่รู้ว่าต้องลงมือหรือเปล่า ชายกล้ามโตเห็นท่านนายพลหญิงไม่ได้ตำหนิตัวเอง เลยมีความกล้าขึ้นมามากกว่าเดิม ก่อนจะมองหลี่ฝางอย่างไม่แยแส
“คุณยังไม่ได้แต่งงานกับท่านนายพลเลย ตอนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นคนของจวนของท่านนายพล อยากจะเข้ามาตบบ้องหูของฉัน มันเหมือนการไม่คำนึงถึงกำลังของตัวเองเลย”
เพิ่งพูดจบ ชายกล้ามโตก็ถูกตบอย่างไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าที่เป็นสีทองแดงของเขาในตอนแรกนั้นก็เกิดเป็นรอยห้านิ้วขึ้นมา
สร้างรอยให้เกิดบนสีผิวแบบนี้ได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าการตบนั้นมันหนักหนาแค่ไหน
“แกตบฉันงั้นเหรอ?!ฉันจะฆ่าแก!” ชายกล้ามโตมองหลี่ฝางที่ตบตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เสียงที่ใหญ่และทุ้มต่ำนั้นก็สูงขึ้นไม่น้อยเลย
เมื่อมองชายกล้ามโตที่กระโจนเข้ามาหา หลี่ฝางก็ยิ้มอย่างไม่แยแส ก่อนจะใช้มือข้างเดียวในการยกชายกล้ามโตขึ้นจากพื้น
“ท่านนายพล คนของคุณไม่รู้จักมารยาทบ้างเลยเหรอ?ฉันยังไม่ทันได้แต่งงานกับคุณ พวกเขาก็กล้าทำท่าทีแบบนี้กับฉันแล้ว ถ้าเกิดฉันเข้าไปอยู่ในจวนของท่านนายพลของคุณ จากนี้คงจะต้องผ่านไปอย่างยากลำบากหรือเปล่านะ?”
หลี่ฝางไม่ปรายตามองชายกล้ามโตเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะหันมามองท่านนายพลหญิงที่เหมือนจะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
ท่านนายพลหญิงเมื่อได้ยินดังนั้น แววตาก็เป็นประกาย ไม่เพียงแค่ไม่ตำหนิที่หลี่ฝางทำร้ายชายในคลังของตัวเอง แต่ยังชื่นชมด้วย
“เหมาะกับเป็นชายที่ฉันชอบจริงๆ ฉันชอบความยโสนี้” ท่านนายพลหญิงปรบมือพลางพูดกับสาวในตำหนักที่อยู่ด้านหลัง “คุณชื่อของจู้เจียนลบออกจากสมุดไป จากนี้ไปฉันไม่อยากเห็นเขาในจวนของท่านนายพลแล้ว”
หลังจากที่หญิงในตำหนักด้านหลังได้ยินคำของท่านนายพลหญิงแล้ว สีหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแค่ตอบรับอย่างเชื่อฟัง
ชายกล้ามโตที่ถูกหลี่ฝางยกขึ้นในตอนนี้มีสีหน้าซีดเซียว ก่อนจะมองท่านนายพลหญิงด้วยความกลัว
“ท่านนายพล!คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!คุณเคยบอกฉัน ว่าฉันคือชายในคลังที่คุณรักมากที่สุด!คุณจะทิ้งฉันไปเพราะไอ้สารเลวนี่ได้อย่างไร!ท่านนายพล!”
เมื่อหลี่ฝางได้ยินคำนั้นของชายกล้ามโตก็รู้สึกอยากอาเจียน ชายชาตรีแบบนี้ กล้ามาพูดคำหวานบ้าบอแบบนี้ได้อย่างไร นี่มันยากเกินจะรับไหวจริงๆ
“แกหุบปากไปเดี๋ยวนี้นะ ชายชาตรีแบบนี้มีเกียรติหน่อยได้ไหม?มีแต่ผู้หญิงล่ะที่จะพูดแบบนี้ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงฉันจะไม่มีทางชอบคุณ”
หลี่ฝางทิ้งชายกล้ามโตลงบนพื้นด้วยความรังเกียจ ในตานั้นมีแต่ความเกลียดชัง
ชายกล้ามโตถูกหลี่ฝางทิ้งลงพื้น ก่อนจะรีบกลับไปอยู่ข้างกายท่านนายพลหญิง พลางกอดขาของท่านนายพลหญิงแล้วร้องอ้อนวอน
“ท่านนายพล คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ!ฉันอยู่ข้างกายคุณมาเจ็ดปี ยังไงก็ต้องมีเครดิตที่ลงมือลงแรงอยู่ คุณจะมาทำเหมือนไม่มีอะไรต่อกัน เพราะคนที่มาใหม่คนเดียวแบบนี้ได้อย่างไร?ฉันจากคุณไปแล้วจะอยู่อย่างไร!”
หลังจากที่ท่านนายพลหญิงได้ฟังชายกล้ามโตแล้ว ไม่เพียงแค่ไม่สงสารเขา แต่ยังมีความโกรธอยู่ในแววตาอีกด้วย จากนั้นจึงเตะชายกล้ามโตเข้าที่หน้าอกเต็มแรงอย่างไม่เกรงใจ พลางพูดเสียงเย็นชา
“ความเป็นความตายของแก มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
คำพูดนี้เหมือนตัดขาดกับชายกล้ามโตอย่างชัดเจน ท่านนายพลหญิงไม่อยากจะสนใจเขาอีกต่อไปแล้ว
หลี่ฝางมองท่านนายพลหญิงที่ไร้ความรู้สึกพลางเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะแอบคิดไป คนที่เป็นถึงจักรพรรดิของแบบหญิงคนนี้ก็ไม่ต้องการความรักความรู้สึกอะไรนั่นเอง
ชายกล้ามโตคนนี้อยู่กับเขามาเจ็ดปี จะทิ้งก็ทิ้งเลย หญิงที่ใจโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้ ไม่แปลกเลยที่ได้เป็นถึงท่านนายพลหญิงของญี่ปุ่น
“ท่านนายพล!ทำแบบนี้ก็ฆ่าฉันไปเลยดีกว่า!” ชายกล้ามโตมองท่านนายพลหญิงด้วยใบหน้าราวกับขี้เถ้า ในตานั้นก็ไม่มีความอยากร้องขออะไรแล้ว
หลี่ฝางรู้สึกสงสารเขาขึ้นมาทันที และมองออกเลย ว่าชายกล้ามโตคนนี้จริงใจกับท่านนายพลหญิงมากจริงๆ
น่าเสียดาย ในคำโบราณของประเทศจีนนั้น คนใหญ่คนโตนั้นเจ้าอารมณ์ ที่ไร้รักต้องเป็นราชา
การมีใจให้กับกษัตริย์นั้น เป็นเรื่องที่โง่เขลาที่สุดในโลก
“พวกคุณยังยืนอึ้งอะไรอยู่ รีบลากคนคนนี้ออกไป” สุดท้ายท่านนายพลหญิงนั้นก็ไม่อยากจะมองชายกล้ามโตเลยด้วยซ้ำ แถมยังให้ลูกน้องลากตัวชายกล้ามโตออกไปด้วย
เมื่อรู้ว่าท่านนายพลหญิงไม่เอาตัวเองแล้วจริงๆ ชายกล้ามโตก็หัวเราะเหมือนคนบ้า ผมที่จัดแต่งอย่างเรียบร้อยก็ยุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ท่านนายพล!พวกเราเจอกันชาติหน้าเถอะ!” หลังจากที่ชายกล้ามโตหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้ว จู่ๆ ก็ชักมีดออกมาจากนักสู้ที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะแทงเข้าอย่างจัง
เลือดสีแดงสดนั้นกระฉูดออกมาจากคอของเขา ดวงตาทั้งสองข้างก็ยังมองท่านนายพลหญิงด้วยความไม่อยากเสียไปอยู่อย่างนั้น
หลี่ฝางตกใจเพราะการกระทำของเขา ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น
พวกพ้องเหล่านี้ก็พยายามเกินไปหน่อยแล้วมั้ง?แค่ผู้หญิงคนเดียวไม่ใช่เหรอ?หายก็หายไปสิ ทำไมต้องมาฆ่าตัวตายด้วย?