“เด็กโง่ เธอเกิดออกมาจากในครรภ์ของฉันสิบเดือน เธอคือเนื้อที่ตกลงมาจากร่างกายของฉัน ฉันจะโทษเธอได้อย่างไร และฉันรู้ว่าเธอพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ”
“ฉันไม่เป็นไร ทรายเข้าตา อีกสักพักก็ดีขึ้น และฉันเชื่อว่าเธอจะพาพ่อของเธอกลับมาได้แน่นอน”
เมี๋ยวชุ่ยเอื้อมมือไปลูบผมหลี่ฝางอย่างรักใคร่ ยิ้มอย่างอบอุ่น เธอไม่ได้ตั้งใจจะโทษหลี่ฝางเลย เธอแค่คิดถึงหลี่ต๋าคางมากเกินไป
ผนึกบนร่างกายของหลี่ต๋าคางเธอก็รู้อยู่แล้ว และเธอก็รู้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะจากโลกนี้ไป เดิมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว หลี่ต๋าคางน่าจะไปนานแล้ว เขาสามารถอยู่เคียงข้างตัวเองได้ตั้งหลายปี เมี๋ยวชุ่ย พอใจมากแล้ว
“แม่ ไม่ต้องห่วง ฉันจะพาพ่อกลับมา เชื่อฉันสิ!”
ยิ่งเมี๋ยวชุ่ยเป็นแบบนี้หลี่ฝางก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดในใจ เขากำมือของเมี๋ยวชุ่ย และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“เด็กดี แม่เชื่อมั่นในตัวลูก ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยขอพักสักหน่อย เธอไปอยู่กับพวกวี่เฟยก่อน”
เมี๋ยวชุ่ยพยายามฝืนยิ้ม พยายามทำให้ตัวเองดูโอเคมากที่สุด
หลี่ฝางมองทั้งน้ำตา อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็กลั้นไว้ เขารู้ว่าเมี๋ยวชุ่ยทุกข์ใจมาก แต่เมี๋ยวชุ่ยไม่ต้องการที่จะแสดงด้านที่อ่อนแอของเขาออกมา
ดังนั้นเธอจึงให้เขาไปอยู่กับฉินวี่เฟย เธอแค่อยากจะรักษาความเจ็บปวดของตัวเองอย่างลับๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนเถอะแม่ ถ้ามีอะไรให้ตะโกนหาฉัน” หลี่ฝางก็ไม่ได้อยากจะเปิดโปงเมี๋ยวชุ่ย ในฐานะแม่ เธอคงไม่อยากเสียสติต่อหน้าลูกชายของเธอหรอก หลี่ฝางเขาใจดี
พยุงเมี๋ยวชุ่ยนอนลง แล้วห่มผ้าให้เธอ หลี่ฝางถึงค่อยๆถอยออกมา
ทันทีที่หลี่ฝางปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงเมี๋ยวชุ่ยที่กำลังเสียใจจากในห้อง เขายืนพิงประตู หลับตา กัดริมฝีปาก ร่างกายสั่นเล็กน้อย แล้วก็ทนความเจ็บปวดภายในจิตใจ
“ผมขอโทษ แม่ ผมขอโทษ…” หลี่ฝางร้องไห้อย่างเงียบๆและพูดคำขอโทษไปด้วย จนเวลาผ่านไปนานหลี่ฝางไม่ได้ยินเสียงของเมี๋ยวชุ่ยแล้ว เขาถึงค่อยๆจากไป
“พี่หลี่ฝาง แม่โอเคไหม คุณ… เจ็บตาไหม ฉันเอาผ้าชุบน้ำเช็ดให้”
ทางนี้หยางฉงเพิ่งส่งเสี่ยวผิงอันเข้านอน เมื่อเห็นหลี่ฝางเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยใบหน้าที่เศร้า โดยเฉพาะดวงตาที่เปียกและบวม เธอชะงักไปสักพักหลังจากนั้นก็ไปเอาผ้าชุบน้ำให้หลี่ฝาง
“เสี่ยวฉง ฉันมันไร้ค่าใช่ไหม” หลี่ฝางนอนอยู่บนโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย เงยหัวขึ้นเล็กน้อย แล้วหลับตาเพลิดเพลินไปกับการดูแลของหยางฉง
หลังจากได้ยินประโยคนี้ มือของหยางฉงก็ชะงัก เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“พี่หลี่ฝาง ฉันรู้ว่าตอนนี้ในใจคุณโทษตัวเองอยู่ โทษตัวเองที่รักษาพ่อไว้ไม่ได้ แต่คุณไม่ควรดูถูกตัวเองแบบนี้นะ คุณแข็งแกร่งขนาดนี้ จะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร”
“ทีหลังอย่าพูดจาท้อถอยแบบนี้อีก ตอนนี้คุณคือเสาหลักของครอบครัวเรานะ คุณต้องเข้มแข็งกว่าแต่ก่อนสิ แล้วเธอบอกอีกไม่ใช่เหรอว่าจะพาพ่อกลับมา?คุณในสภาพแบบนี้จะช่วยพ่อยังไง”
หลังจากฟังคำพูดของหยางฉง หลี่ฝางก็รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย เขาค่อยๆหายใจออก น้ำเสียงของเขาก็มั่นใจขึ้นกว่าเมื่อกี้มาก
“คุณพูดถูก ตอนนี้ฉันเป็นกำลังใจของครอบครัว ฉันไม่ควรมายอมแพ้อยู่แบบนี้ ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้น มีเพียงด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ฉันจะสามารถพาพ่อของฉันกลับมาได้!”
เมื่อเห็นหลี่ฝางดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ใบหน้าของหยางฉงก็เผยรอยยิ้มออกมา ประคบตาหลี่ฝางไปด้วยแล้วก็ค่อยๆนวดขมับให้เขาไปด้วย
ภายใต้ความอ่อนโยนของหยางฉง หลี่ฝางก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว มองหลี่ฝางที่กำลังหลับ ในตาของหยางฉงก็เต็มไปด้วยความทุกข์
ไม่จำเป็นต้องพูด เธอก็เดาได้ว่าหลี่ฝางคงรีบกลับมาทันทีที่เขาได้ผลึกสีม่วงมา เดิมทีเพิ่งจะต่อสู้เสร็จ จากนั้นก็อาศัยพลังวิญญาณในการบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง ถึงเป็นคนที่แข็งแกร่งยังไงก็ทนไม่ได้อยู่ดี
“พี่หลี่ฝาง คุณหลับฝันดีนะ ขอบคุณมาก” หยางฉงห่มผ้าให้หลี่ฝางอย่างแผ่วเบา แล้วจูบเขาที่หน้าผาก หลังจากนั้นก็งีบหลับบนเก้าอี้ข้างๆ
ไม่กี่วันต่อมาส้าวส้วยและกู่ยี่เทียนก็ค่อยๆกลับมาทีละคน ตอนนี้นอกจากเลือดกวางทิพย์ที่ยังหาไม่พบยาอื่นๆได้หาจนครบหมดแล้ว
แต่เสี่ยวหลินตังกับอูหลิงกลับไม่ได้อยู่กับกู่ยี่เทียน และเมื่อหลี่ฝางถามถึงทิศทางที่จะไปของทั้งสองคน กู่ยี่เทียนและหงส์แดงก็มีใบหน้าแดงก่ำไม่เป็นธรรมชาติ
ทำให้หลี่ฝางคาดเดาอะไรบางอย่างได้นิดหน่อย และดึงเสือขาวไปข้างๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ไอ้กู่ กับ เสี่ยวหลิงตัง มีเรื่องอะไรเกินขึ้นใช่หรือเปล่า?”
เสือขาวแอบชำเลืองมองกู่ยี่เทียน แล้วขยับตัวมาที่หูของหลี่ฝาง แล้วกระซิบว่า
“เสี่ยวหลินตังกับหงส์แดงมีเรื่องกัน ต่างฝ่ายต่างโกรธกัน หลังจากนั้นไออูหลิงก็อยากจะสั่งสอนหงส์แดง เฮียก็ได้ห้ามเอาไว้ เสี่ยวหลินตังเจ้าเด็กนั้นบอกว่า เฮียคอยปกป้องหงส์แดง ทั้งสองทะเลาะกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
“หลังจากนั้นเฮียก็โกรธ เลยดุเสี่ยวหลินตังไป บอกว่าเธอเด็กและไม่รู้เรื่อง เสี่ยวหลินตังก็โกรธแล้วเดินจากไป
หลังจากฟังที่เสือขาวเล่า หลี่ฝางไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วเหลือบมองคุณยี่เทียนอย่างเห็นอกเห็นใจ
ผู้หญิงคนนี้ถึงจะมีวาสนาที่ดีแต่ก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากเหมือนกัน
“แล้วไอ้กู่ กับ หงส์แดง เป็นไงบ้าง ทั้งสองดีกันหรือยัง?” ดูจากเหตุผล หลังจากความวุ่นวายนี้ หงส์แดงสามารถมองออกถึงจิตใจของกู่ยี่เทียน ทั้งสองคนไม่น่าจะไม่มีความคืบหน้านะ แต่เมื่อมองดูบรรยากาศในปัจจุบัน ถึงรู้สึกว่ากู่ยี่เทียนและหงส์แดงยังห่างเหินอยู่นะ?
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เสือขาวขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงคร่ำครวญอย่างหนัก
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย หลังจากที่เสี่ยวหลินตังจากไป พวกเราอยู่ต่อหน้าเฮียและหงส์แดงก็ไม่กล้าพูดอะไร ทั้งสองคนก็เหมือนกินดินปืนเข้าไป จะระเบิดได้ถ้าพวกเขารู้สึกไม่ชอบใจ ”
” หลังจากที่เสี่ยวหลินตังจากไป เฮียก็ไปคุยกับหงส์แดงสองคนอยู่นาน ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร แต่หงส์แดงกลับออกจากห้องของเฮียมาด้วยตาที่แดงเถือก พวกเราเดาว่าคำสารภาพรักของเขาถูกปฏิเสธ”
ยิ่งพูดเสียงของเสือขาวยิ่งเบาลง และทำท่าสำนึกผิด เหมือนกับว่ากลัวกู่ยี่เทียนและหงส์แดงจะได้ยิน
หลี่ฝางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนี้ กู่ยี่เทียนเป็นอะไรไป?ท่าทีของเขาเมื่อก่อน ก็ไม่รู้สึกอะไรกับหงส์แดงเลย ในที่สุดตอนนี้ก็พูดออกมาหมดแล้ว แล้วทำไมเขาถึงยังปฏิเสธ?
ยังดีอยู่ เขาต้องหาเวลาคุยกับเขาดีๆเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไอ้กู่ นานๆ เจอกันที เราพี่น้องต้องดื่มกันสักหน่อยแล้ว ไปๆ ฉันจะพาเธอไปชิมไวน์ดีๆที่หวงแหนมานานหลายปี”
หลี่เทียนจับไหล่กู่ยี่เทียนแล้วดึงออกไป กู่ยี่เทียนดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง แต่เขาก็สะบัดหลี่ฝางไม่หลุด เขาจึงทำได้เพียงถูกลากออกไป
“เจ้าเด็กนี่มีอะไรก็พูดออกมา ไม่ต้องมาพูดวกไปวนมา”