NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 207 สุนัขพลีชีพ

บทที่207 สุนัขพลีชีพ
ภายในห้องกักขัง
สวีเถิงเฟยกับตู้เฟยทะเลาะขึ้นมาเหมือนหมากัดกัน
สุดท้ายสวีเถิงเฟยยิ่งคิดก็ยิ่งอารมณ์เสีย เลยเตะตู้เฟยไปหนึ่งที
สวีเถิงเฟยชี้หาตู้เฟยพลางตะโกนด่าขึ้นมา: “ให้ตายเถอะ ตอนที่อยู่ที่เขาหมาป่า คุณยังกล้ามาขู่ฉันเหรอ?”
“ฉันแพ้ไปสิบล้าน แต่พี่คุณนั่นแหละที่มาทำให้ฉันแพ้ อีกอย่าง ไม่เพียงแค่สูญเงินไป แต่พี่ชายของคุณก็ยังขโมยเงินไปด้วย”
“คุณไม่ได้บอกเรื่องขโมยเงินให้เหยโก่วรู้ใช่ไหม?โอเค งั้นคุณไปบอกเขาสิ!”
“เดี๋ยวไม่เพียงแค่ฉันที่ต้องตาย พี่คุณเองก็ต้องตายเหมือนกัน”
“คุณอย่าลืมนะ พี่คุณเพิ่งจะทำให้ครอบครัวสูญเงินไปสิบล้าน ถ้าเกิดต้องเสียไปอีกสิบล้าน ระวังไว้ว่าคุณท่านจะไล่พี่ชายคุณออกจากบ้านนะ”
ตู้เฟยล้มลงกับพื้น
เรื่องที่แพ้จนเสียเงินไปนั้น ตู้เฟยไม่ได้สนใจเลย
ความเป็นความตายของหยูเถิง มันเกี่ยวอะไรกับตู้เฟย?
ถึงแม้ว่าหยูเถิงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคู่แข่งเหมือนกัน
ถ้าเกิดไม่ผิดจากที่คาดเอาไว้ ธุรกิจในบ้าน จะต้องตกอยู่ในมือของหยูเถิงแน่นอน
แต่ถ้าเกิดว่าไม่เป็นไปตามคาดล่ะ?
ถ้าหยูเถิงทำผิด จะต้องทำให้คุณท่านโมโหเป็นอย่างมากแน่นอน
ตู้เฟยคิด เดี๋ยวถึงเวลาแล้ว ตัวเองก็จะมีโอกาสในการขึ้นครองตำแหน่งไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ตู้เฟยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
“คุณหัวเราะบ้าอะไร” สวีเถิงเฟยชี้หาตู้เฟยพลางด่าออกมา
สวีเถิงเฟยคิดอยู่ในใจ ตู้เฟยนั้นเลวจริงๆ เลย ตัวเองทำร้ายเขาขนาดนั้นแล้ว ทำไมยังยิ้มออกอีกนะ?
ตู้เฟยกำหมัดขึ้นมา ก่อนจะปรี่เข้าไปหาสวีเถิงเฟย
ทั้งสองคนต่างล้มลงอยู่ที่พื้น กอดกันนัวเนีย เพราะต่อยกันไปกันมา
สุดท้าย ทั้งสองคนก็ทะเลาะกันจนมีผู้ตรวจตราเดินมา
“ทะเลาะอะไรกัน?”
“รีบหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เมื่อคนที่ตรวจตราดูแลเสียงดังขึ้นมา ตู้เฟยกับสวีเถิงเฟยก็หยุดลง
“พี่ใหญ่ ฉันขอโทรศัพท์ได้ไหม?”
สวีเถิงเฟยเดินไป พลางถาม
“นี่มันกี่โมงแล้ว คุณจะโทรหาใคร?” คนตรวจตราดูแลถามออกไปประโยคหนึ่ง
“ฉันจะโทรหาพี่เขยของฉัน”
สวีเถิงเฟยยิ้มขึ้นพูดออกมา: “พี่เขยฉันชื่อหูเฟย คุณน่าจะรู้จักใช่ไหม?”
“เหอะๆ หัวหน้าสำนักงานหูเป็นพี่เขยของคุณงั้นเหรอ?” อีกฝ่ายมองสวีเถิงเฟยด้วยความแปลกใจ
สวีเถิงเฟยพยักหน้า
ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะไม่เชื่อ แต่ก็ส่งโทรศัพท์ให้สวีเถิงเฟย
เขาคิดอยู่ในใจ ไม่อยากจะเสียเงินค่าโทรศัพท์เหรอ?
ถ้าเกิดไอหนุ่มคนนี้เป็นญาติของหูเฟยจริงๆ ก็ถือว่าตัวเองโชคดีแล้วล่ะ
สวีเถิงเฟยเอาโทรศัพท์ไป ก่อนจะโทรหาพี่เขยของตัวเอง
ครั้งแรกโทรไม่ติด เลยโทรไปอีกครั้ง หลังจากที่โทรไปหลายครั้ง สุดท้ายก็มีคนรับ
“คุณใครเนี่ย โทรมาตอนดึกดื่นขนาดนี้!” หลังจากที่หูเฟยรับสาย ก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมา
“พี่เขย ฉันเอง เถิงเฟยไง” สวีเถิงเฟยรีบพูดออกมา
“เถิงเฟยเหรอ?คุณโทรมาทำไมดึกขนาดนี้ ไปเที่ยวผู้หญิงแล้วถูกจับเหรอ?” หูเฟยหัวเราะขึ้น เพราะหยอกล้อ
ถึงหูเฟยจะเป็นพี่เขยของสวีเถิงเฟย แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นดีมากเลยล่ะ
ทั้งสองคนมักจะไปที่โรงอาบน้ำด้วยกัน ดูแลสุขภาพ และเที่ยวผู้หญิงด้วยกันอีกด้วย
“พี่เขย อย่าเพิ่งล้อเล่นนะ ตอนนี้ฉันกำลังถูกขังอยู่ คุณดูสิ ว่าคุณสามารถมาที่นี่ได้ไหม?” สวีเถิงเฟยพูดออกมา
“อะไรนะ คุณไอหนุ่มถูกจับแล้วจริงๆ เหรอ รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเอง” หูเฟยรีบลุกขึ้นมาจากเตียง
กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่ พี่สาวของสวีเถิงเฟย จู่ๆ สวีจื่อหยิ่งก็ลืมตาขึ้นมา
“ดึกขนาดนี้ คุณจะออกไปไหน?” สวีจื่อหยิ่งมองหูเฟยแววตาเย็นชา
ทุกอย่างของหูเฟย เป็นเพราะตระกูลสวีให้เขาหมดเลย
ดังนั้น หูเฟยเลยกลัวภรรยามาก
“คุณไม่ได้จะไปหาสาวที่ไหนใช่ไหม?” สวีจื่อหยิ่งมองหูเฟย ด้วยแววตาเย็นชา
“จะเป็นไปได้อย่างไร จื่อหยิ่ง เมื่อครู่เราเพิ่งนอนด้วยกันไป คุณคิดว่าตอนนี้ ฉันจะเอาแรงที่ไหนไปหาสาวเหรอ?”
“น้องของคุณ เถิงเฟยน่ะ เขาถูกจับแล้ว ฉันเลยจะไปดูสักหน่อย” หูเฟยรีบพูดออกมา
“อะไรนะ?เถิงเฟยถูกจับงั้นเหรอ?” สวีจื่อหยิ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะรีบเร่ง: “งั้นคุณรีบไปเถอะ”
หูเฟยรีบใส่เสื้อผ้า ก่อนจะขับรถไปที่กักขัง
หลังจากที่สวีเถิงเฟยโทรไป ก็รู้สึกโอเคขึ้น
ในตอนนั้นเอง ตู้เฟยเรื่องสงบลงแล้ว เขาเสียดายนิดหน่อย ที่เมื่อครู่ทะเลาะกับสวีเถิงเฟย
ถ้าเกิดเดี๋ยวหูเฟยมา แล้วไม่ช่วยตัวเองจะทำอย่างไร?
ตู้เฟยลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปหาสวีเถิงเฟย แล้วขอโทษ
ใครจะไปรู้ สวีเถิงเฟยไม่ใช่แค่ไม่ให้อภัยเขา แต่ในทางกลับกันกลับตบเขา: “ไสหัวไปตรงนั้นเลย คุณเป็นแค่หมาพลีชีพเท่านั้น มาทะเลาะกับฉัน มันใช่แล้วเหรอ?”
เมื่อชี้ไปทางจมูกของตู้เฟย สวีเถิงเฟยก็ด่าออกมาเสียงเย็นชา: “อย่ามาคิดว่าฉันไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของคุณนะ พ่อคุณที่ชื่อตู้ต้าไห่ เป็นคนล้มละลายไปตั้งนานแล้ว คุณกับแม่คุณอยู่อย่างรันทดเลยหนิ”
เมื่อคิดถึงตอนที่ตู้เฟยทำร้ายตัวเองเมื่อครู่ สวีเถิงเฟยก็โกรธขึ้นมา
“หมาพลีชีพอย่างคุณ กล้ามาลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”
สวีเถิงเฟยตบหน้าของตู้เฟยไปอีกหนึ่งครั้ง: “คุณกลืนความกล้าของสัวต์ป่าเข้าไปเหรอ?”
เมื่อถูกตบติดกันหลายๆ ครั้ง สีหน้าของตู้เฟย ก็นิ่งไป
“ทำไม คุณทนไม่ได้เหรอ?” สวีเถิงเฟยมองอย่างไม่แยแสใส่ตู้เฟย พลางถามออกไปประโยคหนึ่ง
สวีเถิงเฟยเป็นคุณชายของบริษัทตระกูลสวี แล้วตู้เฟยล่ะ หลังจากที่ตู้ต้าไห่ล้มละลายแล้ว เขาใช้ได้เพียงความสัมพันธ์ของทางฝ่ายแม่ของตัวเอง เพื่อค้ำบ้านเอาไว้ เพื่อจะได้อยู่อาศัยชั่วคราว
พูดให้ไม่น่าฟังอีกหน่อย ก็คือขออยู่บ้านคนอื่นไปทั่วเท่านั้นเอง?
ตู้เฟยในตอนนี้ เทียบกับสวีเถิงเฟยไม่ติดเลย
“ฉันจะบอกคุณให้นะ พี่ของคุณอย่างหยูเถิง ยังไม่กล้ามาทำร้ายฉันเลย คุณรู้ไหม?” พูดไป สวีเถิงเฟยก็ยื่นมือออกมา พลางตบหน้าตู้เฟยเบาๆ
ถึงจะไม่เจ็บ แต่ท่าทีแบบนี้ สำหรับตู้เฟยกลับเต็มไปด้วยความดูถูก
ตู้เฟยกำหมัดขึ้นมา พลางกัดฟันแน่น
“สวีเถิงเฟย……”
ตู้เฟยเงยหน้าขึ้น,มองสวีเถิงเฟย: “พี่ฉันไม่กล้าทำร้ายคุณ ไม่ได้แปลว่าฉันจะไม่กล้านะ!”
พูดจบ ตู้เฟยก็ต่อยเข้าไปที่หน้าของสวีเถิงเฟย จนเขาล้มลงกระแทกกับพื้น
“หมาพลีชีพงั้นเหรอ?”
ตู้เฟยกัดฟัน ก่อนจะคิดขึ้นถึงคำพูดเมื่อครู่ที่สวีเถิงเฟยพูด ยิ่งเขาคิดก็ยิ่งโกรธ ก่อนจะต่อยอีก จนหน้าของสวีเถิงเฟยนั้นเต็มไปด้วยเลือด
ในตอนนั้นเอง หูเฟยมาแล้ว
หูเฟยรีบเข้าไปในที่กักกัน ก่อนจะเตะตู้เฟยจนชนกับกำแพง
“เถิงเฟย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หูเฟยพยุงสวีเถิงเฟย พลางถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไร” สวีเถิงเฟยขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองตู้เฟย แล้วก็พูดในใจ:ชายคนนี้เป็นหมาบ้าเหรอไง?
“ไป ฉันจะพาคุณกลับบ้าน”
หูเฟยพาสวีเถิงเฟยออกจากห้องขัง
คนตรวจตราดูแล ไม่กล้าพูดอะไรและยิ่งไม่กล้าขวางเอาไว้เลย
เมื่อออกมาจากห้องขัง แล้วมาถึงรถ หูเฟยก็เปิดปากถาม: “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคุณต้องเข้าไปในห้องขังล่ะ?”
“ช่างมันเถอะ พี่เขย คุณอย่าถามเลย”
สวีเถิงเฟยคิดอยู่สักพัก แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก
ถึงอย่างไร นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดสักเท่าไหร่
“เหอะๆ ในเมื่อคุณไม่อยากพูด งั้นฉันก็ไม่ถามแล้ว” หูเฟยพูดออกมาอย่างรู้ดี
“คนเมื่อครู่ที่ทำร้ายคุณน่ะใครเหรอ ให้ฉันช่วยจัดการให้ไหม?” หูเฟยถาม เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นที่ของเขา
“เขาเป็นน้องของหยูเถิง ขังเขาสักพัก ก็ปล่อยเขาเถอะ” สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว
ถึงอย่างไรก็เป็นคนของตระกูลหยู สวีเถิงเฟยเองก็ไม่อยากจะอะไรกับตู้เฟยมาก
เพียงแต่ว่า เรื่องของคืนวันนี้ ต้องฝากฝักหลี่ฝางทั้งนั้นเลย
ความแค้นนี้ จะจบแบบนี้ไม่ได้
แน่นอน ว่าสิ่งที่สวีเถิงเฟยกังวลที่สุด ก็คือเงินที่หายไปสิบล้าน
“พี่เขย ตอนนี้คุณมีเงินไหม?” สวีเถิงเฟยถามออกไปประโยคหนึ่ง
“มีสิ” หูเฟยโยนกระเป๋าตังของตัวเองให้สวีเถิงเฟย: “อยากได้เท่าไหร่ก็เอาไป”
ถึงกระเป๋าตังจะหนามาก แต่รวมๆ ก็ประมาณสองสามพันเท่านั้นเอง
เงินเท่านี้ จะพอได้อย่างไร
“ฉันอยากได้เงินก้อน” สวีเถิงเฟยขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองหูเฟย
“เงินก้อนเหรอ?” หูเฟยคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพูดออกมา: “เถิงเฟย คุณเองก็รู้ ปกติพี่สาวคุณเข้มงวดกับฉันมาก ฉันซ่อนเงินเอาไว้ไม่ได้หรอก”
“แต่ถ้าจะเอาสักแสนหนึ่ง ฉันก็พอจะหาวิธีให้คุณได้นะ” หูเฟยพอจะมีเงินอยู่บ้าง
“พอไหม?” หูเฟยมองสวีเถิงเฟย พลางถาม
สวีเถิงเฟยส่ายหัว พลางขมวดคิ้วจนมาชนกัน
“แสนหนึ่งไม่พอ คุณอยากจะได้สักเท่าไหร่?” สีหน้าของหูเฟยนิ่งไป
“ฉันต้องการสิบล้าน”
สวีเถิงเฟยหายใจออกยาวๆ ก่อนจะพูดออกมา: “พี่เขย อันที่จริงจะบอกคุณเอาไว้ก็แล้วกัน ว่าฉันยืมเหยสงมาสิบล้าน ดอกเบี้ยสูงด้วย!”
มีเสียงเอี๊ยดดังขึ้น
เมื่อได้ยินดังนั้น หูเฟยก็เบรกกะทันหัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset