NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 308 แกอยากจะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลฉิน?

บทที่ 308 แกอยากจะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลฉิน?
“ด่าเธอว่ายัยเฉิ่มแล้วไง? เธอก็เป็นยัยเฉิ่มไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางอยู่ตรงหน้าของฉินหยีหรัน ด่าด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
หลี่ฝางมองฉินหยีหรันด้วยสายตาที่ดูถูกเล็กน้อย ที่ฉินวี่เฟยตามใจเธอ ก็เพราะว่าเขาเป็นน้องสาวของเธอ
กูเป็นอะไรกับมึงเหรอ?
แม้แต่กูยังกล้าด่า แกมันใหญ่แค่ไหน!
แก…..แก…..แกไอ้สารเลว แกมันไม่สนใจกฎหมายศีลธรรมเลยเหรอ
“แกเชื่อมั้ยตอนนี้ฉันจะแจ้งความ แจ้งว่าแกขืนใจน้องสาวฉัน!” ฉินหยีหรันกล่าวอย่างโกรธเคือง
หลี่ฝางก็ไม่กลัว กลับมองไปที่ฉินหยีหรันอย่างอารมณ์ดีแล้วกล่าว: “ใช่ ฉันกับฉินวี่เฟยมีอะไรกัน แต่มันเป็นความยินยอมของเราทั้งสองคน แกจะไปแจ้งความ ก็รีบไปเลย อย่ามาเอะอะโวยวายแถวนี้เลย ฉันจะรออยู่ตรงนี้แหละ รอตำรวจมาจับตัวฉัน!”
ฉินหยีหรันอึ้งไปสักพัก เขาไม่คิดว่าหลี่ฝางจะโอหังขนาดนี้
จุดนี้ หลี่ฝางกับแฟนเก่าของเธอ ไม่ค่อยจะเหมือนกัน
หลังจากนิ่งไปหลายวินาที ฉินหยีหรันก็ด่าติดๆขัดๆ: “แกไม่เพียงแต่สารเลว แกมันยังเป็นไอ้ชาติชั่ว”
“ฉันจะต้องฟ้องนาย เอานายเข้าคุกให้ได้”
“ควายเอ๊ยจะฟ้องก็ไปฟ้องเลย อย่าเอาด่ากูเลย โทรศัพท์แกไม่มีแบตเหรอไง รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรไปแจ้งความเลย” หลี่ฝางยังคงกวนประสาทอย่างต่อเนื่อง
“แก!” ฉินหยีหรันโกรธจนเกือบหายใจไม่ออกแล้ว
ฉินหยีหรันหยิบโทรศัพท์ออกมา กำลังจะโทรไปแจ้งความ ฉินวี่เฟยวิ่งมาห้าม หลี่ฝางคิดในใจ ถึงอย่างไรก็เป็นพี่สาวของฉินวี่เฟย ตัวเองยอมขอโทษก็น่าจะโอเคแล้ว
หลี่ฝางกำลังจะขอโทษ ใครจะไปรู้ฉินหยีหรันกลับชี้หน้าด่าหลี่ฝาง: “วี่เฟย แกทำไมต้องปกป้องไอ้เศษเดนคนนี้ ไอ้เศษเดนคนนี้มันมีอะไรดีเหรอ?”
“ไม่ว่ายังไงวันนี้ พี่ต้องสั่งสอนมันหน่อย”
เห็นฉินหยีหรันที่ข่มขู่ หลี่ฝางก็เลยไม่ขอโทษแล้ว ตอนนี้หากขอโทษ ฉินหยีหรันต้องเข้าใจว่าตัวเองนั้นกลัวเธออย่างแน่นอน
เมื่อโทรติด หลี่ฝางนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ฉินวี่เฟยนั้นเกิดกลัวขึ้นมา
ฉินวี่เฟยแย่งโทรศัพท์มาจากมือของพี่สาวตัวเอง จากนั้นปาลงบนพื้นอย่างเต็มกำลัง
ตามมาด้วยเสียงโทรศัพท์ตกลงบนพื้น หน้าจอมีรอยร้าว แต่คุณภาพของโทรศัพท์นับว่าไม่เลว เพียงแค่หน้าจอร้าวเท่านั้น แต่โทรศัพท์นั้น ยังสามารถใช้งานได้อยู่
เวลานี้ โทรศัพท์ก็ต่อติดแล้ว ฉินวี่เฟยย่อตัวนั่งลง แล้วกดวางสาย
“พี่คะ พี่ต้องการทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ใช่มั้ย?” ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว มองพี่สาวตัวเองด้วยสายตาที่เย็นชา
ฉินหยีหรันอึ้งไปสักพัก ก็นึกขึ้นได้: “วี่เฟย พี่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น แต่พี่ถูกไอ้หมอนี้มันยั่วโมโหเข้าแล้ว”
ฉินหยีหรันเพิ่งจะนึกได้ หากแจ้งความแล้ว ถ้าตำรวจมา งั้นความบริสุทธิ์ของน้องสาวตัวเอง ก็จะหมดสิ้นไปทันที
หันหน้ากลับมา ฉินหยีหรันมองหลี่ฝางด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วกล่าว” คิดไม่ถึงแกมันก็ช้ำต่ำไม่เบาเลย จงใจให้ฉันแจ้งความ เพื่อให้เรื่องราวใหญ่โต เพื่อให้ทุกคนได้รู้เรื่องของแกกับน้องสาวฉันใช่มั้ย?”
“แกคิดอยากจะเข้าตระกูลฉินใช่มั้ย อยากเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเหรอ!” ฉินหยีหรันกล่าวอย่างมั่นใจ
“ฉันจะบอกแกนะ แกตายใจเสียเถอะ”
หลี่ฝางหัวเราะโดยไม่รู้จะพูดอะไร เห็นแก่หน้าของฉินวี่เฟย หลี่ฝางไม่อยากที่จะถือสาเอาความฉินหยีหรัน
แต่ว่านางบ้าคนนี้ หลี่ฝางไม่อยากที่จะเห็นหน้าเธอแล้ว
หลี่ฝางชี้ไปที่ด้านนอกประตู แล้วกล่าว: “ฉันขอพูดอีกครั้ง ขอให้เธอรีบออกไปจากวิลล่าของฉัน ได้ยินมั้ย? ไม่อย่างนั้น ฉันจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยแล้ว ที่รีสอร์ตมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้ายามตลอด24ชั่วโมง”
เวลานี้ ตรงหน้าประตูก็ปรากฏด้วยเงาคนคนหนึ่ง
ก็คือฉินจื่อยี่
“น้องชาย ในที่สุดนายก็มาแล้ว” ฉินหยีหรันเมื่อเห็นฉินจื่อยี่ เหมือนกับเห็นฟางที่ช่วยชีวิต
ที่แท้ฉินหยีหรันเป็นคนเรียกเขามา
“พี่……….”
เมื่อเห็นฉินจื่อยี่ สีหน้าของฉินวี่เฟย ก็มีความลนลานขึ้นมาเล็กน้อย
“วี่เฟย ทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ เธอกำลังจะหมั้นกับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว……..” ฉินจื่อยี่ส่ายหัว ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“ถ้าหากคนของตระกูลมู่รู้เข้า น้องจะให้พวกเราแสดงความรับผิดชอบกับตระกูลมู่ยังไง!”
ฉินจื่อยี่ถอนหายใจ นิ่งไปสักพัก เขามองฉินวี่เฟยด้วยความกังวลเล็กน้อย แล้วถาม: “เธอไม่ได้มีอะไรกับหลี่ฝางใช่มั้ย?”
ฉินวี่เฟยไม่ได้ตอบ ทำเพียงก้มหน้าก้มตา
ฉินจื่อยี่กัดฟัน ในใจนั้นก็มีคำตอบขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังเดินไปตรงหน้าของหลี่ฝาง จับไหล่ของหลี่ฝางเอาไว้ แล้วกล่าว: “หลี่ฝาง ฉันถามนาย นายไม่ได้มีอะไรกับน้องสาวฉันใช่มั้ย?”
“มีอะไรกันแล้ว” หลี่ฝางลังเลไปสามวินาที แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย
ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ก็ต้องบอกคนตระกูลฉินอยู่ดี ไม่สู้บอกตอนนี้ ให้พวกเขารับรู้เรื่องทั้งหมด
หลี่ฝางกำลังจะบอกสถานะที่แท้จริงของตัวเองนั้น จู่ๆฉินจื่อยี่ก็กำหมัดขึ้นมา ชกไปที่หน้าของหลี่ฝาง
“ใช่ ต่อยมัน ต่อยให้มันตายไปเลย ไอ้เศษเดนคนนี้มันด่าฉันว่ายัยเฉิ่ม!”
ฉินหยีหรันมองดูหลี่ฝางที่ถูกต่อย ในใจรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย ยังเชียร์ฉินจื่อยี่อยู่ข้างๆ
หลี่ฝางถ่มน้ำลาย ปาก็ด่าว่าเหี้ย
จากนั้น หลี่ฝางก็ต่อสู้กับฉินจื่อยี่
ฉินจื่อยี่ที่เป็นคุณชายผู้ดี ปกติก็แค่ซิ่งรถบ้าง ดื่มสังสรรค์กับเพื่อนไฮโซบ้าง ต่อยตีกับเขาเป็นที่ไหนกันละ
ทั้งสองคนกระชากกันไปมา ฉินจื่อยี่ถูกหลี่ฝางผลักลงบนพื้นโดยตรง แล้วโดนยำอย่างบ้าคลั่ง
ฉินวี่เฟยดึงตัวหลี่ฝางไปหนึ่งที หลี่ฝางจึงได้ลุกขึ้น
แต่ใครจะไปรู้ ฉินจื่อยี่ลุกขึ้นมาจากพื้น ด้วยความร้อนรน พุ่งเข้ามาร่างของหลี่ฝางโดยตรง
หลี่ฝางใช้สองมือขวางฉินจื่อยี่เอาไว้ แล้วกล่าวอย่างเย็นชา: “เย็ดแม่ไม่มีอะไรจะเล่นแล้วใช่มั้ย? หากฉันไม่เห็นแก่หน้าของฉินวี่เฟย คงจะทำร้ายนายให้คุกเข่าจนนายต้องเรียกปู่เลยนายเชื่อมั้ย?”
“นายดูนายสิก็สู้ฉันไม่ได้ แม่งยังจะมาวางก้ามอีก” ขณะที่พูด หลี่ฝางก็ยกเท้าขึ้น ถีบฉินจื่อยี่ล้มลงบนพื้นโดยตรง
เผชิญหน้ากับคนพวกนี้ หลี่ฝางไม่มีทางที่จะยอม
อะไรคุณชายฉิน คุณหนูฉิน………
ทั้งสองคนนี้ สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วง ล้วนเป็นผลประโยชน์ของตระกูล อนาคต ไม่มีใครที่จะคิดถึงความรู้สึกของฉินวี่เฟยอย่างจริงจังเลย
จุดนี้ ฉินวี่เฟยก็รับรู้ได้อยู่แล้ว
ในที่สุดหลี่ฝางก็เข้าใจ ทำไมฉินวี่เฟยถึงอยากที่จะฆ่าตัวตาย คนในตระกูลฉินทั้งตระกูล ไม่มีใครมีน้ำใจเลย
“พี่คะ พวกพี่อย่าตีกันอีกเลย พี่สู้เขาไม่ได้หรอกค่ะ”
ฉินวี่เฟยนั่งลงไป พยุงฉินจื่อยี่ที่ล้มอยู่บนพื้นขึ้นมา
แกอยู่ห่างๆพี่เลย ฉินจื่อยี่ที่กำลังโมโห ก็ผลักฉินวี่เฟยออกโดยตรง ทำเธอล้มลง
“ต่อให้วันนี้กูจะสู้มันไม่ได้ กูก็จะฆ่าให้หมอนี่ให้ตาย!”
ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝางด้วยสายตาที่เย็นชาแล้วกล่าว
หากปกิต ฉินวี่เฟยล้มลงบนพื้นนั้นก็คงไม่เป็นไร ประเด็นสำคัญคือ ตอนนี้ฉินวี่เฟยกำลังบาดเจ็บอยู่
“เธอไม่เป็นไรนะ วี่เฟย”
หลี่ฝางรีบวิ่งเข้าไป อุ้มฉินวี่เฟยขึ้นมา แล้วอุ้มเธอไปวางที่โซฟา
อาศัยช่วงจังหวะนี้ ฉินจื่อยี่ก็แอบจู่โจมจากด้านหลังทันที เขาได้หยิบที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะ ฟาดไปบนหัวของหลี่ฝาง เสียงหล่นดังโครมคราม
ทันใด หัวของหลี่ฝาง เลือดก็ไหลทันที
เวลาเดียวกัน หลี่ฝางรู้สึกสมองมีเสียงโว มีความมึนเล็กน้อย
หลี่ฝางเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก้นได้นั่งลงบนโซฟา และฉินจื่อยี่ที่กำหมัด ก็ได้จู่โจมเข้ามา: “แกกล้านอนกับน้องสาวฉัน กูจะเอามึงให้ตายเลยไอ้สารเลว!”
ฉินจื่อยี่ชกไปที่หน้าของหลี่ฝางหมัดแล้วหมัดเล่า ฉินวี่เฟยที่อยู่ข้างๆอยากจะขัดขวาง แต่ถูกฉินหยีหรันดึงตัวเอาไว้
“ไอ้สารเลวแบบนี้ ตายก็สมควร เธออย่างยุ่ง” ฉินหยีหรันที่กอดรัดฉินวี่เฟยเอาไว้ได้กล่าว
หลังจากที่หลี่ฝางโดนชกไปหลายหมัด ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา
“เย็ดแม่!”
“แอบทำร้ายกู!”
หลี่ฝางกัดฟัน มองไปที่ฉินจื่อยี่ คว้าหมัดของเขาไว้ แววตาของหลี่ฝาง ปรากฏด้วยความเยือกเย็น
“ฉินจื่อยี่……..กูจะเอามึงให้ตายเลยได้เด็กเปรต!”
พลังอาฆาตของหลี่ฝางมาแล้ว ก็ไม่สนแล้วว่าเขาจะเป็นพี่ชายหรือน้องชายของฉินวี่เฟย ได้ผลักเขาลงบนพื้นโดยตรง จากนั้นก็ลงมือทำร้ายอย่างหนัก
เมื่อฉินหยีหรันเห็นฉินจื่อยี่เสียเปรียบ ทันใดนั้นก็ปล่อยน้องทันที
หยิบหมอนอิงบนโซฟา เล็งแล้วปาไปที่หัวของหลี่ฝาง……..
เมื่อเห็นว่าหมอนอิงถูกปาจนหมดแล้ว ทันใดนั้นฉินหยีหรันก็เห็นแจกันที่อยู่ตรงประตู เธอวิ่งไปอุ้มแจกันขึ้นมา จากปาไปทางหลี่ฝาง
“ระวัง!”
ยังดีที่ฉินวี่เฟยเตือนได้ทันเวลา หลี่ฝางจึงได้ลุกขึ้นทัน มองไปที่ฉินหยีหรันแล้วตะโกนอย่างเสียงดัง: “วางมันลงเดี๋ยวนี้ ได้ยินมั้ย?”
ในมือของหลี่ฝาง ได้หยิบมีดออกมาเล่มหนึ่ง เล็งไปทางตำแหน่งที่ฉินหยีหรันยืนอยู่
เมื่อฉินหยีหรันเห็นมีด ก็สะดุ้งตกใจร้องอย่างสมเพช ปาแจกันทิ้ง แล้วก็วิ่งออกไป
“ฆ่าคนแล้ว ฆ่าคนแล้ว”
ฉินหยีหรันวิ่งออกไปจากประตูวิลล่าแล้วก็ตะโกนเสียงดัง ทำให้เสี่ยวจางและยามหลายคนที่กำลังเดินตรวจเวรอยู่ ได้วิ่งมาทางวิลล่าทันที………

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset