NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 353 ส้าวส้วยที่ร้ายกาจ

บทที่353 ส้าวส้วยที่ร้ายกาจ
เฉินฝูเซิงกล้าโทษส้าวส้วยที่ไหน
ส้าวส้วยทะเลาะเบาะแว้ง อย่างมากก็ขังไม่กี่วัน แต่ตัวเองล่ะ?
ตัวเองค้าขายอาวุธปืน ถูกจับไป ไม่แน่ว่าอาจจะตัดสินอยู่หลายปี
เฉินฝูเซิงรีบพูด“เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าเข้าใจผิด ผมล้มเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
“หนุ่มน้อย ลุงตำรวจยืนอยู่หลังคุณ ผมบอกให้ คุณไม่ต้องกลัว ถ้าเขารังแกคุณจริงๆ คุณบอกผมมา ดูว่าผมจะจัดการเขาอย่างไร”ตำรวจพูดถึงส้าวส้วย
ตำรวจอีกคนก็เสริม:“ใช่ หนุ่มน้อย มีอะไรก็ว่ามาเลย ไม่ต้องปิดบัง”
“ตอนนี้สังคมมีกฎหมาย ไม่ต้องกลัวพวกอำนาจมืด ที่จริงพวกเราเห็นจากหน้าประตูแล้ว”
ในใจของเฉินฝูเซิงหมดคำพูด พูดถึงอำนาจมืด พ่อเขาไม่ใช่อำนาจมืดที่ใหญ่ที่สุดเลยเหรอไง?
เฉินฝูเซิงบิดคอ หันหน้าไปพูด:“เห็นแล้วไงล่ะ?เขาคือพี่ชายผม ผมเล่นกับพี่ชายผมเฉยๆ”
“หนุ่มน้อย อย่าหลอกตัวเองเลย เล่นกันตบจนคุณเลือดออกเนี่ยนะ?”
“หนุ่มน้อย มีพวกเราตำรวจอยู่ ไม่มีใครขู่คุณได้”
“เขาคือพวกนักเลงเหรอ?ถ้าใช่ตอนนี้ผมจะจับเขา สอบปากคำอย่างเคร่งครัดเลย”ตำรวจถามเรื่อยๆ
เฉินฝูเซิงพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง:“ลุงตำรวจทั้งสอง รบกวนพวกคุณอย่ามากวนผมได้ไหม?ผมไม่ได้บอกพวกคุณแล้ว เขาคือพี่ผม ผมทำผิด พี่ชายผมเลยสั่งสอนผมเอง”
“ทำไม พี่ชายสั่งสอนน้องชายก็ผิดกฎหมายเหรอครับ?”เฉินฝูเซิงถาม
ตำรวจก็ไม่โง่ ไม่ถูกเฉินฝูเซิงหลอก
“พวกคุณคือพี่น้องเหรอ ก็เอาบัตรประชาชนมาให้ผมดู”ตำรวจยื่นมือไปพร้อมกับพูด
“พี่น้องบุญธรรม ไม่ใช่พ่อแม่เดียวกัน”เฉินฝูเซิงกลอกตาใส่
“พี่น้องร่วมสาบานเหรอ?”ตำรวจเข้าใจทันที เดินมาที่ส้าวส้วย:“ผมเตือนคุณนะ ถึงน้องชายคุณไม่ฟ้องคุณ คุณก็ไปทำร้ายใครมั่วๆไม่ได้ เข้าใจไหม?ถ้าทำร้ายจนเขามีอันเป็นไป ผมจับคุณแน่”
ส้าวส้วยไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มนิ่งๆ
“โหดร้ายไปแล้ว”
เห็นรอยยิ้มที่ใบหน้าส้าวส้วย ตำรวจออกไปจากห้องคนไข้อย่างไร้เรี่ยวแรง
เฉินฝูเซิงผู้ถูกกระทำไม่ให้ความร่วมมือ ตำรวจก็หมดอำนาจ
ส้าวส้วยยิ้มอย่างพอใจ:“ผมคือพี่ชายคุณ?”
“แท้ซะยิ่งกว่าแท้”เฉินฝูเซิงแลบลิ้นหัวเราะออกมา
“งั้นเขาล่ะ?”ส้าวส้วยชี้ไปที่มู่เสี่ยวไป๋บนเตียงคนไข้
“พี่ ผมไม่รู้จักเขา เขาคือใครเหรอ?”เฉินฝูเซิงมองมู่เสี่ยวไป๋ที่อยู่บนเตียง แล้วส่ายหน้า
“เฉินฝูเซิง คุณทำบ้าอะไรเนี่ย?ถูกตบไปยกหนึ่ง ทำไมเสียความทรงจำได้?”มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้ว พูดอย่างโกรธเล็กน้อย
“มู่เสี่ยวไป๋ เห็นแก่ที่ความสัมพันธ์ของบ้านเราสองคนไม่เลว ผมจะไม่เอาเรื่องคุณ เมื่อกี๊พี่ชายผมตบผมจนเข้าใจดีแล้ว คุณไม่ให้ผมไป ไม่ใช่อยากให้ผมอยู่เที่ยวอีกสองวัน แล้วขาคุณก็หักแล้ว จะพาผมไปเที่ยวไหนได้?วันๆอยู่เล่นไพ่นกกระจอกกับคุณที่นี่?ที่จริงคุณกำลังหาโอกาส ทำให้มีปัญหาระหว่างผมกับคุณชายหลี่สินะ”
“ฝูเซิง คุณเข้าใจพี่ผิดไปได้ไง พี่ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ……”
“หยุดหยุดหยุด……”เฉินฝูเซิงตัดบทมู่เสี่ยวไป๋ พูดว่า:“พอแค่นี้เถอะ อย่ามาไม้นี้กับผมหน่อยเลย มู่เสี่ยวไป๋เป็นคนแบบไหน ผมไปถามๆดู ก็รู้ทันที ทำไม จนตอนนี้ยังไม่ยอมรับอีก?”
“มู่เสี่ยวไป๋ มิตรภาพของเราสองคน หยุดอยู่แค่นี้เถอะ”
เฉินฝูเซิงหันหลัง โบกมือให้มู่เสี่ยวไป๋
จากนั้น เฉินฝูเซิงก็ไปตรงหน้าส้าวส้วย:“พี่แท้ๆ บันทึกเสียงในโทรศัพท์นี้ ลบได้ไหม?ถ้าพี่ลบ ผมจะเอาสองกระบอกให้พี่เล่นฟรีๆ ว่าไง?”
“โทรศัพท์ไม่ได้ให้คุณแล้วเหรอไง?อยากลบก็ลบ”
ส้าวส้วยพูดอย่างใจกว้าง:“คุณดูความชอบธรรมของผมสิ เหมือนคนที่ขี้ฟ้องตำรวจเหรอ?”
“ความชอบธรรมของพี่ชายแท้ๆ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่”เฉินฝูเซิงหัวเราะ เล่นโทรศัพท์ของส้าวส้วย
“พี่ชายแท้ๆ โทรศัพท์คุณมีรหัส……”
“เหลวไหล ยุคนี้โทรศัพท์ใครไม่มีรหัสบ้าง!”ส้าวส้วยกลอกตาใส่เฉินฝูเซิง
“งั้นรหัสของคุณคือ?”
“ห่า เฉินฝูเซิง บอกว่าคุณโง่คุณยังไม่เชื่ออีกเหรอ รหัสบัตรเอทีเอ็มของคุณบอกคนอื่นมั่วๆได้เหรอ?”ส้าวส้วยถาม
เฉินฝูเซิงส่ายหน้า
“งั้นก็จบนะ รหัสโทรศัพท์ผม บอกคุณได้เหรอ?”ส้าวส้วยดูถูก
ในใจของเฉินฝูเซิงหมดคำพูด:งั้นคุณบอกผมอยากลบก็ลบเนี่ยนะ?ผมเปิดโทรศัพท์ไม่ได้ จะลบยังไง!
ส้าวส้วยแย่งโทรศัพท์ในมือของเฉินฝูเซิงกลับมา พูดว่า:“โอเค ยังไงซะคุณก็เชื่อผมขนาดนั้น ที่อัดเสียงนี้ ไม่ต้องรีบลบละกัน รอตอนไหนที่คุณเอาปืนมาให้ผม ผมค่อยลบให้ โอเคไหม?”
ใบหน้าเฉินฝูเซิงไม่ค่อยพอใจ ได้แต่รับปากอย่างทำอะไรไม่ได้:“โอเค”
ใครให้ส้าวส้วยสู้เก่งกว่าเขาล่ะ?
เฉินฝูเซิงถือว่าเรียนกังฟูจากกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพ่อของเขามาหลายปี ถ้าเจอคนที่อายุรุ่นเดียวกัน เฉินฝูเซิงไม่เคยแพ้
แต่อยู่ต่อหน้าส้าวส้วย แม้แต่โอกาสสู้กลับยังไม่มี
ส้าวส้วยตบไหล่ของเฉินฝูเซิง:“คุณเรียกผมว่าพี่แท้ๆ เสียเปรียบผมไปแล้ว พ่อคุณเป็นถึงกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่มีคุณสมบัตินี้ รู้ไหม?”
“ช่างเถอะ เห็นแก่ที่คุณรู้เรื่อง ผมก็จะรับคุณเป็นน้องชายละกัน ตอนดึกผมเป็นเจ้าภาพ เลี้ยงเหล้าเต้นดิสโก้คุณเอง……”ส้าวส้วยตบอกพูด
“อย่า พี่แท้ๆ ผมเลี้ยง ผมเลี้ยงเอง”เฉินฝูเซิงชิงพูด
“ได้ คุณเลี้ยงก็เลี้ยง คุณคือน้องชายแท้ๆของผม ผมต้องเกรงใจคุณด้วยเหรอ?ตอนดึกจองสถานที่ได้ ผมจะส่งข้อความหา”
ส้าวส้วยกับเฉินฝูเซิง ทิ้งเบอร์ไว้ให้กัน
เห็นแบบนี้ หลี่ฝางกับมู่เสี่ยวไป๋ ต่างตะลึงงัน
ใครจะไปคิดว่า สองคนที่สู้กันเมื่อกี๊ ตอนนี้กลายเป็นพี่น้องแท้ๆกันซะแล้ว?
เห็นผลลัพธ์เช่นนี้ หลี่ฝางก็ดีใจ
มีเพื่อนเพิ่มมาอีกหนึ่ง มักจะดีกว่าศัตรูเพิ่มมาอีกคนเสมอ
แต่มู่เสี่ยวไป๋กังวลสุดๆ ผู้ช่วยที่ตัวเองดึงมาอย่างยากเย็น ตอนนี้กลับวิ่งไปหาฝ่ายตรงข้ามเสียแล้ว ……
“เจ้านาย ไปเถอะ”
ตอนนี้เรื่องจัดการเรียบร้อย ส้าวส้วยโบกมือให้หลี่ฝาง
ไม่นานนัก เฉินฝูเซิงก็วิ่งตามออกมา หลังจากคุยไม่กี่คำกับส้าวส้วย ก็ถูกส้าวส้วยไล่ไป
“เด็กคนนี้ตามใจพ่อ ที่จริงแล้วเป็นกำลังสนับสนุน คุณรวย เขาไม่ยอมรับคุณ คุณมีอำนาจ เขาไม่ยอมรับคุณ คุณมีหัวคิด เขาก็ไม่ยอมรับคุณ แต่คุณต้องสั่งสอนเขาแรงๆ เขาก็จะยอมรับคุณ เป็นคนที่ไม่รู้จักเคารพตัวเองไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี”ส้าวส้วยนั่นในรถ หัวเราะเหอะเหอะ พูดอธิบาย
หลี่ฝางหัวเราะตาม:“อำนาจของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่น้อย ไม่สร้างศัตรูได้ อย่าสร้างศัตรูเลยซะดีกว่า”
“ใช่สิ ต่อไปพวกเราจะไปไหน?กลับสถานตากอากาศ หรือว่า?”หลี่ฝางหันไปถามส้าวส้วย
“นอนในรถสักพัก……เดี๋ยวจะมีคนมาหาพวกเรา”
ส้าวส้วยนอนลงที่นั่งข้างคนขับ หรี่ตาลง
หลี่ฝางถามส้าวส้วยว่าใคร ส้าวส้วยก็ไม่พูด
“นี่มันลึกลับมาก”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ หรี่ตาลงสักพักเช่นกัน
เมื่อคืนนอนกับฉินจื่อยี่เตียงเดียวกัน หลี่ฝางก็ไม่ได้พักผ่อนมากเท่าไหร่นัก
ไม่รู้ว่าหรี่ตาไปนานแค่ไหน ก็มีเสียงดังปังปัง เอะอะจนปลุกหลี่ฝางกับส้าวส้วย
“ทำไมเป็นเธอ?”
มองเห็นเสี่ยวเหลียน ส้าวส้วยนั่งขึ้นมาทันที เปิดประตู ให้เสี่ยวเหลียนเข้ามา
“ส้าวส้วย ขอบคุณคุณจริงๆ ไม่มีคุณ ฉันก็หาเงินมากขนาดนี้ไม่ได้”
เสี่ยวเหลียนหยิบบัตรเอทีเอ็มมาจากกระเป๋าตัวเอง ยื่นให้ส้าวส้วย:“นี่คือแสนหนึ่งที่คุณให้ฉัน เอาคืนคุณไปเถอะ”
“มู่เสี่ยวไป๋ให้คุณเท่าไหร่?”ส้าวส้วยรับเข้ามา เลิกคิ้วขึ้น
“หนึ่งล้าน ฉันไปดาวน์บ้าน ก็ยังเหลือ ถึงตอนนั้นจะซื้อรถสักคัน”ใบหน้าของเสี่ยวเหลียน เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสุขใจ
หลี่ฝางมองส้าวส้วยกับเสี่ยวเหลียนอย่างตะลึง ถามว่า:“คุณสองคนใครอธิบายให้ผมได้บ้าง นี่คืออะไร?”
“เจ้านาย เสี่ยวเหลียนคือคนของผม……ไม่สิ ต้องพูดว่า เสี่ยวเหลียนคือคนที่ผมส่งไป”
จากการอธิบายของส้าวส้วย หลี่ฝางจึงเข้าใจ ที่แท้เสี่ยวเหลียนก็เป็นนักเต้นของผับตัวเอง เธอมีภูมิหลังครอบครัวไม่ดี เมื่อก่อนเคยขึ้นเวที ดังนั้นส้าวส้วยก็ใช้วิธีการบางอย่าง เอาเสี่ยวเหลียนไปอยู่ข้างกายมู่เสี่ยวไป๋
รายละเอียดที่เฉินฝูเซิงกับมู่เสี่ยวไป๋แลกเปลี่ยนซื้อขายปืน ก็เป็นเสี่ยวเหลียนก็บอกส้าวส้วย
เมื่อกี๊ในห้องคนไข้ ส้าวส้วยจงใจเหน็บแนมเสี่ยวเหลียน ที่จริงเพื่อให้มู่เสี่ยวไป๋ซื้อบ้านสักหลังให้เสี่ยวเหลียน ……
หลี่ฝางฟังจบก็หัวเราะ ต้องพูดว่า ส้าวส้วยนี้ ร้ายกาจจริงๆ
หลังจากได้รับรายงานจากปากของเสี่ยวเหลียน หลี่ฝางก็ให้เสี่ยวเหลียนไป
“ต่อไปพวกเราจะทำไง?ได้ยินความหมายของเสี่ยวเหลียน มู่เสี่ยวไป๋คิดจะนอนอยู่ในโรงพยาบาล ยิ่งเวลาที่เขาอยู่โรงพยาบาลนานเท่าไหร่ ตัวแปรก็มากตาม……”หลี่ฝางขมวดคิ้ว
“วางใจเถเอะ เจ้านาย ผมจัดการไว้แล้ว สองสามวันนี้ มู่เสี่ยวไป๋ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
ส้าวส้วยยิ้มอย่างมีเลศนัย:“ไปเถอะ พวกเราไปดูชุนเซิง”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดตรงๆ หลี่ฝางยังไม่วางใจชุนเซิง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset