NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 502 หลี่ฝาง พวกเราไปกันเถอะ

บทที่ 502 หลี่ฝาง พวกเราไปกันเถอะ
หลี่ฝางช็อกไปแล้ว
รถหรูนับร้อย กำลังมุ่งหน้ามาที่เขาจริงๆ
หลี่ฝางลากโหจื่อไปอีกฝั่ง แล้วถามเสียงเบา: “โหจื่อ นายไปเอารถหรูมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”
“ฮี่ฮี่ เจ้านาย พูดแบบไม่ปิดบัง รถพวกนี้ ที่จริงเป็นของสะสมของผม คนอย่างผมไม่มีงานอดิเรกอะไร ก็แค่ชอบสะสมรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ด สามปีที่หาเงินมา ก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร ผลาญเงินไปกับการซื้อรถนี่แหละ”
“ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ลุงเฉียนบอกกับผม ว่าซือถูเฟยขับรถหรูคันใหญ่มาขวางหน้าประตูมหาวิทยาลัยไว้ ผมเดาว่าเขามาหาเจ้านายแน่ๆ ให้ตาย ก็แค่รถไม่กี่คัน ยังจะกล้าเอาออกมาอวดอีก”
บนหน้าของโหจื่อ เต็มไปด้วยความดูถูก
หลี่ฝางได้ยินแบบนี้ ก็ยิ่งช็อกเข้าไปอีก
“นายหมายความว่า รถเยอะขนาดนี้ เป็นของนายทั้งหมด?” หลี่ฝางกลืนน้ำลาย แล้วมองโหจื่ออย่างช็อกๆ
โหจื่อพยักหน้า: “ยังมีอีกหลายคัน ไม่ได้ขับมา”
“รถพวกนั้นเสียงท่อดังเกินไป บนโลกนี้ก็มีไม่กี่คัน” โหจื่อพูด พลางจ้องไปที่รถBugatti Veyronของซือถูเฟย
โหจื่อมองBugatti Veyronคันนั้น ก็แทบจะน้ำลายไหล
“นาย……นายรวยไปแล้วมั้งเหนี่ย? รถหรูเยอะขนาดนี้ ต้องใช้เงินสักเท่าไหร่เหนี่ย” หลี่ฝางมองโหจื่อ ด้วยสายตาซับซ้อน
“พวกนี้เหรอ? รวมกันแล้วก็หลายพันล้านเหรียญมั้ง ในโรงรถยังจอดอยู่อีกหลายคัน ทำใจขับออกมาไม่ได้ แต่ละคันราคาก็มากกว่าห้าสิบล้าน แล้วก็ราคาดีไม่มีวางขายตามตลาด ขับออกมามันจะเด่นเกินไป”
“เจ้านาย พวกเราควรจะถ่อมตัวนิดนึง ใช่มั้ย?” โหจื่อยักคิ้วให้หลี่ฝาง
หลี่ฝางกลืนน้ำลาย นี่นายยังเรียกว่าถ่อมตัวอีกเหรอ
หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด: “โหจื่อ ฉันว่านายเข้าใจความหมายของคำว่าถ่อมตัวผิดไปนิดนึงนะ? นี่เรียกว่าถ่อมตัวเหรอ ถึงแม้จะเป็นงานแต่งที่หรูหราที่สุดในประเทศนี้ ก็คงไม่มีภาพแบบนี้ให้เห็นสักเท่าไหร่หรอกนะ!”
“อ้าวเหรอ? ที่ดูไบเห็นได้บ่อยนี่ ถึงยังไงเจ้าของธุรกิจน้ำมันและแร่พวกนั้นก็มีเงินเยอะ ไม่ได้ลงทุนธุรกิจอะไร ก็รู้แค่ว่าซื้อรถเล่น นิสัยเสียที่ชอบซื้อรถของผม ก็เรียนมาจากพวกเขานั่นแหละ”
“แต่แค่เงินของพวกเขา ล้วนแต่เป็นลมที่พัดมา แต่เงินของผม ใช้ชีวิตหามา ให้ตายเถอะ โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ มีบางคนอะไรก็ไม่ต้องทำแต่สามารถมีได้หมดทุกอย่าง อย่างผม ต้องทำงานหนักแค่ไหนกัน” โหจื่อยู่ปาก แล้วบ่นออกมา
“เป็นพนักงานกับเป็นเจ้านาย การใช้ชีวิตเอามาเทียบกันไม่ได้หรอก”
หลี่ฝางพูดไปหนึ่งประโยค แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เขาเป็นพนักงานทำงานยังสามารถหาเงินมาซื้อรถหรูได้เป็นพันๆ ล้าน แถมนี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด แล้วยังจะบ่น?
หลายปีที่ผ่านมา แค่รถคันเดียว เกรงว่าโหจื่อจะทำงานหาเงินซื้อไม่ได้มั้ง?
รถหรูราคาเป็นสิบล้าน ถ้าเกิดมาแล้วไม่ได้นั่งเลย ชาตินี้ทั้งชาติ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้นั่ง
นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมบนโลกนี้
นอกจากจะช็อกแล้ว หลี่ฝางยิ่งไม่กล้าจะคิด ว่าโหจื่อคนนี้บนตัวยังมีเงินเป็นพันล้าน งั้นส้าวส้วยล่ะ?
นึกถึงตอนที่ส้าวส้วยโอนเงินสิบล้านให้ถังจิ้น เหมือนกับว่าเขาไม่ได้แม้แต่กะพริบตาเลย
ลูกน้องคนนึงยังมีเงินเยอะขนาดนี้ งั้นพ่อของตนล่ะ? ……
หลี่ฝางไม่กล้าจะคิดต่อแล้ว
โก่เอ๋อเห็นรถหรูที่เรียงรายนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความพอใจทันที: “ซือถูเฟย เห็นหรือยัง ดูรถหรูของคนอื่นสิ แต่ละคันล้วนแต่เป็นรถรุ่นลิมิเต็ด แล้วดูนายสิ BMW i8 อะไรนั่นยังขับมา นอกจากBugatti Veyronคันนั้น นอกนั้นก็แค่รถโง่ๆ”
“เทียบกับคุณชายหลี่ ขายขี้หน้ามั้ย?” โก่เอ๋อเอามือกอดอก แล้วพูดดูถูกซือถูเฟย
หลี่ฝางได้ยินแบบนี้ จึงรีบอธิบาย: “โก่เอ๋อ เธออย่าเข้าใจผิด รถพวกนี้ ที่จริงแล้วไม่ใช่ของฉัน”
“เป็นของเพื่อนฉัน”
เมื่อหลี่ฝางพูดจบ ใบหน้าที่กระอักกระอ่วนของซือถูเฟย ก็กลายเป็นยิ้มแย้มขึ้นทันที
“โก่เอ๋อ ได้ยินหรือยัง?”
“รถพวกนี้ หลี่ฝางมันยืมมาจากเพื่อนทั้งนั้น แต่ฉันไม่ใช่นะ รถพวกนี้ เป็นของพวกเราตระกูลซือถูทั้งหมด”
ซือถูเฟยพูดพลางยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็มองหลี่ฝาง ด้วยสายตา ที่เต็มไปด้วยความดูถูก
ที่จริงซือถูเฟยไม่ใช่คนที่ชอบสู้ด้วยวาจาแบบนี้ แต่ว่า ต่อหน้าโก่เอ๋อคู่หมั้นของตน ซือถูเฟยไม่อยากขายหน้า
หลี่ฝางไม่ได้พูดอะไร เขาในตอนนี้ ยังคงช็อกไม่หาย
โหจื่อเดินขึ้นหน้ามา แล้วก็โอบไหล่ซือถูเฟยไว้: “คุณชายซือถู รถพวกนี้ของคุณชาย ไม่ค่อยมีให้เห็นนะ?”
“นายดู ยังมีปอร์เช่718 ให้ตายเถอะ ยังเป็นรุ่นเกรดต่ำ มันแค่เจ็ดแปดแสนเองนี่? ยังมีอาวดี้A7คันนั้น รถแบบนี้ นายยังเอาออกมาโชว์……”
โหจื่อส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง: “พูดตามตรง รถแย่ๆ แบบนี้ ไม่มีค่าพอจะจอดในโรงจอดรถของฉันด้วยซ้ำ”
“นายเป็นใครห้ะ ทำไมถึงได้ปากดีแบบนี้”
ซือถูเฟยมองโหจื่ออย่างเหยียดๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย
บนร่างของโหจื่อ สวมชุดไม่กี่สิบเหรียญที่ขายตามตลาดข้างทาง ตอนที่มา ก็ขี่จักรยานไฟฟ้าโกโรโกโสคันนึง ดูเหมือนถูกใช้งานมาหลายสิบปี จนเบาะรถแทบจะขาดแล้ว
“ฉันเหรอ เจ้านายของพวกเราเปิดบาร์ที่มีชื่อว่าRecalling the past นายรู้จักมั้ย?” โหจื่อถามพลางยิ้ม
“รู้จัก” ซือถูเฟยตอบอย่างไม่อยากจะสนใจ
“ฉันก็เป็นแค่บริกรตัวเล็กๆ อยู่ในบาร์ คุณชายซือถู ถ้าคุณมีเวลาว่างไปเที่ยวที่Recalling the past อย่าลืมมาจ้องโต๊ะกับผมนะ”
โหจื่อหัวเราะฮี่ๆ : “ให้ผมทำยอดหน่อย ช่วงนี้จนๆ ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถแล้ว”
ซือถูเฟยขมวดคิ้ว แล้วหัวเราะหึ: “จักรยานไฟฟ้าเก่าๆ ของนาย ใช้น้ำมันด้วยเหรอ?”
“นี่มันต้องชาร์จแบตไม่ใช่ไง?”
“ช่างเถอะ ฉันจะให้เงินนาย นายถอยไปโอเคมั้ย”
ซือถูเฟยพูด พลางเรียกลูกน้องของตนมา: “พกเงินสดมาหรือเปล่า ให้มันไปหน่อย”
ลูกน้องของซือถูเฟยควักเงินหนึ่งพันเหรียญขึ้นมาทันที แล้วยื่นให้โหจื่อ: “อ่ะ พอแล้วใช่มั้ย?”
“เกรงว่าจะไม่พอ รถผมมันเยอะ แถมยังกินน้ำมันอีก หนึ่งพันเหรียญ น้อยไปหน่อย ผมออกมารอบนึง อย่างน้อยก็ต้องให้สักสองสามหมื่น”
โหจื่อยู่ปาก พลางพูด: “เอาเป็นว่า เบิกที่คุณชายซือถูได้มั้ย?”
“น้ำมันรถบ้าอะไรสองสามหมื่น? ถึงแม้ฉันจะรวย แต่ก็ไม่ได้ถูกเอาเปรียบง่ายๆ นะ นายคิดว่าฉันโง่หรือไง?”
ซือถูเฟยขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างเย็นชา: “สองสามหมื่นพอที่จะให้นายไปซื้อรถมือสองแล้ว”
“ไม่รู้สถานการณ์เลยจริงๆ มีให้ก็รับไปไม่รู้จักหรือไง? หนึ่งพันนี้ นายจะเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่ต้องเอาสักแดงเดียว”
ซือถูเฟยมองบนใส่โหจื่อ พลางพูด
โหจื่อส่ายหน้า มองซือถูเฟยอย่างนิ่งๆ แล้วพูด: “นายไม่ได้โง่ แต่แค่ตาหมาๆ ของนายประเมินคนต่ำไปหน่อย”
“รถหรูที่จอดอยู่บนถนนพวกนั้น ทั้งหมดมีหนึ่งร้อยกับอีกสามคัน แต่ละคันเป็นรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ด น้ำมันที่พวกเขาใช้ แต่ละคันก็ไม่ใช่ถูก ออกมารอบนึง สองสามหมื่นพอแค่ค่าน้ำมันขามาเอง”
โหจื่อพูดเสียงต่ำ: “ผมขับรถมา อยากจะให้คุณชายซือถูเปิดหูเปิดตาดู คิดไม่ถึงแม้แต่ค่าน้ำมันรถคุณชายซือถูยังไม่พอให้เบิก ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ ”
โก่เอ๋อได้ยินแบบนี้ ก็กลับเข้าไปในรถเบนซ์G-Class แล้วหยิบเงินสิบปึกเดินออกมา วางมันลงในมือของโหจื่อ
“อ่ะ นี่คือเงินหนึ่งแสน พอค่าน้ำมันไปกลับแล้ว” โก่เอ๋อพูดอย่างใจกว้าง
“นั่นมันเงินฉัน” หลังจากหลี่ฝางเห็น ก็หมดคำพูด
“เงินนายแล้วยังไง? คิดซะว่าฉันยืมนาย รอฉันมีเงินก่อน แล้วค่อยคืนนายก็ได้แล้ว” โก่เอ๋อมองบนใส่หลี่ฝาง: “ขี้เหนียวจริงๆ เขาเป็นคนงานของนาย ขับรถมา ก็เพื่อมาเสริมบารมีให้นายนะ”
“ให้เงินค่าเดินทางเขา ยังไม่เต็มใจ” โก่เอ๋อมองหลี่ฝางอย่างดูถูก พลางพูด
หลี่ฝางถอนหายใจ และไม่ได้พูดอะไร
โก่เอ๋อคนนี้ หน้าไม่อายจริงๆ เอาเงินตนไป แล้วทำเป็นคนดี แถมยังหันมากัดเขาอีก!
“นายบอกว่ารถมากมายขนาดนี้ เป็นของนายทั้งหมด?”
ซือถูเฟยกลืนน้ำลาย แล้วมองโหจื่ออย่างอึ้งๆ เล็กน้อย
ซือถูเฟยไม่อยากจะเชื่อ แต่ในตอนนั้นโหจื่อก็กวักมือเรียก คนขับรถหรูพวกนั้น ทั้งหมดก็เดินลงมาจากรถ แล้วทักทายโหจื่อ
ทันใดนั้น สีหน้าของซือถูเฟย ก็ดูย่ำแย่ไปทันที
“ซือถูเฟย เห็นหรือยัง? พนักงานตัวเล็กๆ ในบาร์ที่อยู่ข้างกายของหลี่ฝางคนนึง ยังสามารถขับรถหรูเป็นร้อยคันได้ นายดูตัวเองสิ ยังเทียบไม่ได้กับลูกน้องข้างกายหลี่ฝางที่ทำงานในบาร์คนนึงไม่ได้เลย ยังยืนโง่อยู่ที่นี่ทำอะไร ขายขี้หน้า!”
โก่เอ๋อมองซือถูเฟยพลางพูด
หน้าของซือถูเฟย โกรธจนหน้าเขียว รู้สึกอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
“หลี่ฝาง พวกเราคอยดูกันต่อไป” ซือถูเฟยหันหลัง เตรียมตัวกลับ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset