“เสียเวลาจริง ๆ ฉันว่านะเสี่ยวถง เธออย่าเสียเวลาอีกเลย คำนวณไปแล้วมันได้อะไร หรือว่าเมื่อเธอคิดเสร็จแล้ว เขาจะมีปัญญาซื้อได้จริง ๆ?
หยู่ชิงกล่าวอย่างเย้ยหยัน เธอมองเสี่ยวถงราวกับมองคนโง่คนหนึ่ง
เสี่ยวถงไม่ได้สนใจหยู่ชิง เธอพลางเปิดดูป้ายราคาบนเสื้อ และพลางกดเครื่องคิดเลขในมือ
“ฉันแค่ทำหน้าที่ของฉันให้ดีเท่านั้นเอง”
หลังจากที่กว่าจะคำนวณเสร็จเรียบร้อย เสี่ยวถงก็เงยหน้าขึ้นมองหยู่ชิง
เสี่ยวถงเองก็ไม่เชื่อว่าหลี่ฝางจะมีปัญญาซื้อ แต่ในเมื่อหลี่ฝางมีความต้องการเช่นนั้น งั้นเธอก็ได้เพียงแค่ทำตาม
เพราะยังไงซะการคำนวณราคาก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะโง่หาเรื่องอับอายให้ตัวเองล่ะ?
ถ้าหากหลี่ฝางไม่มีปัญญาซื้อจริง ๆ ทำไมเขาถึงต้องให้ตัวเองคิดเงินด้วย?
เสี่ยวถงมองหลี่ฝางไม่ออก ดูท่าทางของเขา ดูไม่เหมือนพวกคุณชายผู้ดีที่สามารถซื้อเสื้อผ้าราคาแพงได้ แต่ว่าท่าทีทุกอย่างของหลี่ฝาง ทั้งสงบนิ่ง และหนักแน่นมั่นคงเอาซะขนาดนั้น
หรือว่าเขาไม่กลัวจะอับอายขายหน้าหรือยัง?
เสี่ยวถงบอกราคาที่แสดงบนเครื่องคิดเลขออกมา: “ทั้งหมดสองแสนสามหมื่นห้าพันหยวน ถ้าคุณผู้ชายต้องการรับทั้งหมด ดิฉันสามารถลดให้คุณได้อีก ลดสิบเปอร์เซ็นต์ก็……”
“ไม่ต้อง ไม่จะเป็นต้องลดอีก……”
“เสื้อผ้าที่ซื้อให้คนอื่น ถ้าลดราคา มันจะดูไม่จริงใจไปหน่อยไหม?” หลี่ฝางมองไปที่เหยนเสี่ยวน่า แล้วยิ้มขึ้นมา
เหยนเสี่ยวน่าก็เอ่ยขึ้นตาม: “คุณชายหลี่ไม่ใช่คนที่จะขาดเงินแค่สองแสนสามสองแสน ไม่ต้องลดให้พวกเราหรอก เช็กบิลเลยแล้วกัน”
หลี่ฝางเป็นคนแบบไหนกัน?
คนที่เห็นไวน์แดงในโรงแรมห้าดาว เป็นเพียงน้ำยาบ้วนปาก กินข้าวหนึ่งมื้อจ่ายไปเป็นล้านก็ไม่รู้สึกเสียดาย
อยู่ที่บาร์เหล้า กล้าเหมาจ่ายให้กับทุกโต๊ะ ใช้เงินกว่าสิบสามล้านภายในคืนเดียว……
คนแบบนี้ จะใส่ใจกับเงินแค่ไม่กี่หมื่นด้วยเหรอ?
แน่นอนว่าคำตอบก็คือไม่ใส่ใจ
ดังนั้นเหยนเสี่ยวน่าก็ไม่จำเป็นต้องช่วยหลี่ฝางประหยัดเงินสองสามหมื่นนั่น
ตอนนี้สิ่งพวกเขาควรจะทำ ก็คือต้องฉีกหน้า ฉีกหน้าผู้หญิงเห็นแก่เงินสองคนนี้……
หลี่ฝางยื่นบัตรให้กับเสี่ยวถง หลังจากที่เสี่ยวถงรับไป เธอก็จ้องมองหลี่ฝาง: “คุณผู้ชายคะ ไม่ต้องลดอีกจริง ๆ เหรอคะ?”
“ไม่ต้อง”
หลี่ฝางส่ายหน้า
เสี่ยวถงเองก็เคยเห็นพวกทายาทเศรษฐีที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยมาอยู่เหมือนกัน แต่ว่าแบบหลี่ฝางนี้ เธอพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
ลดแค่สิบเปอร์เซ็นต์ ก็สามารถประหยัดเงินได้สองหมื่นกว่า
สำหรับพนักงานธรรมดาในห้องสรรพสินค้าแล้ว นั่นเป็นถึงเงินเดือนหนึ่งปีเลยนะ
“ถ้างั้นฉันก็จะรูดแล้วนะคะ” เสี่ยวถงราวกับกำลังฝันอยู่ วินาทีนี้ เธอเชื่อว่าในบัตรของหลี่ฝาง สามารถรูดเงินมากมายขนาดนั้นออกมาได้แน่นอน
เพราะไม่อย่างนั้น ก็เท่ากับว่าเขากำลังหาเหาใส่หัวตัวเอ
เสี่ยวถงตึงเครียดขึ้นมา
ส่วนหยู่ชิงและสาวหน้าพิมพ์นิยมที่อยู่อีกด้าน ก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเหมือนกัน
ถึงแม้พวกเธอจะไม่เชื่อว่าหลี่ฝางจะมีเงินในบัตรมากมายขนาดนั้น แต่ภายในใจของพวกเธอ ก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่ดี
“คุณผู้ชายคะ รบกวนใส่รหัสด้วยค่ะ”
เสี่ยวถงพูดกับหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้า ในขณะที่กำลังจะใส่รหัสนั่นเอง หยิ่นเหล่ยก็ได้เดินเข้ามาแล้ว
หยิ่นเหล่ยพึ่งจะคุยโทรศัพท์เสร็จ ทันทีที่เขาเข้ามา ก็ถูกสาวหน้าพิมพ์นิยมกอดแขนเอาไว้
“ที่รักคะ ในที่สุดคุณก็มา ถ้าคุณมาช้ากว่านี้นะ ฉันก็คงจะถูกรังแกอย่างหหนักแน่เลย” สาวหน้าพิมพ์นิยมทำหน้ามุ่ยบ่นพึมพำ พลางกอดแขนของหลิ่นเหล่ยส่ายไปมา
หยิ่นเหล่ยเอียงคอมองดูสาวหน้าพิมพ์นิยม: “ใครกันที่กล้าขนาดนั้น กล้ารังแกสุดที่รักของฉันได้?”
“ให้มันยืนออกมา เดี๋ยวฉันจะจัดการมันให้เธอเอง”
หยิ่นเหล่ยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
อยู่ที่อำเภอหลิน นอกจากแมงป่องแล้ว ก็แทบจะไม่มีใครหยิ่นเหล่ยกลัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เป็นธุรกิจของครอบครัวเขาเอง
“เป็นเขา ฉันถูกใจกระโปรงตัวหนึ่ง เป็นรุ่นลิมิเต็ด แต่ว่ามีแค่ตัวเดียว แต่กลับถูกพวกเขาแย่งไปแล้ว” สาวหน้าพิมพ์นิยมชี้ไปที่หลี่ฝางพลางกล่าว
และในเวลานี้ หลี่ฝางก็ได้ใส่รหัสของตัวเองเสร็จเรียบร้อย แล้วกล่าว: “โอเคแล้ว ช่วยเอาใส่ถุงให้พวกเราทีนะ”
“จ่ายแล้วจริง ๆ เหรอ?” หยู่ชิงที่อยู่ด้านข้างไม่อยากจะเชื่อ เธอรีบเดินเข้ามาหลายก้าว แล้วหยุดลงตรงหน้าเสี่ยวถง เธอจ้องมองเครื่องรูดบัตรที่ขึ้นแจ้งเตือนว่ารูดบัตรสำเร็จ
ทันใดนั้นเอง หัวของหยู่ชิงก็รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย
รูดบัตรสำเร็จแล้วจริง ๆ
สองแสนกว่า……
นั่นมันเงินสองแสนกว่าเชียวนะ……
สายตาที่หยู่ชิงมองหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่อยากจะเชื่อ
อารมณ์ของเสี่ยวถง ก็ตื่นเต้นมากเลยทีเดียว แม้แต่หัวใจของเธอก็ได้เต้นเร็วขึ้น ผลงานการขายยอดสองแสนกว่า อีกทั้งไม่มีส่วนลดใด ๆ นั่นหมายความว่าเธอจะได้ค่าคอมไม่ต่ำกว่าหมื่นเลยทีเดียว
เสี่ยวถงพยักกหน้าอย่างดีอกดีใจ และกล่าวกับหลี่ฝาง: “คุณผู้ชายคะ รบกวนรอสึกครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะจัดของใส่ถุงให้คุณเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
และสาวหน้าพิมพ์นิยมเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้านี้ สีหน้าก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที: “ใส่ห่ออะไร? ต่อให้เขาจ่ายเงินสำเร็จแล้วยังไง? ร้านนี้เป็นร้านของครอบครัวคุณชายหยิ่น”
“และฉัน ก็เป็นแฟนของคุณชายหยิ่น ยัยซื่อบื้อ เธอไม่รู้หรอกเหรอว่าควรเอากระโปรงตัวนั้นให้ใคร?”
สาวหน้าพิมพ์นิยมจ้องมองเสี่ยวถงด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ถึงแม้เธอจะไม่เชื่อว่าหลี่ฝางเป็นผู้ดีมีเงิน แต่ความจริงก็วางอยู่ตรงหน้า และเธอก็หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงได้
แต่ว่า ต่อให้หลี่ฝางสามารถจ่ายเงินสองแสนกว่านั้นได้แล้วยังไง?
ร้านแห่งนี้ เป็นร้านของตระกูลหยิ่นนะ
และหยิ่นเหล่ย ก็เป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอในตอนนี้
สาวหน้าพิมพ์นิยมคิดว่าตัวเองถือไพ่ที่เหนือกว่า เสี่ยวหยู่กล่าวด้วยความลำบากใจ: “แต่ว่า แต่ว่าพวกเขาได้ถูกใจชุดนี้อยู่ก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คุณผู้ชายท่านนี้ก็ได้จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วด้วย……”
สาวหน้าพิมพ์นิยมก้าวเท้าเดินเข้ามา และตบเข้าไปที่ใบหน้าของเสี่ยวถง: “เธอตาบอดหรือยังไง? แหกตาดูให้ดี ๆ คนที่ยืนอยู่ตรงประตู เป็นถึงเจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ คุณชายหยิ่น”
“รีบเอากระโปรงตัวนี้ห่อใส่ถุง แล้วเอามาให้ฉัน ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะไล่เธอออกตอนนี้เลย”
สาวหน้าพิมพ์นิยมเห็นว่ามีหยิ่นเหล่ยคอยหนุนหลัง ก็เลยถือตัวเองเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้
จากนั้น สาวหน้าพิมพ์นิยมก็มองไปที่หลี่ฝางอีกครั้ง แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยัน: “ต่อให้นายมีเงินแล้วยังไง ร้านแห่งนี้ เป็นร้านที่ครอบครัวของที่รักของฉันเปิด อีกอย่าง ต่อให้นายมีเงิน แล้วจะมีเยอะเท่าที่รักของฉันไหม?”
และหยิ่นเหล่ยในเวลานี้ถึงได้มองเห็นหลี่ฝาง วินาทีนั่นเอง ทั่วทั้งใบหน้าของหยิ่นเหล่ย ก็หม่นหมองลง
ถ้าหากเป็นคนอื่น หยิ่นเหล่ยก็สามารถแย่งกระโปรงตัวนี้กลับมา และมอบให้สาวหน้าพิมพ์นิยมได้
แต่ว่าเผชิญหน้ากับหลี่ฝาง……
ต่อให้หยิ่นเหล่ยใจใหญ่ขนาดไหน เขาก็ไม่กล้า
หยิ่นเหล่ยยิ้มอย่างยากลำบาก เขาเดินมาที่ด้านหน้าของหลี่ฝาง แล้วกล่าวกับหลี่ฝางอย่างนอบน้อม: “คุณชายหลี่……คุณมาซื้อเสื้อผ้าเหรอครับ”
“คุณชายหลี่? ที่รัก คุณรู้จักเขาเหรอ?”
เมื่อสาวหน้าพิมพ์นิยมได้เห็นฉากนี้ ก็ราวกับว่าสมองตื้อจนทำอะไรไม่ถูก
หรือว่าชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์คนนี้ จะเป็นคุณชายผู้ดีที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก?
และในตอนนี้ หยู่ชิงเองก็รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา
เนื้อก้อนใหญ่ที่หอมหวน เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ตัวเองไม่เพียงคว้าเอาไว้ไม่ได้ แถมยังส่งเข้ามือคนอื่นอีก……
ทั่วทั้งร้าน ที่ดีอกดีใจที่สุด เป็นเสี่ยวถงโดยไม่ต้องสงสัย
เสี่ยวถงดูออก ว่าฐานะของหลี่ฝาง จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
หยิ่นเหล่ยเป็นคนที่หยิ่งผยองขนาดนั้น หลายปีมานี้ เคยก้มหัวให้ใครบ้าง……
แต่ตอนที่เขาเดินเข้ามาทักทายหลี่ฝางนั้น ราวกับบ่าวทำความเคารพเจ้านายอย่างไรอย่างนั้น สถานการณ์เช่นนี้ เมื่อก่อนเสี่ยวถงไม่กล้าแม้แต่จะคิด พอในวันนี้ กลับได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาแล้ว
เสี่ยวถงรู้ว่า ฐานะของหลี่ฝาง จะต้องอยู๋เหนือหยิ่นเหล่ยอย่างแน่นอน
หลี่ฝางพยักหน้า กล่าว: “ใช่ ไม่มีเสื้อผ้าใส่แล้ว ดังนั้นก็เลยออกมาซื้อเสื้อผ้ากับเพื่อนหน่อย ทำไม ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เป็นของตระกูลหยิ่นเหรอ?”
หยิ่นเหล่ยพยักหน้า
“เหอะ ๆ พนักงานขายของห้างฯ แห่งนี้ มีอยู่ทุกแบบจริง ๆ บางคนนิสัยใจคอไม่เลว บางคนก็นะ ไม่เพียงนิสัยใจคอต่ำช้า ทั้งยังชอบดูถูกคนอื่น เมื่อกี้ยังบอกว่าฉันเป็นคนฆ่าหมูอยู่เลย”
“ม่เพียงดูถูกฉัน แล้วยังดูถูกเพื่อนฉันอีก หยิ่นเหล่ย ที่นี่เป็นอาณาเขตของนาย……หรือไม่ก็ นายช่วยอธิบายกับฉันที”
หลี่ฝางยิ้มอ่อน ๆ และมองไปที่หยู่ชิง
ร่างกายของหยู่ชิง จู่ ๆ ก็สั่นสะท้านขึ้นมา
หยิ่นเหล่ยรีบตอบกลับทันที: “คนที่คุณชายหลี่พูดถึงเป็นใคร ผมจะไล่เธอออกทันที”
หลี่ฝางชี้ไปที่หยู่ชิง หยิ่นเหล่ยมองหยู่ชิง แล้วกล่าว: “นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอถูกไล่ออกแล้ว……ฉันจำเธอได้ รู้สึกว่าเธอจะเป็นคนรักของคุณอาหวางใช่ไหม? เหอะ ๆ ฉันเชื่อว่าหลังจากที่คุณอาหวางรู้ว่าเธอได้ล่วงเกินคุณชายหลี่ ต่อไปจะต้องอยู่ห่าง ๆ เธอไว้แน่ ๆ”
คำพูดของหยิ่นเหล่ย ทำให้หยู่ชิงรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า
หลี่ฝางพยักหน้าอย่างพออกพอใจ จากนั้นก็มองไปที่สาวหน้าพิมพ์นิยมแวบหนึ่ง และก็มองไปที่เหยนเสี่ยวน่า แล้วกล่าว: “ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าแฟนของนายจะชอบชุดที่เพื่อนของฉันใส่อยู่ เอาอย่างนี้ไหม ฉันจะเห็นแก่หน้านาย ให้เพื่อนของฉันถอดออกมาให้หล่อน?”
หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ ใบหน้าของหยิ่นเหล่ย ก็มืดดำขึ้นมากกว่าเดิม
NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 708 สวัสดี คุณชายหลี่
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….
Recommended Series
Comment
Facebook Comment