หลี่ฝางจ้องมองตงฟางเย่น เขาคาดเดาไม่ค่อยจะออก: “แม่งเธอมีตาทิพย์หรือยังไง นี่เธอยังมองเห็นได้อีก?”
หลี่ฝางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตงฟางเย็นเดาหรือว่ารู้ได้ยังไง
แต่ว่า เธอสามารถมั่นใจได้ว่าในบริเวณหน้าอกของหลี่ฝางมีอาวุธอยู่ได้นั้น เป็นธรรมดาที่จะทำให้หลี่ฝางตกใจ
หลี่ฝางเองก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร บางทีคนที่ฝึกยุทธในสมัยก่อน อาจจะไม่สนใจที่จะใช้อาวุธ แต่สมัยนี้ คนที่ฝึกวิทยายุทธคนไหนบ้าง ที่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือ?
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ของพวกนี้เป็นสิ่งที่สามารถปกป้องชีวิตได้เชียวนะ
ตงฟางเย่นยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นก็หันไปทางหลี่ฝาง และพุ่งเข้าใส่ทันที
บนมือของตงฟางเย่น มีเพียงมือซ้ายเท่านั้นที่สวมถุงมือ ดูแล้ว เธอจะต้องเป็นคนถนัดซ้ายอย่างแน่นอน
หลี่ฟางเคยได้ยินนักจิตวิทยาท่านหนึ่งพูดไว้ ธรรมดาแล้วคนที่ถนัดซ้าย ส่วนมากมักจะหยิ่งผยอง
หมัดของตงฟางพุ่งตรงเข้ามา หลี่ฝางขยับตัวหลบอย่างหวุดหวิด แต่ร่างของตงฝางเย่นนั้น รวดเร็วคล่องแคล่วอย่างสุดขีด ฝ่ามือของเธอยันพื้น จากนั้นก็ดีดตัวขึ้นมา แล้วลอยตัวในอากาศจนมาถึงด้านหน้าหลี่ฝาง
หมัดนี้ของตงฟางเย่น ลอยมาลอยลงมาจากด้านบน
จริง ๆ แล้ว หลี่ฝางสามารถรับได้ เพียงแต่ว่า หลี่ฝางได้เกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้ว ฉันยังต้องกลัวผู้หญิงอย่างเธอด้วยเหรอ?
ทันใดนั้นเอง หลี่ฝางก็ยื่นหมัดออกมา เขาเลือกที่จะฝืนรับซึ่ง ๆ หน้า!
หมัดของหลี่ฝาง มีพลังลมปราณสายหนึ่ง ส่งออกมาอย่างไม่หยุด
แต่ทว่า ตงฟางเย่นได้ยืมเอาพลังความเฉื่อยบางอย่างจากร่างกาย พลังโจมตีที่รุนแรงนี้ ทำให้หลี่ฝางรู้สึกว่าร่างกายของตัวเอง ได้แบกรับเอาพลังมหาศาลเอาไว้
หลี่ฝางรู้สึกแน่นหน้าอก จากนั้นก็ถอยหลังไปหลายก้าว
เสียงอักดังขึ้น ปากของหลี่ฝาง กระอักเลือดสด ๆ ออกมา ส่วนตงฟางเย่นเองก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ เธอพุ่งตัวลงมาในครั้งนี้ แขนของเธอได้เริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อย
ถุงมือไหมสวรรค์สามารถหลบเลี่ยงกำลังภายในของหลี่ฝางได้ แต่กำลังภายในกลับพุ่งไปยังแขนของเธอแทน
ในเวลานี้ ตงฟางเย่นเพียงรู้สึกว่าแขนของตัวเอง ถูกกระแทกจนชาไปหมด
แขนของตงฟางเย่น ยกขึ้นมาไม่ได้อยู่ครึ่งค่อนวัน และหลังจากที่หลี่ฝางได้กระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ ถึงแม้ลมหายใจระหว่างหน้าอก ยังไม่สม่ำเสมอ
แต่ในวินาทีนี้ เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะจู่โจมตงฟางเย่น หลี่ฝางไม่อยากจะเสียโอกาสนี้ไป
ถ้าหากเสียโอกาสครั้งนี้ไปแล้ว รอให้ตงฟางเย่นฟื้นคืนกำลังแล้วล่ะก็ งั้นอัตราที่ตัวเองจะพ่ายแพ้ ก็จะเพิ่มสูงขึ้น
หลี่ฝางพุ่งตัวเข้าไปทันที ส่วนตงฟางเย่นเองก็ได้หมุนลอยตัวขึ้นในอากาศ และถีบขาข้างหนึ่งพุ่งเข้ามา
หลี่ฝางตะลึงงันเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าตงฟางเย่น ที่แขนข้างหนึ่งใช้งานไม่ได้ชั่วขณะ กลับกล้าเลือกที่จะโจมตีหลี่ฝาง
เท้าแล้วเท้าเล่า ล้วนถูกหลี่ใช้แขนรับเอาไว้ได้
เมื่อเท้าสุดท้ายเตะเข้ามา ขาของตงฟางเย่น เตะเข้าไปที่บริเวณหน้าอกของหลี่ฝางเต็ม ๆ
เสียงกระอักเลือดดังขึ้น ปากของหลี่ฝาง กระอักเลือดสด ๆ ออกมาอีกครั้ง
เขากระอักเลือดออกมาสองครั้งในเวลาติดต่อกัน ทันใดนั้น สมองของหลี่ฝาง ก็เกิดความรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา
แต่ว่าหลี่ฝางในเวลานี้ กลับพยายามกดความเจ็บปวดเอาไว้ มือทั้งสองข้าง จับข้อเท้าของตงฟางเย่นเอาไว้แน่น
ในเวลานี้ ที่มุมปากของหลี่ฝาง ได้ปรากฏรอยยิ้มที่อันตรายขึ้นมา
“เธอแย่แล้วล่ะ”
หลี่ฝางกล่าว
ตงฟางเย่นในเวลานี้ มีสีหน้ากระวนกระวายขึ้นมาโดยสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ สีหน้าของตงฟางเย่นนั้น สงบนิ่งมาก แต่ในตอนนี้ ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ครั้งนี้ เป็นไปได้มากที่เธอจะแพ้
ตงฟางเย่นรู้ดีว่าการที่ข้อเท้าของตัวเองถูกหลี่ฝางจับเอาไว้นั้นอันตรายมากแค่ไหน เธอรีบหมุนตัวทันที และยกเท้าอีกข้างขึ้นมา เล็งไปที่หัวของหลี่ฝาง แล้วเตะเข้าไปทันที
แต่ทว่า กลับถูกหลี่ฝางเบี่ยงตัวหลบไปได้อย่างง่ายดาย
ถ้าหากหลี่ฝางไม่สามารถหลบได้ หัวของเขา เป็นไปได้มากที่จะถูกผู้หญิงที่โหดเหี้ยมคนนี้แตะลอยหลุดออกไป
เสียงกร๊อบดังขึ้น หลี่ฝางไม่ได้ให้โอกาสตงฟางเย่นได้หายใจอีก เขาพลันออกแรง ใช้มือหักขาของตงฟางเย่น จนกระดูกของเธอหักครึ่ง
บนใบหน้าของตงฟางเย่น มีเม็ดเหงื่ออันเย็นยะเยือกผุดขึ้นมา
เพราะถึงยังไง ความเจ็บปวดจากการที่กระดูกหัก ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็จะสามารถทนรับได้ ตงฟางเย่นคนนี้ไม่ได้ร้องตะโกนออกมา ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเธอมีความอดทนสูงมากแค่ไหน
หลี่ฝางจ้องมองตงฟางเย่น แล้วเอ่ยถามขึ้นมาอย่างเรียบ ๆ : “ยังจะสู้ต่ออีกไหม?”
หลี่ฝางปล่อยมือจากข้อเท้าของตงฟางเย่น แล้วโยนเธอออกไป ตงฟางเย่นที่ล้มลงไปกองอยู่บนพื้น รีบลุกยืนขึ้นมาด้วยขาเพียงข้างเดียวทันที
ตงฟางเย่นยืนเป็นไก่ขาเดียว ขาอีกข้างของเธอ ไม่กล้าที่จะวางลงไปบนพื้นเลยแม้แต่น้อย
“ขาเธอหักไปแล้ว” หลี่ฝางเอ่ยเตือนอย่างเย็นชา
ตงฟางเย่นสีหน้าแข็งทื่อ แต่น้ำเสียงของเธอกลับยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้: “นายเองก็ไม่ได้ดีกว่าไปซักเท่าไหร่หรอก นายกระอักเลือดติดต่อกันสองครั้ง ก็คงได้รับบาดเจ็บภายในอย่างหนักเหมือนกัน”
“ถูกต้อง ฉันได้รับบาดเจ็บภายใน”
หลี่ฝางยิ้มอ่อน ๆ กล่าว: “แต่ว่า แล้วยังไงเหรอ?”
หลี่ฝางไม่ได้กลัวว่าร่างกายจะได้รับผลกระทบอะไร ที่เขาใส่ใจ มีเพียงผลการต่อสู้เท่านั้น
หลี่ฝางรีบลงมือทันที เขาอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย และฝืนขับเคลื่อนลมปราณขึ้นมา เขาหันไปทางตงฟางเย่น แล้วจู่โจมเข้าไปทันที
ในเวลานี้ แขนของตงฟางเย่น ได้ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว
ถึงแม้จะไม่ได้ฟื้นฟูถึงขั้นกลับเป็นปกติ แต่เธอก็รอต่อไปไม่ได้แล้ว หมัดที่อันตรายถึงชีวิตของหลี่ฝาง พุ่งตรงเข้าไป ถ้าหากเธอไม่หลบ หรือว่าไม่ป้องกันเอาไว้ล่ะก็ งั้นเธอ คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
หมัดของยอดฝีมือกำลังภายใน เพียงพอที่จะฆ่าใครก็ตามที่ฝึกยุทธได้
ขอเพียงแค่ยอดฝีมือกำลังภายในไม่ยั้งมือ
และในตอนนี้ หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ยั้งมืออะไร เพราะยังไงซะตอนนี้ก็สู้กันมาจนถึงขั้นไหนแล้ว ตัวเองถึงขั้นมีเลือดออกภายใน ยังจะยั้งมืออีก? จะแสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษบ้าบออะไร!
หมัดของหลี่ฝางพุ่งตรงเข้าไป และตงฟางเย่นนั้นก็ได้ขมวดคิ้ว เธอยกแขนของตัวเองขึ้นมา และฝืนรับหมัดนี้เอาไว้
เมื่อสักครู่ หลี่ฝางไม่ได้หลบ ดังนั้น ตงฟางเย่นในเวลานี้ ก็คิดที่จะรักษาหน้าของตัวเองเอาไว้เหมือนกัน จึงเลือกที่จะฝืนรับซึ่ง ๆ หน้า
เสียงพัวะดังขึ้น ร่างของตงฟางเย่น ได้ลอยถอยห่างออกไป
เพราะยังไงการประจันหน้ากันของยอดฝีมือแบบนี้ พลังการจู่โจมนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก และตงฟางเย่นในตอนนี้ มีเพียงเท้าข้างเดียวที่ใช้รักษาสมดุลให้ตัวเอง
หากยังคงไม่นิ่ง เธอจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
หมัดนี้ของหลี่ฝาง ต่อยเข้าใส่ตงฟางเย่นอย่างหนักจนเธอต้องล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ตงฟางเย่นที่ได้เผชิญหน้ากับแรงจู่โจมอย่างมหาศาล ได้กระอักเลือดสด ๆ ออกมา เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว
ยังไม่รอให้ตงฟางเย่นลุกขึ้นมา หลี่ฝางก็ได้พุ่งเข้าไปอีกครั้ง เขามาถึงด้านหน้าของตงฟางเย่น: “อย่าขยับ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะฆ่าเธอซะ”
การกระทำเมื่อสักครู่ของตงฟางเย่น นับว่าได้ทำให้หลี่ฝางรู้สึกประทับใจ
เพราะยังไง ตงฟางเย่นสามารถเลือกที่จะหลบได้ อย่างน้อยถ้าทำแบบนั้นล่ะก็ เธอก็ไม่จำเป็นต้องมีสภาพเหมือนในตอนนี้
แต่ว่าผลลัพธ์ที่ว่าแพ้ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ตงฟางเย่นเลือกที่จะฝืนรับซึ่ง ๆ หน้า ก็นับว่าได้ชนะใจของหลี่ฝางไปบ้างแล้ว ผู้หญิงที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แน่นอนว่าจะไม่เลวทรามต่ำช้าอะไรมากแน่นอน หลี่ฝางรู้สึกว่าตงฟางเย่นและท่านจวนนั้นไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ดังนั้น หลี่ฝางตัดสินใจที่จะไว้ชีวิตตงฟางเย่น
“วันนี้ ฉันจะไม่ฆ่าเธอ แต่เธอต้องจำคำพูดที่เธอพูดเมื่อกี้เอาไว้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอได้เป็นทาสรับใช้ของฉันแล้ว” หลี่ฝางกล่าวกับตงฟางเย่น ที่กองอยู่บนพื้นอย่างเรียบ ๆ
ตอนนี้ขอเพียงแค่หลี่ฝางต้องการ ก็สามารถฆ่าเธอได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องลงแรงอะไร
NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 804 นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอได้เป็นทาสรับใช้ของฉันแล้ว
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….
Recommended Series
Comment
Facebook Comment