One Man Army ตอนที่ 46 การกัดกระสุน (1) (บังคับตัวเองให้ทําในสิ่งที่ยาก…
“แทมิน ดูเหมือนว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามครั้งนี้ได้”
ซ็อนอุง ไม่สบีสซอร์ดอันเดอร์เฮฟเป็นหัวหน้ากิลด์สกายอะบัฟสกายมองไปที่แทมินรองหัวหน้ากิลด์สกายอะบัฟสกาย
“อืมม….นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย…”
แทมินพึมพําด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ก็มันช่วยไม่ได้ พวกกิลด์โกลด์รัชจอมอวดดีพวกนั้นดันเจอเส้นทางลับ”
“พวกมันไม่ใช่พวกที่ปล่อยพื้นที่ฟาร์มที่ดีแบบนี้แน่นอน”
แทมินรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขายังคงต้องการหลีกเลี่ยงสงครามกิลด์
“เนื่องจากเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะช้าไม่ได้แล้ว เราต้องต่อสู้กับพวกมันอย่างสุดกําลัง”
“ใช่ นายพูดถูก ถ้าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เราจะต้องชนะเท่านั้น ฉันจะใช้การติดต่อฉุกเฉินเรียกสมาชิกกิลด์มา ทันทีที่พวกมันประกาศสงคราม… เราจะแสดงให้พวกมันเห็นว่า ชื่อกิลด์ของเราหมายความว่าอะไร(สกายอะบัฟสกาย หมาย ความว่า ฟ้าเหนือฟ้า)”
ในที่สุดแทมินก็ตัดสินใจ
กิลด์สกายอะบัฟสกายยอมแพ้การเจรจาเพราะว่ากิลด์โกลด์รัชนั้นโลภเกินไป ในท้ายที่สุดการปะทะระหว่างกิลด์ทั้งสองเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากเปลี่ยนรูปลักษณ์มาเป็นลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน ซางฮยอคก็สั่งให้ NPC พ่อค้าทั้งหกซื้อไอเทมสงครามทั้งหมดโดยไม่สนราคา
เนื่องจากมันถึงเวลาที่สงครามจะเริ่มแล้ว เขาจึงเพิ่มราคาไอเทมสงครามโดยการซื้อไอเทมสงครามทั้งหมดบนตลาดในเวลาเดียวกัน
แน่นอนว่ามีพ่อค้าไม่กี่คนที่มีไหวพริบดีได้กักตุนไอเทมสงครามเหมือนกับที่ซางฮยอคทํา อย่างไรก็ตามจํานวนไอเทมสงครามที่พวกเขากักตุนนั้นราวกับเม็ดฝุ่นเมื่อเทียบกับจํานวนไอเทมสงครามที่ซางฮยอคกักตุน
เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีพ่อค้าใหญ่ในการประมูลเลย ซางฮยอคจึงสามารถผูกขาดไอเทมสงครามได้ทุกชิ้น
ซางฮยอคซื้อไอเทมสงครามทั้งหมดโดยไม่สนราคา ยกเว้นไอเทมสงครามที่ราคามันเวอร์เกินไป
เนื่องจากมันมีไอเทมจํานวนมาก เขาจึงซื้อคลังเก็บของสี่มิติขนาดใหญ่พิเศษที่ซื้อได้เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น
ซางฮยอครู้ว่าสงครามกิลด์ระหว่างกิลด์สกายอะบัฟสกาย และกิลด์โกลด์รัชนะเริ่มในอีก 1 สัปดาห์
จนถึงตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายแค่ตะโกนด่ากันเท่านั้น แต่กิลด์โกลด์รัชใกล้จะเริ่มโจมตีกิลด์สกายอะบัฟสกายแล้ว
ในเวลานั้นกิลด์โกลด์รัชได้เข้าโจมตีผู้เล่นของกิลด์สกาย อะบั๊ฟสกายที่กําลังฟาร์มอยู่ที่พื้นที่ฟาร์มใต้ดิน และกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายก็รู้ว่าสงครามกิลด์กําลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า แต่พวกเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโจมตีพวกเขาโดยไม่ได้ประกาศสงครามกิลด์
และเมื่อเป็นเช่นนั้นกิลด์สกายอะบัฟสกายที่ถูกลอบโจมตีก็ได้ประกาศสงครามกับกิลด์โกลด์รัช แล้วสงครามกิลด์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจก็คือการโจมตีของกิลด์โกลด์รัชนั้นไม่ได้เกิดจากคําสั่งของกิลด์โกลด์รัช แต่เป็นเพราะสมาชิกกิลด์หัวรุนแรงบางคนที่พยายามโจมตีโดยไม่ฟังคําสั่งของกิลด์
ด้วยเหตุการณ์นั้นกิลด์โกลด์รัชจึงทําได้แค่เริ่มสงครามกิลด์ ในสถานการณ์นี้การไปขอโทษกิลด์สกายอะบัฟสกายนั้นไม่มีประโยชน์เลย
ในเวลานี้ซางฮยอค ไม่สิลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนได้ติดต่อไปยังกิลด์สกายอะบั๊ฟสกาย
****
บีสซอร์ดอันเดอร์เฮฟเวินมองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าเขาซึ่งมีร่างกายอ้วนเตี้ยและเคราแพะที่ดูชั่วร้าย.. ชายคนนั้นบอกว่าตัวเองขอลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนและเป็นพ่อค้า
“นายต้องการให้เราซื้อไอเทมที่ราคาแพงขนาดนี้งั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
“นายกําลังพูดเหลวไหลอะไรกัน? ถ้าฉันซื้อไอเทมชิ้นเดียวกันที่การประมูลในราคาเดียวกับไอเทมที่นายขาย… ฉันจะซื้อไอเทมได้ถึง 10 ชิ้น นายนึกว่าฉันโง่งั้นเหรอ?”
“นายพูดว่า 10 ชิ้นใช่มั้ย… งั้นนายก็ไปประมูลซื้อไอเทม ซะสิ อย่างไรก็ตามถ้านายปฏิเสธข้อเสนอของฉันในวันนี้ ราคาจะเพิ่มเป็นสองเท่าในครั้งหน้า”
“เฮ้ นาย….”
บีสซอร์ดอันเดอร์เฮฟเว้นคิดว่าลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนนั้นกําลังปั่นหัวเขา แต่คนที่หยุดเขาก็คือแทมิน
“ซ็อนอุงอย่าพึ่งใจร้อน…”
แทมินสงบสติอารมณ์ของบีสซอร์ดอันเดอร์เฮฟเงินและมองไปที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน
“นายกักตุนไอเทมใช่มั้ย….?”
แทมินซึ่งกําลังเตรียมตัวรับมือกับสงครามกิลด์ ได้เฝ้าดูการประมูลตั้งแต่ไม่สองวันก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในการประมูลและร้านฝากขายไอเทมในตอนนี้
“เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่มีคนที่คุยรู้เรื่อง ใช่แล้ว ฉันเป็นคนทํามันเอง”
ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนไม่ได้ปิดบังเลย
“นายพูดว่านายมีไอเทมพวกนั้นมหาศาลเลยใช่มั้ย?”
“มันก็แล้วแต่นายจะคิด ถ้านายพบใครที่ขายไอเทมพวกนั้นในราคาที่ถูกกว่าฉัน นายก็ไปซื้อไอเทมจากพวกเขาก็ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อนายมาขอซื้อไอเทมจากฉันในครั้งต่อไป ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”
“นายหมายความว่านายมั่นใจว่านายมีไอเทมพวกนั้นเยอะ ใช่มั้ย?”
แทมินขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับถามขึ้นมา
“ถ้าฉันไม่มั่นใจ ฉันจะไม่มาที่นี่”
“นายไม่คิดว่านายโลภเกินไปงั้นเหรอ?”
“โลภเหรอ?….นั่นคือสิ่งที่นายเห็นในตัวฉันใช่มั้ย?”
“การขายไอเทมในราคาสิบเท่าของราคาตลาด นั้นไม่ได้หมายความว่านายโลภงั้นเหรอ?”
“และใครเป็นคนกําหนดราคาตลาดกันล่ะ ถ้านายคิดว่านายสามารถซื้อไอเทมพวกนั้นในราคา “ตลาด” ได้นายก็ไปซื้อสิ”
แม้จะเจอกับคําเตือนของแทมิน ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน ไม่ได้สนใจเลย
“แน่นอนว่าราคาขึ้นอยู่กับนายเมาท์เทน แต่ฉันไม่ต้องการให้นายลืมว่าเราเป็นลูกค้านะ”
แทมินกําลังเตือนว่าลูกค้าคือพระเจ้า แต่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนกลับหัวเราะขึ้นมา
“นายกําลังจะบอกว่าฉันควรให้นายฟรีๆ เลยใช่มั้ย? โอเค ถ้างั้นเราเลิกคุยกันดีกว่า ฉันจะต้องไปหากิลด์โกลด์รัชต่อ โอ้ ใช่แล้วที่ฉันมาเพราะฉันรู้สึกดีกับกิลด์สถายอะบัฟสกายมากกว่ากิลด์โกลด์รัช และถ้านายเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา นายสามารถติดต่อฉันทางอีเมลล์ที่ฉันพึ่งให้นายไป และในครั้งต่อไปที่เราเจอกันราคาของไอเทมทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นสองเท่า”
ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนยิ้มในขณะที่เขาตอบกลับ
ในขณะนั้นแทมินก็รู้สึกหนาวสั่น สัญชาตญาณที่เฉียบคมของแทมินบอกเขาว่าอย่าปล่อยลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนไป
“ระ-รอก่อน”
แทมินคว้าตัวซางฮยอค
“โอเค พูดสิ”
“นายรออีกหนึ่งชั่วโมงได้มั้ย? นายไม่รู้เหรอว่านี่เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ?”
“อืมม….30 นาที ฉันจะรอแค่ 30 นาที”
ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนไม่ใช่คนที่จะยอมอ่อนข้อให้ใคร เขาทําราวกับว่าเขาอยู่ในตําแหน่งที่เหนือกว่า
[เฮ้ เขาดูเหมือนนักต้มตุ้นนะ ทําไมนายถึงทําแบบนั้นล่ะ? แค่ปล่อยให้เขาไปก็พอ อย่าบอกนะว่าเราไม่สามารถซื้อไอเทมที่อื่นได้งั้นเหรอ?]
เมื่อแทมินเปลี่ยนทัศนคติของเขา บีสซอร์ดอันเดอร์เฮฟเว้นก็แชทกับเขาในโหมดกระซิบ
[รออีกหน่อยเถอะ ไม่ว่าเขาจะโกหกหรือไม่…. เราค่อยไล่เขาออกไปก็ได้หากเขาโกหก]
แทมินรู้ว่าไอเทมที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนขายนั้นสําคัญมากแค่ไหน เขารู้ว่าพวกเขาอาจแพ้สงครามหากเขาไม่มีไอเทมพวกนั้น
หากการใช้เวลา 30 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตได้ เขาก็ยินดีที่จะทํา
แทมินสั่งให้สมาชิกกิลด์ทุกคนไปที่การประมูลและร้านฝากขายไอเทมที่ใกล้ที่สุดเพื่อตรวจสอบเศษชิ้นส่วนแห่งชีวิต น้ําศักดิ์สิทธิ์ หินมานา และหินเสริมพลัง
จากนั้นเขาก็ล็อกเอ้าท์ออกจากเกมและหาคนที่ขายไอเทมพวกนี้
30 นาทีผ่านไปในพริบตา
แทมินก็ได้ล็อกอินเข้าเกม เขากําลังตรวจสอบรายงานที่น่าตกใจที่ส่งมาจากสมาชิกกิลด์จํานวนมาก
[เราซื้อพวกมันไม่ทันเลย]
[ถึงแม้จะมีไอเทมพวกนี้ขายที่ร้านฝากขายไอเทมหรือที่การประมูล พวกมันก็ราคาแพงมากและถูกซื้อออกไปทันที]
[ไม่มีเลย]
[ผมจะซื้อพวกมันในราคาพิเศษภายใน 30 นาที แต่ไอเทมทั้งหมดที่ผมได้มามีแค่เศษชิ้นส่วนแห่งชีวิตไม่กี่ชิ้นและหินมานาระดับต่ําสุด 1 ก้อน]
[เนื่องจากมีคนประมูลซื้อพวกมันในราคาสูง ทุกคนเลยลงไอเทมประมูล แต่ไอเทมก็ถูกซื้อไปในทันที ดังนั้นจึงไม่มีใครเหลือไอเทมเลย]
…..
…..
แทมินเห็นข้อมูลที่น่ากังวลจากนอกเกมและเมื่อเขาตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจากสมาชิกกิลด์ เขาก็พบว่าเขา….ไม่สิกิลด์สกายอะบัฟสกายเจอคนที่น่ากลัวเข้าให้แล้ว
“มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย!”
ในขณะที่ลาร์จโกลด์เดินเมาท์เทนนั้นกําลังเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแสนอร่อย แทมินก็กัดริมฝีปากพร้อมกับมองไปที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน
[แทมินเกิดอะไรขึ้นเหรอ]
[ช็อนอุง….ดูเหมือนว่าเราจะพลาดแล้ว]
[ห้ะ? นายหมายความว่าอะไร?]
[ผู้ชายคนนั้น….ไม่ใช่คนธรรมดา]
[อะไรนะ! เขาผูกขาดไอเทมทั้งหมดจริงๆ เหรอ?]
[อาจจะใช่ หากไม่มีชายคนนั้นฉันคิดว่าเราสามารถรวบรวมไอเทมได้เพียงพอสําหรับหนึ่งปาร์ตี้ ไม่สิสําหรับทั้งกิลด์เลย….]
[ชายคนนั้นเขาโผล่มาจากไหนกัน? อ่า หัวฉันจะระเบิดแล้ว]
[แต่ถ้านายคิดดีๆ แล้ว นี่เป็นโอกาสของเรา]
[ห้ะ? นายหมายความว่าอะไร?]
[เราไม่ได้เป็นเพียงกิลด์เดียวที่ต้องการไอเทมสงคราม ถ้าเราผูกขาดไอเทมพวกนั้นได้ แม้ราคามันจะแพงขึ้น 10 หรือ 20 เท่า เราก็จะชนะสงครามกิลด์ครั้งนี้]
[โอ้…ก็จริงแหะ]
[งั้นซื้อไอเทมเลย ไม่สิลองขอเขาลดลงหน่อยแล้วกัน]
[โอเค]
บีสซอร์ดอันเดอร์เฮฟเวินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เขาบอกว่าชายคนนั้นเป็นนักต้มตุ้นมาตลอด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงรีบมองไปที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนด้วยความนอบน้อม
คําพูดของแทมินค่อนข้างสมเหตุสมผล
ไอเทมสงครามเป็นสิ่งที่จําเป็นสําหรับทุกฝ่ายในสงคราม ดังนั้นหากพวกเขาสามารถผูกขาดไอเทมทั้งหมดได้แล้วก็ชัยชนะจะตกเป็นของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม…..นั่นเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ ของเขา
“ห้ะอะไรนะ? นายจะขายให้กิลด์โกลด์รัชด้วยมั้ยเหรอ?”
แทมินมองไปที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนด้วยความตกใจ
“ทําไมนายถึงแปลกใจล่ะ? ฉันขายไอเทมของฉันให้กับทุกคนที่มีเงิน”
“แต่นายพูดว่านายจะทําธุรกิจกับ…”
“ฉันไม่เคยพูดว่าจะทําธุรกิจกับพวกนายเพียงกิลด์เดียว”
“แต่เราทําธุรกิจกับนายเพราะเราเชื่อใจนาย นายก็ควรเชื่อใจเราด้วยและ
“ฉันขอโทษนะแทมิน แต่ใครเชื่อใจได้บ้างล่ะ? แม้แต่ฉันยังไม่เชื่อใจตัวเองเลย ฉันเชื่อในเงินเท่านั้น นายไม่ควรเชื่อใจฉันเช่นกัน”
ซางฮยอคที่กลายเป็นลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนกําลังทําตัวราวกับพ่อค้าที่โลภเงิน ในความจริงแล้วซางฮยอคนั้นวางแผนหาทองโดยไม่ให้กระทบกับการแก้แค้นส่วนตัวของเขา
“ถึงจะเป็นอย่างนั้น….”
แทมินเป็นคนประเภทที่เข้าใจสถานการณ์ได้เร็วทําให้เขารู้ว่าใครอยู่ในตําแหน่งที่เหนือกว่า
“หืมม นายอย่าทําตัวน่าสงสารก็ได้ ฉันเป็นคนมีเมตตา ดังนั้นฉันจะให้ข้อเสนอกับนาย”
ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนตัดสินใจว่าตอนนี้ได้เวลาแล้วที่จะปล่อยเหยื่อ
“ฉันจะเพิ่มราคาเล็กน้อย เอาเป็น 40% แล้วกัน ฉันจะเพิ่มราคาให้กิลด์สกายอะบัฟสกาย 40% และเพิ่มให้กิลด์โกลด์รัชเป็น 4009% โอ้เราไม่สามารถเชื่อใจกันได้ ดังนั้นเราควรมาทําสัญญาด้วย “ม้วนคําสาบาน” แล้วนายจะสามารถเชื่อใจฉันได้จริงมั้ย?
ข้อเสนอของลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนคือเขาจะขายให้กิลด์โกลด์รัช 4 เท่าในขณะที่ขายให้กับกิลด์สกายอะบัฟสกายในราคาที่สูงกว่าปกติเล็กน้อย
นี่เป็นข้อเสนอที่มีเพียงแค่พ่อค้าหน้าเลือดเท่านั้นที่จะทําแทมินกําลังจะสถบด่าออกมา เขารู้สึกเดือดดาลอย่ามาก
อย่างไรก็ตามเขาก็กลืนคําสถบหล่านั้นและยิ้มด้วยท่าทาน่าอึดอัดใจ นั่นเป็นเพียงสิ่งที่เดียวที่เขาสามารถทําได้เมื่ออยู่ต่อหน้าข้อสเนอซึ่งทําไม่สามารถยอมรับได้ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เช่นกัน
“โอ้เนื่องจากนายตัดสินใจลําบาก ฉันจะช่วยให้นายตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ถ้านายปฏิเสธข้อเสนอนี้ ฉันจะยื่นข้อเสนอเดียวกันนี้ให้กับกิลด์โกลด์รัช แน่นอนว่านายก็รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง”
หลังจากพูดจบ ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนก็มองไปที่แทมินด้วยรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย
กึกกกกก
แทมินกัดฟันแน่นโดยไม่รู้ตัว และพยายามอดทนให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ หากเขาระเบิดอารมณ์ออกมาในตอนนี้ พวกเขาจะพ่ายแพ้สงครามกิลด์ครั้งนี้
หากพวกเขาพ่ายแพ้ในสงครามโดยที่ไม่สามารถทําอะไรได้เลย ไม่ต้องพูดถึงค่าชดเชยที่พวกเขาต้องจ่ายให้กับกิลด์โกลด์รัช
แม้แต่ “ภาพลักษณ์” ของกิลด์สกายอะบัฟสกายจะเสียหาย ดังนั้นคําตอบจึงชัดเจนอย่างมาก
กล่าวอีกนัยหยิ่งก็คือแทมินไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับข้อเสนอนนี้
‘เลวมาก…. เราพลาดแล้วที่มายุ่งเกี่ยวกับชายคนนี้….’
แทมินมองไปที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนด้วยท่าทางยอมแพ้ มันเป็นความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของเขา
ในท้ายที่สุดกิลด์สกายอะบัฟสกายต้องกัดกระสุนและยอมรับข้อเสนอที่ชั่วร้ายของพ่อค้าสงครามหน้าเลือด ‘ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน’