One Man Army ตอนที่ 49 การปรากฏตัวของตํานาน (2)
“ดูต่ออีกหน่อยละกัน
ในฐานะสมาชิกกิลด์ชั่วคราว ทหารรับจ้างแทบไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นเลย พวกเขาต้องทําตามคําสั่งเท่านั้น
ในความจริงทหารรับจ้างส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้เล่นที่มีเล เวลกลางๆ สูงกว่าเลเวล“ผู้เล่นใหม่” นิดเดียวเท่านั้น
เหตุผลที่ผู้เล่นเลเวลกลางๆ มาทํางานเป็นทหารรับจ้าง เพราะพวกเขาจะได้รับหลายพันทอง หากพวกเขา “ตาย” หลังจากต่อซักพักหนึ่ง
มันทํากําไรมากกว่าการฟาร์มมอนเตอร์ซะอีก
ถ้าสมาชิกกิลด์โกลด์รัชเห็นซางฮยอค ไม่สิ เบลคจะมีโฮโลแกรมสีแดงลอยอยู่เหนือหัวของเขา โฮโลแกรมนี้เป็นสัญลักษณ์กิลด์ และสัญลักษณ์นี้จะแสดงมาตอนอยู่ในสงครามกิลด์เท่านั้น
ทหารรับจ้างนั้นเป็นสมาชิกกิลด์ชั่วครามโดยการทําสัญญา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะมีสัญลักษณ์กิลด์
ในทางกลับกันผู้เล่นของกิลด์โกลด์รัชก็จะมีสัญลักษณ์กิลด์ที่คล้ายกันลอยอยู่เหนือหัวของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะแยกแยะมิตรหรือศัตรู
“ดูให้ทั่วนะ เราไม่รู้ว่ากิลด์โกลด์รัชจะโผล่มาเมื่อไหร่”
แม้ว่าพวกเขาจะมาถึงหุบเขาน้ําแข็งแล้ว คิมซองฮุนก็ยังคงเพื่อนสมาชิกกลุ่ม
เขาเป็นหัวหน้าของปาร์ตี้ทั้งสอง และโดยปกติแล้วกลุ่มของกิลด์จะประกอบด้วยสองปาร์ตี้
หากรวมกันมากกว่านี้มันจะเป็นจุดเด่นเกินไป และหากมันน้อยกว่านี้พลังของกลุ่มก็จะอ่อนแอเกินไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่กลุ่มจึงมักจะประกอบด้วยสองปาร์ตี้
ในบางครั้งมันอาจประกอบด้วยปาร์ตี้ชั้นสูงของกิลด์เพียงปาร์ตี้เดียว แต่นั่นมันเกิดขึ้นในกรณีพิเศษเท่านั้น
“กลุ่มทั้งสี่ของกิลด์โกลด์รัช แอลฟ่า บีต้า แกรมม่า เดลต้า จะกวาดล้างกลุ่มกิลด์สกายอะบัฟสกายมั้ยนะ? กลุ่มแอลฟานั้นแข็งแกร่งที่สุด แต่ฉันไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นแล้ว พวกเขาจะอ่อนแอลงมั้ยนะ?”
ในชีวิตก่อนของเขา ซางฮยอคเป็นหัวหน้ากลุ่มแอลฟ่า ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแต่สมาชิกชั้นสูงของกิลด์โกลด์รัช
จากความทรงจําของเขา กลุ่มแอลฟ่าเป็นกลุ่มที่ไร้พ่าย แม้แต่กลุ่มอันดับหนึ่งอะบัฟสกาย” ของกิลด์สกายอะบัฟสกายยังถูกบดขยี้โดยกลุ่มแอลฟ่า
โอ้ใช่แล้ว ในตอนนี้กลุ่มอันดับหนึ่งอะบัฟสกายยังไม่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเลย ถ้าฉันจําไม่ผิด กลุ่มอันดับหนึ่งอะบัฟสกายไม่มีทหารรับจ้างเลย.. พวกเขาจะให้ฉันเข้ากลุ่มมั้ยนะ?
เมื่อคิดถึงเรื่องต่างๆ เบลคก็หันไปดูรอบๆ
แต่ในขณะนั้นเอง
มีบางอย่างที่เขาไม่คาดคิดเกิดขึ้น
[มันคือกิลด์โกลด์รัช!]
“ห้ะ? กิลด์โกลด์รัชปรากฏตัวที่นี่งั้นเหรอ?”
เท่าที่เขาจําได้ มันไม่มีเวิร์คชอปของกิลด์โกลด์รัชอยู่ที่นี่ ดูเหมือนกิลด์โกลด์รัชนั้นมาที่นี่เพื่อล่าสมาชิกกิลด์สกายอะบัฟ
“คนลาดตระเวน พวกเขาควรอยู่ในกลุ่มเดลต้าหรือเอปไซลอน. ว้าววว ดูเหมือนว่าฉันจะมีโอกาสได้แสดงฝีมือแล้ว”
กลุ่มลาดตระเวนนั้นอาจถูกทําลายได้หากพวกเขาไม่ระวัง โดยเฉพาะในหุบเขาน้ําแข็งที่เป็นถิ่นของกลิด์สกายอะบัฟสกาย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งพอสมควร
[ทุกคนเตรียมตัวซุ่มโจม-]
ก่อนที่คิมซองฮุนจะพูดจบ กิลด์โกลด์รัชก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขาซึ่งดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะพบพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะพบอีกฝ่ายซะอีก
แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้พบอีกฝ่ายช้าเกินไป ดังนั้นคิมซองฮุนและสมาชิกของกลุ่ม A-4 จึงตั้งตัวทัน อย่างไรก็ตามกิลด์โกลด์รัชได้เปิดการโจมตีแล้ว
ฟริ้งง! ฟริ้งงง!”
โดยปกติแล้วสกิลแรกที่ถูกใช้ในการต่อสู้คือสกิล CC ในการต่อสู้ขนาดเล็ก ชัยชนะมักจะถูกตัดสินจากสกิล CC ที่ถูกใช้ออกมาสกิลแรก
(สกิล CC ย่อมาจาก Crowd Control Skill คือสกิลที่ทําให้ศัตรูติดสตั้น สโลว์ ถอยหลัง)
ดังนั้นความกว้างของเอฟเฟกต์สกิล CC ที่ถูกใช้งานโดยกิลด์โกลด์รัชจะตัดสินความได้เปรียบของการต่อสู้
สิ่งที่โชคดีก็คือกิลด์โกลด์รัชใช้สกิล CC ออกมา 2 สกิลซึ่งมีแค่หนึ่งสกิลที่เป็นสกิลหมู่ หากสกิลทั้งสองเป็นสกิลหมู่ กลุ่มของพวกเขาอาจแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันต่อสู้ด้วยซ้ํา
แคร็กก!
มีผู้เล่นของกิลด์สกายอะบัฟสกายประมาณ 5 คนที่เท้าถูกแช่แข็งเพราะสกิล CC ทําให้โอกาสชนะของกิลด์โกลด์รัชเพิ่มมากขึ้น
“เริ่มการบันทึก!”
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเบลคไม่โดนสกิล CC เลย เขามีแม้กระทั่งเวลากดเริ่มบันทึกวิดีโอเลย
“ฉันจะเพิ่มจํานวนคนดูช่องบีเจเกลด้วยการต่อสู้ของเบลค!”
ซึ่งงง!
หลังจากเริ่มบันทึกวิดีโอ เบลคก็ดึงดาบนักล่าออร์คออกมาและมองไปข้างหน้า
กิลด์โกลด์รัชและกิลด์สกายอะบัฟสกายต่างก็ปะทะกันด้วยสกิล CC ในสถานการณ์แบบนี้การใช้แผนนั้นไม่มีประโยชน์เลย
ด้วยการใช้สกิล CC อย่างต่อเนื่องทําให้การต่อสู้วุ่นวายมากยิ่งขึ้น
“กฏข้อที่หนึ่งของกาต่อสู้ที่วุ่นวายคือ…. ทิ้งพันธมิตร!”
เบลคมีประสบการณ์กับการต่อสู้ที่วุ่นวายแบบนี้หลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขาต้องทํายังไงในสถานการณ์แบบนี้
ฟุบ ฟุบ ฟุบ!
เบลคใช้หนึ่งในสกิลวิญญาณของอัศวินดาบ ดาบเริงระบํา และพุ่งเข้าไปสนามรบ ดาบเริงระบําได้ฟันทุกคนอย่างไร้ความปราณีและดูเหมือนว่าจะฟันโดนฝ่ายเดียวกันด้วย แต่คนที่ 1 ได้รับสัญลักษณ์กิลด์เดียวกันจะถูกระบบยอมรับว่าเป็น “พันธมิตร” ดังนั้นพันธมิตรที่ถูกเขาโจมตีจึงไม่ได้รับดาเมจเลย
ฉัวะ!
คนที่โดนดาเมจจากการโจมตีของเขาจึงมีเพียง แค่ผู้เล่นกิลด์โกลด์รัชเท่านั้น
การทิ้งพันธมิตรไม่ได้หมายความว่าทิ้งพวกเขาแล้ววิ่งหนีไป แต่คือการไม่ไปช่วยเหลือพวกเขา
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
เบลคยังคงเหวี่ยงดาบนักล่าออร์คของเขาไปรอบๆ พร้อมกับหลบการโจมตีองอีกฝ่ายราวกับเขามีตาอยู่ข้างหลัง
มันมีสองเหตุผลที่เบลคสามารถเคลื่อนไหวแบบนี้ได้
เหตุผลแรกคือเขามีความรู้โบราณที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ที่วุ่นวาย “อัศวินดาบ” และเหตุผลที่สองคือสัมผัสการต่อสู้กับค่า VRA ของเขาสูงอย่างมาก
ในบรรดาสกิลของอัศวินดาบ มีย่างก้าวเฉียดฉิว” และ “ขยายสัมผัสที่หก” ที่มีประโยชน์อย่างมากซึ่งเบลคก็สามารถใช้สกิลทั้งสองได้อย่างเชี่ยวชาญ
นอกจากนี้เขายังใช้การ์ดฟิวชั่นประเภทบัฟสองใบให้ตัวเอง เมื่อกิลด์โกลด์รัชปรากฏตัว
นั่นคือ เลือดเดือด” และ “ปีกแห่งสายลม
ต้นทุนของการ์ดฟิวชั่นทั้งสองคือ 7 และ 8 ตามลําดับ และเลือดเดือดจะเพิ่มพลังโจมตีของเขาขึ้นมหาศาลพร้อมกับลดพลังป้องกัน ในขณะที่ปีกแห่งสายลมจะเพิ่มความเร็วการเคลื่อยที่และอัตราการหลบหลีก
การ์ดทั้งสองใบนั้นเป็นการ์ดที่มีราคาแพงซึ่งถูกสร้างขึ้นจากธาตุระดับต่ํา แน่นอนว่าพวกมันคุ้มค่าที่จะสร้างขึ้นมา และเบลคก็จะใช้พวกมันอีกหลายครั้งในอนาคต
หวีดดด! ฉัวะ!*
มีอีกหัวหนวลอยขึ้นไปบนฟ้าซึ่งการที่หัวถูกตัดหมายความว่า HP เป็น 0
ทหารรับจ้าง “เบลอ” ของกิลด์สกายอะบัฟสกายสังหาร “ชะชะช่า” ของกิลด์โกลด์รัช
ไม่จําเป็นต้องทําสัญลักษณ์ว่าตัวเองสังหารได้ ระบบจะทําการบันทึกการสังหารในสงครามกิลด์ให้อัตโนมัติซึ่งเบลคสังหารไป 4 คนแล้ว
การสังหารต่อเนื่อง 4 คน มีเพียงแค่เบลคคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทําแบบนี้ได้ สถานการณ์ในตอนนี้ก็คือกิลด์สกายอะบั๊ฟสกายตายไป 5 คนและกิลด์โกลด์รัชตายไป 4 คน นั่นหมายความว่าทางฝ่ายกิลด์สกายอะบัฟสกายมีเพียงแค่เบลค ที่สังหารได้ ซึ่งเบลคก็ยังคงกวาดล้างสนามรบต่อไป
ชิงงงง!
เบลคใช้ดาบนักล่าออร์คเบี่ยงการโจมตีของอีกฝ่ายซึ่งอีกฝ่ายนั้นกําลังเบิกตากว้างราวกับจะกําลังพูดว่า “นี่เป็นไปได้ยังไงกัน?” แต่ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะอ้าปาก ดาบนักล่าออร์คก็แทงไปยังร่างกายอีกฝ่าย
ซวบ! ฟริงง!
อนุภาคแสงกระจายไปรอบๆ ในตอนนี้ทั่วทั้งตัวของเบลคเต็มไปด้วยอนุภาคแสงซึ่งเขาดูเหมือนมนุษย์แสงอย่างมาก หากไม่มการเปลี่ยนเลือดให้กลายเป็นอนุภาคแสงแล้วเขาอาจจะดูเหมือนปีศาจกระหายเลือด
ทหารรับจ้าง “เบลอ” ของกิลด์สกายอะบั้ฟสกายสังหาร “จีเนียสซอร์ดแมน” ของกิลด์โกลด์รัช
*5 คน
เบลคนับจํานวนคนที่ถูกเขาสังหารไว้ในใจ จากนั้นเขาก็กลับหลังหันพร้อมกับใช้ย่างก้าวเฉียดฉิว
ยิ้มมมม!
เวทยมนต์โจมตีใส่จุดที่เขาเคยยืนอยู่ กิลด์โกลด์รัชเริ่มสังเกตุได้ว่าหากพวกเขาไม่สังหารเบลค พวกเขาทุกคนจะถูกเบลคสังหาร
นั่นคือสาเหตุที่พวกเขาเริ่มมุ่งเป้าไปที่เบลค อย่างไรก็ตาม เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทําให้ผู้เล่นคนอื่นของกิลด์สกายอะบัฟ สกายเริ่มต่อสู้ได้ง่ายขึ้น
จํานวนคนที่ถูกสังหารของทั้งสองฝ่ายคือ 5 คนเท่ากัน และสมาชิกที่เหลือก็มี 9 คนเท่ากัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเบลคสังหารผู้เล่นกิลด์โกลด์รัชไป 5 คน ตาชั่งของสงครามก็เปลี่ยนไป
กิลด์โกลด์รัชซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มการต่อสู้กันได้เปรียบในตอนแรกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเบลคก็ได้เปลี่ยนความได้เปรียบของการต่อสู้
ราวกับพายุทอร์นาโดกวาดล้างสนามรบ ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
แม้แต่ผู้เล่นกิลด์สกายอะ’ฟสกายยังตกตะลึง
ผลลัพธ์ของการต่อสู้คือกิลด์สกายอะ’ฟสกายเสียสมาชิกไป 6 คน (เป็นทหารรับจ้าง 2 คน) ในขณะที่กิลด์โกลด์รัช เสียสมาชิกไป 14 คนซึ่งเบลคสังหารไป 12 คน
เบลคแสดงพลังที่น่าทิ้งออกมา
อย่างไรก็ตามตํานานของเขาพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น
หลังจากจบการต่อสู้แรก ซางฮยอคก็เซฟวิดีโอที่เขาได้บันทึกไปและตรวจสอบมันที่ศาลาพลบค่ํา
ซางฮยอคชอบวิดีโอนี้อย่างมาก เขาพยายามทําให้ตัวเองดูเท่ห์โดยการปรับมุมมองการต่อสู้
เขามีเวลาว่างอย่างมากในระหว่างการต่อสู้ ซึ่งดูได้จากการที่เขามีเวลาปรับมุมมองของกล้อง
“ถ้าฉันสะสมวิดีโอการต่อสู้ไว้ซัก 5 หรือ 6 วิดีโอ และลงในช่องบีเจเกล นั่นอาจเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึง โอ้ ฉันต้องรีบสร้างกิลด์แล้ว หลังจากที่ฉันสร้างกิลด์ ฉันจะรวมเกลและเบลคเข้าในช่องเดียวกันซึ่งมันอาจช่วยให้ฉันได้รับช่องไลฟ์
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาตั้งใจที่จะเข้ารวมสงครามในครั้งนี้
ดึงดูดคนดูด้วยวิดีโอการต่อสู้ที่สุดยอดและทําตามเงื่อนไขขั้นต่ําเพื่อรับช่องไลฟ์
นี่อาจเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว
หลังจากตรวจสอบวิดีโอเสร็จ ซางฮยอคก็ยืนขึ้น เขากําลังจะสร้างกิลด์ แต่มีข้อความปรากฏผ่านหน้าต่างการติดต่อเฉพาะทหารรับจ้างซึ่งมาจากกิลด์สกายอะบัฟสกาย
[เบลค ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย นายว่างมั้ย?]