ตอนที่ 148 ซื้อรถ
พอออกมาจากอาคารเต๋อหลง ลู่เฉินกับลู่ซีก็นั่งแท็กซี่กลับไปที่สตูดิโอ
ลู่ซีถามอย่างสงสัยว่า “หัวหน้าเวินคนนั้นเป็นอะไร ทำไมถึงเกรงใจแกขนาดนี้”
เธอกับลู่เฉินมาที่บริษัทอีเอ็มไอด้วยกัน หลังจากเซ็นสัญญาแล้วก็ไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ไม่ได้ไปที่ห้องทดสอบเสียง ดังนั้นเธอจึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง
เมื่อครู่ตอนที่เวินจื้อหย่วนมาส่งทั้งสองคน เขาพูดจาเกรงใจเป็นอย่างมาก
กระทั่งพูดได้ว่าถึงขั้นประจบสอพลอ
ลู่ซีจึงรู้สึกแปลกใจมาก การเปลี่ยนท่าทีของหัวหน้าฝ่ายจัดหานักแสดงของบริษัทอีเอ็มไอคนนี้ดูโอเวอร์เกินไปจริงๆ
ลู่เฉินหัวเราะเหอะๆ แล้วจึงเล่าความแค้นระหว่างเวินจื้อหย่วนกับจางฉงให้ฟัง
แถมเวินจื้อหย่วนก็เล่าเรื่องนี้ให้ลู่เฉินฟังด้วยตัวเอง
หลังจากลู่ซีฟังจบจึงเข้าใจทันที “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ คนอื่นพูดว่าที่ทำงานมีแต่อันตราย สงสัยจะจริง…”
เธออดส่ายหน้าไม่ได้
ลู่เฉินไม่ยอมเซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่อื่นๆ มาโดยตลอด กระทั่งปฏิเสธผู้อำนวยการเพลงของบริษัทเฟยสือเรค คอร์ดที่มาเชิญด้วยตัวเอง ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้มาคิดดูแล้วการเลือกของลู่เฉินนั้นถูกต้องจริงๆ
บริษัทอีเอ็มไอกับบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ แต่การสู้รบภายในก็รุนแรงดุเดือดเช่นกัน ถ้าหากเธอเข้าบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดกับลู่เฉินไป ไม่รู้ว่าต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง
ลู่ซีมีนิสัยเด็ดเดี่ยวแข็งแกร่ง และไม่ชอบทะเลาะกับคนอื่น
ถึงแม้ลู่เฉินจะเปิดสตูดิโอของตัวเองด้วยกำลังอันน้อยนิด แต่ก็ไม่มีปัญหาในด้านนี้
ประเด็นสำคัญคือเขาสามารถหาเงินได้มากจากการเปิดสตูดิโอของตัวเอง!
ติ๊ดๆ!
ทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าเล็กของลู่ซีก็ดังขึ้นสองครั้ง
เธอหยิบออกมาดู แล้วเผยรอยยิ้มดีใจออกมา “เงินของบริษัทอีเอ็มไอเข้าบัญชีแล้ว!”
“เร็วขนาดนี้เชียว”
ลู่เฉินก็ตกใจเหมือนกัน เขากับลู่เซีเพิ่งจะออกมา ไม่ทันไรเงินก็เข้าบัญชีแล้ว มีประสิทธิภาพสูงเกินไปแล้วมั้ง
เดิมทีสัญญาที่เซ็นเรียบร้อยแล้ว มีเงื่อนไขระบุว่าจะชำระเงินภายในสามวัน
ลู่ซียิ้มแล้วเอ่ยว่า “สงสัยพวกเขาจะให้ความสำคัญกับแกมาก!”
ถ้าหากไม่เห็นความสำคัญ เป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายบัญชีของบริษัทอีเอ็มไอจะโอนเงินเข้าบัญชีได้เร็วขนาดนี้
จะต้องเป็นคำสั่งของผู้บริหารระดับสูงแน่นอน
ลู่เฉินหัวเราะ “ต่อไปถ้าพวกเขาอยากจะซื้อเพลงอีก พวกเราคงต้องเพิ่มราคาแล้ว!”
เขายืนหยัดในการใช้นโยบายผลงานดีเยี่ยมราคาสูงตั้งแต่แรกเริ่มนั้นถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย เหมือนอย่างลูกค้าบริษัทอีเอ็มไอ ขอเพียงได้ลิ้มรสผลประโยชน์ ก็สามารถค่อยๆ เพิ่มราคาได้ในภายหลัง ไม่ต่างจากกบที่ถูกต้มอยู่ในน้ำร้อน
ถ้าหากเสนอราคาต่ำไปในตอนแรก แล้วจู่ๆ เพิ่มราคาสูงขึ้น จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของตัวเองได้ง่ายมาก
ลู่ซีพูดไม่ออก
เธอพบว่าตัวเองมองน้องชายไม่ออกมากขึ้นเรื่อยๆ
ติ๊ดๆ!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
ลู่ซีจ้องมองแล้วก็หัวเราะ และหัวเราะอย่างมีความสุขมาก
ลู่เฉินตะลึง
“เป็นอะไร”
ลู่ซีส่ายโทรศัพท์ไปมา แล้วพูดอย่างชอบใจว่า “เงินรางวัลของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเข้าบัญชีแล้ว หนึ่งล้านสี่แสน”
ลู่เฉินคว้าแชมป์ในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ถึงแม้เขาจะยอมทิ้งเงินกองทุนนฝึกอบรมดาวดวงใหม่จำนวนสี่ล้านหยวน แต่เงินรางวัลก็ยังคงสูงถึงหนึ่งล้านสี่แสนหยวน และเป็นเงินหลังจากที่หักภาษีแล้ว
แต่ตอนนั้นเขาไม่อาจรับเงินก้อนนี้ได้ทันที เพราะทางฝั่งสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งต้องดำเนินตามกระบวนการเช่นกัน
ตอนนี้เงินเข้าบัญชีแล้ว ถือว่าเป็นมงคลคู่มาที่บ้านพร้อมกัน!
ลู่เฉินดีใจยิ่งกว่า แล้วพูดแบบไม่คิดมาก
“งั้นโอนให้แม่หนึ่งล้าน แล้วพวกเราก็ไปซื้อรถกัน”
เขาตะโกนบอกคนขับรถแท็กซี่ที่อยู่ข้างหน้า
“ลุงครับ รบกวนช่วยไปส่งพวกเราที่จิงกวนออโต้ซิตี้ด้วยครับ”
ลู่ซีถึงกับหัวเราะก็ไม่ได้และร้องไห้ก็ไม่ออก
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
โอนเงินให้แม่ก่อนไม่มีปัญหา แต่ไปซื้อรถตอนนี้ ดูจะใจร้อนเกินไปหรือเปล่า
ลู่เฉินยิ้มพูด “ซื้อช้าซื้อเร็วก็ต้องซื้อเหมือนกัน ไปซื้อตอนนี้เหมาะสมแล้ว”
ตั้งแต่ก่อตั้งสตูดิโอมา ทีมงานมีอยู่สองสามคน งานประจำวันก็เริ่มยุ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่สะดวกมากที่ไม่มีรถแทนการเดินเท้า แถมยังเสียเวลาอีก
เวลาก็คือเงินทอง เขาอยากจะซื้อรถมานานแล้ว แต่ต้องรอเงินจากสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเข้าบัญชีก่อน
ในเมื่อลู่เฉินตัดสินใจแล้ว ลู่ซีจึงไม่คัดค้านอีก
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนหาเงินเข้าสตูดิโอคนเดียว ตอนนี้เงินเข้าบัญชีเยอะแล้ว จะซื้อรถก็ไม่แปลก
ลู่ซีครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “งั้นฉันจะโทรหาหลี่เฟยอวี่ เพราะเขาเคยทำงานในศูนย์รถยนต์มาก่อน ต้องเข้าใจแน่นอน”
ลู่เฉินพยักหน้า “ครับ!”
ตอนที่ทั้งสองคนรีบมาถึงจิงกวนออโต้ซิตี้ หลี่เฟยอวี่ก็มารออยู่ที่หน้าประตูใหญ่แล้ว
เขาเคยทำงานในศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรมาก่อน จึงมีประสบการณ์เยอะ ไม่ถูกหลอกแน่นอน
พอเห็นลู่เฉินกับลู่ซีสองคน เพื่อนของเขาหลี่เฟยอวี่ก็ยิ้มหน้าบาน รีบถามอย่างอดใจไม่ไหว “ต้าเฉิน ในที่สุดนายก็ซื้อรถเสียที ฉันรอคอยวันนี้มานานแล้ว นายอยากจะซื้อรถอะไรคิดไว้หรือยัง”
เขาเป็นผู้ช่วยของลู่เฉิน รถที่ซื้อมาเขาต้องเป็นคนขับแน่นอน
ลู่เฉินพูดว่า “พวกเราไม่ต้องเอาดีมากเกินไป ไม่ต้องเอารถหรู เอาแบบประหยัดราคาไม่แพงก็พอแล้ว”
“ส่วนราคา…”
เขาคิดแล้วพูดว่า “ประมาณสองแสนหยวนก็พอ นายช่วยฉันดูหน่อย”
“สองแสนเหรอ”
หลี่เฟยอวี่เกาศีรษะแกรกๆ แล้วกล่าวว่า “ถ้าราคานี้ อย่างนั้นก็ต้องเป็นรถ SUV รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็กที่ผลิตในประเทศ รถยนต์ไฮบริด ได้เงินสนับสนุนจากประเทศสูงมาก และไม่ต้องพูดถึงการประหยัดน้ำมัน แถมยังมีค่าเทียบเท่ากับรถยนต์นำเข้าราคาสี่ห้าล้านด้วย”
ลู่เฉินยิ้มพูด “นายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ฉันเชื่อนาย”
ตอนที่เขาอายุสิบแปดปีก็สอบได้ใบขับขี่รถยนต์มาแล้ว เขาชอบรถและเคยขับรถของที่บ้าน แต่ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก
ธุรกิจเพิ่งจะเริ่มต้น ไม่จำเป็นต้องซื้อรถดีเกินไป แต่ก็จะแย่ไม่ได้
รถยนต์เกรดสูงที่ผลิตในประเทศ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ลู่ซีกล่าวว่า “งั้นพวกนายก็เลือกกันไปก่อน ฉันจะไปโอนเงินที่ธนาคารเสร็จแล้วจะกลับมา”
ดังนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกัน ลู่เฉินเดินตามหลี่เฟยอวี่ดูศูนย์รถยนต์ไปรอบๆ ทยอยดูสองสามร้านติดต่อกัน
สุดท้ายก็มาถึงศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรจงฮว๋ามอเตอร์
รถ SUV สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู ดึงดูดความสนใจของลู่เฉินทันที
รูปทรงของรถรุ่นนี้ดีมาก รูปลักษณ์ภายนอกก็สวยสมส่วน กระจังหน้ากับดวงไฟทรงโค้งสวยงามแบบแยกส่วนผสมผสานได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงพลังอย่างเต็มที่
หลี่เฟยอวี่มองปราดเดียวก็รู้แล้ว
“จงฮว๋า X7 นี่คือรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาด!”
สองคนเพิ่งจะยืนอยู่หน้ารถคันใหม่ พนักงานขายของร้าน 4S ก็รีบเข้ามาทักทายพวกเขาอย่างกระตือรือร้น
รถจงฮว๋า X7 รุ่นนี้เป็นรถ SUV สำหรับคนเมืองรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวของจงฮว๋ามอเตอร์ เป็นรถยนต์ไฮบริดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการรวมตัวของเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย
นอกจากระบบขับเคลื่อนที่มีการประหยัดน้ำมันประสิทธิภาพสูงแล้ว ส่วนประกอบของมันก็ไม่เลว มีระบบเรดาร์หน้าหลัง ระบบจีพีเอสอัจฉริยะ การ์ดจอออนบอร์ด หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เบาะหนังแท้เป็นต้น อะไรที่ควรมีก็มีครบหมด และพื้นที่ภายในก็กว้างขวางพอ
คุณสมบัติที่ใหญ่ที่สุดของรถยนต์ไฮบริดคือประหยัดน้ำมัน สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระยะหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่ำมาก แน่นอนว่ามีความแตกต่างจากลักษณะของการขับเคลื่อนแบบดั้งเดิม แต่ลู่เฉินไม่ได้ซิ่งรถหรือวิ่งออฟโรด แค่ใช้วิ่งในเมืองก็เพียงพอแล้ว
ที่สำคัญที่สุดคือระบบความปลอดภัยของรถรุ่นนี้ดีมาก โครงสร้างรถแข็งแรงวัสดุดี มีถุงลมนิรภัยหกใบ
ถ้าหากลู่ซีขับรถ เขาจะได้วางใจ
นอกจากนี้ในบรรดารถที่ผลิตในประเทศ จงฮว๋าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมาก คุณภาพก็เป็นที่น่าไว้วางใจเสมอมา
สำหรับราคา ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของอุปกรณ์แบ่งเป็นหนึ่งแสนเก้าหมื่นหยวนถึงสองแสนเก้าหมื่นหยวน
สำหรับรถรุ่นนี้ หลี่เฟยอวี่พูดชมไม่หยุดปาก ลู่เฉินก็รู้สึกพอใจมาก ดังนั้นจึงให้พนักงานขายช่วยดำเนินการขอทดลองขับ โดยขับรถยนต์จงฮว๋า X7 รอบเมืองหนึ่งรอบ
ตอนที่กลับมาที่ร้าน 4S ลู่ซีก็มาถึงแล้ว
พี่สาวไม่มีความต้องการอะไรกับรถมากนัก ขอแค่ลู่เฉินชอบก็พอ เธอกับหลี่เฟยอวี่จะได้ไปต่อรองราคาด้วยกัน
ในที่สุดลู่เฉินก็ตัดสินใจซื้อรถที่นั่งสบาย ราคาตัวรถเปล่าหลังจากเพิ่มเงินสนับสนุนแล้วคือสองแสนสี่หมื่นห้าพันหยวน สุดท้ายก็ลดราคาได้นิดเดียว แต่ทางร้าน 4S ได้แถมการตกแต่งภายในและบริการหลังการขายมูลค่าสองหมื่นหยวน แล้วก็ยังมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ อีก
ค่าใช้จ่ายราคารถทั้งหมดรวมกับประกันและภาษีรถเป็นต้น ตกอยู่ที่ราคาสองแสนหกหมื่นสามพันหยวน
เขารูดบัตรชำระเงินในตอนนั้น ทำประกันและป้ายทะเบียนชั่วคราว จากนั้นก็ไปรับรถคันใหม่ออกมาจากร้าน 4S โดยตรง
ทั้งสามคนปลีกเวลาว่างแป๊บหนึ่งทานมื้อกลางวันที่ผ่านไปแล้ว
สีของรถคือสีขาว ลู่ซีกังวลเล็กน้อยว่าจะสกปรกง่าย แต่อย่างอื่นกลับพอใจมาก
ทั้งสามคนเดินกลับไปที่รถคันใหม่พร้อมกัน
คนขับรถก็คือหลี่เฟยอวี่ ลู่เฉินเห็นเขาชอบรถคันนี้มาก ดังนั้นจึงใจกว้างปล่อยให้เขาขับเป็นคนแรก
หลี่เฟยอวี่ขับรถคันใหม่ขึ้นทางยกระดับด้วยจิตใจที่กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา
“ต้าเฉิน ตอนนี้นายก็มีสตูดิโอแล้ว รถก็มีแล้ว งั้นลองพิจารณาซื้อบ้านที่ปักกิ่งบ้างสิ ดาราใหญ่จะอยู่ในออฟฟิศได้ยังไง!”
เดิมทีลู่เฉินพักอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์สตูดิโอที่ปล่อยให้พี่สาวอยู่แทน แล้วตัวเองก็ไปอยู่ที่ออฟฟิศ
เขาเองก็เตรียมวางแผนจะซื้ออพาร์ทเม้นท์เล็กๆ อีกแห่งที่อยู่ใกล้ๆ เขตนี้
สำหรับการซื้อบ้าน…
ลู่เฉินยิ้มเจื่อนๆ
“บ้านในปักกิ่งตอนนี้ซื้อไม่ไหวจริงๆ รออีกสองสามปีก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เขาพิจารณาถึงการใช้หนี้ทั้งหมดของครอบครัวก่อน การซื้อบ้านคือเรื่องอีกนานหลังจากนี้
อย่าเห็นว่าลู่เฉินหาเงินได้เก่งมาก แต่จากการคำนวณของเขาแล้ว ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด การใช้หนี้ทั้งหมดของครอบครัว อย่างน้อยก็ลากยาวไปอีกสองปีข้างหน้า
แต่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนความสิ้นหวังที่ใช้หนี้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด วันนี้มันคือความสุขที่ยิ่งใหญ่แล้ว
เรื่องการซื้อบ้านน่ะเหรอ บ้านในปักกิ่งมีราคาสูงที่สุดในประเทศ ราคาเฉลี่ยแทบทะลุขอบฟ้า
เงินหนึ่งล้านกว่าหยวนเพิ่งเข้าบัญชีของเขา แม้ว่าจะไม่ได้เอามาซื้อบ้านทั้งหมด แค่เลือกบ้านใหม่ในตำแหน่งที่ดีหน่อย ก็ซื้อได้แค่ห้องนอนเท่านั้น เอามาจ่ายเงินงวดแรกยังอีกไกลนัก!
ได้ยินว่าศิลปินดาราระดับสามและระดับสี่ ความฝันที่ใหญ่ที่สุดก็คือเก็บเงินเยอะๆ แล้วซื้อบ้านสักหลังใน วงแหวนรอบที่ห้าของปักกิ่ง
รายได้ของศิลปินระดับสามและระดับสี่ก็ไม่ได้แย่นัก แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงพอสมควร การซื้อบ้านคือสิ่งฟุ่มเฟือยเกินไป
หลี่เฟยอวี่ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “ก็จริง บ้านแพงเกินไป ถึงยังไงจะช้าเร็วฉันก็ต้องกลับบ้านเกิดอยู่ดี”
ลู่เฉินยิ้มพูด “พาพี่เสี่ยวเหม่ยกลับไปด้วยใช่ไหม”
หลี่เฟยอวี่หัวเราะฮิๆ
ตั้งแต่เฉินเสี่ยวเหม่ยมาทำงานที่สตูดิโอ การตามจีบของหลี่เฟยอวี่เหมือนจะได้ผลอยู่บ้าง
การพูดคุยหัวเราะมาตลอดทาง ไม่ช้าก็ใกล้ถึงเขตชุมชนแล้ว
โทรศัพท์ของลู่เฉินดังขึ้นพอดี
เฉินเจี้ยนหาวโทรมา เขาบอกให้ลู่เฉินไปร้านน้ำชาแห่งหนึ่งแถวเมืองมหาวิทยาลัย
ดังนั้นลู่เฉินจึงให้หลี่เฟยอวี่ขับรถไปที่สตูดิโอก่อน จากนั้นตัวเองก็ค่อยขับรถไปยังสถานที่ที่เฉินเจี้ยนหาวกล่าว
ตอนที่หาร้านเจอก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้ว
…………………………………………………………………………