Perfect Superstar – ตอนที่ 268 เป็นที่หมายปอง

ตอนที่ 268 เป็นที่หมายปอง

ละครโทรทัศน์ที่ผลิตจากบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์นั้น ส่วนใหญ่จะขายให้กับสถานีโทรทัศน์โดยตรง ถึงแม้เงื่อนไขของสัญญาจะไม่เหมือนกัน แต่ประเด็นหลักก็คือขายสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรกและสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำ

ละครที่มีดาราดัง โปรดักชั่นใหญ่ และมีการสร้างกระแสโปรโมต สิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรกมักจะปั่นราคาให้สูงเสียดฟ้า ไม่ทันไรก็ใช้เงินหลายสิบล้านแล้ว มีบางครั้งสถานีโทรทัศน์เจ้าเดียวรับไม่ไหว ก็จะร่วมทุนกับสถานีโทรทัศน์หลายเจ้าและแบ่งปันสิทธิ์ร่วมกัน

ละครประเภทนี้ ราคาขายสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำเป็นไปไม่ได้ที่จะสูงกว่าสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรก ถึงแม้จะมีเรตติ้งสูงมากก็ตาม

แต่ยังมีละครอีกประเภทหนึ่ง คือขายสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรกราคาถูกมาก เรียกต้นทุนกลับมาไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่หลังจากออกอากาศได้เรตติ้งสูงและโด่งดัง เช่นนั้นราคาของสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำจึงต้องเพิ่มสูงขึ้น กระทั่งสูงกว่าสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรก

ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ คือละครที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัดเรื่องหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ตัดประเด็นของสัญญาการพนันออกไป สถานีโทรทัศน์ไห่จินซื้อสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรกของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในราคาไม่สูงนัก ราคาหกล้านต่อยี่สิบตอน นักลงทุนทั้งสามฝ่ายเรียกต้นทุนกลับมายังไม่ถึงครึ่งหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ หรือว่ากานเต๋อบราเธอร์ส์พิคเจอร์ส์ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะยังมีสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำอยู่

และใครก็คาดคิดไม่ถึงว่า ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะดังเร็วขนาดนี้ ดังมากจนคนต้องอ้าปากค้าง!

เรตติ้งทั่วประเทศทะลุหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ทำให้ละครแนวความรักของคนเมืองเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสุดฮอตอย่างรวดเร็ว การคอมเมนต์ในบล็อกและโมเมนต์พุ่งระเบิด นักแสดงของเรื่องก็ดังเพียงชั่วข้ามคืน…

สถานีโทรทัศน์จำนวนไม่น้อย ต่างก็มองเห็นต้นไม้เขย่าเงินส่องประกายแสงสีทองระยิบระยับ!

ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นละครสุดสัปดาห์ที่ถ่ายทำไปด้วยออกอากาศไปด้วย ออกอากาศสองตอนต่อสัปดาห์ความจริงแล้วไม่ดีต่อการเพิ่มเรตติ้งเท่าไรนัก และในสถานการณ์เดียวกันก็มักจะสู้ละครซีรีย์ปกติไม่ได้

ตอนนี้ได้เรตติ้งที่สูงขนาดนี้ ศักยภาพแฝงของมันมีมากจริงๆ หากออกอากาศซ้ำอีกครั้งต่อเนื่องทันที เรตติ้งผู้ชมจะเหนือกว่าการออกอากาศครั้งแรกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เพราะว่าชื่อเสียงของละครเรื่องหนึ่งจำเป็นต้องอาศัยการบ่มเพาะ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชมละครทางโทรทัศน์เป็นกระแสหลัก หากพลาดตอนก่อนหน้า ก็จะให้ความสนใจการออกอากาศซ้ำเป็นพิเศษ…คนอื่นบอกว่าดี แสดงว่าต้องดีจริงๆ!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จึงกลายเป็นที่หมายปองในทันทีทั้งๆ ที่ยังถ่ายทำไม่เสร็จ สถานีโทรทัศน์หลายสิบเจ้าต่างก็รีบแจ้นมาติดต่อและเจรจา

หนึ่งในนั้นที่ต้องการอย่างเร่งด่วนที่สุด มีกำลังมากที่สุด ก็คือสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งและสถานีโทรทัศน์เจ้อตงอย่างไม่ต้องสงสัย

วันที่ 7 เดือนมกราคม สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งส่งตัวแทนมาที่จินหลิง เพื่อเจรจาซื้อขายสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำกับทั้งสามฝ่าย

ตัวแทนหนึ่งในนั้นก็คือ กู่รุ่ย

กู่รุ่ยเป็นโปรดิวเซอร์เพลงของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง เคยรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเพลงของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ เขาคุ้นเคยกับลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นอย่างมาก มีความสัมพันธ์ฉันมิตรที่ไม่เลว

เดิมทีการซื้อขายละครโทรทัศน์แบบนี้ ไม่เกี่ยวกับกู่รุ่ยเลยสักนิด เพราะนั่นคืองานของฝ่ายรายการ

แต่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ดังมากและน่าแย่งชิงมากจริงๆ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งกลัวเหลือเกินว่าสิทธิ์ในการออกอากาศซ้ำจะถูกคนอื่นแย่งไป ดังนั้นจึงส่งกู่รุ่ยที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาไปเจรจา

กู่รุ่ยมีตำแหน่งที่ไม่สูงและไม่ต่ำเกินไปในสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง จึงเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนมาเจรจากับพวกลู่เฉินทั้งสามฝ่าย

นอกจากนี้ยังมีอีกคนหนึ่งที่ลู่เฉินรู้จัก นั่นก็คือ จูเซ่าไท่ รองหัวหน้าฝ่ายรายการช่องวาไรตี้

ผู้บริหารระดับกลางและสูงของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งทั้งสองเดินทางมาที่จินหลิงด้วยกัน ถือว่าแสดงความจริงใจเป็นอย่างมาก

ไม่อย่างนั้นต่อให้บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่อื่นถือหัวหมูมาหา ก็หาประตูของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งไม่เจอ

ภายใต้เหตุการณ์ปกติ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งมีหรือจะเป็นฝ่ายลดตัวมาเจรจากับพวกลู่เฉิน!

ดังคำกล่าวที่ว่าค้าขายไม่สำเร็จมิตรภาพยังอยู่ ถึงแม้คราวที่แล้วจะไม่ได้ร่วมงานกัน แต่ครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ หรือว่ากานเต๋อบราเธอร์ส์พิคเจอร์ส์ ก็ล้วนต้อนรับการมาเยือนของพวกเขาอย่างกระตือรือร้นมาก

ตอนเย็นวันเดียวกันจางเต๋อผู้จัดการใหญ่ของกานเต๋อบราเธอร์ส์พิคเจอร์ส์ออกหน้าด้วยตัวเอง จัดงานเลี้ยงต้อนรับตัวแทนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งที่โรงแรมแมริออท

ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และผู้จัดการส่วนตัวของทั้งสองคนก็มาร่วมงานด้วย

จากความฮอตของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ สถานีโทรทัศน์ไห่จินได้รับผลประโยชน์โดยตรงที่สุด รองลงมาก็คือกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส์

บริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สอยู่ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ของปักกิ่งที่มีนักล่าผู้มีอำนาจทางการเงินมากมาย แต่ก็เป็นได้แค่ปลาตัวเล็กตัวหนึ่งเท่านั้น ลงทุนถ่ายทำละครทีวีหลายเรื่อง ได้ผลงานโดดเด่นเพียงน้อยนิด โดยพื้นฐานแล้วไม่ค่อยมีสิทธิ์พูดในวงการมากนัก

ครั้งนี้ได้อาศัยความดังของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กานเต๋อบราเธอร์ส์พิคเจอร์ส์จึงมีชื่อมีเสียงขึ้นมาในวงการ ช่วงนี้มีคนมาหาอยากขอร่วมงานและสนับสนุนเป็นจำนวนมาก จึงมีหน้ามีตาเพิ่มขึ้นไม่น้อย

แต่กานเต๋อบราเธอร์ส์พิคเจอร์ส์ก็ไม่ได้สับสนเพราะเรื่องนี้ พวกเขารู้ดีว่าตัวเองยังต้องเกาะขาให้แน่น

ช่วงที่ถ่ายทำละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จางเต๋อเฝ้าดูอยู่ที่จินหลิงตลอดเวลา หากยึดตามคำพูดของเขา ตัวเองก็คือพ่อบ้าน รับผิดชอบแก้ไขเรื่องกังวลในกองถ่ายโดยเฉพาะ

และเนื่องจากมีจางเต๋อคอยประสานงาน การถ่ายทำละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถึงราบรื่นมาก ไม่เกิดอุบัติเหตุที่มีผลกระทบอะไร ทำให้มีความหวังสูงมากที่จะถ่ายทำเสร็จล่วงหน้า

บนโต๊ะเหล้า จางเต๋อที่เป็นคนคอแข็งโจมตีอย่างไม่ลังเล ยกแก้วชนครั้งแล้วครั้งเล่าจนนักดื่มมือเก๋าอย่างจูเซ่าไท่แทบรับไม่ไหว บรรยากาศการดื่มเหล้าเป็นไปอย่างอบอุ่นและกลมเกลียว

ดื่มไวน์แดงหมดไปแล้วหนึ่งขวด จูเซ่าไท่จึงยิ้มอย่างขมขื่น “ผู้อำนวยการจาง อาจารย์ลู่ อาจารย์เฉิน ผมมาครั้งนี้เพื่อทำผลงานลบล้างความผิดครับ เนื่องจากเรื่องครั้งที่แล้วถูกหัวหน้าด่าเละเลย ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงพวกคุณก็ต้องพิจารณาผมหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่สามารถกลับไปรายงานได้!”

จูเซ่าไท่จงใจใช้ความเมาพูดเรื่องตลก แต่ที่พูดส่วนใหญ่ล้วนเป็นความจริง

ตอนแรกที่มาเจรจาซื้อสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรกของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เขาไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก ผลสรุปคือพลาดละครที่มีโอกาสได้เป็นละครระดับปรากฏการณ์เรื่องหนึ่ง จึงถูกคนในสถานีวิจารณ์ไม่น้อย

ความจริงจูเซ่าไท่ก็ถูกปรักปรำเกินไป ถ้าหากไม่ใช่เพราะสถานีโทรทัศน์ไห่จินมาตัดหน้ากะทันหัน มีความเป็นไปได้สูงว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะตกมาอยู่ในมือของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง

ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง กานเต๋อบราเธอร์ส์พิคเจอร์ส์ก็อยู่ในปักกิ่งเช่นกัน

ภายใต้เงื่อนไขที่เหมือนกัน สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งย่อมมีความมั่นใจมากกว่า

แต่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า สถานีโทรทัศน์ไห่จินที่ไม่ค่อยมีตัวตนกลับเล่นงานพวกเขาเสียได้

ถูกแย่งไปก็ไม่เป็นไร สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งที่มีทรัพยากรมากและกิจการใหญ่โตก็ไม่สนใจ แต่กลับไม่คาดฝันว่า ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะโด่งดังไปทั่วประเทศ แล้วหน้าตาของพวกเขายังจะแบกไว้ได้อยู่อีกหรือ

ถ้าหากแพ้ให้สถานีโทรทัศน์กลาง สถานีโทรทัศน์เซียงหนาน หรือสถานีโทรทัศน์เจ้อตง ก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่กลับปล่อยให้สถานีโทรทัศน์ไห่จินที่เป็นน้องเล็กได้หน้า เรื่องนี้รับไม่ได้จริงๆ!

โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งที่มีการปรับปรุงเรตติ้งอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จับตาดูเนื้อหารายการคุณภาพดีตาไม่กะพริบ และยังลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อการนี้ การสูญเสียละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นความผิดพลาดที่ไม่อาจให้อภัยได้

หัวหน้าเบื้องบนตบโต๊ะ กระดานที่อยู่ข้างล่างก็ร่วงใส่ตัวของจูเซ่าไท่

ใครสั่งให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบหลักล่ะ

จูเซ่าไท่ขมขื่นก็พูดออกมาไม่ได้ ต่อให้เขาปฏิบัติอย่างตั้งใจ ก็ไม่สามารถหยิบเงื่อนไขที่คล้ายกับสถานีโทรทัศน์ไห่จินออกมาได้ ผลลัพธ์จึงไม่ต่างกัน

แต่เขาก็โต้กลับไม่ได้ จึงได้แต่อาศัยโอกาสในครั้งนี้มาเจรจาด้วยตัวเอง และยังลากกู่รุ่ยมาอีกด้วย

กู่รุ่ยเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “หัวหน้าจูก็ลำบากเหมือนกัน…”

ผู้อำนวยการเพลงคนนี้ถึงแม้จะมีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่ค่อยเข้าอกเข้าใจคนอื่น แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองมาทำอะไร

ดังนั้นเขาจึงต้องช่วยพูดแทนจูเซ่าไท่

และคำพูดระบายความขมขื่นกึ่งจริงกึ่งหลอกของจูเซ่าไท่ ก็ทำให้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้แต่มองหน้ากัน

รองหัวหน้ารายการช่องวาไรตี้ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งพูดถึงขั้นนี้แล้ว อย่างไรเสียก็ต้องไว้หน้ากันหน่อยไม่อย่างนั้นก็คงจะผิดใจกับเขาจริงๆ!

แต่จางเต๋อที่มีประสบการณ์สูงกว่ากลับยิ้มพลางกล่าวว่า “หัวหน้าจูก็พูดรุนแรงเกินไป ช่วงนี้มีหลายหน่วยงานมาเจรจาไม่น้อย ขอแค่มีเงื่อนไขคล้ายๆ กัน พวกเราก็จะให้โอกาสสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งก่อนแน่นอนครับ เพราะพวกเราก็เป็นคนปักกิ่งด้วยกันทั้งนั้น!”

ความจริงจางเต๋อไม่ใช่คนปักกิ่งแท้ๆ แต่เขาย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ปักกิ่งนานแล้ว

คำตอบของเขาไม่มีช่องโหว่เลยสักนิด รักษาหน้าตาของจูเซ่าไท่ และยังรักษาเส้นขีดจำกัดของตัวเองเอาไว้ได้

เรื่องจริงได้พิสูจน์แล้วว่า จางเต๋อเป็นคนที่มีเหตุผลมาก

วันถัดมาซึ่งก็คือวันที 8 เดือนมกราคม ตัวแทนของสถานีโทรทัศน์เจ้อตงก็มาที่จินหลิง

และที่น่าสนุกก็คือ คนที่มาก็เป็นคนรู้จัก…เถียนเถียน!

เดิมทีเถียนเถียนเป็นพิธีกรของสถานีโทรทัศน์เจ้อตง เนื่องจากการโจมตีของแฟนคลับบ้าคลั่งคราวที่แล้ว ตอนนี้เธอจึงย้ายไปทำงานเบื้องหลังของสถานี ปรากฏตัวในวงสังคมน้อยมาก

เถียนเถียนกับเฉินเฟยเอ๋อร์เดิมทีก็เป็นเพื่อนกัน และลู่เฉินก็คือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอ

สถานีโทรทัศน์เจ้อตงส่งเธอมาทำงาน ก็อยากใช้มิตรภาพส่วนตัวนี้เช่นกัน มีน้ำหนักไม่น้อยกว่าคู่แข่งเลย

เนื่องจากความสัมพันธ์ที่พิเศษของทั้งสองฝ่าย หลังจากงานเลี้ยงตอนเย็นผ่านไปแล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์จึงลากเถียนเถียนไปคุยแบบส่วนตัวในห้องของตัวเอง และให้ลู่เฉินตามไปอยู่เป็นเพื่อน

เย็นนี้เถียนเถียนดื่มไปไม่น้อย หน้าแดงก่ำดูสวยงามมาก

คงจะเป็นเพราะดื่มหนักไปหน่อย เธอจึงกล้าพูดมากขึ้น จูงมือของเฉินเฟยเอ๋อร์แล้วถามโดยตรงว่า “พี่เฟยเอ๋อร์ พี่กับลู่เฉินอย่างนั้นกันแล้วใช่ไหมคะ”

ลู่เฉินหัวเราะคิกคัก…อะไรคืออย่างนั้น

เฉินเฟยเอ๋อร์พูดดุ “เถียนเถียน ฉันว่าเธอดื่มเยอะไปแล้วนะ!”

เถียนเถียนหัวเราะแล้วกอดเธอ พลางเอ่ยว่า “ฉันมีสติดีค่ะ พี่พูดมาว่าใช่ไม่ใช่!”

เฉินเฟยเอ๋อร์แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “เธอพูดอะไรเหรอ”

เถียนเถียนสะกิดนิ้วของเธอ “ก็คบกันไง พวกพี่กำลังแอบคบกันอยู่ใช่ไหม”

เฉินเฟยเอ๋อร์รู้ว่าปิดไม่อยู่ จึงพยักหน้า

“จริงเหรอเนี่ย”

เถียนเถียนเบิกตาโต ลุกขึ้นทำสีหน้าแปลกประหลาด “อย่างนั้นก็เป็นข่าวใหญ่จริงๆ!”

เฉินเฟยเอ๋อร์เหลือกตาขาวใส่เธอ “พวกเรายังไม่อยากเปิดเผย”

เถียนเถียนกลอกตาไปมา แล้วพูดว่า “งั้นพี่ก็ต้องมีค่าปิดปาก สิทธิ์ออกอากาศซ้ำของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ พี่จะต้องให้สถานีของพวกเรา ไม่อย่างนั้นละก็…ฮิๆ!“

เฉินเฟยเอ๋อร์ยอมแพ้ให้กับความหน้าด้านของเธอจริงๆ “เรื่องนี้ฉันตัดสินใจเองไม่ได้”

ต่อให้มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก แต่เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายฝ่าย เธอไม่สามารถรับปากได้ง่ายๆ

นี่คือปัญหาด้านหลักการ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ที่มาเจรจาซื้อขายยังมีสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอีกด้วย!

ดังมากไปก็ไม่ค่อยดีจริงๆ!

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Perfect Superstar
Status: Ongoing
อ่านนิยายPerfect Superstarลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปี จำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาล วันหนึ่งเขาฝัน...เป็นความฝันที่ยาวนานมาก โลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้า ตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกัน นักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระ เขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝัน เมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมา เป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset