ตอนที่ 291 เป็นเรื่องปกติ
คนรักมีความสุขที่สุด สุขสันต์วันแห่งความรัก
ในบรรดาเทศกาลวันพิเศษที่ได้รับการสืบทอดมาจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศจีน วันคริสต์มาสและวันวาเลนไทน์ได้รับความนิยมสูงสุดจากวัยรุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย
แน่นอนว่าพวกพ่อค้าแม่ค้าที่ได้ผลประโยชน์เป็นอันดับแรกต่างพากันสนับสนุนเต็มที่ ด้วยความพยายามอันไม่ย่อหย่อนของพวกเขา เทศกาลวันแห่งความรักจึงถูกเผยแพร่ออกไปให้เป็นวันที่โรแมนติกที่สุด หยิบยืมความสุขของหนุ่มสาวเพื่อหลอกล่อเอาเงินในกระเป๋าของพวกเขาออกไป
ดังนั้นตามห้างสรรพสินค้าในเมืองและสวนสนุกเมื่อถึงวันแห่งความรักมักจัดกิจกรรมมากมาย แบรนด์สินค้าทั้งหลายก็อาศัยโอกาสพิเศษนี้เพิ่มยอดขาย
สาขาใหญ่ของเซินฉีในเมืองหลวงเลือกวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้เป็นวันเปิดกิจการ
แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาเกิดใหม่นี้มีความทะเยอทะยาน ทุ่มทุนไปกับด้านโฆษณามากเป็นพิเศษ ช่วงก่อนพวกเขาเซ็นสัญญากับลู่เฉินให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยค่าตัวหลักล้าน งานเปิดสาขาใหญ่เช่นนี้ย่อมขาดลู่เฉินไม่ได้
ที่อยู่ของร้านเซินฉีสาขาใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจัตุรัสประชาชน เป็นทำเลทองแห่งหนึ่งในเขตวงแหวนที่สองของเมืองปักกิ่ง
เนื่องจากเทศกาลวันแห่งความรักตรงกับวันอาทิตย์ บริษัทหลายแห่งไม่ทำงาน ดังนั้นผู้คนที่มาปรากฏตัวในจัตุรัสประชาชนย่อมมากเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่มักจะมากันเป็นคู่รัก เด็กสาวเดินถือดอกกุหลาบช่อใหญ่มีให้เห็นอยู่เป็นระยะ เป็นภาพที่ดูคึกคักมาก
หน้าจอแอลอีดีขนาดใหญ่ทางทิศตะวันออกของจัตุรัสกำลังฉายโฆษณาเทศกาลวันแห่งความรักของเซินฉี ทั้งยังมีตารางการแสดงแจ้งไว้ด้วย
เวทีที่จัดพิธีเปิดร้านอยู่ใกล้กับป้ายโฆษณา ห่างจากซุ้มประตูหลายสีสันตรงหน้าทางเข้าร้านเซินฉีเพียงไม่กี่สิบก้าว พนักงานร้านหลายคนกำลังวุ่นวายกับการติดตั้งเครื่องขยายเสียง ติดผ้าม่าน จัดวางกระเช้าดอกไม้อะไรพวกนั้น
แม้จะห่างจากเวลาที่จะเริ่มทำพิธีเปิดอีกหลายชั่วโมง แต่รอบข้างเวทีก็มีคนมามุงดูอยู่ไม่น้อย ถามนั่นถามนี่จากพวกพนักงาน
พวกเธอส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของลู่เฉิน
ทางเซินฉีได้ลงโฆษณาไปนานแล้ว ภาพที่ขึ้นในจอแอลอีดีเป็นรูปพระเอกละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทั้งยังตั้งฉายาให้ลู่เฉินว่าเจ้าชายแห่งดนตรีอีกด้วย ภาพของเขาในละครถูกมองเห็นได้จากที่ไกลๆ
อาศัยกระแสอันโด่งดังของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แบรนด์เซินฉีได้รับความนิยมมากมายจากการมีลู่เฉินเป็นพรีเซ็นเตอร์ งานเปิดร้านครั้งนี้ย่อมไม่ขาดการใช้ข้อนี้เข้ามาทำเป็นป้ายทองคำเรียกลูกค้า
แน่นอนว่าพวกเขาต้องจ่ายค่าโฆษณาให้กับลู่เฉินอีกต่างหาก
แต่คู่แข่งขันทางธุรกิจเจ้าอื่นอิจฉาตาร้อนกันหมด ใช้เงินแค่ล้านเดียวก็ได้ลู่เฉินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้หนึ่งปี สำหรับเซินฉีแล้วกำไรมหาศาล เพราะตอนนี้หากต้องการให้ลู่เฉินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อย่างน้อยต้องมีสี่ถึงห้าล้าน!
ศิลปินถ้าโด่งดังขึ้นมา ค่าตัวสำหรับการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาจะดีดตัวพุ่งขึ้นจนสูงเฉียดฟ้าเลยทีเดียว
หวังจิ้งยืนอยู่บนเวทีแสดง ช่วยเพื่อนร่วมวงนำขาตั้งกลอง คีย์บอร์ด และอุปกรณ์ต่างๆ มาจัดวางติดตั้ง
ในใจของเธอยังคิดว่านี่ไม่ใช่ความจริง
ก่อนวันตรุษจีน เมื่อหวังจิ้งได้ฟังข่าวเรื่องที่ถูกหลอกจากปากพ่อของเธอที่ดูแก่ลงไปสิบกว่าปี ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนฟ้ากำลังจะพังทลายลงมา ความเศร้าโศกเสียใจยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด
เธอไม่มีทางกล่าวโทษพ่อของเธอที่ทำทุกอย่างเพื่อสตูดิโอ ทำได้เพียงเคียดแค้นคนหลอกลวงไร้ยางอายคนนั้น
สุดท้ายเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ความรู้สึกผิดและความเสียใจถาโถมเข้าใส่หวังฉางเซิง จนทำให้เขาล้มป่วย
สตูดิโอเนี่ยผานก็ต้องปิดตัวลง ในบ้านไม่มีแม้แต่เงินค่ารักษาหวังฉางเซิง ตอนที่ไร้หนทางออก หวังจิ้งไปขอความช่วยเหลือจากลู่เฉิน
หลังจากวันตรุษจีนเจ้าหนี้มาตามทวงหนี้ถึงบ้าน สตูดิโอเนี่ยผานไม่อาจกลับมาเปิดได้อีก วงเนี่ยผานเผชิญหน้ากับการแยกจาก แม้หวังจิ้งจะไม่ยินยอมเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้น
จนเมื่อลู่เฉินปรากฏตัว…
เมื่อวานตอนเช้าเธอกับน้องชายและเพื่อนร่วมงานคนอื่นยังเหมือนสุนัขที่ไร้บ้าน วันนี้กลับมายืนอยู่บนเวทีต่อหน้าผู้ชมนับไม่ถ้วน ไม่ต้องกังวลใจถึงอนาคตหรือโชคชะตาอีกต่อไป
เดือนหน้า พวกเขาจะไปร่วมงานเทศกาลดนตรี 72H
เหมือนนิพพานแล้วเกิดใหม่!
จากเนี่ยผานเปลี่ยนเป็นนิพพาน เสียงอ่านในภาษาจีนไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม แต่ทั้งหมดกลับเป็นการเริ่มต้นใหม่!
หวังจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แอบบอกตัวเองว่าต้องพยายาม
เธอไม่อาจทำผิดต่อความเชื่อใจและการช่วยเหลือของลู่เฉิน
ขณะเดียวกันที่ก้นบึ้งหัวใจยังมีความรู้สึกบางอย่างหลบซ่อนอยู่ในมุมที่ลึกที่สุด รอให้เวลาทำให้มันลดจางลงไป
“พี่ พี่มาช่วยผมดูทางนี้หน่อย…”
เสียงเรียกของหวังฮุยดึงสติของหวังจิ้งกลับคืนมา เธอรีบเดินไปทางที่น้องชายอยู่ทันที
ด้วยฝีเท้าแผ่วเบา
เวลาผ่านไปเร็วและเบาเหมือนฝีเท้า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาตะวันตกดิน ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เสาไฟที่ตั้งเรียงรายอยู่ข้างทางในจัตุรัสประชาชนและแสงไฟบนเวทีถูกเปิดจนสว่างไสว
คนยิ่งเข้ามาในจัตุรัสมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาถูกภาพบรรยากาศทางด้านนี้ชักจูงเข้ามา ค่อยๆ รวมตัวกันมากขึ้น
ท่ามกลางผู้คน มีวัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคนที่ถือป้ายไฟ ป้ายไฟเหล่านั้นเขียนอย่างชัดเจนว่า ‘ลู่เฉิน’ ‘เฉินเฉิน’ เป็นต้น ทั้งสีแดงสีเขียวสะดุดตา
ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ทำให้ลู่เฉินได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก ผู้ติดตามในบล็อกล่างฉาวตอนนี้สูงกว่าสิบห้าล้านคน งานเปิดร้านสาขาใหญ่ของแบรนด์เซินฉีในคืนนี้ถูกประกาศในบล็อกล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นจึงดึงดูดแฟนคลับตัวจริงจำนวนมากเข้ามาชม
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่างรีบเข้ามาควบคุมให้พวกเขาอยู่นอกเส้นเขตปลอดภัย
ตั้งแต่เรื่องที่เกิดในหังโจวคราวนั้น ตอนนี้กิจกรรมที่มีดาราศิลปินยิ่งเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากกว่าเดิม
ลู่เฉินในตอนนี้อยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของร้านเซินฉีที่ยังไม่เปิดกิจการ กำลังกดมือถือพิมพ์ข้อความคุยกับเฉินเฟยเอ๋อร์
เป็นวันแห่งความรักแท้ๆ สองหนุ่มสาวที่เป็นคนรักกันกลับไม่ได้อยู่พลอดรักกันในวันสำคัญ
น่าเสียดาย แต่ในวงการบันเทิงนี้เป็นเรื่องปกติ
มีดาราศิลปินมากมายที่ทำแต่งานจนไม่มีความรัก เหตุผลเพราะกลัวส่งผลกับยอดความนิยม ยิ่งกว่านั้นเพราะงานที่ยุ่งมากกับชีวิตความรักนั้นขัดแย้งกัน มีคู่รักไม่กี่คู่เท่านั้นที่คบหากันได้ยาวนาน
วันนี้เฉินเฟยเอ๋อร์ก็มีงานพรีเซ็นเตอร์ที่สำคัญเช่นกัน อีกทั้งเธอยังอยู่ห่างจากจัตุรัสประชาชนไปแค่สองช่วงถนน
หลังจากพลอดคำหวานเสร็จแล้ว ลู่เฉินบอกเรื่องที่เขาตั้งวงนิพพานขึ้นให้เฉินเฟยเอ๋อร์ฟัง
ยังมีเรื่องที่เขาเตรียมจะสร้างห้องอัดเสียง
เฉินเฟยเอ๋อร์ดีใจมาก บอกว่าต่อไปถ้าเธอจะอัดเพลงก็ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นแล้ว สามารถทำงานจนเสร็จได้ที่สตูดิโอลู่เฉินที่เดียว
เธอบอกอีกว่า “ถ้าจะทำก็ทำให้ดีไปเลย ฉันจะร่วมหุ้นด้วย!”
ลู่เฉินหัวเราะ “ได้สิ ผมเป็นเถ้าแก่ คุณเป็นเถ้าแก่เนี้ย”
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่งรูปยิ้มกับรูปจูบหวานๆ กลับมา
เธอเอ่ยว่า “ทางฉันนี่น่าเบื่อมากเลย อยากไปหานายดูนายแสดงจัง!”
ลู่เฉินรู้สึกวาบหวามในใจ ลองถามหยั่งเชิงเธอดู “หรือไม่หลังจากเสร็จงานแล้ว เรามาเจอกันหน่อยดีไหมครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่งหน้าเหนื่อยหน่ายมาให้ ตอบว่า “เชื่อไหมว่ามีปาปารัสซี่เป็นฝูงคอยแอบตามฉันอยู่”
แค่ลู่เฉินคิดภาพตาม ก็เริ่มรู้สึกมึนนิดหน่อยแล้ว “งั้นก็ได้”
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่งรูปจูบหวานๆ กลับมาให้อีกครั้งหนึ่ง “เอาไว้ค่อยชดเชยให้วันหลังนะ”
ทั้งสองคนพลอดรักกันอยู่ครึ่งชั่วโมงเต็ม ในที่สุดพิธีเปิดร้านสาขาใหญ่ของแบรนด์เซินฉีก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
………………………………………………………………………