ตอนที่ 330 สงครามบล็อก
ก่อนหน้าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มีละครโทรทัศน์ที่ผลิตในประเทศถูกซื้อเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้ นั่นคือเรื่อง ‘คนรักลวงโลก’ เป็นละครวัยรุ่นไอดอลตามแบบฉบับอย่างแท้จริง นักแสดงนำสองสามคนเป็นศิลปินใหม่ในประเทศที่ถูกฝึกมาจากบริษัทบันเทิงของเกาหลีใต้ ผู้อำนวยการสร้างและฝ่ายผลิตล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิงจีน
ตอนนั้นละคร ‘คนรักลวงโลก’ ได้เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศ 1.85% ถือว่าเป็นละครที่ได้รับความนิยมแล้ว พระเอกและนางเอกมีชื่อเสียงเพียงข้ามคืน พอถูกซื้อเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้ก็ยิ่งสร้างกระแสมากขึ้น ได้รับฉายาว่าเป็นผลงานที่โต้กระแสเกาหลีใต้
ผู้อำนวยการสร้างในตอนนั้นมีความลำพองมาก ถึงขนาดส่งเสริมละครจีนและสร้างคำขวัญว่าโต้กลับกระแสญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ออกไป กระตุ้นให้เหล่าแฟนคลับกระตือรือร้น รอคอยการแสดงของละครไอดอลเรื่องนี้ในประเทศเกาหลีใต้
ผลสรุปคือ ละคร ‘คนรักลวงโลก’ ได้รับการตอบรับธรรมดาหลังจากออกอากาศในสถานีโทรทัศน์มูนหวา (MBC) ได้เรตติ้งไม่ถึงสองเปอร์เซ็นต์ ไม่ช้าก็ถูกย้ายไปออกอากาศนอกเหนือเวลายอดนิยมจนจบ ไม่มีกระแสใดๆ ขึ้นมาอีก
สถานีโทรทัศน์มูนหวาคือสถานีโทรทัศน์ใหญ่อันดับสองของประเทศเกาหลีใต้ มีมาตรฐานไม่เหมือนในประเทศจีน เรตติ้งน้อยกว่าสองเปอร์เซ็นต์ถือว่าแย่อย่างรุนแรง ไม่มีความจำเป็นต้องช่วยอย่างสิ้นเชิง ส่งเข้าเตาเผาเมรุโดยตรง
เมื่อข่าวถูกแพร่มายังประเทศจีน ผู้อำนวยการสร้างละคร ‘คนรักลวงโลก’ หยุดสร้างกระแสทันที พวกมือรับจ้างโพสต์เหล่านั้นก็หายเข้ากลีบเมฆ กลายเป็นเรื่องตลกของวงการ!
มีตัวอย่างจากละคร ‘คนรักลวงโลก’ แล้ว ดังนั้นละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถูกคนอื่นดูถูกจึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก
ในบล็อกล่างฉาว บัญชีวีไอพีที่ใช้ชื่อไอดีว่า ‘สำรวจบันเทิง’ ได้กล่าวคำเยาะเย้ยเสียดสีในบล็อกว่า “เดี๋ยวนี้ดาราศิลปินหยิ่งผยองลำพองมากจริงๆ เป็นนักร้องมาถ่ายละคร เพิ่งเข้าวงการมีผลงานเล็กๆ น้อยๆ ในประเทศจีนได้ไม่นานก็อยากมีชื่อเสียงที่ต่างประเทศเสียแล้ว จ้างหน้าม้าเป็นกอง คุยโม้เก่งจนดังทะลุฟ้า ผลสุดท้ายก็ถูกตบหน้าดังเปรี๊ยะๆๆทำไมต้องหาเรื่องใส่ตัว ถ่อมตัวหน่อยไม่ดีหรือไง”
‘สำรวจบันเทิง’ มีแฟนคลับในบล็อกมากกว่าสิบล้านคนขึ้นไป เขาวิจารณ์ข่าวซุบซิบในวงการบันเทิงและดาราดังโดยเฉพาะ ด้วยงานเขียนที่เฉียบคม ฉายาลิ้นอสรพิษ จึงมีผู้สนับสนุนมากมาย
ศิลปินดาราที่เคยถูกอสรพิษผู้นี้ต่อว่ามาก่อนมีไม่น้อย อีกทั้งการเลือกเป้าหมายของเขาก็มีความพิถีพิถันมาก ส่วนใหญ่คือใครดังก็ดับคนนั้น ไม่สนใจพวกที่หมดความนิยมหรือไร้ชื่อเสียง ปรับความคิดของตนให้เข้ากับจิตวิทยาของคนบางส่วน
และในบล็อกช่วงนี้ ศิลปินหนุ่มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือลู่เฉิน
ทว่าภาพลักษณ์ของลู่เฉินดีมาตลอด อยากจะใส่ความเขาเล็กๆ น้อยๆ จึงยากมาก ข่าวประกาศของสตูดิโอลู่เฉินครั้งนี้ จึงกลายเป็นเป้าของใครบางคน
ทัศนคติของ ‘สำรวจบันเทิง’ ได้รับการชื่นชมจากคนจำนวนไม่น้อย แต่ก็ถูกโต้กลับจากแฟนคลับของลู่เฉินเช่นกัน
“เปรี้ยวเข็ดฟันมากจริงๆ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถูกซื้อเข้าไปที่เกาหลีใต้ไม่ใช่เรื่องดีเหรอ ขี้อิจฉา!”
“ยังไม่ได้ออกอากาศเลย คุณก็รู้ว่าต้องเสียหน้าแล้วเหรอ ไม่ทราบว่าคุณเป็นหมอดูเหรอไง”
“พูดว่าลู่เฉินโอหังอวดดี คุณเป็นใคร!”
“เหอะๆ ลู่เฉินของฉันยังถ่อมตัวไม่พอเรอะ เรื่องดีทำไมจะพูดไม่ได้ เพราะว่ามีคนอิจฉาไง!”
“คุณเคยดู ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไหม ถ้ายังกรุณาหุบปาก!”
“แอนตี้แฟนไสหัวไป…”
ลู่เฉินเข้าวงการยังไม่ถึงครึ่งปี แต่ได้สร้างกลุ่มแฟนคลับตัวยงขึ้นมา โดยเฉพาะขุนศึกตระกูลลู่ที่เป็นแกนหลักของกลุ่มแฟนคลับ ถึงแม้หลี่มู่ไป๋ผู้ก่อตั้งจะอยู่ในสถานะปลดเกษียณแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอาศัยการสนับสนุนของทางการ มีความเป็นแบบแผนมากยิ่งขึ้น กำลังต่อสู้จึงเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แข็งแกร่งยิ่งกว่าในอดีต
หลังจาก ‘สำรวจบันเทิง’ โพสต์ข้อความออกไปได้ไม่นาน ช่องแสดงความคิดเห็นของเขาก็ระเบิด
แต่เจ้าของบล็อกที่ใช้บัญชีวีไอพีอย่างเขา ไม่เคยกลัวการทะเลาะอยู่แล้ว เขารีบตอบพวกแฟนคลับของลู่เฉินอย่างสุภาพ “หลู่ซวิ่นเคยกล่าวว่า การด่าว่าและข่มขู่ไม่ใช่การต่อสู้ ผมรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งกับนิสัยแฟนคลับของลู่เฉิน ขอให้คุณลู่เฉินดูแลแฟนคลับของตัวเองให้ดีหน่อยนะครับ”
ขณะเดียวกันเขาก็ @ลู่เฉินFMX ตั้งท่าพร้อมต่อสู้
ในบล็อกมีปลาและมังกรอยู่ด้วยกันมีคนอยู่ทุกประเภท นิสัยแฟนคลับของลู่เฉินไม่ได้แย่ แต่ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการด่ากันอย่างรุนแรงในช่องแสดงความคิดเห็น และหนึ่งในนั้นก็ยังมีคนที่มีเจตนาร้ายต้องการกระพือข่าวให้เรื่องใหญ่โตลุกลามออกไป
‘สำรวจบันเทิง’ จงใจแท็กลู่เฉินในช่องแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ามีเจตนาอย่างอื่น!
ผู้คนที่สนับสนุนเขาอาศัยจังหวะนี้เข้ามาต่อสู้ เริ่มการต่อสู้ที่ดุเดือดกับแฟนคลับของลู่เฉินที่อยู่ในบล็อก
ดังนั้นสงครามที่เกิดขึ้นในบล็อกล่างฉาว จึงขยายมาโดนตัวของลู่เฉินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลู่เฉินไม่ชอบโต้เถียงและทะเลาะกับคนอื่นในบล็อกอยู่แล้ว บล็อกส่วนตัวของเขาส่วนใหญ่จะเป็นลู่ซีที่คอยจัดการ การโพสต์บล็อกโดยทั่วไปจะไม่เกี่ยวข้องกับการทะเลาะหรือความถูกผิดของคนในวงการ
ในฐานะศิลปินที่เป็นที่รู้จัก การต่อสู้กับคนบนอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ชนะแต่ก็น่าอาย ไม่คุ้มค่าเลยด้วยซ้ำ
แต่ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับแฟนคลับของเขา หนำซ้ำอีกฝ่ายก็มีเจตนาร้ายอย่างเห็นได้ชัด บวกกับทิศทางลมที่ผิดปกติลู่เฉินรู้สึกว่าตัวเองจำเป็นต้องออกมาพูดแล้ว ไม่อย่างนั้นแฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วนจะผิดหวัง
ทุกคนต่างสนับสนุนให้กำลังใจเขา หากเขาไม่พูดเลยสักนิด แบบนั้นไม่ถูกคนอื่นขำเหรอ
แน่นอนว่าลู่เฉินไม่ตกหลุมพรางของ ‘สำรวจบันเทิง’ เขาไม่สนใจหมอนั่นเลย แต่โพสต์ข้อความใหม่ให้กับแฟนคลับทุกคน
ในโพสต์นี้มีหัวข้อว่า ‘ซาบซึ้งใจตลอดมา ขอบคุณพวกคุณ!’ ลู่เฉินเขียนว่า “ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เซ็นสัญญากับตัวแทนของเอสพีจีสำเร็จ ผมขอเป็นตัวแทนของตัวเองและสตูดิโอลู่เฉิน ขอบคุณแฟนๆ และเพื่อนๆ ทุกคนที่สนับสนุนผม พวกคุณเป็นคนที่น่ารักที่สุด เป็นมิตรที่สุดในโลกใบนี้ หากไม่มีความรักที่แน่นแฟ้นของพวกคุณ ผมคงไม่สำเร็จเหมือนทุกวันนี้ครับ!”
“เพื่อเป็นการตอบแทนคำขอบคุณของผม ผมขอประกาศการตัดสินใจที่สำคัญมากไว้ ณ ตรงนี้ ขอเพียงละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้งเฉลี่ยจากการออกอากาศในประเทศเกาหลีใต้ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ ผมจะเลือกแฟนคลับหนึ่งพันคนออกมาจากทีมสนับสนุนนี้ มอบแพ็กเกจท่องเที่ยวเกาหลีใต้สุดสนุกสามวันสองคืนให้กับแฟนๆ แต่ละคน โดยคำนวณจากเรตติ้งเฉลี่ยตามความเป็นจริงที่เกินสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ก็คือหนึ่งพันหนึ่งร้อยคน ประมาณนี้โดยไม่มีจำนวนจำกัด!”
“จะต้องมีคนพูดว่า สิบเปอร์เซ็นต์สูงขนาดนั้น คุณลู่เฉินพูดลอยๆ มาทั้งหมด เป็นจริงไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“แต่ผมมั่นใจว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นละครโทรทัศน์ที่โดดเด่นเรื่องหนึ่ง มันประสบความสำเร็จในประเทศมาแล้ว เช่นนั้นก็ต้องประสบความสำเร็จในประเทศเกาหลีใต้เช่นกัน ต่ำกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ไม่อยู่ในขอบเขตการพิจารณาเลยด้วยซ้ำ พวกคุณติดตามดูกันนะครับ!”
เมื่อข้อความนี้โพสต์ออกไป พลันเกิดความฮือฮาขนาดใหญ่ต่อพวกแฟนคลับและคนในวงการเป็นอย่างมาก!
สิบเปอร์เซ็นต์สำหรับสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลในเกาหลีใต้ละครที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยระดับนี้ถือว่าไม่สูง อยู่แค่ระดับกลางถึงล่างเท่านั้น ละครฮิตทั่วไปของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลรายใหญ่ทั้งสามอยู่ระหว่างยี่สิบถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ และสิ่งที่เรียกว่าละครแห่งชาติซึ่งได้เรตติ้งมากกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปก็มีให้เห็นจนชินตา
แต่สำหรับละครต่างประเทศและยังเป็นละครจีนที่ถูกซื้อเข้าไป สิบเปอร์เซ็นต์ถือว่าเป็นเป้าหมายที่สูงมาก
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นละครแนวความรักของคนเมืองนะ!
โพสต์นี้ของลู่เฉินเหมือนเป็นการบีบตัวเองให้จนมุม ถ้าหากเรตติ้งของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ การประกาศของเขาก็จะกลายเป็นเรื่องตลก หน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ!
ขณะที่แฟนคลับทั้งหลายกำลังตกใจ ก็รู้สึกเลือดร้อนเดือดพล่านไปกับความทะเยอทะยานของลู่เฉินด้วย
และยังมีการจับฉลากที่ทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นคึกคักอีก!
ประเทศเกาหลีใต้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตสำหรับการท่องเที่ยวขาออกของประเทศเสมอมา ราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวสุดสนุกสามวันสองคืนอยู่ที่ห้าพันหยวนโดยประมาณ ถึงแม้จะเป็นกรุ๊ปทัวร์จำนวนมากอย่างน้อยก็มีราคาสามพันห้าร้อยหยวนขึ้นไป
ยึดตามการตัดสินใจของลู่เฉิน ถ้าหากเรตติ้งเฉลี่ยของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาจะต้องหยิบเงินสามถึงสี่ล้านออกมามอบให้แฟนคลับ ถือเป็นเงินก้อนโตอย่างแน่นอน
จะมีศิลปินดาราคนไหนที่ปฏิบัติต่อแฟนคลับดีขนาดนี้
“ลู่เฉินของฉันจงเจริญ!”
“เป้าหมาย 10% โอวเยห์!”
“ฮ่าๆ รอคอยมากๆ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ รีบออนแอร์ที่เกาหลีเร็วๆ!”
“โอ๊ยๆๆ ฉันอยากไปเกาหลีจริงๆ!”
“ถึงแม้ฉันจะไปเกาหลีสองครั้งแล้ว แต่ก็อยากได้รางวัลเหมือนกัน ต่อให้ไปอีกสิบรอบฉันก็ยินดี!”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น พี่ลู่เฉิน พวกเราจะสนับสนุนพี่ตลอดไปค่ะ!”
“สนับสนุนตลอดไปอีกหนึ่ง!”
“สนับสนุน…”
คราวนี้ไม่มีใครสนใจบัญชีวีไอพีที่ชื่อ ‘สำรวจบันเทิง’ อีก พวกแฟนคลับต่างแสดงความคิดเห็นในบล็อกของลู่เฉินกันโครมๆ ให้การสนับสนุนและสนใจการจับรางวัลต่างๆ
สิ่งที่น่าสนุกคือ ทีมสนับสนุนบล็อกล่างฉาวของลู่เฉิน…จำนวนแฟนคลับกลุ่มขุนศึกตระกูลลู่เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งล้านภายในระยะเวลาสั้นๆ สองสามชั่วโมง
จากเหตุการณ์นี้ ลู่เฉินไม่เพียงแต่ทำลายการยั่วยุด้วยเจตนาร้ายของ ‘สำรวจบันเทิง’ ได้อย่างง่ายดาย แต่ยังรวบรวมจิตใจของแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี เพิ่มความจงรักภักดีของแฟนคลับให้สูงขึ้น และยังทำให้ตัวเองกลายเป็นประเด็นฮอตในบล็อกอีกครั้ง
เป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่ดีเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าหากพูดว่าลู่เฉินคือนักแสดงนำฝ่ายดีละก็ คราวนี้ ‘สำรวจบันเทิง’ ก็คือตัวประกอบฝ่ายร้าย เขาน่าจะโกรธเดือดดาลมากๆ ในตอนนี้ ไม่ช้าจึงพูดในบล็อกว่า “ถ้าหาก ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้งในเกาหลีใต้ทะลุสิบเปอร์เซ็นต์ ผมก็จะไปวิ่งแก้ผ้าบนถนน!”
เห็นได้ชัดว่า ‘สำรวจบันเทิง’ ยังอยากสร้างกระแสต่อ เสียดายที่ตอนนี้ชาวเน็ตแต่ละคนมีความรู้กว้างขวาง ทุกคนเห็นการพูดโม้รูปแบบต่างๆ จนชินแล้ว มีหรือจะสนใจว่าเขาจะวิ่งแก้ผ้าหรือไม่
ดังนั้นนอกจากแฟนคลับจำนวนน้อยที่ไปโพสต์คำเสียดสีสองสามประโยค ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเขาแล้ว
แต่เรื่องสนุกยังมีตามมาอีก ตอนเย็นวันเดียวกัน เฉินเฟยเอ๋อร์โพสต์ข้อความในบล็อกล่างฉาวของตัวเอง ถ้าหาก ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้งเฉลี่ยที่เกาหลีใต้ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ เธอก็จะออกเงิน เปลี่ยนแพ็กเกจท่องเที่ยวเกาหลีใต้สุดสนุกสามวันสองคืนที่ลู่เฉินรับปากแฟนคลับ ยกระดับเป็นแพ็กเกจเที่ยวคู่สวีทหวานสามวันสองคืน!
แพ็กเกจท่องเที่ยวที่เป็นการเที่ยวคนเดียว ราคากรุ๊ปทัวร์อย่างน้อยสามพันห้าร้อยหยวน แต่หากเป็นการเที่ยวแบบคู่อย่างน้อยก็ต้องจ่ายห้าพันหยวนขึ้นไป
ถึงแม้ราคาเพิ่มขึ้นไม่ถึงหนึ่งเท่า แต่ความหมายก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แน่นอนว่าเงื่อนไขคือ ลู่เฉินจะต้องนำแฟนคลับของเธอเข้าไปอยู่ในกลุ่มจับฉลากด้วย
การเข้าร่วมของเฉินเฟยเอ๋อร์ ผลักดันบรรยากาศของสงครามในบล็อกให้ยิ่งสูงขึ้น ลู่เฉินกับแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์เหมือนกับฉลองเทศกาลก็ไม่ปาน ทั้งในบล็อก หน้าเว็บ และฟอรัมมีการพูดคุยและเฝ้ารอกันอย่างคึกคักและกระตือรือร้น
บรรยากาศแบบนี้ ทำให้ความนิยมของกลุ่ม ‘สำรวจบันเทิง’ ถูกบดขยี้จนละเอียด
พวกเขาจึงได้แต่รอคอยไปพร้อมกับพวกแฟนคลับของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์
รอคอยการแสดงผลงานละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในประเทศเกาหลีใต้
…………………………………………………………………………