ตอนที่ 331 ที่เกาหลีใต้
“เฟยของฉันจงเจริญ!”
“นี่คือโชว์ความรักกันเห็นๆ แต่ฉันก็ชอบนะ!”
“ใช่แล้ว ฉันรู้อยู่แล้วหลังจากประกาศว่าคบกันก็อยากโชว์ความรักแบบนี้แหละ วันทรมานคนโสดมาแล้ว”
“ฉันกำลังคิดจริงจังมาก ถ้าหากฉันได้รางวัลเที่ยวแบบคู่รัก แต่ฉันไม่มีแฟนจะทำยังไง”
“ไม่มีแฟน ก็ไปหาเพื่อนเกย์สิ!”
“เฟยของฉันใจป๋ามาก เฉินของคุณก็ไม่เลว พวกเราแฟนคลับโชคดีจริงๆ!”
“ทุกคนรีบไปที่บัญชีทางการของเอสพีจี ให้พวกเขารีบออกอากาศ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เร็วๆ หน่อย!”
“สนับสนุนเฉินของฉัน สนับสนุนเฟยของฉัน…”
หลังจากลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์คบกันอย่างเปิดเผยแล้ว พวกแฟนคลับจึงเปลี่ยนคำเรียกขานของทั้งสองคน
แฟนคลับของลู่เฉินชอบเรียกเขาว่า ‘เฉินของฉัน’ เรียกเฉินเฟยเอ๋อร์ว่า ‘เฟยของคุณ’ ตรงกันข้ามกับแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เรียกว่า ‘เฟยของฉัน’ ‘เฉินของคุณ’ จากนั้นแฟนคลับที่เป็นแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายก็เรียกว่า ‘เฉินของฉัน’ ‘เฟยของฉัน’ ไปโดยปริยาย
ตอนนี้จำนวนแฟนคลับที่อยู่ด้วยกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเห็นทั้งสองคนอวดความรักก็ยิ่งรู้สึกเจ็บแสบเกินบรรยาย
โดยเฉพาะการโชว์ความรักครั้งนี้ต่างก็ตั้งตัวแทบไม่ทัน ขณะที่ทุกคนกำลังซาบซึ้งอยู่นั้น ก็ทยอยเข้าไปที่บัญชีทางการของเอสพีจี ขอให้เอสพีจีรีบนำละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไปออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์ในเกาหลีใต้ให้เร็วที่สุด
เนื่องจากจำนวนที่จำกัด ถ้าหากละครโทรทัศน์ของประเทศจีนอยากจะออกอากาศในประเทศเกาหลีใต้ ก็ต้องผ่านตัวแทนบริษัทบันเทิงอย่างเอสพีจีก่อน เพราะคนหลังมีการร่วมงานกันระยะยาวกับสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลรายใหญ่ทั้งสามแห่งของประเทศเกาหลีใต้
เอสพีจีจ่ายเงินหนึ่งพันล้านวอนซื้อละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถึงแม้มีเจตนาที่อยากจะอาศัยสตูดิโอลู่เฉินเพื่อเจาะตลาดในประเทศจีนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยินดีที่จะถอนต้นทุนคืนเช่นกัน
บวกกับการเรียกร้องที่แข็งแกร่งของแฟนคลับลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ ทางเอสพีจีจึงรีบติดต่อสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของประเทศเกาหลีใต้อย่างรวดเร็วที่สุด ช่วงชิงเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อออกอากาศกับหนึ่งในสามสถานีโทรทัศน์ใหญ่
เพื่อย่นระเวลาให้สั้นลง เอสพีจีจึงใช้วิธีที่ผิดแปลกไปจากเดิมสำหรับละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ นั่นก็คือไม่ใส่เสียงพากษ์ใหม่ แต่เพิ่มซับไตเติลสองภาษาเข้าไปในภาพต้นฉบับ ประหยัดต้นทุนและรับประกันอรรถรสเดิมของผลงาน
แน่นอนว่าการทำแบบนี้ อาจจะทำให้คนดูในประเทศเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ปรับตัวไม่ค่อยได้ แต่การกำหนดที่ตั้งของเอสพีจีนั้นชัดเจนมาก กลุ่มเป้าหมายของการซื้อละครเรื่องนี้คือพวกเด็กวัยรุ่น พวกเขาสามารถยอมรับละครต่างประเทศแบบคำบรรยายสองภาษาได้สูงมาก
ดังนั้นวันที่สามหลังการเซ็นสัญญาตัวแทน ละครภาพคมชัดของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้ถูกส่งผ่านทางอากาศไปยังสำนักงานใหญ่เอสพีจี ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตคังนัมในกรุงโซลเรียบร้อยแล้ว ด้านหนึ่งเพื่อใส่ซับไตเติลใหม่ อีกด้านหนึ่งคือติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ใหญ่ทั้งสามแห่ง
ถึงแม้เอสพีจีจะจริงจังและละเอียดถี่ถ้วนต่องานละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ มากก็ตาม แต่ในสายตาของพวกเขา ถ้าอยากจะให้ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เรตติ้งสิบเปอร์เซ็นต์ที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น เป็นความคิดที่เพ้อฝันไปหน่อย
ละครไอดอลแนวความรักในเมืองใหญ่ของประเทศจีนได้รับอิทธิพลอย่างมากจากประเทศเกาหลีใต้ การสร้างละครแนวคล้ายกันเพื่อโต้กระแสกลับไปที่เกาหลีใต้จึงล้มเหลวกันเสียส่วนใหญ่ ต่อให้ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะดังมากในประเทศจีน ก็ไม่มีอิทธิพลอะไรต่อผู้ชมโทรทัศน์ในประเทศเกาหลีใต้
นอกจากนี้ผู้ชมโทรทัศน์ของประเทศเกาหลีใต้ก็สนับสนุนละครเกาหลีใต้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะสามารถออกอากาศในช่วงเวลายอดนิยมได้ก็ตาม แต่ภายใต้การแข่งขันกับละครเกาหลีใต้เรื่องอื่นๆ สามารถได้เรตติ้งห้าเปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว
ตลาดละครโทรทัศน์ของประเทศเกาหลีใต้ ก็เหมือนกับคนที่มีนิสัยดื้อรั้น ใช่ว่าจะขยับได้ง่าย
…
กรุงโซลในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิยังหนาวมาก แต่ย่านการค้าอย่างเมียงดง ชินซาดง ห้างลอตเต้สโตรส์ เป็นต้น กลับมีสาวๆ เดินไปเดินมาขวักไขว่ พวกเธอเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิอย่างอดใจไม่ไหว เพิ่มสีสันสดใสมากมายนับไม่ถ้วนให้กับเมืองใหญ่ในเอเชียตะวันออกแห่งนี้
ณ ย่านอัพกูจอง เขตคังนัม ซ่งเจียอี๋เดินออกมาจากประตูใหญ่ของสำนักงานใหญ่เอสพีจี เธอไม่ได้เดินเล่นเพลิดเพลินอยู่รอบๆ ย่านการค้าที่หรูหราแห่งนี้ มองข้ามร้านค้าที่เปิดแสงไฟสว่างเรืองรองแถวนั้นอย่างสิ้นเชิง รีบเดินฉับๆ เลี้ยวเข้าไปที่หอพักที่อยู่ไม่ไกลจากเอสพีจี
พอถึงห้องพัก เพื่อนร่วมห้องยังไม่กลับมา ซ่งเจียอี๋หยิบถ้วยบะหมี่ออกมาจากในตู้ แล้วต้มน้ำต้มบะหมี่
ขณะที่รอให้บะหมี่สุก เธอนั่งอยู่ริมเตียง ใช้แรงนวดน่องเล็กๆ ของตัวเอง ผ่อนคลายความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่เกิดจากการฝึกซ้อมมาทั้งวัน
ซ่งเจียอี๋มาที่ประเทศเกาหลีใต้เกือบจะสองปีแล้ว
ในฐานะศิลปินสัญชาติจีนที่เซ็นสัญญากับเอสพีจี เธอมีความโชคดีอย่างไม่ต้องสงสัย ได้มาฝึกหัดอย่างเข้มงวดที่สำนักงานใหญ่เอสพีจีในฐานะเด็กฝึกหัด ได้รับการฝึกหัดและอบรมทุกด้าน
แต่การฝึกหัดที่น่าเบื่อและยากเย็นแสนเข็ญที่ยาวนานถึงสองปี ก็ขัดเกลาความตื่นเต้นและแรงกระตุ้นในตอนแรกของซ่งเจียอี๋ไปหมดแล้ว เหลือเพียงความเพียรพยายามและความอดทน กับความเลือนรางของเส้นทางในอนาคตที่ไม่อาจหยั่งรู้
หลังจากเธอมาถึงประเทศเกาหลีใต้แล้วถึงรู้ว่า เด็กฝึกหัดที่อยู่ในสังกัดของเอสพีจีมีเยอะมาก คนที่มีคุณสมบัติและเงื่อนไขดีกว่าเธอมีเยอะถมไป ถึงแม้โอกาสเดบิวต์จะไม่ง่าย และการแข่งขันภายในดุเดือดมากก็ตาม
ในฐานะเด็กฝึกหัดที่ยังไม่ได้เดบิวต์ ซ่งเจียอี๋แทบจะไม่มีรายได้ใดๆ ทั้งสิ้น ในกรุงโซลที่ค่าครองชีพสูง เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อาศัยเพียงจิตใจที่ไม่ยอมแพ้กัดฟันสู้ต่อไป
บะหมี่สุกแล้ว ถึงแม้จะเกลียดรสชาตินี้มานานแล้ว แต่เธอก็ยังฝืนตัวเองให้กินต่อจนเสร็จ
“เจียอี๋!”
เพิ่งจะทิ้งถ้วยบะหมี่เปล่า ซ่งเจียอี๋กำลังจะนอนพักผ่อนเสียหน่อย เพื่อนร่วมห้องสองสามคนก็ผลักประตูเข้ามา
ภายในห้องที่ไม่ใหญ่มากนี้มีเด็กฝึกหัดพักอยู่สี่คน สาวผมสั้นที่ทักทายซ่งเจียอี๋มีชื่อว่าหยางเยี่ยนนี ซึ่งมาจากประเทศจีนเหมือนกัน มาช้ากว่าเธอสองเดือน และยังไม่ได้เดบิวต์เช่นกัน
อยู่ต่างบ้านต่างเมืองเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงดีมาก ให้กำลังใจซึ่งกันและกันเสมอ
ซ่งเจียอี๋พลิกตัวมา แล้วถามว่า “พวกเธอไปไหนมาเหรอ”
หยางเยี่ยนนียิ้มแล้วเอ่ยว่า “พวกเราไปเดินชอปปิงที่ลอตเต้มา!”
ซ่งเจียอี๋สังเกตเห็นถุงชอปปิงที่ถืออยู่ในมือของเพื่อนร่วมห้องชาวเกาหลีใต้อีกสองคน
ฐานะทางบ้านของหยางเยี่ยนนีดีกว่าซ่งเจียอี๋ไม่น้อย กล้าจ่ายเงินชอปปิงเป็นปกติ
หยางเยี่ยนนีวางถุงชอปปิงลง แล้วยื่นมือไปดึงซ่งเจียอี๋ให้ลุกขึ้น “ปะ พวกเราไปดูโทรทัศน์กัน!”
ซ่งเจียอี๋ส่ายหน้า “ไม่ไปหรอก”
การบริหารจัดการของเอสพีจีเข้มงวดมาก ถ้าอยากจะดูโทรทัศน์หรือเล่นอินเทอร์เน็ต จำเป็นต้องไปที่ห้องมัลติมีเดียกับห้องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ชั้นสองของหอพัก ภายในห้องพักไม่มีสายอินเทอร์เน็ตและสายโทรทัศน์ แน่นอนว่าไม่มีโทรทัศน์เช่นกัน
หยางเยี่ยนนีพูดตาโต “เธอไม่รู้เหรอ ละครดังในจีนเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะออกอากาศที่เคจีเอสคืนนี้ นี่คือเรื่องที่ถูกซื้อเข้ามาโดยตัวแทนเอสพีจีของพวกเรานะ!”
รักนี้ชั่วนิรันดร์?
ซ่งเจียอี๋ตกตะลึง เธอก็เคยได้ยินชื่อละครเรื่องนี้ และยังรู้ว่าเอสพีจีเป็นตัวแทนนำเข้ามาในประเทศเกาหลีใต้
แต่คิดไม่ถึงว่าจะออกอากาศเร็วขนาดนี้!
ซ่งเจียอี๋พลันรู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นละครโทรทัศน์ที่มาจากประเทศจีน ถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อการเรียน แต่ก็ต้องไปให้กำลังใจเสียหน่อยใช่ไหมล่ะ
“ออกอากาศกี่โมง”
หยางเยี่ยนนีมองนาฬิกา “ยังเหลืออีกครึ่งชั่วโมง!”
เธอหันหน้าไปถามเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนเป็นภาษาจีน “เหม่ยเจิน ฮุ่ยอิง พวกเธอจะไปดูด้วยกันไหม”
เพื่อนร่วมห้องชาวเกาหลีสองคนพอจะเข้าใจภาษาจีนนิดหน่อย จึงรู้ว่าหยางเยี่ยนนีและซ่งเจียอี๋พูดอะไรกัน พวกเธอสบตากันแล้วส่ายหัวดิ๊กๆ
ละครจีน มีอะไรน่าดู
…………………………………………………………………………
