ตอนที่ 340 อัลบั้มใหม่ออกวางตลาด
วันที่ 16 เมษายน อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์เริ่มระดมทุนออนไลน์ และจัดจำหน่ายบนเฟยซวิ่นมิวสิคในเย็นวันเดียวกัน
อัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ชุดนี้เป็นผลงานการเปลี่ยนแนวของเฉินเฟยเอ๋อร์ เธอเลื่อนเวลามาครึ่งปีเต็ม เป็นชนวนให้เกิดความสนใจในวงกว้างทั้งในและนอกวงการมานานแล้ว บวกกับการทำการตลาดโปรโมตก่อนหน้านั้น พอออกวางตลาดปุ๊บก็โดดเด่นมาแรงเลยทีเดียว!
เฟยซวิ่นมิวสิคจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง จนถึงสามทุ่มครึ่ง ยอดขายทะลุหนึ่งแสนชุดไปแล้ว
สั่นสะเทือนวงการ!
วงการเพลงป็อปและนักร้องเพลงป็อปในปัจจุบันนี้ ผ่านยุคที่อาศัยการขายอัลบั้มเพื่อเลี้ยงครอบครัวมานานแล้วปาฏิหาริย์ที่อัลบั้มหนึ่งสามารถขายได้หลักล้านจนถึงหลายร้อยล้านถูกเก็บไว้ในความทรงจำเท่านั้น
การพัฒนาอย่างยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมบันเทิง และการละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ ทำให้พวกนักร้องไม่อยากอาศัยยอดขายอัลบั้มอีกต่อไป การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของธุรกิจและโฆษณาคือเส้นทางหาเงินที่ง่ายกว่า
ดังนั้นตอนนี้ถึงแม้จะเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักก็ตาม ก็จะออกจำหน่ายอัลบั้มดิจิทัลออนไลน์กับอัลบั้มซีดีที่จับต้องได้พร้อมกัน หากทำยอดขายรวมกันได้สองสามแสนก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว ดังนั้นความสำเร็จอย่างการได้รางวัล ‘แพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์’ จึงควรค่าแก่การเลี้ยงฉลอง
สมัยนี้การออกจำหน่ายอัลบั้มออนไลน์เป็นเรื่องธรรมดามาก โดยทั่วไปยอดขายสามวันแรกหรือก็คือเจ็ดสิบสองชั่วโมงมักจะเป็นหนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของยอดขายรวมทั้งหมด โดยเฉพาะยอดขายของวันแรกจะสำคัญมากเป็นพิเศษ
รูปแบบการคำนวณยอดขายอัลบั้มที่ได้รับความนิยมในวงการมาโดยตลอด เป็นการคำนวณยอดขายรวมโดยประมาณการจากยอดขายในวันแรก
แต่รูปแบบเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสมกับยอดขายในสองชั่วโมง
สองชั่วโมงขายได้หนึ่งแสนชุด นี่มันบ้าไปแล้ว!
ควรทราบว่าสำหรับนักร้องส่วนใหญ่ ยอดขายออนไลน์ภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมงทะลุหนึ่งแสนชุด รวมกับยอดขายอัลบั้มจริงที่จับต้องได้ และการสะสมเวลาที่มากพอ ความสำเร็จที่จะคว้ารางวัล ‘แพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์’ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย
นี่คือผลงานที่พวกเขาและพวกเธอปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง
เฉินเฟยเอ๋อร์ทะลุทะลวงได้ในเวลาสองชั่วโมง ดังนั้นรางวัล ‘แพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์’ จึงไม่มีปัญหา ยอดขายห้าล้านของรางวัล ‘อิมพีเรียลคราวน์ดิสก์อวอร์ดส์’ นั้นไม่กล้าคิด แต่ยอดขายหนึ่งล้านของรางวัล ‘ไดมอนด์ดิสก์อวอร์ดส์’สามารถรอคอยได้เลย
รางวัล ‘ไดมอนด์ดิสก์อวอร์ดส์’ ของวงการเพลงป็อปในประเทศจีนเคยปรากฏขึ้นมาตอนไหน หลายคนลืมไปหมดแล้ว
ถ้าหากพูดถึงอัลบั้มที่ขายที่ดีที่สุดของปีที่แล้ว อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ของลู่เฉินเป็นหนึ่งในนั้น อัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ของวงเอ็มเอสเอ็นก็ใช่เหมือนกัน โดยเฉพาะสิบเพลงจากอัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ได้ติดชาร์ตเพลงฮิตทั้งหมด
แต่เมื่อเทียบกับ ‘บุปผานารี’ ที่เพิ่งเปิดตัว สองอัลบั้มของดาวดวงใหม่ล้วนถูกบดบังราศีทันที!
ราชินีก็คือราชินี ต่อให้เป็นผลงานที่เปลี่ยนแนว อาศัยการรอคอยที่สะสมมาในช่วงแรก พร้อมกับความนิยมที่ร้อนแรงจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และพื้นฐานอันลึกล้ำมั่นคงของตัวเอง พอเฉินเฟยเอ๋อร์ออกมาก็บดขยี้อัลบั้มของคนอื่นที่ออกมาในช่วงเดียวกันทั้งหมด ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้
ถ้าหากนำนักร้องที่จำหน่ายอัลบั้มในเฟยซวิ่นมิวสิค อี้หว่างมิวสิค และป็อปเรดิโอในช่วงนี้มานั่งประชุมร่วมกัน เช่นนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์ก็คงยืนขึ้นอย่างหยิ่งผยองและเอ่ยว่า…
ทุกคนที่อยู่ในนี้ล้วนเป็นขยะ!
ตอนที่สตูดิโอเฉินเฟยเอ๋อร์และบัญชีทางการของกลุ่มแฟนคลับนำข้อมูลการขายในสองชั่วโมงนี้มาประกาศบนบล็อกนั้น ได้เกิดความฮือฮาครั้งใหญ่ของคนทั้งในและนอกวงการอีกครั้ง
แน่นอนว่าพวกแฟนคลับล้วนยินดีปรีดา แสดงความยินดีกับไอดอลที่สร้างปาฏิหาริย์การขาย และอวยพรล่วงหน้าขอให้การเปลี่ยนแนวประสบความสำเร็จ พวกเพื่อนสนิทในวงการของเฉินเฟยเอ๋อร์ต่างก็ ‘ส่งข้อความมาแสดงความยินดี’ แม้แต่บัญชีวีไอพีน้อยใหญ่นอกวงการก็มาแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
ทว่าในวงการกลับเงียบกริบ สื่อและบุคคลในวงการเพลงป็อปจำนวนไม่น้อย ล้วนตกอยู่ในความเงียบงัน
พวกเขากำลังศึกษาและวิเคราะห์อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์
บทเพลงสิบเพลงในอัลบั้มใหม่ชุดนี้ มีสองสามเพลงที่ถูกปล่อยออกมาก่อนล่วงหน้า อย่างเช่นเพลง ‘ดวงตาของคุณ’ ที่พวกแฟนคลับต่างคุ้นหูกันดี เพลงนี้เป็นผลงานเพลงคู่ชายหญิงเพียงหนึ่งเดียวในอัลบั้ม ด้วยความดังของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จึงเริ่มเป็นที่นิยมในต่างประเทศแล้ว
และเมื่อไม่นานมานี้เฉินเฟยเอ๋อร์ก็ร้องและเล่นเพลง ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ ด้วยตัวเองในการถ่ายทอดสดผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ถึงแม้จะเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นมากะทันหัน แต่ก็ดังในโลกออนไลน์เช่นกัน ไม่รู้ว่าในบล็อกถูกคนแชร์ไปกี่ครั้งแล้ว
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมตอัลบั้ม ซึ่งสามารถสังเกตเห็นสไตล์และลักษณะเด่นของอัลบั้มได้จากจุดนี้
อาศัยอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ชุดนี้ เป็นการยืนยันว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ได้เปลี่ยนแนวจากเพลงหวานเป็นเพลงรักแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ผลงานสองเพลงแรกที่ปล่อยออกมาคือเพลงรักร้อยเปอร์เซ็นต์
ลำพังแค่คุณภาพของสองเพลงนี้ ยอดขายอัลบั้มใหม่ก็ไม่มีทางต่ำแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสามารถของเฉินเฟยเอ๋อร์
ที่สำคัญที่สุดคือยังมีลู่เฉิน เขาไม่เพียงแต่ช่วยแต่งเพลงให้เฉินเฟยเอ๋อร์ครึ่งอัลบั้ม หนำซ้ำยังควบคุมการผลิตด้วยตัวเองอีกด้วย!
คนแข็งแกร่งสองคนร่วมมือกัน ถ้าหากอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ขายไม่ดีก็คงแปลก
ดังนั้นบุคคลในวงการได้คาดเดาไว้แล้วว่าอัลบั้มชุดนี้จะต้องดังมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะดังระเบิดถึงขั้นนี้ สองชั่วโมงขายได้หนึ่งแสนชุดเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ
ไม่ว่าจะมาจากความเป็นมืออาชีพ ความสงสัยใคร่รู้ล้วนๆ หรือมีเจตนาร้าย สิ่งแรกที่คนในวงการมากมายทำก็คือเริ่มวิเคราะห์อัลบั้ม ‘บุปผานารี’ อย่างละเอียด
ด้านหนึ่ง พวกเขาอยากยืนยันว่ายอดขายหนึ่งแสนในสองชั่วโมงนี้มีส่วนอื่นผสมด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามขอแค่มีคนยอมทุ่มเงิน อย่าว่าแต่หนึ่งแสนเลย ต่อให้เป็นยอดขายหนึ่งล้านก็ทำได้ ทว่าไม่มีใครโง่ถึงขั้นจ่ายเงินราคาสูงลิ่วเพื่อแลกกับการติดชาร์ต กุญแจสำคัญขึ้นอยู่กับคุณภาพของอัลบั้ม
การจ่ายเงินทำสถิติอยู่ได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น คุณภาพถึงจะเป็นพื้นฐานของการขายดีที่ยั่งยืน
อีกด้านหนึ่งคือ บริษัทบันเทิงเหล่านั้นวิเคราะห์การขายดีของอัลบั้ม เพื่อติดตามและลอกเลียนแบบในภายหลัง
ถ้าหากอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ขายจนสินค้าขาดตลาด เช่นนั้นการติดตามและลอกเลียนแบบก็ไม่เสียหาย ก็เหมือนกับการทะลุทะลวงเรตติ้งของ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนนี้มีบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์หลายแห่งกำลังทำละครประเภทที่คล้ายกัน
จนถึงสี่ทุ่มครึ่ง ยอดขาย ‘บุปผานารี’ ก็ทะลุถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นชุด แนวโน้มการเพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัวลง
นี่คือเหตุการณ์ที่ปกติมาก เพราะช่วงแรกคือการระเบิดซื้อจากแฟนคลับ เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไป ศักยภาพของการซื้อในตลาดก็ค่อยๆ ลดลง ดังนั้นถึงได้พูดว่ายอดขายสามวันแรกสำคัญที่สุด
ขณะเดียวกัน การวิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับอัลบั้มใหม่นี้ก็ทยอยออกมาทางอินเทอร์เน็ต
ในบล็อกล่างฉาวบล็อกเกอร์ชื่อดังและนักวิจารณ์เพลงที่เป็นที่รู้จักอย่าง ‘นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออก’ เขาได้เขียนโพสต์ยาวเอาไว้ว่า “เพิ่งฟัง ‘บุปผานารี’ อัลบั้มใหม่ของคุณเฉินเฟยเอ๋อร์จบ อดไม่ได้ที่จะพูดอะไรสักหน่อย เพราะถ้าไม่พูดออกมา เกรงว่าคืนนี้ผมคงนอนไม่หลับ
สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือ ความเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการเพลงป็อปในปีนี้ก็คืออัลบั้มใหม่ชุดนี้ของเฉินเฟยเอ๋อร์อย่างไม่ต้องสงสัย เธอเปลี่ยนแนวครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ฟังทั้งอัลบั้มตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีส่วนไหนที่ทำให้คนรู้สึกผิดหวังเลย รู้สึกเซอร์ไพรส์ถึงความเยี่ยมยอดไม่หยุด!
ในความทรงจำของใครหลายคน รวมทั้งตัวผมด้วย เฉินเฟยเอ๋อร์จะร้องแต่เพลงหวาน เธอมีเสียงที่เหมาะกับการร้องเพลงหวานมาตั้งแต่เกิด ผลงานของเธอเคยมอบความทรงจำที่สวยงามมากมายนับไม่ถ้วนให้กับพวกเรา
อัลบั้มชุดนี้ทำให้พวกเรามองเห็นเฉินเฟยเอ๋อร์อีกคนหนึ่ง เฉินเฟยเอ๋อร์ที่สวย เป็นผู้ใหญ่ มีอารมณ์รักที่หลากหลาย เธอมอบนิยามให้กับ ‘เพลงรัก’ ใหม่อีกครั้ง!
ในใจของผม ชอบเพลงหลัก ‘บุปผานารี’ มากที่สุด เฉินเฟยเอ๋อร์ร้องผลงานเพลงนี้ได้นุ่มนวลดุจสายน้ำทำให้คนต้องเคลิบเคลิ้มหลงใหล สไตล์หวนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ มีเสน่ห์เป็นพิเศษ…
ถ้าหากผมจะให้คะแนนอัลบั้มชุดนี้ละก็ ผมจะให้ 9.9 คะแนน คะแนนเต็มคือ 10 คะแนน!”
‘นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออก’ มีอาชีพหลักเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นแห่งหนึ่ง ควบคู่ไปกับการเป็นนักเขียน นักวิจารณ์ภาพยนตร์ และนักวิจารณ์เพลง เขามีความเป็นมืออาชีพสูง มีแฟนคลับติดตามบล็อกมากกว่าสองล้านคน และโพสต์ของเขามักได้รับการต้อนรับที่ดีจากเพื่อนๆ ชาวเน็ตในบล็อกมากมาย
บล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงคนนี้มีมุมมองความคิดเห็นต่อเพลงป็อปของจีนเป็นของตัวเอง นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการตัดสินรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ไม่ว่าจะเป็นบทวิจารณ์ภาพยนตร์หรือวิจารณ์เพลง มักจะจี้ถูกจุดสำคัญเสมอ
และสิ่งที่ผู้คนนับถือมากที่สุดคือ ‘นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออก’ ไม่ขายการประจบเอาใจและศีลธรรม เขาไม่ได้พูดเพราะรับเงินมา ดังนั้นบทวิจารณ์ของเขาจึงมีความน่าเชื่อถือมาก ได้รับความสนใจจากบุคคลในวงการเป็นอย่างสูง
ในโพสต์บล็อกนี้ ‘นักพเนจรแห่งทะเลสาบตะวันออก’ ได้เอ่ยชมอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่หยุดปาก เป็นเหตุให้ทุกคนเกิดความสงสัยในระดับความยับยั้งชั่งใจของเขา…คะแนนเต็ม 10 คะแนน ให้ 9.9 คะแนน!
หลายคนจึงอดถามไม่ได้ มันดีขนาดนั้นเชียวหรือ
เห็นได้ชัดว่าคำตอบนั้นแน่นอนมาก ในบล็อก ฟอรัม หรือเว็บเพจที่ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ดมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ดึงดูดความสนใจของผู้ที่รักเพลงป็อปมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายคนที่ไม่ใช่แฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์เลยด้วยซ้ำ เมื่อเห็นบทวิจารณ์เหล่านี้จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้นจึงซื้อและดาวน์โหลดเพลงในเฟยซวิ่นมิวสิค
อัลบั้มดิจิทัลคุณภาพสูงหนึ่งชุดมีราคาแค่สิบหยวนเท่านั้น ราคาสมาชิกลดให้อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครที่จะซื้อไม่ได้
นี่เป็นการเพิ่มยอดขายของ ‘บุปผานารี’ ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
หนึ่งทุ่มครึ่งของวันถัดไป ยอดขายยี่สิบสี่ชั่วโมงแรกทะลุสามแสน!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือสถิติใหม่ของการจำหน่ายอัลบั้มเพลงยอดฮิตทางอินเทอร์เน็ตของวงการเพลงป็อปในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นอกจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากดาราดังแล้ว คุณภาพของผลงานก็เป็นกุญแจที่สำคัญเช่นกัน
ในวงการได้เพิ่มการประมาณการยอดขายของอัลบั้มชุดนี้ให้สูงขึ้นเป็นหนึ่งล้านห้าแสนถึงสองล้านชุด!
ถ้าหากไม่เกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เฉินเฟยเอ๋อร์ได้จับจองรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีของวงการเพลงป็อปไปเรียบร้อยแล้ว เพราะผลลัพธ์เช่นนี้สามารถกวาดล้างคู่แข่งได้ทั้งหมด ทุกคนจึงพูดไม่ออก หากใครอยากจะใช้กฎในที่ลับเช่นนั้นก็ต้องเอาหน้าเหยียบดินให้มิดถึงจะได้
แต่สำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์แล้ว ต่อให้ยอดขายของอัลบั้มดิจิทัลดีแค่ไหน เงินที่ได้ก็เป็นจำนวนน้อยนิด
เพราะตัวสำคัญที่แท้จริงอยู่ในโครงการระดมทุนบนเว็บไซต์ระดมทุนต่างหาก
อัลบั้มตัวจริงที่จับต้องได้ของ ‘บุปผานารี’ ที่ขายในเว็บไซต์ระดมทุนมีให้เลือกทั้งหมดห้าแพ็กเกจ ต่ำสุดคือซีดีเวอร์ชันปกแข็ง ซึ่งตั้งราคาระดมทุนไว้ที่ยี่สิบแปดหยวน ขายได้ทั้งหมดเจ็ดหมื่นชุดเต็มๆ สูงสุดคือแบบพรีเมียมบ็อกเซ็ตซึ่งตั้งราคาระดมทุนไว้ที่ห้าร้อยแปดสิบแปดหยวน ก็มีคนสั่งจองไปแล้วมากกว่าสามพันชุด
นี่คือสิ่งที่ทำให้คนรู้สึกทึ่งในพลังการซื้ออันยิ่งใหญ่ของพวกแฟนคลับ
ยอดรวมของการระดมทุนออนไลน์ยี่สิบสี่ชั่วโมงสูงถึงสี่ล้านห้าแสนกว่าหยวน เกินหนึ่งร้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเป้าหมายในการระดมทุนแล้ว และโปรเจกต์ระดมทุนนี้ก็จะดำเนินต่อเนื่องทั้งหมดสิบวัน!
ยอดขายที่น่าสะดุดตาเหล่านี้ ไม่รู้ว่าทำให้บริษัทเพลงและบริษัทบันเทิงมากมายแค่ไหนรู้สึกอิจฉาตาร้อน
และบุคคลในวงการจำนวนไม่น้อย ไม่มีใครมองข้ามคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอัลบั้มชุดนี้ของเฉินเฟยเอ๋อร์
ลู่เฉิน!
…………………………………………………………………………