ตอนที่ 475 สนทนาสามบันเทิง
ฮ่องกงมีพื้นที่มากกว่าหนึ่งพันตารางกิโลเมตร ประชากรมีมากกว่าสิบล้านคน ความหนาแน่นของประชากรติดอันดับต้นๆ ของโลก
มหานครใหญ่ระดับสากลแห่งนี้เคยได้ฉายาว่าฮอลลีวูดตะวันออก อุตสาหกรรมบันเทิงพัฒนาเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเสื่อมถอยไปหลังจากที่เข้าสู่ศตวรรษใหม่ ทว่ายังคงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญของฮ่องกง
ในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดของสื่อบันเทิง สถานีโทรทัศน์ในฮ่องกงจึงมีมากมายนับไม่ถ้วน หลักๆ แล้วประกอบด้วยสถานีไร้สายสองสถานีใหญ่และสถานีเคเบิลขนาดกลางและขนาดเล็กอีกหลายสิบแห่ง หนึ่งในนั้นคือสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเซียงเจียง (สถานีโทรทัศน์เซียงเจียง) และสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย (เอทีวี) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรม ยึดครองส่วนแบ่งของตลาดมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
สถานีโทรทัศน์เคเบิลอย่างเช่น สถานีทีวีบีเพิร์ล เคเบิลทีวีฮ่องกง เกาลูนวิดีโอสเตชัน เป็นต้น ได้ส่วนแบ่งที่เหลืออีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงมีการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างกันและกัน สร้างความสำเร็จและมั่งคั่งให้กับสื่อโทรทัศน์ของฮ่องกง
และรายการที่ส่งคำเชิญมาที่ลู่เฉินสตูดิโอ ก็คือรายการของสถานีเอทีวี สถานีทีวีบีเพิร์ล และเกาลูนวิดีโอสเตชัน
ลู่เฉินรับคำเชิญเข้าร่วมรายการของสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย โดยไม่ต้องพิจารณาอะไรทั้งนั้น
สถานีโทรทัศน์แห่งเอเชียเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของฮ่องกง ขณะเดียวกันก็เป็นสถานีโทรทัศน์ภาคภาษาจีนแห่งแรกของโลกอีกด้วย มีประวัติและความเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ศักยภาพในปัจจุบันจะด้อยกว่าสถานีโทรทัศน์เซียงเจียงเล็กน้อย แต่เส้นสนกลในของสถานีเอทีวียังคงหนาแน่นเหมือนเดิม และยังมีอิทธิพลมากทั้งในฮ่องกงและในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถานีเอทีวีมีทั้งหมดสิบสองช่อง และที่เชิญลู่เฉินก็คือรายการ ‘สนทนาสามบันเทิง’ ของช่องรายการวาไรตี้
รายการนี้ออกอากาศมานานกว่าสิบปี ดำเนินรายการโดยเสิ่นซูหลิงพิธีกรชื่อดังของสถานีเอทีวี ทุกเทปจะเชิญคนดังในวงการบันเทิงหนึ่งคนและแขกรับเชิญพิเศษอีกหนึ่งคน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกระแสบันเทิงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เรตติ้งเฉลี่ยติดหนึ่งในสามอันดับของรายการประเภทเดียวกัน
‘สนทนาสามบันเทิง’ เชิญลู่เฉิน เป็นเพราะความขัดแย้งในโลกอินเทอร์เน็ตของฮ่องกงที่เขาเป็นเหตุ
เกี่ยวกับเพลงป็อปของฮ่องกง เกี่ยวกับภาพยนตร์ของฮ่องกง
สำหรับคำเชิญจากรายการของสถานีเอทีวี ลู่เฉินให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หลังจากได้สคริปต์รายการแล้วเขาแบ่งเวลาศึกษาเป็นอย่างดี และย้อนดูเทปที่ออกอากาศไปแล้วของรายการ ‘สนทนาสามบันเทิง’ อยู่ไม่น้อย
หลีเจินผู้ช่วยก็ช่วยวางแผนให้ลู่เฉินอย่างกระตือรือร้น กระทั่งช่วยแนะนำสไตล์ลิสชื่อดังคนหนึ่งให้กับเขา
ความตื่นเต้นของเธอใช่ว่าไม่มีเหตุผล ลู่เฉินมาฮ่องกงรวมๆ แล้วแค่สองสามวันเท่านั้น ชื่อของเขาก็ถูกแพร่กระจายไปทั่ววงการบันเทิงของฮ่องกง กระทั่งเกิดความฮือฮาอยู่ไม่น้อย
หนึ่งบทเพลงก็ทำให้สถานการณ์ในวงการบันเทิงปั่นป่วนวุ่นวาย ดึงดูดความสนใจของสถานีเอทีวี ในฐานะผู้ช่วยของลู่เฉิน หลีเจินรู้สึกเป็นเกียรติมาก
นี่คือสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชียที่มีชื่อเสียงโด่งดังเชียวนะ!
และหลีเจินก็เป็นแฟนคลับของพิธีกรเสิ่นซูหลิงของสถานีเอทีวีอีกด้วย แน่นอนว่าเธอหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของลู่เฉินในรายการ ‘สนทนาสามบันเทิง’
รายการ ‘สนทนาสามบันเทิง’ ต้องบันทึกเทปล่วงหน้า ดังนั้นเมื่อได้รับคำเชิญของรายการ และหลังจากที่สตูดิโอกับสถานีเอทีวีสื่อสารกันแล้ว จึงกำหนดวันบันทึกเทปอย่างเป็นทางการเป็นตอนบ่ายของวันที่ 21
เมื่อถึงวันนัด ลู่เฉินพาผู้ช่วยสองคนมาถึงสำนักงานใหญ่ของสถานีเอทีวีตรงตามเวลา
สำนักงานใหญ่ของสถานีเอทีวีอยู่ในซีอิ๋งผานซึ่งเป็นย่านธุรกิจท่าเรือตะวันตก ห่างจากสตูดิโอของลู่เฉินที่อยู่ในตึกจิ่นหรงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น แต่ฝ่ายแรกอยู่ในตึกอาคารที่มีประวัติยาวนานสามสิบปี
ตึกสีเทาอ่อนสูงสามสิบเก้าชั้นไม่เด่นสะดุดตาเหมือนตึกสูงระฟ้าสมัยใหม่ที่อยู่โดยรอบ กระทั่งโครงสร้างภายนอกก็ดูล้าหลังกว่า แต่กำแพงด้านนอกที่สลักฝังตัวหนังสือขนาดใหญ่ห้าคำว่า ‘สถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย’ กับโลโก้นั้นส่องสะท้อนแสงแวววับภายใต้แสงอาทิตย์ กำลังอวดความภาคภูมิใจของมันอย่างงามสง่า
เมื่อก่อน ศิลปินฮ่องกงมากมายนับไม่ถ้วนถือว่าเป็นเกียรติมากที่ได้เข้าออกตึกแห่งนี้!
หน้าประตูทางเข้าตึกของสถานีเอทีวี ลู่เฉินเห็นผู้ช่วยของเสิ่นซูหลิงมารอต้อนรับก่อน
หลังจากลงทะเบียนแล้ว ทุกคนจึงขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นยี่สิบเจ็ด ซึ่งเป็นห้องถ่ายทำรายการวาไรตี้ของสถานีเอทีวี
เสิ่นซูหลิงกับแขกรับเชิญอีกหนึ่งคนรออยู่ที่นั่นแล้ว
เสิ่นซูหลิงอายุสี่สิบกว่าปี แต่เธอดูแลตัวเองดีมาก ดังนั้นจึงดูแล้วเหมือนคนอายุไม่เกินสามสิบปี เธอไม่ใช่คนสวยมาก แต่สุภาพมีมารยาทและสง่า โดยเฉพาะท่าทางเวลายิ้มให้ความรู้สึกเหมือนอาบสายลมในฤดูใบไม้ผลิ รู้สึกดีเป็นอย่างมาก
“สวัสดีค่ะลู่เฉิน ยินดีต้อนรับสู่สถานีเอทีวีค่ะ…”
เธอยิ้มและจับมือกับลู่เฉิน และพูดกึ่งล้อเล่นว่า “ฉันเป็นแฟนเพลงของคุณด้วยนะคะ”
ประโยคง่ายๆ เพียงหนึ่งประโยค สร้างความใกล้ชิดระหว่างทั้งสองฝ่ายขึ้นมาทันที
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “อย่างนั้นผมจะมอบอัลบั้มชุดลิมิเต็ดให้คุณหนึ่งชุดครับ ขอแค่คุณเสิ่นช่วยดูแลและชี้แนะผมในรายการมากๆ ก็พอครับ”
อย่าเห็นว่าเสิ่นซูหลิงมีท่าทีเป็นมิตร สไตล์การดำเนินรายการของเธอถือว่าเฉียบคมมาก ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับซูเปอร์สตาร์ดัง เธอก็กล้าพูดประเด็นที่อ่อนไหว
อันที่จริงพิธีกรของฮ่องกงส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนี้ เพราะสถานีโทรทัศน์ของฮ่องกงเป็นของเอกชนทั้งหมด เพื่อประสิทธิผลที่ดีของรายการ จึงมีความต้องการที่สูงมากสำหรับพิธีกร
ผู้ชมชอบดูรายการวาไรตี้ ชอบหัวข้อที่เอิกเกริกและมีความขัดแย้งกัน ถ้าหากพิธีกรไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะถูกทอดทิ้งได้อย่างง่ายดาย
และที่สำคัญที่สุดคือ นโยบายของรัฐบาลฮ่องกงไม่เหมือนกับประเทศจีน ดังนั้นระดับการควบคุมรายการโทรทัศน์จึงต่างกัน
ลู่เฉินดูวิดีโอเทปก่อนๆ ของรายการ ‘สนทนาสามบันเทิง’ ไปไม่น้อย จึงเข้าใจนิสัยทั้งหมดของพิธีกรเสิ่นซูหลิงดังนั้นถึงแม้เธอจะพูดเล่น แต่ก็มีความจริงจังอยู่ด้วย
เสิ่นซูหลิงตกตะลึงก่อนเป็นอย่างแรก แล้วจึงหัวเราะทันที “ได้ค่ะ ฉันจะดูแลคุณแน่นอน”
เธอแนะนำแขกรับเชิญอีกหนึ่งคนให้ลู่เฉินรู้จัก
‘สนทนาสามบันเทิง’ เป็นรายการพูดคุยกันสามคน ในฐานะแขกรับเชิญคนแรกแน่นอนว่าลู่เฉินต้องเป็นตัวเอก แต่การมีตัวตนอยู่ของแขกรับเชิญพิเศษคนนี้ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ความคิดเห็นของเขาเป็นส่วนสำคัญของรายการอย่างไม่ต้องสงสัย
แขกรับเชิญคนนี้ชื่อว่าจวงต้ง เป็นนักเขียน นักวิจารณ์ นักข่าว ฯลฯ ถือว่าเป็นบุคคลดังทั้งในวงการวรรณคดีและวงการบันเทิง ออกหนังสือมาหลายเล่ม ในบล็อกเกาะฮ่องกงเขามีแฟนคลับมากกว่าห้าแสนคน
จวงต้งรูปร่างผอมผิวคล้ำเล็กน้อย ใส่ชุดสูทสวมแว่นตา หลังจากแนะนำกันแล้ว เขาจึงจับมือกับลู่เฉินอย่างสำรวมแล้วเอ่ยว่า “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณครับ”
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “สวัสดีครับคุณจวง”
สายตาของจวงต้งเฉียบแหลมมาก จ้องมองลู่เฉินแล้วถามว่า “คุณลู่ ผมอยากถามคุณนิดหน่อยครับ จุดประสงค์แรกที่คุณมาเติบโตที่ฮ่องกงคืออะไรครับ หรือไม่ก็เป้าหมายของคุณคืออะไรเหรอครับ”
ลู่เฉินตกตะลึง ยังไม่ทันเริ่มอัดรายการ คนผู้นี้ก็เริ่มเค้นถามแล้วเหรอ
สงสัยไม่น่าจะเป็นมิตรเท่าไร
เขาครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า “ผมมาฮ่องกง อยากมาหาเพื่อนครับ”
คำตอบนี้เกินความคาดหมายของจวงต้งอย่างไม่ต้องสงสัย เขาอยากจะจู่โจมลู่เฉินแบบไม่ทันตั้งตัว แต่การตอบของลู่เฉินทำให้เขาต้องนิ่งเป็นใบ้กิน
เสิ่นซูหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เผยรอยยิ้มในดวงตาแวบหนึ่ง แล้วพูดไกล่เกลี่ยว่า “ทั้งสองท่านคะ พวกเราอยากจะพูดอะไรให้ไปพูดในรายการกันดีกว่าค่ะ”
เธอมีลางสังหรณ์ว่า การบันทึกเทป ‘สนทนาสามบันเทิง’ ของสัปดาห์นี้ จะต้องสนุกมากแน่นอน
อย่างน้อยก็เลือกแขกรับเชิญไม่ผิดคน
…………………………………………………………………………