ตอนที่ 56 รำลึกถึงวัยเยาว์
ตอนเย็นสองทุ่ม เฉินเสียงล็อกอินเข้า ‘จิงอวี๋ทีวี’ ตรงเวลาเป๊ะ
เฉินเสียงเป็นคนจีนทางเหนือ หลังจากเขาเรียนจบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในท้องถิ่นแล้ว ก็เข้ามาหางานทำในปักกิ่ง เปลี่ยนงานอยู่หลายรอบ จนตอนนี้ถือว่าเริ่มอยู่ตัวแล้ว และกลายเป็นหนึ่งใน ‘มดหลงกรุง’
สำหรับเรื่องในอนาคตเฉินเสียงก็ยังสับสนอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถึงอย่างไรการก่อร่างสร้างตัวในปักกิ่งก็ไม่อาจเป็นจริงได้ เพราะถึงแม้จะทำงานหนักเพื่อให้มีรายได้มากขึ้นเท่าไหร่ ในอนาคตก็ต้องกลับบ้านอยู่ดี
เพราะฉะนั้นเขาจึงใช้จ่ายอย่างประหยัดมาก พักห้องรูหนูราคาถูก รับประทานอาหารในร้านฟาสต์ฟู้ดราคาประหยัด ไม่มีแฟนแล้วก็ไม่ออกไปเที่ยว ความบันเทิงที่เขาใช้ฆ่าเวลาเพียงอย่างเดียวคือการท่องอินเทอร์เน็ต
ดูภาพยนตร์ อ่านนิยาย ฟังเพลงป๊อป แล้วก็ไปพูดโม้ในฟอรัมบ้าง ก็ทำให้เขามีจิตใจที่มีความสุขแล้ว
การแสดงถ่ายทอดสดได้รับความนิยมมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา เฉินเสียงก็ชอบ โดยเฉพาะประเภทบันเทิงและการใช้ชีวิต เขามักจะเจอสาวสวยน่ารักมากมายทำท่าออดอ้อนน่ารักอยู่หน้าจอบ่อยๆ การชมการแสดงของพวกเธอไม่ต้องจ่ายเงินก็สามารถตอบสนองจินตนาการของเขาได้ไม่น้อย เพราะฉะนั้นเขาจึงชอบเข้าไปดูแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดใหญ่ๆ หลายช่อง และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในไม่ช้า
ปัญหาของผู้เชี่ยวชาญก็คือดูเยอะเกินไป จากนั้นก็จะเบื่อความสวยงามแบบนี้ได้เร็วมาก
สาวๆ พวกนั้นส่วนใหญ่จะทำตาสองชั้นหน้าเรียว ติดขนตาปลอมแล้วก็ใส่บิ๊กอาย จากนั้นก็ทาแป้งปัดแก้มเป็นชั้นหนาๆ แม้แต่ท่าทางแอ๊บแบ๊วออดอ้อนก็เหมือนได้รับการอบรมมาจากสถาบันฝึกอบรมหลันเสียงเทรนนิ่งกรุ๊ป ดูมากๆ เขาก็เบื่อ
และความชอบของเฉินเสียงก็ไม่ค่อยเป็นสิ่งที่ดีนัก เขากลัวว่าร่างกายของตัวเองจะพังเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเขาจึงทิ้งสาวๆ ที่มองเห็น ได้ยินเสียง แต่ลูบคลำไม่ได้อย่างรวดเร็ว แล้วค้นหาความสนุกแบบใหม่
เมื่อครึ่งเดือนก่อน เฉินเสียงลองเข้าไปเล่นใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ คลิกเข้าไปตรงการแนะนำคนใหม่ของหน้าแรกอย่างไม่ตั้งใจ แล้วจึงหลุดเข้าไปในห้องถ่ายทอดสดเด็กหน้าใหม่คนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ลู่เฟย’
จากนั้นเขาก็กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของขุนศึกตระกูลลู่
สิ่งที่ทำให้เฉินเสียงประทับใจในตอนนั้น ก็คือสถานที่พักของผู้ดำเนินรายการลู่เฟยที่คล้ายกับเขา หลังจากผ่านการพูดคุยแล้วจึงรู้ว่าเป็นคนหลงกรุงคนหนึ่งเหมือนกัน บางทีอาจเป็นเพราะความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน หรือบางทีก็เพราะหัวอกเดียวกัน เขาจึงมอบรางวัลลูกบอลปลาหนึ่งพันลูกให้กับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เป็นครั้งแรก ซึ่งเท่ากับเงินค่าอาหารกลางวันหนึ่งมื้อของตัวเอง!
เขาชอบฟังการร้องและเล่นเพลงของลู่เฟย ชอบความตลกขบขันและมองโลกในแง่ดีของผู้ดำเนินรายการคนนี้ และก็ยิ่งชอบการแต่งเพลงบัลลาดของอีกฝ่าย
เขารู้สึกว่าเพลงเหล่านั้นเหมือนกับกำลังเขียนถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของตัวเอง
เฉินเสียงมีข้อจำกัดทางด้านทุนทรัพย์ ไม่สามารถมอบรางวัลใหญ่เหมือนกับมหาเศรษฐีพวกนั้นได้ สิ่งที่เขาทำได้ก็คือมอบกำลังใจอันน้อยนิดให้ระหว่างที่ดูการถ่ายทอดสด
กิจกรรมการแข่งขันการแสดงของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ในครั้งนี้ เฉินเสียงรู้มานานแล้วว่าลู่เฟยเองก็เข้าร่วม เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้การกระทำเพื่อเป็นการสนับสนุน ตั้งแต่ตอนเช้าของวันนี้จนกระทั่งตอนเย็น เขาได้โพสต์ข้อความนับร้อยไปบนฟอรัมใหญ่ต่างๆ
ถึงแม้โพสต์เหล่านั้นอาจจะถูกแบนจนเละ กระทั่งบัญชีก็โดนบล็อก แต่เฉินเสียงก็มีความสุขมาก ที่ได้แบ่งปันความสุขของโลกอินเทอร์เน็ตกับสมาชิกแฟนคลับนับหมื่นคน
นอกจากนี้เขาก็อยู่ในกลุ่มของ ‘หลี่ไป๋’ และโชคดีแย่งอั่งเปาได้สิบกว่าหยวน!
เฉินเสียงตัดสินใจว่าจะนำอั่งเปาพวกนี้ไปแลกเป็นลูกบอลปลาแล้วมอบให้กับลู่เฟย
เช่นเดียวกัน เขาก็หวังว่าหัวข้อการแข่งขันการแสดงในคืนนี้ของลู่เฟยจะน่าสนุกเช่นกัน แข่งขันชนะติดห้าอันดับแรก!
ดังนั้นพอถึงเวลาสองทุ่ม เฉินเสียงจึงเข้ามาที่ห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยเป็นอย่างแรกพร้อมกับแฟนคลับนับหมื่นคน
จากนั้นพวกเขาก็ต้องชมโฆษณาสามนาทีก่อน
“แม่งเอ๊ย จิงอวี๋ทีวีนับวันยิ่งแย่ เอาโฆษณาออกไป!”
“ชีวิตของฉันต้องเสียเวลาไปอีกสามนาที”
“ถูกแล้ว สามนาทีก็มากพอให้พี่คนข้างหน้าทำธุระเสร็จไปหนึ่งอย่าง ถอดเสื้อผ้ากับใส่เสื้อผ้า”
“ฮ่าๆๆ!”
“ทุกคนหยุดพูดได้แล้ว ดูโฆษณากันเถอะ ขอให้ธุรกิจพวกนี้เจ๊ง!”
“ขอให้ธุรกิจพวกนี้เจ๊ง ขอให้ธุรกิจพวกนี้เจ๊ง!”
“ขอให้ธุรกิจพวกนี้เจ๊ง!”
“ขอให้ธุรกิจ…”
ถึงแม้จะเป็นเวลาโฆษณา แต่ก็มีข้อความบ่นเด้งขึ้นมาบนหน้าจอมากมายอย่างสนุกสนาน แสดงว่าไม่ได้เบื่อจริงๆ เฉินเสียงก็กดคีย์บอร์ดอย่างมีความสุข แล้วก็พิมพ์ข้อความที่เหมือนกันเข้าไป ข้อความที่แน่นขนัดได้บดบังโฆษณาจนหมด
และในเวลานี้ ยอดนิยมขณะออนไลน์ของห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยก็ทะลุสามแสนคนแล้ว ติดอันดับสูงสุดมากกว่าเมื่อก่อน!
สถานการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติมาก อย่างแรกคือกลุ่มแฟนคลับขุนศึกตระกูลลู่ค่อนข้างเยอะ ทำการโปรโมทก่อนการแข่งขันอย่างเต็มที่ แฟนคลับตัวยงจำนวนนับไม่ถ้วนกับแฟนคลับชั่วคราวก็ทยอยกันเข้ามา บวกกับการแนะนำหัวข้อของหน้าแรกในอินเทอร์เน็ต จึงมีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มปริมาณมากขึ้น
แต่จะรั้งให้ผู้เข้าชมเหล่านี้อยู่ได้หรือเปล่า ก็ต้องดูความสามารถของผู้ดำเนินรายการแล้ว
ถึงแม้ว่า ‘จิงอวี๋ทีวี’ จะทำการโปรโมทกิจกรรมครั้งนี้มานานแล้ว ความนิยมชั่วคราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจึงเป็นเรื่องปกติมาก ถ้าหากแยกเข้าไปในห้องถ่ายทอดสดทั้งหมดยี่สิบสี่ห้อง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เฉินเสียงกังวลขึ้นมากะทันหัน เขารู้ว่าคู่ต่อสู้ที่เผชิญหน้ากับลู่เฟยนั้นแข็งแกร่งมาก หากจะติดห้าอันดับแรกก็ลำบากพอสมควร
ท่ามกลางความกังวล โฆษณาสามนาทีก็สิ้นสุดลง
ภาพหน้าจอของการถ่ายทอดสดก็ปรากฏออกมา ยังคงเป็นฉากและคนที่คุ้นเคยเหมือนเดิม
ลู่เฟยมีใบหน้ายิ้มแย้มอยู่ในหน้าจอ เขากอดกีตาร์ของเขา กับนัยน์ตาที่เปล่งประกายความมั่นใจออกมาแวบหนึ่ง
“สวัสดีตอนเย็นนะครับทุกคน ผมคือลู่เฟยผู้ดำเนินรายการหลักของพวกคุณ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มาเจอกับทุกคนอีกครั้งในการแข่งขันการแสดงนี้”
“หัวข้อการถ่ายทอดสดที่ผมนำมาให้พวกคุณในคืนนี้ มีชื่อว่าฤดูจบการศึกษา!”
“ผมเชื่อว่าทุกคน และเพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าจอนี้ ก็เคยผ่านช่วงเวลาของการจบการศึกษามาก่อน…”
“และผมก็เชื่อว่า พวกคุณอาจจะเคยมีหรือมีช่วงเวลาที่สวยงามในรั้วมหาลัย!”
“ผมจะใช้เพลงพาทุกคนย้อนวันวานที่น่าทะนุถนอม ช่วงเวลาที่งดงามสมัยที่เป็นนักศึกษาครับ!”
“ขอบคุณครับ!”
การเปิดฉากที่น่าชื่นชม จุดประกายหัวข้อในการถ่ายทอดสดในขณะเดียวกันก็สะกิดความทรงจำของเฉินเสียงด้วย
จู่ๆ เขาก็กังวลขึ้นมาอีกครั้ง!
วินาทีต่อมา ภาพหน้าจอถ่ายทอดสดก็ถูกตัดให้เล็กลงย้ายไปอยู่มุมขวาด้านบน ปรากฏภาพหน้าจอของภาพยนตร์ที่ได้ตัดต่อแล้วออกมา
“เพลงแรกมีชื่อว่าธุลีรักในสายลม เป็นเพลงบัลลาดร่วมสมัย หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ”
เสียงดีดกีตาร์บรรเลงเบาๆ กับวีดีโอภาพยนตร์ที่เป็นฉากของวัยรุ่นหนุ่มสาวกำลังวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน นำพาทุกคนเข้าไปสู่ชีวิตวัยรุ่นภายในพริบตา
“วันนั้น ตอนพลบค่ำ หิมะขาวเริ่มปลิวว่อน…”
“ความระทมทุกข์ เต็มไปทั่วเนินเขา รอคอยการสิ้นสุดของวัยหนุ่มสาว…”
“ภาพยนตร์ตอนเที่ยงคืน เต็มไปด้วยความรักอันเก่าแก่ ท่ามกลางความมืด ร้องเพลงให้หนุ่มสาว…”
ท่วงทำนองที่ไพเราะกินใจ กับเสียงร้องดูน่าเศร้า พลันปลุกความทรงจำวัยหนุ่มสาวเหล่านั้นให้ชัดเจนมากขึ้น
เฉินเสียงก็เหมือนกับผู้ชมสามแสนกว่าคนในห้องถ่ายทอดสดลู่เฟย เพิ่งได้ฟังเพลง ‘ธุลีรักในสายลม’ เป็นครั้งแรก ข้อความที่เด้งมาบนหน้าจอเหมือนกับน้ำตกที่หยุดไหลกะทันหัน เหลือเพลงสายน้ำเอื่อย
จนกระทั่งลู่เฉินร้องจบรอบแรก เรื่องราวเพิ่งจะผ่านไปเพียงครึ่งเดียว
เข้ามหาวิทยาลัย ได้พบกัน รู้จักกัน รักแรก เข้าใจผิด เลิกกัน…ภาพที่สมบูรณ์แต่ละภาพถูกเนื้อเพลงขับดุนให้เด่นขึ้น
เสียงดีดกีตาร์ดังขึ้นอีกครั้ง
“รำลึกถึงวัยสิบเก้า ฉันเคยดูหนังเรื่องนี้ น่าประทับใจมาก”
“เพลงนี้ผู้ดำเนินรายการเป็นคนแต่งเองเหรอ”
“เหลวไหล ท่านลู่เฟยของพวกเราคือราชาเพลงบัลลาดและเป็นสุดยอดด้านการแต่งเพลง เขาเขียนเพลงของเขาด้วยตัวเองทั้งหมด!”
“เพลงเพราะมากจริงๆ!”
“เพราะด้วยอีกหนึ่งคน ฉันฟังแล้วอยากจะร้องไห้ ผู้จัดต้องชดใช้ให้ฉัน!”
“เพราะจริงๆ ฉันชอบ”
“…”
ลู่เฉินไม่สนใจข้อความที่ส่งมาทั้งหมด เขาพุ่งสมาธิไปที่การแสดง ดีดกีตาร์และร้องเพลงรอบที่สอง
จบการศึกษา เดินทางไกล ต่อสู้ดิ้นรน คิดถึง พบกันอีกครั้ง รักแท้…ภาพยนตร์เรื่องยาวถูกบีบให้สั้นลงในเวลาสองสามนาที
‘รำลึกถึงวัยสิบเก้า’ เป็นภาพยนตร์วัยรุ่นที่เข้าฉายในประเทศจีนเมื่อต้นปี ทำรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์สองร้อยเก้าสิบล้าน สร้างสถิติในภาพยนตร์ประเภทเดียวกัน มีคนมากมายเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้
เนื้อเรื่องของภาพยนตร์อาจจะดูเฉิ่มเชย แต่ก็ไม่มีใครถือสา เพราะเวลานี้ฟังแค่เพลงก็พอแล้ว
“…วัยที่เชื่อมั่นในความรัก ไม่สามารถร้องเพลงให้เธอได้ ปล่อยให้ทั้งชีวิตของฉันนึกถึงอดีตบ่อยครั้ง!”
เพลงค่อยๆ ถึงช่วงสุดท้าย ข้อความบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปแล้ว
“เฉินเสี่ยวอี้ ผมรักคุณ!”
“ซุนหย่าหาน ผมคิดถึงคุณ ผมคิดถึงคุณมากๆ!”
“หลีเมี่ยวเมี่ยวนักเรียนห้องเจ็ดปีที่สาม หลังเลิกเรียนแล้วฉันจะรอเธอที่หน้าเว็บเสี่ยวซู่หลิน!”
“หวังเฉียง ถึงนายจะเลว! แต่ฉันก็ชอบนาย!”
“จางเจี๋ย ฉันอยากกลับไปรักกับคุณอีกครั้ง…”
“…”
คำพูดที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูดในยามปกติซึ่งอัดแน่นอยู่ในหัวใจเหล่านั้นก็พลันระเบิดออกมาในทันทีทันใด ถูกระบายออกมาอย่างกำเริบเสิบสาน
ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มต้น แต่ก็เกือบเข้าสู่จุดไฮไลท์แล้ว!
ร้องเพลง ‘ธุลีรักในสายลม’ จบแล้ว ข้อความชื่นชมเด้งขึ้นมาบนหน้าจอราวกับสายฝน!
เวลาสองทุ่มสิบนาที ห้องถ่ายทอดสดของลู่เฟยใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้รับความนิยมขณะออนไลน์ถึง 392,017
…………………………………………………………………………