บทที่ 17 หาเตียงและจัดให้ตามต้องการ
ซูเถาพบว่าตี้ชีหยวนมารอเขาได้ซักพักใหญ่แล้วหลังจากที่เขากลับมาที่สำนักงาน สายตาของเขาจ้องไปยังกล้องสอดแนมที่ติดอยู่ที่ผนัง จากนั้นก็หันไปทางจอคอมพิวเตอร์ “ซื้อออนไลน์ตอนนี้ ราคาเพียง 90 หยวนเท่านั้น”
“เอากล้องนี่ตัวนึง , เราคงนิ่งนอนใจไม่ได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกเราต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้วล่ะ” ตี้ชีหยวนหันไปบอกซูเถา
ซูเถาหยิบกาต้มน้ำซึ่งยังมีน้ำร้อนอยู่ขึ้นมา เขาเทใส่แก้วแบบใช้แล้วทิ้งให้ตีี้ชีหยวนก่อนจะพูด “ทั้งหมดมันเป็นเพราะคุณนั่นแหละ ผมเลยต้องระมัดระวังตัวให้มาก”
ตี้ชีหยวนยิ้ม “เฉียวเต้อหาวกับเซี่ยเฉงมีเป้าหมายที่ชั้นอย่างชัดเจน แต่นายดันโดนดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ชั้นมาเพื่อบอกนายว่ามันจะไม่มีปัญหาแบบนี้อีกในอนาคต ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาออีก ชั้นจะจัดการมันเองคนเดียว นายแค่ให้ความสำคัญกับงานรักษาคนไข้ของนายก็พอ”
ซูเถาส่ายหัว “ประธานตี้ , คุณยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าคุณพลาดตรงไหน”
ตี้ชีหยวนชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะยกน้ำขึ้นมาดื่ม “งั้นอธิบายให้ชั้นฟังหน่อย”
ซูเถาค่อยๆพูดอย่างช้าๆ “คุณรู้ความหมายของคำว่า ‘ต้นไม้ที่สูงย่อมดึงดูดสายลมไหม’ ? มีกี่คนกันที่อิจฉาผมเพราะตำแหน่งหัวหน้าใน TCM ? มันก็เข้าใจได้ที่เซี่ยเฉงจะใส่ร้ายผม ถึงแม้จะไม่มีเซี่ยเชง ก็ยังมีหลี่เชงกับจางเชงอยู่ดี”
ตี้ชีหยวนมองไปยังซูเถาก่อนจะถอนหายใจและยิ้มออกมาเล็กน้อย “ชั้นไม่คิดมาก่อนเลยว่านายจะมองได้ละเอียดขนาดนี้”
ซูเถาส่ายมือก่อนจะพูดต่อ “แต่มันก็เป็นเรื่องดีนะ , ซึ่งเซี่ยเชงก็เป็นตัวอย่าง คงไม่มีใครกล้ามาลูกไม้กับผมอีกในอนาคต”
ตี้ชีหยวนพยักหน้า “เซี่ยเชงนั้นค่อนข้างจะมีส่วนมากในการสนับสนุนแผนก TCM , อย่างไรก็ตาม ปัญหามันอยู่ความสามารถของเขาที่มีข้อจำกัด เขาจึงเป็นแค่รองหัวหน้าแผนกเท่านั้น นายเก่งกว่าเขามาก และชั้นเชื่อว่าภายใต้การนำของนาย ผลลัพธ์ของ TCM จะต้องออกมายอดเยี่ยมอย่างแน่นอน”
เขามีคำตอบสำหรับเรื่องนี้เอออาไว้อยู่แล้ว พลางพูดต่อ “ทำไมเราไม่ลองตั้งชื่อให้กับตำหนักของนายดูล่ะ , พาร์ทเนอร์ของแผนก TCM แห่งโรงพยาบาลเจียงหัว ? ถ้าแบบนี้ นายสามารถที่จะจัดการงานของทั้งตำหนักและแผนก TCM ไปพร้อมๆกันได้เลยด้วย”
ซูเถารู้สึกว่ามันเป็นความคิดที่ดีมาก แต่เขายังคงต่อรอง “พาร์ทเนอร์มันฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เอาเป็นหน่วยให้ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์น่าจะดีกว่า”
ตี้ชีหยวนยิ้ม ในตอนแรกเขาคิดว่าซูเถานั้นมีเพียงฝีมือทางการแพทย์เท่านั้นที่ร้ายกาจ แต่หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ เขาเข้าใจแล้วว่าซูเถานั้นเป็นคนที่รอบคอบแค่ไหน ด้วยการชี้นำที่เหมาะสม เขาจะกลายเป็นสุดยอดในด้านการจัดการเลยที่เดียว
ในไม่ช้า พวกเขาทั้งสองก็ได้ทำข้อตกลงในการร่วมมือกันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างทางตำหนักและแผนก TCM ของโรงพยาบาลเจียงหัว
ตี้ชีหยวนก็ยังคงพูดออย่างตรงไปตรงมา “ก่อนหน้านี้ ชั้นได้แจ้งฝ่ายการเงินให้นำเงินจำนวนหนึ่งไปใช้ในการปรับปรุงสถานที่และอุปกรณ์ของตำหนัก นอกจากนี้ หมอที่สังกัดแผนกTCM จะเข้าให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยในเวลาปกติอีกด้วย นายคิดว่ายังไง ?”
ซูเถาได้ลองคิดดูเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของโรงพยาบาลเจียงหัวเพื่อปรับปรุงตำหนักของตน อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าตี้ชีหยวนจะใจป้ำและได้ยื่นข้อเสนอในการร่วมมือกับเขาถึงขนาดนี้ ซูเถาเกาหัวแกรกๆก่อนจะยิ้ม “แล้วมันจะเป็นประโยชน์กับผมยังไง ?”
ตี้ชีหยวนอธิบาย “ในตอนนี้ โรงพยาบาลทั่วประเทศกำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูป และนี่เป็นสิ่งจำเป็นในการขยายอิทธิพลของพวกเรา การร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลกับตำหนักไม่ใช่กรณีพิเศษแต่อย่างใด เพราะว่าโรงพยาบาลเจียงหัวต่างก็เป็นพันธมิตรกับหลายๆหมู่บ้านอยู่แล้ว ดังนั้นชั้นยังมีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้””
ซูเถาไร้ซึ่งเหตุผลที่จะปฏิเสธ ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าตี้ชีหยวนตั้งใจทำประโยชน์ให้เขา “ถ้างั้น , ทางโรงพยาบาลจะจัดการกับเซี่ยเชงยังไง ?”
“ถอดถอน !” ตาของตี้ชีหยวนเป็นประกายก่อนที่จะพูดต่อ “ในขณะเดียวกันชั้นก็จะจัดการให้เคลียร์ในสมาคมการแพทย์ ในอนาคตมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะมีที่ยืนในวงการแพทย์”
สมาคมการแพทย์เป็นชื่อย่อของสมาคมการแพทย์ของจีน พวกเขามีหน้าที่ในการจัดการเรื่องนี้ โดยการขึ้นทะเบียนบัญชีดำเซี่ยเชง ไม่มีโรงพยาบาลที่ไหนจะรับเขาอีก
ไม่มีใครรู้สึกเสียดายเซี่ยเชง เขาสมควรได้รับในสิ่งที่เขาก่อ ตี้ชีหยวนทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพื่อที่จะหยุดยั้งเขา เพราะหากยังให้โอกาสเขา ด้วยสันดานของเขา อาจจะไปทำร้ายคนอื่นๆอีก
“แล้วเฉียวเต้อหาวล่ะ” ซูเถาถาม
ตี้ชีหยวนยืนขึ้นช้าๆก่อนจะตอบ “เขาปกปิดมันได้ดีเชียวล่ะ เซี่ยเชงได้รับเองไว้ทั้งหมดและทำเหมือนกับว่าไม่มีใครคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง”
“ไอ้จอมเจ่าเล่ห์” ซูเถากล่าวอย่างผิดหวัง
ตี้ชีหยวนยิ้ม “เฉียวเต้อหาวมักจะมองเห็นชั้นเป็นเสี้ยนหนามเสมอ เขาส่งรายงานให้ชั้นอย่างน้อยๆ สามครั้งต่อเดือนเสมอ ซึ่งชั้นคุ้นเคยมันดีอยู่แล้ว ชั้นเองก็เป็นหมอ ดังนั้นตราบใดที่ตัวชั้นยังคงมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ก็คงไม่เป็นไร ชั้นไม่เหมือนกับเขา เขาเป็นข้าราชการ”
ซูเถาหยักหน้า ตี้ชีหยวนได้เปิดเผยถึงปัญหาทางการเมืองในโรงพยาบาลซึ่งแยกออกเป็นฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติการ
คนที่เป็นหมอก็ไม่ได้เป็นหมอเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาสามารถมีตำแหน่งอย่างอื่นได้เหมือนกัน อย่างในกรณีของตี้ชีหยวน เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ประธานของโรงพยาบาลเจียงหัวเท่านั้น แต่ยังเป็นรองหัวหน้าของสำนักอนามัยเมือง และยังเป็นเจ้าหน้าที่แผนกธุรการอีกด้วย
ซูเถารู้สึกว่าคำถามของเขายังไม่ได้รับการตอบ เขาจึงถามต่อ “แล้ว คุณยังมีความสัมพันธ์พิเศษกับบริษัทเภสัชกรรมหงหมิงด้วยงั้นสิ ?”
ถ้าตี้ชีหยวนบริสุทธิ์จริง เฉียวเต้อหาวคงไม่เล่นงานเขาที่จุดนั้นแน่
ตี้ชีหยวนอึ้งไปสั้นๆก่อนจะถอนหายใจ “ชั้นจะโปร่งใสได้ไงในเมื่อยังอยู่ในตำแหน่งนี้ แต่ชั้นการันตีได้เลยว่าชั้นไม่เคยรับผลประโยชน์ทางการเงินจากพวกเขาแน่นอน ! เพียงแต่ถ้าไฟล์การสอบสอบสวนได้เปิดขึ้นมา ชั้นคงมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ของหงหมิงแน่นอน”
ซูเถายิ้ม “มันยังดูน่าสงสัยอยู่ดี ผมไม่เข้าใจเลย”
ตี้ชีหยวนหัวเราะ “ทุกคนย่อมมีผู้หญิงที่ไว้ใจ…”
ซูเถาเอะใจกับคำพูดนั้นโดยไม่คาดคิด พลางมองไปยังตี้ชีหยวนด้วยความงุนงง “นี่คุณมีความสัมพันธ์กับผู้รับผิดชอบของเภสัชกรรมหงหมิงงั้นเหรอ ?”
ตี้ชีหยวนกลอกตา “อย่าพูดจาไร้มารยาทแบบชั้นเชียวนะ ! , พวกเราเพียงแค่มีสายสัมพันธ์ทางใจก็เท่านั้น หล่อนก็มีชีวิตของหล่อน ส่วนชั้นก็มีครอบครัวของชั้น”
ซูเถาเดาะลิ้น “ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณจะขี้เล่นแบบนี้ มีความสัมพันธ์กันทั้งๆที่คุณก็แต่งงานแล้ว หล่อนจะต้องงามมากแน่ๆ”
“เธอนั้นเปรียบราวกับดอกไม้เมื่อเธอยังเด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะอายุมากขึ้น เธอก็ยังคงสวยอยู่” ตี้ชีหยวนรู้สึกอายในคำพูดของตนเอง “ย้อนไปในวันนั้น ตอนนั้นชั้นเป็นที่นิยมมาก ผู้หญิงหลายๆคนต้องการชั้น ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เริ่มรุกเข้าหาชั้น”
สีหน้าของซูเถาดูแย่ลงก่อนที่เขาจะขัดจังหวะ “หยุดโม้ซักแป๊ปได้ไหม ให้ผมไปอ้วกก่อน”
ตี้ชีหยวนพูดคุยกับซูเถาอยู่พักใหญ่ที่สำนักงาน ซึ่งบทสนทนานั้นไม่ได้เกี่ยวกับงานเลย มันเหมือนเพื่อนสนิทคุยกันมากกว่า แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในชีวิตประจำวันกันเพื่อที่จะเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น
และอีกครั้ง เรื่องที่ตี้ชีหยวนเล่านั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับออดีตของเขา ซูเถาตั้งใจฟังอย่างอดทน
หลังจากแผนการของเฉียวเต้อหาวกับเซี่ยเชงแล้ว ตี้ชีหยวนคิดว่าซูเถานั้นเป็นพวกเดียวกับเขา ดังนั้น ความสัมพันของทั้งคู่จึงพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
ด้วยความที่มีประธานคอยสนับสนุนอยู่ ซูเถาจึงสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นมากขึ้นในโรงพยาบาลเจียงหัว
เนื่องจากเขาไม่มีกำหนดการในการเข้าให้คำปรึกษาในช่วงบ่าย ซูเถาจึงได้กลับไปจัดระเบียบสำนักงานของเขาใหม่ ย้ายที่ติดตั้งกล้องสอดแนมหลังจากที่ตี้ชีหยวนออกไปแล้ว
ในตอนที่เขาเดินออกจากโรงพยาบาล ได้มีรถออดี้ซึ่งลดกระจกลงจอดอยู่ เผยให้เห็นถึงสาวสวย ซูเถาขมวดคิ้วหน้านิ่วทันทีที่เห็นผู้หญิงคนนั้น เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหยานจิ้งจะรอเขาอยู่ที่นั่น
เขายังคงประหม่าแม้ว่าจะพบกันเป็นครั้งที่สองแล้วก็ตาม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคอวีสีแดงซึ่งเผยให้เห็นถึงหน้าอกของเธอ พนันได้เลยว่าหล่อนไม่ได้ใส่บราแน่ๆ ซึ่งหน้าอกอของเธอนั้นบีบกันจนทำให้เห็นร่องอันแสนวิเศษ
อย่างไรก็ตาม การแต่งตัวของหยานจิ้งจะพบเห็นได้ก็แค่ตามนิตยสารแฟชั่นเท่านั้น และด้วยรถยนต์คันงามของเธอ มันได้ดึงดูดสายตาจำนวนมากเช่นกัน
หยานจิ้งได้ถอดแว่นกันแดดออกก่อนที่จะกวักมือเรียกซูเถา “ชั้นรอนายมา 10 นาทีแล้วนะ , ขึ้นมาสิ”
ผู้ชายไม่ว่าหน้าไหนก็ต้องเสียการควบคุมตนเองทั้งนั้นหากมีสาวสวยอย่างหยานจิ้งชวนขึ้นรถ อย่างไรก็ตาม ซูเถาตอบกลับ “พวกเราไม่ใช่พวกเดียวกันซักหน่อย”
หยานจิ้งลงจากรถมาก่อนที่จะคว้าแขนซูเถา ก่อนที่จะกระซิบไปที่หูของเขา “อย่าขัดขืน ! ถ้านายยังคิดจะขัดขืน ชั้นจะร้องตะโกนออกมาว่านายเป็นไอ้บ้ากาม ! ที่นี่เป็นที่ทำงานของนาย , และถ้าชั้นทำแบบนั้น พรุ่งนี้นายได้ปวดหัวกับเรื่องนี้แน่ เข้าใจมั้ย ?”
ซูเถาเหล่ตา “ลูกไม้แบบนั้นใช้กับชั้นไม่ได้หรอก ถ้าเธอจะร้องก็เชิญตามสะดวกเลย”
หยานจิ้งเลิ่กคิ้วขึ้นก่อนที่จะคลายสายของเสื้อที่ไหล่เพื่อเตรียมตัวร้อง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะร้อง ซูเถาได้เอามือปิดปากเธอไว้ก่อนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ “ก็ได้ๆ ขั้นจะไปกับเธอ”
ซูเถามองเห็นพยาบาลที่เข้ามาขอเบอร์ติดต่อเขาเมื่อเช้า เขาเพิ่งจะเป็นหน้าเป็นตาให้กับโรงพยาบาลเจียงหัวด้วยฐานแฟนคลับอันน้อยนิด เขาจึงไม่อาจปล่อย หยานจิ้งทำให้ภาพลักณ์ของเขานั้นแปดเปื้อนได้ ดังนั้น เขาจึงได้ตัดสินใจขึ้นรถไปกับเธอและคอยดูว่าเธอต้องการอะไร
ซูเถารู้สึกเสียใจในขณะที่รถออดี้ได้แล่นออกไป เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ‘น่าสะพรึง’ นั้นเป็นคำจำกัดความทักษะการขับรถของหยานจิ้ง
“เธออขับรถมานานกี่ปีแล้วเนี่ย ?” ซูเถาถาม
“เพิ่งได้ใบขับขี่มาเมื่อเดือนที่แล้วเอง แค่จ่ายไปไม่กี่พัน พวกนี้มันรับสินบนกันง่ายจริงๆ ” หยานจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ทันใดนั้น ที่หน้าของซูเถาได้มีเหงื่อผุดขึ้นมาจำนวนมาก “แล้วคนขับรถของเธอล่ะไปไหน ?”
หยานจิ้งยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ให้ชั้นได้ทำอะไรเองบ้างไม่ได้หรือไง ?”
ซูเถาแอบปลดเข็มขัดนิรภัยออกแบบเงียบๆ หากมีอะไรเกิดขึ้น เขาจะได้กระโดดหนีออกจากรถได้ อย่างไรก็ตาม ซูเถานึกขึ้นได้ว่าแม้จะมีทักษะการขับรถอันน่ากลัวของหยานจิ้ง แต่พอคิดจากประสบการณ์ชีวิตของเธอแล้ว เขาคิดว่าชีวิตของเขาอาจจะไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายเท่าไหร่
ในขณะที่หยานจิ้งขับรถด้วยความเร็วสูง ซูเถาก็อดไม่ได้ที่จะถาม “นี่เธอจะพาชั้นไปไหนเนี่ย ?”
หยานจิ้งมองไปที่ซูเถถาก่อนจะตอบ “ไปหาเตียงและทำตามที่นายต้องการไง”
ซูเถามองไปที่หน้าของหยานจิ้งและเขาก็พบว่าตัวเขานั้นได้สูญเสียความเป็นตัวเองไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แบบหยานจิ้ง หลังจากที่เขาคิดอะไรบางอย่าง เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยากลำบาก “แต่ชั้นก็มีคติประจำตัวอยู่นะ ชั้นไม่สนใจ one night stand หรอก”
หยานจิ้งระเบิดหัวเราะออกมา “เจ้าหนู , พี่สาวคนนี้ยังสวยไม่พอสำหรับนายอีกเหรอ ?”
ซูเถาเปลี่ยนหัวข้อกะทันหัน “ตั้งใจขับรถหน่อย , รถบรรทุกที่อยู่ข้างหลังเปิดไฟไล่อยู่นะ มันกำลังจะแซงเธอแล้ว”
หยานจิ้งไม่สนใจคำพูดของซูเถาก่อนที่จะแซงเขาต่อ “ทำไมเราไม่ลองหาที่สงบๆดูก่อนที่จะมาสนุกกันในรถนี้ดูล่ะ น่าตื่นเต้นอออกว่าไหมล่ะ ?”
ซูเถากลืนน้ำลาย หยานจิ้งพูดถึงเรื่องการหลับนอนและเขาก็คงจะปล่อยเลยตามเลยไปแล้วหากเขาเลือกที่จะไม่สนใจอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเงียบและไม่สนใจแม้ว่าหยานจิ้งจะพูดอะไรก็ตาม