บทที่ 3 ความลับของประธานสาว
ซูเถาไม่ได้ทำการไร้มารยาทต่อเวร่าเพียงแต่จุดเทียนถูนั้นอยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางหน้าอก(จุดเทียนถู : จุดต่างๆตามร่างกายของการแพทย์จีน ซึ่งจุดนี้อยู่บริเวณกึ่งกลางหน้าอก) การกดจุดสามารถรักษาโรคหลอดลมอักเสบได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถหยุดการกำเริบของโรคฮิสเทเรียได้ด้วย จากการคาดเดา โรคหลอดลมอักเสบเป็นเพียงหนึ่งในอาการของโรคฮิสเทเรีย
ฮิสเทเรียเป็นชื่อเรียกในวงการแพทย์ของจีน ในฝั่งตะวันตกนั้นเรียกว่า อาการโซมาติค (อาการป่วยที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเป็นอาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่งที่ส่งผลไปถึงร่างกายด้วย) ซึ่งสาเหตุที่ว่าทำไมเวร่าถึงปฏิเสธการตรวจด้วยเครื่องมือก็เพราะกังวลว่าจะตรวจเจออาการโซมาติคนั่นเอง
หากพวกชนชั้นสูงในแวดวงธุรกิจรู้ว่าเธอป่วยเป็นโรคนี้ มันจะก่อให้เกิดผลเสีย ซึ่งหากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่อออกไป ครอบครัวและธุรกิจของเธอจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ด้วยการกดจุดของซูเถาทำให้เวร่านั้นสงบลง จากนั้นเขาก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล “วางใจได้ ผมจะเก็บเรื่องที่คุณมีอาการโซมาคติคไว้เป็นความลับ จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และผมจะรักษาอาการป่วยของคุณเอง”
เวร่านั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีนกลางเมื่อซูเถากดลงไปบริเวญหน้าอกเธอรู้สึกราวกับถูกไฟดูดอาการแน่นหน้าอกและอาการเจ็บคอของเธอนั้นได้รับการรักษาและสลงลงแทบจะทันที
“นายรักษาอาการป่วของชั้นได้เหรอ ?” เวร่ามองไปที่ซูเถาด้วยความสงสัยเวร่าได้เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เกิดขึ้นหน้าห้องดังนั้นเธอจึงได้ให้เวลาเขา 5 นาที
ในขณะเดียวกันเธอรู้สึกตกใจที่ซูเถาสามารถระบุอาการโรคโซมาติคของเธอได้ในโลกนี้ถ้านับหมอส่วนตัวของเธอที่รัสเซียด้วยแล้วยังไม่มีคนที่รู้ว่าหล่อนเป็นโรคนี้เป็นคนที่สามเลย
เวร่านั้นสวยมากตอนเวลาเธอพูดขนตาของเธอนั้นขยับขึ้นลงราวกับการเต้นของเหล่าภูติซูเถานั้นพยายามอย่างมากในการอดกลั้นต่อความงามของเธอแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับความสวยของเธอเขาสงบสติออารมณ์ตัวเองแล้วค่อยๆพูด “ผมต้องการให้คุณเชื่อใจผม”
คิ้วของเวร่าคลายลง เพราะซุเถานั้นพูดขอร้องแบบเดียวกันกับหมอส่วนตัวของเธอ ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมซูเถาถึงต้องให้คนอื่นๆออกจากห้อง นั่นเพราะว่าซูเถารู้ว่าเอไม่ต้องการให้ใครรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ
“คุณต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับนะ” เวร่าไตร่ตรองมาซักพักก่อนตัดสินใจจะลองให้เขารักษาเธอ
เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับการแพทย์ของจีนมาว่ามันน่าทึ่งแค่ไหนดังนั้นแพทย์หนุ่มคนนี้น่าจะรักษาอาการป่วยของเธอได้ “เริ่มรักษาได้เลย”
ถ้าเขามีเข็มเงินอยู่กับตัวละก็เขาสามารถใช้การฝังเข็มในการฝังเข็มทะลุเสื้อผ้าของเธอเพื่อทำการหาจุดในการรักษาแต่ทว่าในตอนนี้เขาไม่ได้พกเข็มเงินติดตัวไว้เลยหากเขาต้องการการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพเขาจำเป็นต้องให้เวร่าถอดเสื้อผ้าออกเพื่อที่เขาจะได้ใช้นิ้วในการคลำจุดในการดำเนินการรักษาอาการป่วย
“ช่วยถอดเสื้อออกหน่อยได้ไหม ?” ซูเถาถามเธอดู ซึ่งหากเวร่าไม่ยอมเชื่อใจเขา เขาก็ต้องทำการรักษาไปทั้งๆอย่างงั้น ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพในการรักษานั้นลดลง
“ถอดเสื้อออกงั้นเหรอ ?” เวร่าขมวดคิ้ว
“ก่อนหน้านี้ผมได้บอกคุณไปแล้วว่าให้เชื่อใจผม” ซูเถาพยักหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณเป็นผุ้ป่วยและผมเป็นหมอ”
ถึงแม้เวร่าจะไม่ค่อยชอบใจนักแต่เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงชาวต่างชาติความคิดของหล่อนจึงค่อนข้างเปิดกว้างและอีกอย่างตอนนี้อยู่ในห้องส่วนตัวดังนั้นเธอจึงค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเธอออก , ชั้นใน และกางเกงในออก…
กลิ่นหอมของหญิงสาวผุดขึ้นในห้อง ซูเถามีประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษามานับสิบปีเขาจึงไม่รู้สึกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของผู้หญิงในสายตาเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าร่างกายของคนป่วย
อย่างไรก็ตาม..นีเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นร่างกายของหญิงชาวรัสเซียเวร่าค่อยๆหลับตาลงร่างกายของเธอนั้นโค้งเว้าอย่างได้รูป
ผมสีทอง ผิวสีขาวที่เปล่งปลั่งราวกับมุกใต้กระดูกไหปลาร้ามีภูเขาอันยิ่งใหญ่ที่มียอดสีขาวราวกับหิมะปกคลุมอยู่ ที่บริเวณหน้าท้องของเธอไม่มีไขมันส่วนเกินซักนิดเมื่อเธอหุบขาของเธอเบาๆเข้าด้วยกันมันกลายเป็นรูป 人 ซึ่งราวกับผลงานของศิลปินตัวจริงของแท้
ซูเถาสูดลมหายใจลึกๆและเพิ่มลมปราณของตนเองเขาได้กดนิ้วลงไปบนจุดเน่ยกวาน , เสินหมิน , เสินถิง , ป่ายฮุ่ย , เฟิงฉือ และจุดอี้หมิง โดยกดไปทั้งแปดจุด
“อ่า..”
หลังผ่านไปสิบนาที เวร่ารู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเธอนั้นดีขึ้นอารมณ์ด้านลบของเธอที่เป็นมานานนั้นได้หายไปแล้ว
หากมองในมุมของขอองการแพทย์จีนสาเหตุหลักที่เธอป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบนั้นเกิดจากโรคฮิสเทเรีย
การแพทย์ของจีนนั้นเป็นการแสวงหาความสมดุลระหว่างหยินและหยาง อาการของโรคฮิสเทเรียนั้นเป็นอาการป่วยทางจิตใจและการชะงักของตับ แม้ว่าจะสามารถจะควบคุมอารมณ์ระยะสั้นได้ด้วยการแพทย์ตะวันตก แต่อาการป่วยในใจนั้นไม่ได้รับการรักษา และด้วยอากาศที่หนาวเย็นทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบขึ้นอีกด้วย
ซูเถาพุ่งเป้าไปที่สาเหตุหากรักษาความเจ็บปวดที่ต้นเหตุย่อมต้องรักษาได้สำเร็จเป็นเรื่องธรรมดา
ซูเถาใช้การกดจุดเพื่อรักษาโรคหลอดลมอักเสบของเธอถึงแม้ว่าการใช้ยารักษาจะช่วยให้กระบวนการรักษานั้นเร็วขึ้นแต่อาการไอของเวร่านั้นก็ได้บรรเทาลงหลังผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง
กระบวนการรักษาด้วยการกดจุดนั้นจำเป็นจะต้องใช้ฉี (สารพื้นฐานที่ประกอบขึ้นเป็นโครงสร้างของมนุษย์และก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนของชีวิต) และเนื่องจากไม่มีเข็มเงินเป็นสื่อกลางในการรักษานั่นทำให้เขามีอาการอ่อนเพลียมาก
หากมีคนที่รู้วิธีการฝังเข็มพวกเขาจะรูว่าการกดจุดของซูเถานั้นต่างไปจากในตำราและนี่คือ จุดดรรชนีผนึกสวรรค์ ที่หายไป
ด้านนอกห้องมีหมอที่สีหน้าปกคลุมไปด้วยความกังวลและถังหมิงซึ่งทำลังคุยอยู่กับตี้ ชีหยวนด้วยรอยยิ้มจางๆ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น หมอนับร้อยถูกเด็กวัยรุ่นสั่งให้ออกจากห้องแล้วอย่างงี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?
ทั้งถังหมิงและตี้ ชีหยวนต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง ตราบใดที่สามารถรักษาหญิงชาวรัสเซียได้ ถังหมิงก็สามารถถถทำหน้าที่ของเขาให้เสร็จสิ้นได้อย่างน้อยในช่วงเวลาที่สำคัญถังหมิงก็ได้ให้ความร่วมมือซูเถาโดยการให้ซูเถาได้ลองรักษาดู
ถึงแม้ซูเถาจะรักษาเวร่าไม่ได้แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเพราะเขาไม่ได้เป็นคนพาซูเถามาในวงการแพทย์ตั้งแต่ที่เขาเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้นทั้งในการติดต่อกับผู้คนและในเรื่องต่างๆถังหมิงจึงมีชื่อเล่นว่า Smiling Fox
ซูเถาเปิดประตูออกมาด้วยอาการหมดเรี่ยวแรง พวกที่รออยู่ข้างนอกทั้งหมดก็ได้กรูกันเข้าไปตรวจคนไข้
“นี่มันปาฏิหารย์ชัดๆ คนไข้ลุกจากเตียงมาเดินได้แล้ว”
“ไม่มีอาการไอแล้วด้วย นี่เขารักษามันทั้งหมดโดยไม่ได้ใช้ยาเหรอเนี่ย”
มีเสียงประหลาดใจดังไปทั่ว
เนื่องจากเขาใช้ฉีในการกดจุดรักษาเป็นเวลานาน เขาจึงอ่อนพลียอย่างมาก ตัวเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ จ้าวหมิงเข้ามาพยุงเขาแล้วถามว่า “เป็นไงบ้าง”
ซูเถาตอบกลับ “ผมรักษาอาการของเธอได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นถ้าหากเธอต้องการการรักษาอย่างเต็มที่ก็ยังต้องรักษาในโรงพยาบาลต่อ”
จ้าวหมิงถามด้วยความประหลาดใจ “นายรักษาโรคหลอดลมอักเสบได้แล้วเหรอ”
ดูเหมือนคนๆนี้ชอบถามอะไรซ้ำๆ ซูเถาตอบกลับอย่างเออือมระอา “ผมไม่ต้องการพูดเรื่องที่พูดไปแล้วซ้ำสอง”
จ้าวหมิงตบต้นขาพลางหัวเราะ “ดูเหมือนความพยายามของเราจะไม่สูญเปล่า !’
หมอซูคนเก่าตายไปและหลานของเขาเป็นคนแก้ไขปัญหานี้ตอนแรกมันเป็นเรื่องยุ่งยากแต่สุดท้ายก้แก้ปํญหาได้ตอนนี้จ้าวหมิงรู้สึกอยากจะจูบซูเถาขึ้นมาแล้ว
ซูเถาถออนหายใจแล้วตอบอย่างอ่อนเพลีย “เรื่องที่ต้องทำก็จัดการไปเรียบร้อยแล้ว ผมต้องการพักผ่อน แล้วจะกลับมารักษาต่อพรุ่งนี้ ผู้ป่วยยังต้องการการรักษาอีก 2-3 วัน”
ในตอนนี้ ตี้ ชีหยวนได้เดินอออกจากห้องไป เขาเห็นซูเถามีสีหน้าอ่อนเพลีย “เสี่ยวจ้าว , พาหมอซูไปที่หอพัก จัดการให้เขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”
จ้าวหมิงไม่ค่อยได้เห็นด้านที่อบอุ่นของตี้ชีหยวนมากนัก
จากการยืนยันของถังหมิง อาการของเวร่าดีขึ้นมาก หลังจากรับค่ารักษา เขาก็จากไปอย่างมีความสุข หมอทุกคนที่นี่ต่างสาปแช่งถังหมิง เขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยซ้ำแต่ดันเก็บค่ารักษาซะได้
ซูเถาอ่อนเพลียอย่างมาก เตียงที่หอพักนั้นทั้งสะอาดและเรียบร้อย ทันทีที่หัวถึงหมอนเขาก็หลับอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ที่โรงพยาบาลเจียงหัวทุกๆคนกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับเทคนิคการรักษาอันสุดมหัศจรรย์ของเขา
ในห้องประชุมที่ถัดไปจากห้องของประธาน รองประธานและหัวหน้าทุกแผนกเข้าร่วมการประชุม
สีหน้าของตี้ ชีหยวนนั้นดูคลี่คลายลง เขามองไปยังเฉียว เต้อหาว
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของโรงพยาบาล ทุกคนทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจ้าวหมิง เขาได้แนะนำบุคคลที่มีทักษะอันยอดเยี่ยมในช่วงเวลาที่สำคัญ และแน่นอน ศาสตราจารย์ถัง คุณก็เช่นกัน”
เฉียวเต๋อหัวทำหน้าไม่พอใจหลังจากที่ได้ยินตี้ชีหยวนพูดเช่นนั้นก่อนที่จะพูดเบาๆว่า “ประธานตี้ มีปัญหาบางเรื่องที่ผมทต้อองการจะชี้ให้เห็น เรายังไม่แน่ใจว่าซูเถานั้นมีใบรับรองเวชปฏิบัติหรือไม่ มันเสี่ยงมากถ้าหากการรักษาล้มเหลว ผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยนะ มันผิดกฏ”
หลังจากได้ยินที่เฉียวเต้อหาวพูด ตี้ชีหยวนได้ตอบกลับไปเบาๆ “เต๋อหาวสหายข้า , ระบบนั้นได้ตายไปในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ นายไม่เคยได้ยินคำพูดของหัวหน้าเฉามาก่อนเหรอ เราต้องรั้งเขาไว้หากเราเสียเขาไปให้กับโรงพยาบาลอื่นเป็นก็จะเป็นที่น่าเสียดายมาก อย่างไรก็ตาม หัวข้อการประชุมในวันนี้ก็คือการเชิญซูเถาเข้ามาเป็นหมอประจำโรงพยาบาลของเรา”
สีหน้าของเฉียวเต๋อหัวเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ก่อนที่เขาจะเตือน “ในตอนนี้ คนที่จเป็นเจ้าหน้าที่ของเราจำเป็นต้องผ่านการทดสอบคุณกำลังทำลายระบบนั่นอยู่”
การจัดการปฏิการต่างๆของโรงพยาบาลนั้นจัดการโดยตี้ชีหยวน แต่อำนาจในการจัดการทรัพยากรบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับเฉียวเต้อหาว ดังนั้น จึงต้องสร้างกลุ่มของตนเอง
ตี้ชขีหยวนมองไปยังเฉียวเต้อหัวและพูดว่า “แม้ว่าเราจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ แต่เราก็ต้องให้ความสำคัญกับพรสวรรคื ถึงแม้โรงพยาบาลนี้มีหมอมากมาย แต่มทีกี่คนกันที่ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม”
หลังจากได้ยินคำพูดนั้น ในห้องประชุมก็เกิดการโต้เถียงกัน ปากของประธานก็ได้เปลี่ยนสีเป็นสีม่วงอีกครั้ง
หลังจากที่ตี้ชีหยวนได้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในห้องประชุมเนื่องจากคำพูดของเขา ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เฉาจุนโทรมา หลังจากที่รับสายเขาก็ออุทานด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ ? เลขาณุการกรรมการเทศบาลจางกำลังมางั้นเหรอ โอเค เดี๋ยวผมจะไปรับเขาเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากผ่านไปราวๆสิบนาที รถของธนาคารพาณิชย์ขับเข้ามาจอดหน้าโรงพยาบาล ที่เดินอยู่ด้านหน้าคือเลขาฯเทศบาลจางปิง กับผู้ติดตามของเขาเฉาจุน
ตี้ชีหยวนเดินไปจับมือกับจางปิง ก่อนที่เขาจะพาไปยังห้องพัก VIP ที่เวร่าพักอยู่
เวร่าสวมใส่ชุดผู้ป่วย ปัดแก้มสีกุหลาบ ม่านตาของเธอเปล่งประกาย ถึงแม้จางปิงจะเป็นคนที่มีกิริยามารยาทท่าทางดี แต่เมื่อเขาเห็นเวร่า ซึ่งถึงแม้ว่าจะสวมชุดผู้ป่วยอยู่ก็มิอาจที่จะกลบรัศมีความงามของเธอได้ เขาอึ้งไปกับความงานที่เขากำลังเผชิญอยู่
เมื่อเขาเห็นเวร่าฟื้นจากอาการป่วย เขายิ้มอย่างมีความสุข “มิสเวร่า นับเป็นข่าวดีที่คุณฟื้นจากอาการป่วย พวกเรางานยุ่งมากจนไม่มีเวลามาเยี่ยมคุณเลย ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ”
เวร่าพยักหน้าพลางตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆ “เลขาจาง , ที่หางโจวได้ทำให้ชั้นประทับใจโดยเฉพาะหมอหนุ่มผู้เก่งกาจ เทคนิคการรักษาของเขาได้เปิดโลกใหม่ให้แก่ชั้น ชั้นได้ตัดสินใจแล้วว่าจะดำเนินการลงทุนที่นี่และพักอยู่ที่นี่ซักระยะนึง”
เวร่ารู้ดีว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการรักษาโรคของเธอให้หายขาด
จางปิงรู้สึกประหลาดใจมาก เขาคิดไม่ถึงว่าโปรเจคการลงทุนมูลค่าหลายร้อยล้านจะตกลงได้ง่ายขนาดนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าเรื่องนี้จะสร้างประสบการณ์แย่ๆให้กับเวร่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าโรงพยาบาลในเจียงหัวจะทำการรักษาหล่อนได้และทำให้เธอเกิดความประทับใจในหางโจว
จางปิงให้สัญญาทันควัน “รัฐบาลจะอำนวยความสะดวกให้ดีที่สุดแก่ผู้ลงทุนต่างชาติที่ตั้งใจจะลงทุนในหางโจวเราจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การลงทุนให้กับคุณเอง”
เวร่าพยักหน้า “ชั้นจะแนะนำหางโจวให้กับเพื่อนของชั้นเพื่อที่พวกเขาจะได้สนใจที่นี่มากขึ้น”
คำพูดของเวร่าทำให้จางปิงดีใจอย่างมาก หลังจากที่เขาออกมาจากห้อง เขาได้ถามเฉาจุน “ใครเป็นคนรักษาเวร่า ? เขาได้สร้างบุญคุณอย่างใหญ่หลวงให้กับหางโจว ชั้นขอพบกับเขาได้มั้ย ?”
เฉาจุนมองไปยังตี้ชีหยวนซึ้งเขายิ้ม “ท่านเลขาฯ ชื่อของเขาคือซูเถา เป็นหมอหนุ่มซึ่งมีส่วนร่วมกับเหตุการณครั้งนี่เป็นพิเศษ ซึ่งในตอนนี้เขาอ่อนล้าเนื่องจากการรักษาเวร่า ในตอนนี้เขากับลังพักผ่อนอยู่”
ตี้ชีหยวนมีทักษาการพูดซึ้งทำให้จางปิงนั้นเชื่อว่าซูเถาเป็นหมอของโรงพยาบาลนี้
จางปิงถอนหายใจ “ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ไม่เป็นไร คงได้พบกันถ้ามีโอกาส คุณต้องดูแลหมอหนุ่มมากพรสวรรค์คนนี้ให้ดีล่ะ”
“แน่นอนครับ”
หลังจากที่เขาส่งเลขฯจาง ก็ได้หันกลับมามองเฉียวเต๋อหัวอีกครั้ง เขาไม่กล้าที่จะมองตี้ชีหยวนอีกต่อไป เขาได้แตะไปที่นาฬิกาข้อมือของเขาจนเป็นนิสัย
ในการเผชิญหน้าครั้งนี้ ดูเหมือนตี้ชีหยวนจะเป็นฝ่ายชนะ โดยเป็นผลมาจากกาคำพูดของเลขาฯจาง เฉียวเต้อหาวจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธการรับซูเถาเข้ามาเป็นหมอของโรงพยาบาล
ในตอนนี้ ปัญหาของตี้ชีหยวนคือการโน้มน้าวให้ซูเถาตกลงที่จะเป็นหมอของโรงพยาบาล เขาได้เอามือกุมคางของเขาพร้อมทั้งคิดแผนการต่อจากนี้