บทที่ 67 นิ้วมหัศจรรย์
ลูกพี่ไนฟ์มองไปยังเฉียวโบ เขารู้สึกรำคาญเสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกสาวๆที่อยู่ด้านหลัง เหตุผลที่เขามาที่นี่ก็เพื่อรับเงินค่าจ้างที่เขาจะได้เนื่องจากตัวเขาเองนั้นไปติดหนี้พนันเอาไว้ที่บ่อนในมาเก๊า ถ้าไม่รีบใช้หนี้เขาจะโดนตามล่า
ด้วยกำลังของเขา ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เขาจะหนีไปซ่อนตัวจากพวกที่ไล่ตามมา แต่เขาไม่ชอบที่จะต้องหนีหัวซุกหัวซนโดยปราศจากอิสระ นอกจากนี้ลูกพี่ไนฟ์ยังมีงานเหลืออีกตั้ง 2 งาน เขาจึงอยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เขาค่อยๆยกมือขึ้นก่อนจะอัดไปยัง รปภ.ที่ตัวสูง 5.9 ฟุต ทำให้รปภ.คนดังกล่าวกระเด็นไปโดนเพื่อนรปภ.อีกคน ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว
รปภ.คนอื่นต่างก็หวาดกลัว แต่พวกเขาก็ได้รวบรวมความกล้าชักกระบองออกมา อย่างไรก็ตาม ลูกพี่ไนฟ์ได้จับกระบองเหล่านั้นงอเล่นเหมือนพลาสติคก่อนจะโดนมันลงไปบนพื้น
รปภ.ที่เหลือต่างก็ตกใจเมื่อได้เห็นพลังของเขา พวกเขาถอยห่างออกมา 2-3 ก้าวด้วยความกลัว ก่อนที่ลูกพี่ไนฟ์จะถุยน้ำลายลงพื้นและอัดพวกที่เหลือกะเด็นไปอย่างง่ายดาย
เขาไม่ใช่แค่คนธรรมดา เขามีระดับฝีมือสูงมาก ทุกๆการเคลื่ออนไหวของเขาสามารถจัดการคน 1 คนได้อย่างง่ายดาย ผู้จัดการล็อบบี้ดูหวาดกลัวจนแทบจะลงไปนั่งบนพื้น
เป้าหมายของเขาอยู่ที่ซูเถา และสายตาของเขาก็จับจ้องไปยังมือของซูเถาตลอดก่นอที่จะพุ่งเข้าไปหาเขา จากประสบการณ์เฉียดตายมาอย่างโชกโชน เขารู้สึกถึงความอันตรายจากมือของซูเถา
ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากมันไม่สนุกที่จะจัดการกับพวกที่อ่อนแอเหมือนแมลงวัน เขาชอบสู้กับคนเก่งๆเพราะมันทำให้เขาสนุก
มันเป็นมือที่เพรียวและบอบบางดูเปล่งประกายเหมือนกับไข่มุก
ลูกพี่ไนฟ์ตั้งใจจะเข้าไปตัดมือของซูเถาออกมาเพื่อเป็นที่ระลึก
ซูเถาเข้าสู่โหมดจริงจัง เขาไม่สามารถประมาทคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ เขาคิดว่าตัวลูกพี่ไนฟ์คงจะมีพื้นฐานการต่อสู้ที่ฝึกมาอย่างดี และเทคนิคการต่อสู้ของเขาก็เป็นหนึ่งกับการเคลื่อนไหวธรรมดาไปแล้วด้วย
ซูเถากำลังหาโอกาศเหมาะๆอยู่ เนื่องจากหนึ่งในลูกน้องของอีกฝ่ายได้เตือนว่ามีเข็มอยู่ในมือของซูเถา ถ้าเขาลงมือครั้งแรกไม่สำเร็จ คงไม่มีโอกาสที่สองสำหรับเขา
ทันใดนั้น ลูกพี่ไนฟ์ก็ได้พุ่งเข้าประชิดตัวซูเถา พวกที่ยืนขวาอยู่ระหว่างกึ่งกลางได้หลบออกไปกันหมด หากใครที่คิดขวางก็จะถูกลูกพี่ไนฟ์อัดกระเด็น
เมื่อพวกเขาเข้าประชิดกัน ลูกพี่ไนฟ์ก็ได้ปล่อยหมัดที่เต็มไปด้วยความดุร้ายไปที่หน้าของซูเถา ความเร็วของหมัดทำให้เกิดลมที่คมเหมือนกับใบมีด หากหมัดนั่นเข้าเป้า หัวของซูเถาคงเละแน่ๆ
ซูเถาสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหลบหมัดที่พุ่งเข้ามาเฉี่ยวจมูกไปเพียง 1 ซม.เท่านั้นและสวนหมัดขวาเข้าไป แววตาของลูกพี่ไนฟ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจก่อนจะเปลี่ยนท่ากะทันหัน เขาก้มตัวลงแล้วเตะไปยังท้องที่ซูเถา ก่อนที่จะมีแสงสีเงินสว่างวาบขึ้นมาพร้อมๆกับเข็มเงินที่ปักออยู่บนผนัง
ลูกพี่ไนฟ์สบถออกมา เขาเกือบจะโดนเข็มเงินนี่เล่นงานเข้าให้แล้ว
หลังจากโดนลูกเตะเข้าไป ซูเถาได้ถอยออกมาตั้งหลัก เขารู้สึกว่าเลือดในตัวนั้นกำลังเดืออดพล่าน หลังจากปรับจังหวะของตัวเองอยู่พักนึง เขารู้สึกได้ว่าลูกพี่ไนฟ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะเคี้ยวง่ายๆซะแล้ว
ลูกพี่ไนฟ์ทำท่าทางเยาะเย้ย เนื่องจากเขาเคยต่อสู้ระยะประชิดกับพวกที่ชอบใช้อาวุธซ่อนเร้นมามาก เขาดึงมีดที่ซ่อนไว้ออกมาจากขาก่อนจะกลิ้งตัวเข้าไปและเล็งฟันที่ข้อเท้าของซูเถา
ซูเถาหลบได้หวุดหวิด หากช้าไปเพียงเสี้ยววิ เขาอาจจะกลายเป็นคนพิการไปแล้ว
ลูกพี่ไนฟ์ระเบิดพลังออกมา เขาคำรามขู่ก่อนจะหัวเราะ
“โฮ่ ?” ลูกพี่ไนฟ์รู้สึกแปลกใจที่ซูเถาสามารถหลบการโจมตีของเขาได้อีกครั้ง ซูเถาถอยกลับมาตั้งหลัก ‘ทักษะแห่งแสง‘ ช่วยเพิ่มกำลังขาได้ แปลว่ากำลังขาของซูเถานั้นถือได้ว่าค่อนข้างดี เพราะเขามาสามารถหลบการโจมตีครั้งที่ 2 ได้
เขาหัวเราะเยาะก่อนจะพุ่งเข้าไปอีกครั้ง รัศมีของคมมีดได้กวัดแกว่งไปจนทำให้ผนังเป็นรอย
ทุกคนที่มุงอยู่รอบๆได้ถอยห่างออกไปหมด เนื่องจากกลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย
นี่เป็นทักษะที่ลูกพี่ไนฟ์มีอยู่ ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะเข้าไปเล่นงานเขา
ซูเถารู้ว่าอีกฝ่ายคงจะหมดแรงไปเรื่อยๆหากยังกวัดแกว่งมีดต่อไปและเขาก็หลบมันได้เรื่อยๆ จากนั้น เขาได้สะบัดนิ้วก่อนจะปล่อยเข็มออกไป 2 เล่ม ถึงมันจะดูไร้ประโยชน์ แต่มันก็ทำให้การแกว่งมีดนั้นช้าลง
พื้นที่ต่อสู้นั้นค่อนข้างแคบ ซึ่งซูเถาก็ไม่ได้มีโอกาสชนะมากนัก ลูกพี่ไนฟ์ได้ไล่ต้อนซูเถาจนติดมุมห้อง ทำให้ซูเถาอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบมากกว่าเดิม
ในที่สุดซูเถาก็ติดกับ ! ลูกพี่ไนฟ์ยิ้มพลางควงมีดที่อยู่ในมือ เขาค่อยๆเคาะเข็มเงินออกก่อนจะเดินเข้ามาที่ซูเถา เขาเล็งก่อนที่จะฟันลงไปหมายจะตัดมือขวาของซูเถาออก
แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ชักมีดกลับก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปทางประตู
ซูเถาถอนหายใจก่อนจะมองไปที่คนแก่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ชายแก่ผมขาวคนนั้นยืนถือพัดอยู่
หยานจิ้งรู้สึกโล่งใจก่อนจะกล่าวขึ้น “ผู้เฒ่าหยาน ขอบคุณมาก”
ชายแก่คนนี่ชื่อว่า หยานอู๋จิน ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง สมัยหนุ่มๆเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญหมัดแปดกำปั้น ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาฝึกไท่เก๊กและเมื่อเขาอายุ 60 ก็ได้สำเร็จวิชาไท่เก็กชั้นสูงเช่นกัน
หยานอู๋จินส่ายหัวก่อนจะอธิบายกับหยานจิ้ง “ศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นดูจะรุนแรงมาก ถ้าชั้นอายุน้อยกว่านี้ก็สามารถจับเขาเอาไว้ได้แล้ว แต่ตอนนี้การทำให้เขากลัวจนหนีไปก็ดูจะเป็นสิ่งที่ชั้นทำได้ดีที่สุด”
ผู้จัดการล็อบบี้เช็ดเหงื่อที่หน้าก่อนจะเข้าไปหาหยานจิ้ง “ประธานหยาน ผมต้องขอโทษจริงๆ ที่สร้างปัญหาให้กับคุณในครั้งนี้”
หยานจิ้งกวาดสายตามองอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ความผิดของนายหรอก บางคนอาจจะถ่ายรูปของเขาเอาไว้ได้ ไว้ค่อยไปตามจับตัวในวันหลังแล้วกัน”
เห็นได้ชัดว่าบอสของคาราโอเกะนี่ไม่ใช่ใครอื่น หยานจิ้งนั่นเอง ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบริกรถึงได้เอาเหล้าและกับแกล้มมาเสิร์ฟแถมยังเติมบัตรสมาชิกให้หยูโบอีกด้วย
“ชั้นต้องจับมันมาให้ได้ ! อย่างน้อยตอนนี้มันก็คงไม่กล้ามาเหยียบฮั่นโจวซักพัก” หยานอู๋จินเป็นผู้เชี่ยวชาญที่หยานจิ้งเรียกมา เขามองไปที่ซูเถาอย่างรวดเร็วก่อนจะจากไป
ซูเถารู้สึกได้ ถึงแม้หยานอู๋จินจะดูเหมือนกับคนธรรมดา แต่เมื่อเขาออกไป แขนเสื้อของเขากระเพื่อมเล็กน้อย มันเป็นสัญญาณของพลังฉีที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งแม้ว่าซูเถาจะสามารถใช้พลังฉีได้เช่นกัน แต่มันก็ยังมีความแตกต่างอยู่บ้าง
ซูเถานั้นเป็นแพทย์ และศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นมักจะใช้พลังและร่างกายเป็นหลัก มันต่างกับผู้เชี่ยวชาญอย่างหยานอู๋จินที่สู้กับลูกพี่ไนฟ์เมื่อกี้
ปรมาจารย์อย่างหยานอู๋จินมักจะใช้ชีวิตแบบสันโดษเสมอ ซึ่งเหตุผลที่หยานจิ้งเรียกเขามาก็เพื่อแสดงอำนาจของเธอนั่นเอง
เฉียวโบงงไปหมด เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆลูกพี่ไนฟ์ถึงได้วิ่งหนีออกไป ก่อนหน้านี้เขารู้สึกสะใจที่ลูกพี่ไนฟ์ไล่ต้อนซูเถาได้ แต่จู่ๆมันก็ถูกตัดจบ คล้ายกับอาการหลั่งเร็วตอนที่มีเซ็กส์
ยาในตัวเซี่ยเหอนั้นได้ไหลเวียนในตัวเธอไปทั่วจนเธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ เธอลงไปนอนขดตัวเหมือนกับลูกบอลและนอนครางก่อนจะฉีกเสื้อออกเผยให้เห็นเนินออกที่ขาวราวกับไข่มุกของเธอ
ซูเถารีบเข้าไปดูอาการอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้นิ้ววนไปรอบๆจุดฝังเข็ม 2-3 จุด เซี่ยเหอร้องออกมาแป๊ปนึงก่อนจะสลบไป
เมื่อซูเถามองไปยังใต้กระโปรงของเธอ เขาถอนหายใจเมื่อเห็นว่าใต้กระโปรงนั้นมีรอยแฉะ มันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ
เสียงกรี้ดครั้งสุดท้ายของเซี่ยเหอดูจะเจ็บปวด มันคล้ายกับการร้องไห้ แต่มันก็มีความยั่วยวนปนอยู่ด้วยซึ่งอาจจะทำให้เผลอคิดไปไกลได้
มีคำกล่าวไว้ว่าการรักษาอาการป่วยก็เหมือนกับการรักษาแม่น้ำ ควรจะปล่อยให้ไหลไปโดยที่ไม่ปิดกั้น
ก่อนหน้านี้ ซูเถาได้สัมผัสไปยังจุดฝังเข็มบนร่างกายส่วนล่างของเธอ หากเธอเพิ่งโดนวางวา ที่เขาต้องทำมีเพียงให้เธออาเจียนมันออกมาเท่านั้น
แต่เนื่องจากตัวยานั้นได้ไหลเข้ากระแสเลือดหมดแล้ว ทางเดียวที่จะรักษาได้คือการให้เธอไปถึงจุดสุดยอดเท่านั้น
เขาทำมือ ‘OK’ ไปทางจ้าวเจี้ยน ก่อนที่หยานจิ้งจะมองไปที่นิ้วของเขา ไม่รู้ว่าหยานจิ้งจะเข้าใจอะไรผิดไปอีกหรือเปล่า ?
ซูเถาได้ทำให้เซี่ยเหอถึงจุดสุดยอด ไม่งั้นเธอก็จะต้องทรมานเนื่องจากฤทธิ์ของยา มันจะทำให้เธอไม่รู้สึกออะไรอีก ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างโหดร้าย ซูเถาจึงได้เลือกวิธีที่ง่ายที่สุดในการรักษาเธอ เพื่อปลดปล่อยตัวเธอออกมา
ซูเถามีเจตนาที่บริสุทธิ์ในการรักษาเธอ แต่ทุกคนที่กำลังมองดูอยู่ต่างก็สงสัยกันไปหมด ราวกับว่ากำลังตั้งคำถามว่าทำอะไรกับผู้หญิงไปในที่สาธารณะเช่นนี้ ?
โชคดีที่ซูเถานั้นเป็นคนหน้าด้านพอ เขาเช็ดมือก่อนจะเดินไปที่เฉียวโบ เฉียวโบถอยกลับออกมาอย่างประหม่า แต่ซูเถาได้เข้าไปคว้าคอเขาไว้ เมื่อทำให้ขาอ่อนจนถึงขนาดจะลงไปนอนบนโซฟา เฉียวโบพยายามดิ้น แต่ซูเถาได้ชกเข้าไปที่ท้องเบาๆ ทำให้เขาตาเหลือกเหลือแต่ตาขาวจนถึงขนาดอยากจะอ้วกออกมา แต่เขาก็ไม่รูว่าซูเถาทำอะไรลงไป เขารู้สึกว่าเหมือนคอถูกบีบเอาไว้ ทรมานแทบตาย
ซูเถาพาเฉียวโบเข้าไปในห้องน้ำ แล้วจัดการล็อกประตูเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาขวาง
“แกตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ?” เฉียวโบถาม เขารู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นแทบจะควบคุมไม่ได้ด้วยซ้ำราวกับโดนผีอำ
ซูเถาดึงมือถือออกมาจากกระเป๋าของเฉียวโบก่อนจะตอบกลับ “วีดีโอคอลหาเมียแกเดี๋ยวนี้”
“แกจะทำอะไร ?” สายตาของเฉียวโบดูหวาดกลัวและเต็มไปด้วยความหวาดระแวง
ซูเถายิ้ม “แกบอกเองใช่มั้ยว่าจะไลฟ์สดไปหาเมียแกน่ะ ? ชั้นเลยจะจัดให้ตามคำขอ ให้เมียแกได้ดูวีดีโอมันส์ๆซักหน่อย”