Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก – ตอนที่ 23 ประวัติศาสตร์ยาวนาน อันดับ 9 ในแดนสวรรค์

ถามว่าเหมิงเหล่ยรวยเหรอตอนนี้ ก็เปล่า ไม่ใช่เลย ตอนนี้เขามีเงินอยู่ทั้งหมดแค่ 2306 เหรียญทองเท่านั้น รวมไปถึงเงิน 5000เหรียญทองต่อปี ที่เป็นทุนการศึกษาที่ยังไม่เข้ากระเป๋าเขาด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าตอนนี้สถานะทางการเงินของเขายังเทียบไม่ได้กับพวกคนชั้นสูงหรือพ่อค้าแม่ค้าที่รวยเป็นกอบเป็นกำ แต่อย่างน้อยมันก็รวยกว่าพวกชาวบ้านที่ปากกัดตีนถีบหาเช้ากินค่ำไปวัน ๆ แน่ ๆ
แต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็นอีกเหมือนกัน
ประเด็นของเขาก็คือ เงินทั้งหมดที่เขาได้มานั้น มันสามารถหาได้ง่ายๆจากการแค่เก็บของตามถนนไปเรื่อยๆ ซึ่งเขาสามารถหาใหม่ได้ตลอดเวลา
เหมิงเหล่ยนั้นใช้ระบบไล่เก็บของทุกอย่างตลลอดทางมาตั้งแต่เข้าเมืองหลวงมา ทั้งเหรียญทอง ลูกผลึกค่าความสามารถ เวทมนตร์ และเขาก็ยังเก็บทักษะการต่อสู้ได้เพิ่มมาอีกตั้ง 3 ทักษะด้วย
ยิ่งคนเยอะมากเท่าไร ของดรอปก็ยิ่งมีเยอะมากขึ้นเท่านั้น
และในเมืองหลวงแห่งอาณาจักรมังกรไฟ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือคนจำนวนมาก แล้วยิ่งเป็นช่วงที่วิทยาลัยต่างๆกำลังจะเปิดยิ่งแล้วใหญ่เข้าไปอีก เพราะจะมีคนจากทั่วทุกสารทิศ ดาหน้ากันเข้ามาที่เมืองหลวงแห่งนี้
ซึ่งคนพวกนั้นก็จะดรอปไอเทมให้เขาเก็บได้หมดเลย ถือว่าเป็นกำไรที่เข้ามาอย่างไม่ขาดสายของเหมิงเหลล่ย
เพราะแบบนั้นเองทำให้เขาเก็บของทุกอย่างมาตั้งแต่เข้ามาในเมืองหลวง เพียงแค่ไม่กี่วัน ทั้งตัวของเขาก็เต็มไปด้วยของมากมายที่เขาเก็บขึ้นมา รวมไปถึงค่าความสามารถของเขาก็เปลี่ยนไปด้วย
เจ้าของ เหมิงเหล่ย
เผ่าพันธุ์มนุษย์
ความมั่งคั่ง 2306 เหรียญทอง
ค่าร่างกาย นักรบระดับ 3 (502/1000)
ค่าวิญญาณ นักเวทระดับ 2 (213/500)
ค่าพลังเวทมนตร์ นักเวทระดับ 1 ( 199/200)
และอื่นๆที่เพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย
ตอนนี้เงินที่เขาได้มาเพียงแค่ไม่กี่วัน ก็มากกว่าที่เขามีถึง 2 เท่ากว่าๆ
ค่าร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งระดับนักรบระดับ 3 แล้ว
ค่าพลังวิญญาณของเขายังไปถึงระดับนักเวทระดับ 2 อีก
ค่าพลังเวทก็เหลืออีกแค่นิดเดียวก็จะเลื่อนขั้นไปเป็นจอมเวทระดับ 2 แล้วด้วย
ส่วนเรื่องทักษะการต่อสู้ เขาเดินๆอยู่ๆ จู่ๆก็เจอดรอปมาตั้ง 3 อัน
หึหึ เมืองหลวงนี้สมกับเป็นสถานที่ ที่พวกเศรษฐีคนรวยกับพวกคนเก่งๆมาอยู่รวมตัวกันจริงๆ แค่ไม่กี่วันก็เก็บของมาได้เยอะขนาดนี้ ลองคิดดูซิว่าถ้าอนาคตอยู่ที่นี้ จะมั่งมีขนาดไหน
เมืองหลวง…. คิดถูกจริงๆที่มาที่นี่ตั้งแต่แรก
เหมิงเหล่ยพอใจกับผลงานของเขามากวันนี้ และเขาเชื่อด้วยว่าในอนาคต เขาต้องได้ของมามากกว่านี้แน่ๆ!
ดังนั้น เขาจึงคิดที่จะเอาเงินเล็กๆน้อยๆ มาช่วยเพื่อนที่ขัดสนด้านการเงินทั้ง 2 คนให้พวกเขาได้อยู่ร่ำเรียนต่อที่เมืองหลวงแห่งนี้
เหมิงเหล่ยคิดในใจเรื่องนี้ ถ้าเกิดโจเซฟกับแอนดริวขยันซักหน่อย พวกเขาเองก็คงกลายไปเป็นระดับนักรบฝึกหัดได้ภายในปีนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาเองก็น่าจะหาเงินได้ไม่ยากกันแล้วฃ
หลังจากที่พวกเขาหาเงินเลี้ยงดูส่งเสียตัวเองเรียนจนจบได้ พอหลังจากเรียนจบไม่ว่าก่อนหน้านั้นจะอ่อนแค่ไหน แต่พวกเขาก็น่าจะกลายไปเป็นนักรบระดับ 4 ได้ไม่ยาก
สำหรับนักรบระดับ 4แล้ว เงินแค่ 200 เหรียญทองไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาเลย เพราะงั้น ไม่ต้องเป็นห่วงว่าพวกเขาจะหาจ่ายคืนไม่ได้
พูดง่ายๆก็คือ ถ้าฉันให้พวกเขายืมเงิน 200เหรียญ ฉันก็จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกเขาทั้ง 2 คนได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเลย
แต่ถึงอย่างนั้น พอพวกเขาได้ยินว่าเหมิงเหล่ยกำลังคิดอะไรอยู่ สีหน้าประหลาดใจและตกตะลึงของทั้ง ฮัดเดอร์โจน่าห์ โจเซฟและแอนดริวก็ปรากฏขึ้นมาทันที พวกเขาคิดว่าพวกเขาหูฝาดไปซะด้วย
“เหมิงเหล่ย นี้เจ้าไม่ได้พูดเล่นกันใช่ไหมเนี่ย”
ฮัดเดอร์มองหน้าเหมิงเหล่ยแล้วพูด “ข้ารู้ว่าเจ้าได้ทุนการศึกษามา 5000เหรียญทองต่อปี แต่การฝึกเวทมนตร์น่ะมันมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านักรบมากเลยนะ แค่5000เหรียญทองนั้นก็แทบจะไม่พอซื้อยาเวทกับพวกอุปกรณ์เวทมนตร์แล้วด้วยซ้ำ”
“กัปตันครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ ข้ารู้ตัวดีว่ากำลังพูดอะไรอยู่”
เหมิงเหล่ยพูดแล้วมองโจเซฟกับแอนดริว “ข้าเองก็ไม่ได้มั่งมีอะไรมาก เพราะงั้น ข้าคงจะช่วยพวกเจ้าเรื่องนี้ได้แค่ปีเดียว หลังจากปีแรกผ่านไป พวกเจ้าเองก็ต้องพึ่งตัวเองแล้วนะ ถ้าพวกเจ้ากลายเป็นนักรบฝึกหัดได้ภายในปีแรก เรื่องการหาเงินก็คงไม่ได้ยากแล้วละ”
“พี่ใหญ่เหมิงเหล่ย…”
คำพูดของเขาจับใจของทั้งโจเซฟและแอนดริวจนพวกเขาร้องไห้โฮออกมาอย่างหนัก อารมณ์ของพวกเขาขึ้นๆลงๆมากในวันนี้
“พวกเจ้าจะร้องไห้ไปเพื่ออะไรละ จำคำของเหมิงเหล่ยไว้ก็พอแล้ว หลังจากที่เข้าไปร่ำเรียนแล้วก็จงตั้งใจขยันฝึกฝน พวกเจ้าต้องเป็นนักรบฝึกหัดให้ได้ในปีเดียว….”

ด้วยการช่วยเหลือของเหมิงเหล่ย ทำให้ทั้งโจเซฟและแอนดริวสมัครเข้าโรงเรียนนักรบได้สำเร็จ
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นโรงเรียนนักรบชั้นกลางทั่วๆไป แต่ปรกติมันก็ไกลเกินกว่าที่โจเซฟกับแอนดริวจะเอื้อมได้ถึงอยู่แล้ว พวกเขาเลยตั้งใจรักษาสัญญา ฝึกฝนตัวเองและขยันให้มากกว่านี้เพื่อจ่ายหนี้คืนให้เหมิงเหล่ยในอนาคต
ระหว่าง 2 วันนี้เอง ทั้ง5คนจึงอยู่สนุกสนานออกเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆในเมืองหลวง ชมวิวทิวทัศน์ทั่วเมือง และในขณะเดียวกัน เหมิงเหล่ยเองก็ไล่เก็บของที่ดรอปทั่วเมืองไปด้วย แล้วเขาก็ต้องอึ้งตะลึงกับความหรูหราและมีระดับของเมืองหลวง
ตอนแรกเขาคิดว่าโลกใบนี้เป็นโลกในยุคล้าหลังที่ทุกอย่างตัดสินกันด้วยกำลัง ไม่มีเทคโนโลยีหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใบๆ แต่เปล่าเลย เขาคิดผิด
อารยธรรมของจักรวรรดิเทพมังกรนั้นมีมานานกว่า1หมื่นปีแล้ว ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถึงแม้ว่าค่านิยมของคนสมัยนี้ยังตัดสินกันด้วยกำลังและความสามารถทางการต่อสู้ แต่ด้วยพัฒนาการของเวทมนตร์และออร่าสงครามที่สืบทอดกันมาเรื่อยๆ ทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีก็ถือกำเนิดขึ้นในที่สุด
ซึ่งบนโลกนี้ สิ่งนั้นถูกเรียกว่าเครื่องมือเวทมนตร์
สำหรับชาวบ้านตาดำๆที่อยู่ชนชั้นล่างสุดของฐานันดรนั้นไม่มีทางได้จับหรือแม้แต่เห็นอุปกรณ์เวทมนตร์ด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น พวกเครื่องมือเวทมนตร์เหล่านี้กลับเป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มชนชั้นกลางหรือชนชั้นสูงยกตัวอย่างเช่น
อุปกรณ์เก็บของเวทมนตร์อย่าง แหวนมิติ กำไรมิติหรือเข็มขัดมิติ
อาวุธเวทมนตร์อย่าง ปืนใหญ่เวทมนตร์ ปืนอาคม หรือ หุ่นเชิดเวทมนตร์
หรือสิ่งของในชีวิตประจำวันอย่าง ตะเกียงเวทมนตร์ รถม้าพลังเวท หรือ พรมวิเศษ
และอื่นๆมากมายระรานตาจนนับไม่ถ้วน
ซึ่งสิ่งของ ของโลกนี้นั้น มันต่างออกไปจากอารยธรรมบนโลกเก่าอย่างชัดเจน มันเปิดหูเปิดตาเหมิงเหล่ยมากๆ และมันก็ทำให้เขาพอจะเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้นไปอีกเช่นกัน แต่แน่นอน ในใจลึกๆ เขาเองก็รู้สึกได้ ถึงความเหลื่อมล้ำที่มากมาย จนต้องยกคำจากโลกเก่าที่กล่าวว่า “เนื้อและเหล้าในมือคนรวยถูกกินอย่างทิ้งขว้าง ในขณะที่คนจนไม่มีเงินแม้แต่จะกินนอนอดตาอยู่ข้างถนน”
โลกใบนี้มีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำสูงมากๆ มีเพียงคนแค่หยิบมือเท่านั้นที่จะครอบครองทรัพยากรทุกๆอย่างที่จะหาได้ และใช้ชีวิตสุขสบายท่ามกลางกองเงินกองทอง
ในขณะที่คนส่วนมากอีกเกือบ 90 %นั้นเป็นคนจนที่ทำงานหลังคดหลังแข็ง เป็นชนชั้นล่างสุดในระบบฐานันนดร ต้องทนทุกจากการกดขี่อย่างไม่เป็นธรรมจากเบื้องบน
หลังจากที่เขาเข้าใจโลกนี้มากขึ้นแล้ว แต่เหมิงเหล่ยนั้นก็ไม่ได้มีความตั้งมั่นที่จะอยากเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ล้มล้างระบบที่กดขี่นี้ทิ้ง สิ่งที่เขาคิดตอนนี้คือ ทำยังไงก็ได้ให้เขาเติบโตขึ้นมาโดยที่ไม่โดนกดขี่ หนีห่างออกไปจากระบบของชนชั้นล่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่สุขสบายกว่านี้ก่อน แน่นอนว่าหลังจากที่เขาแข็งแกร่งมีพลังมากพอแล้ว มันก็ยังไม่สายเกินไปที่เขาจะเปลี่ยนโลก และคืนความสวยงามของทวีปแดนสวรรค์กลับมาอีกครั้ง

วันว่างๆ 2 วันผ่านไปดั่งตาเห็น วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟเปิดภาคการศึกษาใหม่ขึ้นอีกครั้ง เหมิงเหล่ยบอกลาฮัดเดอร์และคนอื่นๆก่อนที่จะเข้าไปยังวิทยาลัยมังกร
ในฐานะที่เป็นวิทยาลัยเวทมนตร์ที่ดีที่สุดในอาณาจักร วิทยาลัยมังกรไฟนั้นมีประวัติการก่อตั้งมานานกว่า 2 หมื่นปี ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าวิทยาลัยนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อไรกันแน่ แต่ดูจากเอกสารที่บันทึกเกี่ยวกับวิทยาลัยนี้ มีอายุมานานกว่า 20000ปี ทำให้พอจะทราบอายุของมันได้บ้าง
ตลอด 20000 ปีมานี้ วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟนั้นได้รับการสนันสนุนจากทางอาณาจักรและจักรวรรดิอย่างมหาศาลทำมันพัฒนาอย่างรวดเร็วและกลายเป็น 1 ในวิทยาลัยเวทมนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในแดนสวรรค์
ตลอด 20000ปีมานี้ วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ ผลิตจอมเวทมนตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เวทมนตร์มานับไม่ถ้วน และมีจำนวนไม่น้อยที่กลายไปเป็นระดับเซียนเทพ บ้างก็เป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางชั้นสูง
หรือจะให้เป๊ะๆ คือ ราชาทั้ง 37 องค์ของจักรวรรดิมังกรไฟ และจอมเวทระดับเซียนเทพ ถึง 1169 คนตลอด 2หมื่นปี
วิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟนั้นอยู่อันดับ3 จาก 20วิทยาลัยทั่วจักรวรรดิเทพมังกร แลละอันดับ 9 จาก 100 อันดับวิทยาลัยเวทมนตร์ในแดนสวรรค์
ด้วยความที่วิทยาลัยนี้มีประวัติอันยาวนาย ในปีศักราชแดนสวรรค์ ที่ 44781 ตามปฏิทินแดนสวรรค์ วิทยาลัยแห่งนี้มีนักเรียนอยู่แค่ 600 คนเท่านั้น
ถ้าเฉลี่ย 6 ชั้นปีแล้ว ตกชั้นปีละ ไม่ถึง 100 คนซะด้วยซ้ำ
หรือว่ากันง่ายๆว่าใครก็ตามที่สมัครเข้ามาในวิทยาลัยเวทมนตร์มังกรไฟ ทุกคนที่เข้ามาได้นั้นต่างก็เป็นอัจฉริยะกันทั้งนั้น

Picking Up Attributes From Today

Picking Up Attributes From Today

Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก ในทวีปแดนสวรรค์ ทั้งเผ่ามังกร เผ่ายักษ์ เผ่าครึ่งสัตว์ เผ่าภูติ สัตว์เวทมนตร์ และเผ่าพันธ์อื่นๆต่างแย่งกันขึ้นเป็นใหญ่ เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นถูกกระทำเยี่ยงทาสและต้องใช้ชีวิตอย่างต้อยต่ำ ในขณะที่เผ่ามังกรนั้นถือตัวเองเป็นขุนนางกดขี่ในทุกๆด้าน แต่ถึงอย่างนั้น จุดเปลี่ยนก็ได้มาถึง ชายหนุ่มนามเหมิงเหล่ย มนุษย์ผู้ถูกส่งมาจากโลกมนุษย์ถูกส่งมาให้กลายเป็นแค่ ชาวบ้านธรรมดา แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้รับ ระบบเก็บของที่แข็งแกร่งที่สุด “ติ้ง ค้นพบไอเทมดรอป จะเก็บมารึไม่” จะเป็นเงิน สิ่งของ ไอเทม อาวุธ เวทมนตร์ ลมปราณ พลังวิญญาณ ระบบเก็บของที่แข็งแกร่งที่สุด (หรือยอดระบบเก็บของ) ก็สามารถเก็บได้ทุกอย่าง …. “จะฝึกเป็นจอมเวทหรือเป็นนักรบดีละ โว้ยเลือกยากจริง เป็นมันทั้ง2อย่างเลยละกัน” ตามติดชีวิตของเหมิงเหล่ยสู่การเดินทาง เปลี่ยนชะตาจากชีวิตชาวบ้านธรรมดา สู่ตัวตนที่เหนือทุกสรรพสิ่ง ได้ใน “ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset