ตัวของเทพายักษ์สีทองแดง สูง 4 เมตรกว่า ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและแกร่งเหมือนหินผา ดวงตาของเขาสว่างไสว พร้อมด้วยกระบองหนามในมือ ชุดเกราะสีทองหนารอบตัว และหมวกที่เหมือนไวกิ้งอยู่บนหัว เขาคือราชันต์นักสู้ที่ครองตําแหน่งมาได้นานถึง 3 ครั้งรวด นิโคลัสออสติน เทพายักษ์สุดแกร่ง
“ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปไกล เทพายักษ์นั้นมีเชื้อสายของเผ่าพันธุ์ยักษ์โบราณอยู่ในตัว เขามีพลังที่มหาศาล และเคยเป็นราชันต์นักสู้ผู้ครองสถิติได้มากถึง 3 ปีซ้อน เขาเคยปะทะแม้กระทั้งกับจักรพรรดินักสู้ในศึกใหญ่ที่เมืองหลวงจักรวรรดิปีที่ผ่านมา และยังทําผลงานได้ดีคว้าที่ 3 มาครอง” เสียงของพิธีกรพูดด้วยความตื่นเต้น “และวันนี้ เราจะมาดูกันนะคะ ว่านิโคลัสจะบดขยี้คู่ต่อสู้แล้วครองตําแหน่งตํานานราชันต์นักสู้ต่อไปได้ไม่”
“เทพายักษ์!”
“เทพายักษ์”
“เทพายักษ์!”
เสียงเชียร์ดังเหมือนเสียงฟ้าผ่า มันยิ่งปลุกระดมให้ทั้งสนามนั้นเลือดร้อนยิ่งขึ้นไปอีก เสียงกระแทกนั้นมันเพียงพอที่จะทําให้หูดับมึนหัวได้ง่ายๆเลย
ถ้าเทียบกันแล้ว แชมป์ราชันต์นักสู้ 3 สมัยซ้อนอย่างนิโคลัส ยังไงก็ต้องมีฐานแฟนคลับรวมถึงคนที่ติดตามเยอะกว่าอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่โอเด็นที่พึ่งมาเป็นราชันต์ได้ไม่นาน ไม่มีทางเทียบได้ ถึงแม้ว่าจะมีเลือดของขัตติยะอยู่ในตัวก็ตาม
“และในตอนนี้ ก็ถึงเวลาแล้วค่ะ การประลองเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!!”
พิธีกรกระพือปีกสีขาวแล้วออกจากสนามไปอย่างช้าๆ จากนั้นโอเด็นและนิโคลัสที่ยืนอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของลานประลองก็เริ่มขยับพร้อมกัน
โอเด็นกระพือปีกสีแดงฉาน พุ่งทยานความเร็วสูงจนเห็นแค่เส้นแสงสีแดงเพลิง เขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมากๆทําให้เสียงตะโกนของคนดูดังขึ้นไปอีก
ยาก!
นิโคลัสคํารามออกมาด้วยความโกรธ ใช้เท้าข้างนึงกระทืบพื้นอย่างรุนแรง แรงจนขนาดพื้นดินก็แตกออกจากกัน จากนั้นเขาก็ใช้แรงส่งจากการกระทืบส่งร่างขนาดมหึมากระโดดขึ้นสูงก่อนจะดิ่งตรงลงมาที่สนามประลอง
“เอาชนะมันซะโอเด็น”
“ฆ่ามันเลย!!”
ในตอนนั้นเอง เสียงตะโกนก็ดังขึ้นจนถึงขีดสุด ทุกคนกําลังจะเป็นบ้าไปหมด
บ้า บ้าไปแล้ว แฟนเดนตายพวกนี้บนโลกไหนมันก็มีซินะ เอ้ นั้นมันอะไรนะ
เหมิงเหล่ยสังเกตุเห็นลูกผลึกที่ดรอปออกมาอย่างบ้าคลั่ง จากเหล่าแฟนเดนตายพวกนั้น ดูจากสีแล้ว ส่วนมากเป็นผลึกวิญญาณซะเป็นส่วนมาก
หรือว่าคนเราจะดรอปผลึกวิญญาณออกมาง่ายขึ้นถ้ากําลังตื่นเต้นเหรอ
เหมิงเหล่ยคิด แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่อยู่นิ่งเฉย เขาออกมาจากตรงนั้นแล้วหาทางเดินลงไปยังอัฒจรรย์ด้านล่างอย่างเงียบๆ นักสู้นั้นถือว่าเป็นพนักงานภายในสนามเพราะงั้น
นอกเหนือจากห้องวีไอพีแล้ว พวกเขาสามารถเดินไปไหนมาไหนในสนามได้อย่างอิสระ
“ติ้ง เก็บสําเร็จ ได้รับค่าวิญญาณ +5”
“ติ้ง เก็บสําเร็จ ได้รับค่าวิญญาณ +7”
เหมิงเหล่ยเก็บผลึกที่ดรอปออกมา ตอนที่เขาเดินไปรอบๆอัฒจรรย์
เหอะๆ ดีจริงๆเลย คิดถูกจริงๆที่มาที่นี้
ซุ้ม!!!
ในตอนที่เหมิงเหล่ยกําลังไล่เก็บผลึกอยู่นั้นเอง เสียงเชียร์ทั่วสนามจู่ๆก็เงียบลง เหมือนกับว่ามีใครไปกดหยุดมันไว้ เหมิงเหล่ยมองหน้าขึ้นไปดู แล้วพบว่าการประลองที่แท้จริงระหว่างราชันต์นักสู้กําลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
โล่เวทมนตร์ปรากฏลอยสูงขึ้นกลางอากาศ ราชันต์นักสู้ทั้ง 2 คนจ้องเขม่นหน้ากัน แค่มองหน้ากันก็มีประกายไฟสถิตออกมาเต็มไปหมดแล้ว
“นิโคลัส วันนี้ละข้าจะจบตํานานของเจ้าลงซะ”
โอเด็นโบกสะบัดปีกของเขา ร่างของเขาลองอยู่กลางอากาศ เสียงของเขาเย็นเฉียบเหมือนคมมีดพร้อมด้วยความเยือกเย็นที่ประกายออกมาจากแววตา
“เป็นเด็กปากดีสมกับเป็นอดีตชนชั้นสูงจริงๆ ขอให้หมัดของเจ้าหนักพอๆกับปากเจ้าด้วยละกัน” นิโคลัสยิ้มเหี้ยมมองคู่ต่อสู้ของเขาพร้อมสู้ตลอดเวลา
“ตายซะ!!!”
โอเด็นคํารามลั่นก่อนจะทิ้งดิ่งลงมาพร้อมหมัดติดไฟ
“ดี เข้ามาเลย!!”
ตุ้ม!!
แรงกระแทกพอๆกับอุกาบาตรเข้าชนโลก โอเด็นและนิโคลัสกระแทกเข้าหากันอย่างรุนแรง เสียงระเบิดนั้นเกิดเป็นคลื่นซัดเข้าหาคนดู ทั้งคู่กระเด็นออกจากกัน ก่อนที่จะพุ่งเข้าหากันใหม่แล้วต่อยสวนแลกหมัดกันอย่างนัว
ทุกๆหมัดต่อยเข้าเป้าอย่างแม่นยํา แต่ไม่มีใครถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว
“โอเด็น เอาเลย!!”
“อัดมันให้น่วมเลยนิโคลัส!!!”
คนดูกลับมาตะโกนร้องด้วยความบ้าคลั่งอีกครั้ง
คนหนึ่งเป็นครึ่งมังกรที่มีสายเลือดของกษัตริย์ราชวงศ์มังกรไฟในตัว
ส่วนอีกคนเป็นครึ่งยักษ์ที่มีสายเลือดของยักษาโบราณในตัว
การต่อสู้ระดับนี้มันพอๆกับการเอาดาวอังคารมาชนกับโลก ไม่แปลกเลยที่คนดูจะตื่นเต้นกันมากขนาดนี้
เหมิงเหลยหยุดเก็บผลึกแล้วหันไปมองประกายไฟและหมัดในสนามด้วยดวงตาเปล่งประกายด้วยความอิจฉา ราชันต์นักสู้ ทั้งนิโคลัสและโอเด็น พวกเขาต้องเป็นนักรบระดับ 9 เป็นขั้นต่ําแน่ๆ
ระดับ 9 ระดับที่อยู่ใกล้เคียงกับระดับเซียนเทพมากที่สุด อีกแค่ก้าวเดียวก็จะเข้าถึงระดับเซียนเทพได้
ระดับเซียนเทพ
ตัวตนที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง ตัวตนที่อยู่เหนือชีวิต ความเป็นและความตาย ตัวตนที่ควบคุมสวรรค์และโลก สิ่งมีชีวิตที่อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ระดับ 9 นั้นจะเรียกว่าแข็งแกร่งที่สุดและมีพลังการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดในระดับที่เข้าถึงได้
ดูตัวอย่างจากทั้งอาณาจักรมังกรไฟก็ได้ ส่วนมากในอาณาจักรจะเต็มไปด้วยนักรบระดับ 6 ไม่ก็ระดับ 7 เพราะพวกครึ่งมังกรนั้นจะเกิดมาพร้อมๆกับพรสวรรค์ในสายเลือดของตัวเอง ฝึกฝนตัวเองแค่นิดหน่อย พวกเขาก็สามารถกลายเป็นระดับ 6 หรือระดับ 7 ได้ง่ายๆเมื่ออายุถึง
แต่ถ้าจะให้เทียบแล้ว ยิ่งระดับสูงยิ่งยากที่จะฝึกฝนและพัฒนานักรบระดับ 8 นั้นมีจํานวนน้อยกว่าระดับต่ํากว่าเกือบ100 เท่า แค่ฟังความสามารถทางสายเลือดและพรสวรรค์อย่างเดียวมันไม่เพียงพอที่จะไปถึงระดับ 8 ได้ มีเพียงคนที่ขยันฝึกฝนตนเองเท่านั้นที่จะก้าวข้ามระดับ 7 ไปได้
ส่วนระดับ 9 นั้นยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ว่ากันว่าในจํานวนครึ่งมังกร หมื่นคนจะหาคนที่เป็นระดับ 9 ซักคนยังยากเลย เพราะงั้นนักรบระดับ 9 จึงกลายเป็นคนที่มีสถานะทางสังคมสูงเสมอ เป็นคนที่ถูกยกย่อง นับหน้าถือตา หรือไม่ก็เป็นขุนพลในกองทัพ คนที่จะมายอมเป็นนักสู้เพื่อความสุขของคนดูนั้นยิ่งหาได้ยากมากๆ
และนั้นอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ว่าทําไมโอเด็นกับนิโคลัสถึง ได้โด่งดังมากขนาดนั้น
ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม!!
การต่อสู้ในสนามประลองนั้นดุเดือดเลือดพล่าน โอเด็นพุ่งทะยานจนตัวเองหลอมรวมไปกับแสงสีแดงฉาน ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด ขนาดที่เห็นเป็นภาพลวงตาของเขาอยู่บนสนามเท่านั้น
ส่วนทางด้านความเร็วของนิโคลัสนั้น ถึงแม้ว่าจะช้ากว่าโอเด็นอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าเทียบตามน้ําหนักขนาดตัวและกําลังแล้ว เขาเหมือนภูเขาก้อนโตที่ไม่ว่าโอเด็นจะซัด จะต่อย จะเตะซักกี่รอบ เขาก็ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ไหวติงเลย
โอเด็นนั้นได้เรื่องของความเร็วสูง การโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรง
ส่วนนิโคลัสได้เรื่องการป้องกันที่แกร่งเหมือนหินผาและพละกําลังที่มหาศาล
พลัง ปะทะ ความเร็ว
คนนึงต่อยโดนทุกนัดแต่แทบไม่บาดเจ็บเลย
ส่วนอีกคนนึงต่อยดอกเดียวอาจจะปางตายได้แต่ช้ากว่าหลายขุม
มันเป็นการประลองที่ไม่รู้จะจบลงยังไง
เหมิงเหล่ยที่ดูการแข่งอยู่ก็คิด คนดูเองก็เริ่มหงุดหงิดกับสถานการณ์ที่ยืดเยื้อในสนาม พวกเขาตะโกนมากขึ้น ดังขึ้น รุนแรงขึ้นกว่าที่เคย หวังว่าคนที่พวกเขาเชียร์จะเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้
“หี ไอ้หนู เจ้านี้ทําเป็นแค่บินไปมาเหมือนแมงวันหรือไงกันวะ” นิโคลัสเหวี่ยงกระบองไปมาแต่ไม่โดนแม้แต่ครั้งเดียว เขาพูด “แน่จริงก็เข้ามาดิวะ เก่งจริงเขาไม่จําเป็นต้องหลบโว้ย เจ้าคิดว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้ด้วยการบินหลบไปหลบมารีไง”
“หึม!!”
โอเด็นยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่แต่เขาเองก็ทําอะไรมากกว่านี้ไม่ค่อยได้ เพราะเขาเองก็ยังเด็กมาก ร่างกายของเขายังพัฒนาไปไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ถ้าเทียบศักยภาพทางร่างกายแล้ว เขาแพ้นิโคลัสเห็นๆ
ถ้าข้าได้ฝึกวิชามังกรไฟมากกว่านี่ละก็ ข้าคงจะจัดการเจ้านั่นได้ในหมัดเดียวซะด้วยซ้ํา เสียดายจริงๆ
แต่ถึงอย่างนั้น ในช่วงจังหวะคิดแค่เสี้ยววินาทีนั้นเอง การเหม่อเผลอคิดเรื่องอื่นในการต่อสู้ระดับนี้ มันเท่ากับความผิดมหันต์ วินาทีนั้นเอง นิโคลัสที่ประสบการณ์เหนือกว่าหวดกระบวงของเขาอย่างแรง โอเด็นที่สติหลุดไปแวปเดียวหลบพ้นก็จริง แต่นิโคลัสซ้อนแผนด้วยการซัดหมัดเข้าซ้ําในทันที
โอเด็นพกดวงมาไม่มากพอรอบนี้
ผลัก!!!!!
หมัดเหล็กซัดเข้าเต็มๆโอเด็น โอเด็นกระเด็นออกมาอย่างแรงพร้อมด้วยเลือดที่ท่วมใบหน้าของเขา
“ตายซะ!!!”
นิโคลัสไม่พลาดโอกาสทองทันที เขาพุ่งเข้าไปสอยหมัดใส่โอเด็นที่กําลังจมเป็นผักเปียกอยู่กับพื้น เสียงกระแทกและแตกหักลั่นออกมา โอเด็นโดนต่อยจมดินในทันที
เสียงคํารามของคนดูหยุดเงียบลงกะทันหัน
คนดูทั้งสนามมองกันไปมาอย่างงงๆ เหมือนกับว่าพวกเขายังตั้งสติไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น การต่อสู้ที่สูสีเมื่อกี้ จู่ๆก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าในพริบตาโอเด็น
แพ้เหรอ?
เฮ
หลังจากความเงียบ เสียงตะโกนของฝั่งนิโคลัสก็ดังลั่นขึ้นมา ส่วนฝั่งโอเด็นนั้นได้แต่กล่นด่าไม่ยอมรับผลที่ออกมาแบบนี้
เหมิงเหล่ยเองก็ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ เขาเดินตรงเข้าหาสนามประลองแล้วพูด “โดนต่อยหนักขนาดนั้น บางที่ใส้พุงของโอเด็นอาจจะทะลักออกมาแล้วก็ได้มั้งนะ”
เหมิงเหล่ยไม่รู้หรอกว่าโอเด็นจะนอนใส้แตกด้วยแรงหมัดรึยัง แต่ที่เขารู้แน่ๆคือตอนที่นิโคลัสถอนหมัดออกจากโอเด็น จู่ๆก็มีผลึกแสงสีแดงฉานดรอปออกมาจากตัวของโอเด็น
มันคือผลึกของนักรบระดับ 9 โอเด็น ผลึกนั้นมันต้องโคตรรดีแน่ๆ เขาคิดแล้วรีบหยิบมาทันที
“ติ้ง เก็บสําเร็จ ยินดีด้วย เจ้าของได้รับสายเลือดมังกรไฟ!”
หะ อะไรนะ