บทที่ 7 4 มหาจักรวรรดิ กับ ระบบชนชั้น 4 วรรณะ
รสชาติแอลกอฮอลเผาปากกับรสขมนำขึ้นมา ไม่ใช่แค่ผิวสัมผัสจะเหมือนโคลน แต่รสชาติก็ยังแย่สุดๆอีก แย่กว่าเหล้าเถือนซะด้วยซ้ำ
เหมิงเหล่ยไม่ได้ชอบมันเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังฝืนใจกินต่อไปอีกหลายอึก หลังจากผ่านไปหลายเดือนตั้งแต่ถูกส่งมาที่โลกนี้ เขากินแต่น้ำเปล่ากับเนื้อรมควันทุก ๆ วัน จนจะอ้วกให้ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ในที่สุดก็มีแอลกอฮอลมาเข้าปากซักที ทำไมถึงจะไม่ดื่มมันละ
“ใจเย็นๆซิเจ้าหนุ่ม อย่ากินหมดจะดีกว่านะ”
ฮัดเดอร์หัวเราะตอนที่เห็นแบบนั้นก่อนจะพูด “ข้าใช้ตั้ง 1 เหรียญทองซื้อมาจากคาราวานขายของที่ผ่านทางมา ข้าเหลือขวดสุดท้ายแล้วนะ ถ้าเจ้ากินหมด ก็หมดแล้วไม่มีเติมนะ”
“เข้าใจแล้ว”
หลังจากกรอกไวน์เข้าปาก ลิ้มรสชาติเนื้อไปได้ซักพัก หมูป่าขนาดใหญ่เกือบครึ่งตัวลงไปอยู่ในท้องของเหมิงเหล่ยกับฮัดเดอร์ ทั้ง2 คนนั่งพิงประตูแล้วคุยกันไปมาเหมือนลูกศิษย์กับอาจารย์กลับมาคืนสู่เหย้ากัน
“เหมิงเหล่ย เจ้าเองก็มีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ จงไปไขว้คว้าโอกาสเอาไว้เถอะ บางทีนี้อาจจะเป็นโอกาสที่จะได้เปลี่ยนชะตาชีวิตของเจ้าก็ได้นะ อย่าปล่อยให้มันหลุดมือเจ้าไปได้เด็ดขาดนะ” เสียงพูดเหมือนเข้าใจชีวิต ดังขึ้นมาจากฝั่งของฮัดเดอร์ ข้าเองก็เคยอยู่ในกองทัพมาก่อน เพราะงั้นข้าเลยไปมาหลายที่หลายแห่ง จะบอกว่าข้าเป็นคนที่มีประสบการณ์ มากที่สุดในหมู่บ้านก็ว่าได้”
“ได้เลยครับ” เหมิงเหล่ยพยักหน้าเงียบๆ
“วิชาวิทยายุทธนั้นมันอยู่ห่างไกลเกินกว่าคนส่วนใหญ่จะเอื้อมถึง พวกเขาเลยไม่สามารถฝึกฝนหรือเรียนรู้เวทมนตร์ได้ แต่ในขณะเดียวกัน การฝึกฝนเวทมนตร์นั้นจำเป็นต้องใช้พรสวรรค์อย่างมาก หากไม่มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ไม่ว่าคนจะฝึกขนาดไหนก็ไม่มีทางเป็นจอมเวทได้อย่างแน่นอน”
กัปตันฮัดเดอร์มองตรงมาทางเหมิงเหล่ยแล้วพูดต่อ “เจ้าเอง ในทางกลับกันจู่ก็กลายมาเป็นจอมเวทโดยที่พวกเรายังไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ มันทำให้เห็นว่าเจ้ามีพรสวรรค์มากแค่ไหน”กัปตันเองก็หาคำชมอื่นที่เหมาะสมไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
สุดยอดเหรอ
น่าเหลือเชื่อเหรอ
สุดสะพรึงเหรอ
แต่ไม่ว่าจะอธิบายด้วยคำไหน เขาก็มั่นใจมากๆอยู่ดีว่าเหมิงเหล่ยนั้นต้องครอบครองพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์อันแข็งแกร่งไว้แน่ๆ พรสวรรคต์อันล้ำค่า ที่คนนับไม่ถ้วนใฝ่ฝันอยากจะมีแต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็มีไม่ได้
นี้ฉันมีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์เหรอ
เหมิงเหล่ยเริ่มไม่แน่ใจแล้วก็แอบกังวลนิดหน่อย
“เหมิงเหล่ย เจ้าจงจำไว้นะ จงคว้าโอกาสเอาไว้ให้ดี”
ฮัดเดอร์สะอึก เหมือนจะเมาๆแล้ว ก่อนจะพูด “เจ้าควรจะรู้ไว้ด้วยว่าหมู่บ้านของเรานั้นอยู่ภายใต้อาณัตของอาณาจักรมังกรไฟ ซึ่งเป็น 1 ในอาณาจักรภายใต้บัญชาของจักรวรรดิเทพมังกรอีกที”
เหมิงเหล่ยพยักหน้าเงียบๆ
ในทวีปแดนสวรรค์นั้น มีเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่รวมกันนับไม่ถ้วน เผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่งและเก่าแก่ที่สุดนั้น มีอยู่ด้วยกัน 4 เผ่าพันธุ์ใหญ่ๆ คือเผ่าพันธุ์มังกร เผ่ายักษ์ พวกภูติ แล้วก็เหล่ามนุษย์สัตว์
ทั้ง 4 เผ่าพันธุ์นั้นยึดครองพื้นที่ในทวีปแดนสวรรค์และแบ่งแยกพื้นที่กันอย่างชัดเจน เพื่อสวรรค์เป็นมหาจักรวรรดิ์ขึ้นมา 4 แห่ง เพื่อปกครองทวีปแดนสวรรค์มานานกว่าหมื่นปี
จักรวรรดิเทพมังกร
จักรวรรดิยักษา
จักรวรรดิภูติ
และจักรวรรดิเดรัจฉาน
ในบรรดา4จักรวรรดินั้น จักรวรรดิเทพมังกร ตั้งขึ้นอยู่ ณ เขตแดนตะวันออกของทวีปแดนสวรรค์ คอยทะเลนิรันดรทางฝั่งตะวันออก และอยู่ติดกับเทือกเขาสัตว์เวทมนตร์ทางฝั่งตะวันตก ภายในจักรวรรดิแบ่งเป็น 15 อาณาจักรและ หัวเมือง อีก 48 หัวเมือง ทั้งหมดถูกจัดการและบริหารโดยมังกรยักษ์
มังกรยักษ์นั้นแข็งแกร่งและทรงอิทธิฤทธิ์มาก แถมยังเชี่ยวชาญในศาสตร์เวทมนตร์ที่ชื่อว่า เวท วจนะมังกร พวกมันเป็นเผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีป แต่โชคร้ายที่สายเลือดแห่งมังกรยักษ์นั้น แข็งแกร่งเกินไป จนทำให้อัตราการสืบสายพันธ์ของมันน้อยมากๆ
กัปตันพูดเหมือนกับเป็นคนกร้านโลก เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย เขาเล่าต่อ “ถ้ามองดูภายในจักรวรรดิ์เทพมังกรดีๆ จำนวนของมังกรยักษ์สายเลือดบริสุทธิ์นั้นมีน้อยมาๆแล้ว และเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ ทางจักรวรรดิจึงได้แบ่งประเภทของคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิไว้ 4 ชนชั้น”
“4 ชนชั้นงั้นเหรอ?”
เหมิงเหล่ยตั้งใจฟังขึ้นมา
“ใช่แล้ว 4 ชนชั้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ ระบบแบ่งชนชั้น 4 วรรณะ”
กัปตันหัวเราะเบาๆออกมาก่อนจะพูด “ชนชั้นทั้ง 4 นั้นจะเป็นตัวแทนของสถานะทางสังคมที่ต่างออกไปอย่างชัดเจน ความไปถึงสิทธิ์พิเศษและกฏหมายที่ปฏิบัติต่างกันอย่างชัดเจน”
“พวกมังกรเลือดบริสุทธิ์นั้นแน่นอนว่าเป็นชนชั้นสูงสุด พวกมันเกิดมาเป็นชนชั้นสูง และถูกแต่งตั้งให้เป็นมาควิสแห่งจักรวรรดิตั้งแต่ที่เกิดออกมา พวกมันไม่ได้แค่เป็นเจ้าของพื้นที่มากมาย แต่มันยังได้รับทุกสิทธิ์พิเศษต่างๆนานา ที่มนุษย์อย่างเราไม่มีทางได้ฝันถึงได้”
ชนชั้นแรก มังกรเลือดบริสุทธิ์
เกิดมาเป็นชนชั้นสูง
ถูกแต่งตั้งให้เป็นมาควิสตั้งแต่เกิด
เหมิงเหล่ยค่อยๆย่อยข้อมูลที่ฟังมาเข้าไปในสมอง จากนั้นเข้าก็ถาม “แล้วชนชั้นที่2ละครับ”
“ชนชั้นที่2 คือพวกครึ่งมังกร”
ฮัดเดอร์พูดเสียงเบาลง “พวกมังกรนั้นจริงๆแล้วมีความต้องการทางเพศสูงมาก เพื่อที่จะทดแทนอัตราการกำเนิดที่ต่ำ พวกมังกรเลือดบริสุทธิ์จึงมักจะไปทำเรื่องเสียวกับเผ่าพันธ์อื่นไงละ เพราะแบบนั้นจึงทำให้ถือกำเนิดเผ่าพันธ์ลูกผสมระหว่างสายเลือดมังกรกับเผ่าพันธ์อื่น ลูกที่เกิดออกมา เราเรียกพวกนั้นว่าครึ่งมังกร ซึ่งก็จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทอีก คือมนุษย์ครึ่งมังกรกับสัตว์ครึ่งมังกร”
เหมิงเหล่ยตะลึง ภาพจินตนาการเริ่มแล่นเข้ามาในหัวของเขา มังกรขนาดยักษ์ กำลังขึ้นขี่หมูป่าอย่างเมามัน จากนั้น ก็ให้กำเนิด…อะไรละ … หมูมังกรเหรอ?
แล้วถ้ามันขี่คนละ…. เหงื่อไหลเย็นเม็ดเป้งผุดขึ้นมาบนหน้าของเขา มนุษย์ครึ่งมังกรซินะ
“พวกลูกครึ่งมังกรนั้นจะได้รับความสามารถของมังกรมาด้วยส่วนนึง ทำให้พวกเขามีพละกำลังที่มหาศาล แถมยังสามารถใช้เวทวจนะมังกรได้อีกนิดหน่อยด้วย รวมถึงจำนวนที่เยอะมากๆ พวกมันจึงกลายเป็นกำลังหลักของจักรวรรดิเทพมังกร 80% ของพวกชนชั้นสูงในจักรวรรดิเทพมังกรนั้น เป็นพวกครึ่งมังกรนี่ละ”
เหมิงเหล่ยถามต่อ “แล้วชนชั้นที่3ละครับ”
“ชนชั้นที่3 ก็คือขุนนางมนุษย์นี้ละ” ฮัดเดอร์ถอนหายใจก่อนจะพูด “ในจักรวรรดิเทพมังกร อัตราส่วนประชากรส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่ครึ่งมังกรหรือเผ่าพันธุ์อื่น หากแต่เป็นมนุษย์นี้ละ ที่มีเยอะเกือบ90% ของจักรวรรดิเทพมังกร”
“มนุษย์ส่วนมากนั้นจะมีความสามารถในการรบต่ำ ทำให้สถานะทางสังคมก็จะต่ำไปด้วย แถมมนุษย์ส่วนมากยังไม่สามารถแม้แต่สัมผัสได้ถึงเวทมนตร์หรือออร่าสงครามด้วยซ้ำ เพราะงั้น พวกเราจึงถูกจัดไว้ในชนชั้นที่ 4 แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีบางคนที่เกิดออกมาพร้อมกับพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ ผ่านการฝึกฝนจนกระทั้งได้เรียนรู้ออร่าสงครามและเวทมนตร์จนครอบครองพลังที่แข็งแกร่ง ในทวีปแดนสวรรค์นี้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ความสามารถทางการต่อสู้จึงเป็นเกณฑ์กำหนดสถานะทางสังคมด้วย คนที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษย์ก็จะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นชนชั้นสูงภายในจักรวรรดิเทพมังกร”
“1 ในนั้น ชายผู้โด่งดังที่สุด คือเทพดาบพายุหเหมันต์ ท่านกาเรน โบนาปาร์ดยังไงละ!!”
ตอนที่เขาพูดถึงกาเรน โบนาปาร์ด สายตาของกัปตันฮัดเดอร์ก็เต็มไปด้วยความชื่นชมและนับถือ เขาพูด “ตำนานของท่านกาเรนนั้นรู้จักกันดีทั่วทั้งทวีปเลย เขาเป็นเหมือนตัวแทนและศักดิ์ศรีของมนุษยชาติ การมีอยู่ของเขานั้นเป็นแรงบรรดาลใจให้มนุษยชาติก้าวต่อไปได้ยังไงละ”
“กาเรน โบนาปาร์ดงั้นเหรอ” เหมิงเหล่ยพยักหน้าเบาๆ ชื่อนี้เป็นหัวข้อแต่งเพลงของเหล่านักกวีพเนจรมากมาย ทั้งบทเพลง กวีเกี่ยวกับเขานั้น มีให้เห็นให้ฟังมากมาย มากถึงขนาดเด็กน้อยอายุ 3 ขวบยังรู้จักเขา เขาเรียกได้ว่าเป็น มนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิเทพมังกร และเป็นมนุษย์ที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในจักรวรรดิด้วย”
“ส่วนชนชั้นที่ 4 ก็คือคนธรรมดาอย่างพวกเรา” ฮัดเดอร์พูด “คนธรรมดาอย่างพวกเรานั้นมีสถานะทางสังคมต่ำอยู่แล้ว และจะถูกแยกออกมาจากจักรวรรดิ ไม่เพียงแต่เราจะไม่ได้รับการปกป้องจากกฎหมาย แต่เรายังต้องโดนส่งไปเกณฑ์ทหารด้วย กฎของจักรวรรดิสั่งการชัดเจนว่า มนุษย์ทุกคนที่อายุ 16 ปีจะต้องไปรายงานตัวต่อจักรวรรดิเพื่อรับการเกณฑ์ทหารเข้ารับใช้กองทัพ ไปขุดเหมืองหาแร่ในเหมืองหรือไม่ก็เข้าไปเป็นยามหรือทาสในปราสาทของขุนนาง”
“ชะตาของคนชนชั้น4นี้แย่สุดๆไปเลยนะครับ ชะตาของคนธรรมดาอย่างเราก็ด้วย”
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าก็อายุ15 แล้วนี่ใช่ไหม”
Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก – ตอนที่ 7 4 มหาจักรวรรดิ กับ ระบบชนชั้น 4 วรรณะ
Posted by ? Views, Released on October 14, 2021
, Picking Up Attributes From Today
Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก
ในทวีปแดนสวรรค์ ทั้งเผ่ามังกร เผ่ายักษ์ เผ่าครึ่งสัตว์ เผ่าภูติ สัตว์เวทมนตร์ และเผ่าพันธ์อื่นๆต่างแย่งกันขึ้นเป็นใหญ่
เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นถูกกระทำเยี่ยงทาสและต้องใช้ชีวิตอย่างต้อยต่ำ ในขณะที่เผ่ามังกรนั้นถือตัวเองเป็นขุนนางกดขี่ในทุกๆด้าน
แต่ถึงอย่างนั้น จุดเปลี่ยนก็ได้มาถึง
ชายหนุ่มนามเหมิงเหล่ย มนุษย์ผู้ถูกส่งมาจากโลกมนุษย์ถูกส่งมาให้กลายเป็นแค่ ชาวบ้านธรรมดา
แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้รับ ระบบเก็บของที่แข็งแกร่งที่สุด
“ติ้ง ค้นพบไอเทมดรอป จะเก็บมารึไม่”
จะเป็นเงิน สิ่งของ ไอเทม อาวุธ เวทมนตร์ ลมปราณ พลังวิญญาณ ระบบเก็บของที่แข็งแกร่งที่สุด (หรือยอดระบบเก็บของ) ก็สามารถเก็บได้ทุกอย่าง
….
“จะฝึกเป็นจอมเวทหรือเป็นนักรบดีละ โว้ยเลือกยากจริง เป็นมันทั้ง2อย่างเลยละกัน”
ตามติดชีวิตของเหมิงเหล่ยสู่การเดินทาง เปลี่ยนชะตาจากชีวิตชาวบ้านธรรมดา สู่ตัวตนที่เหนือทุกสรรพสิ่ง ได้ใน
“ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก Picking Up Attributes From Today”
Recommended Series
Comment
Facebook Comment