EP 125.1 : หมดความอดทน
ผู้แปล loop
ใน เช้าวันรุ่งขึ้น.
อาจารย์ซุนจากบริษัทไห่ไห่การประมูลได้โทรหาดงซูบินสร้อยมุกได้ทำการเปลี่ยนสายหมดแล้ว พวกเราจะแสดงสร้อยคอให้ในตอนเช้า เขาถามว่าดงซูบินว่าต้องการที่จะที่งานประมูลด้วยหรือไม่ แสดงว่าการจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่เล็กๆเลย เพราะถ้ามันเป็นงานเล็กๆล่ะก็คงไม่มีการจัดแสดง เมื่อเห็นดังนั้นดงซูบินจึงขอให้อาจารย์ซุนหาตั๋วเข้างานให้เขา
ในเวลา 7.30 น. ดงซูบินอาบน้ำและเดินไปที่ห้องของฉูหยวน
ฉูหยวนอุ้มกระเป๋าของเธอและกำลังจะออกไปทำงาน “ ฉันคิดว่านายหลับอยู่ เอะแล้วทำไมวันนี้นายออกไปแต่เช้าเลยล่ะ”
ดงซูบินตอบ:“ เมื่อวานนี้ฉันบอกเธอแล้ว ฉันจะไปที่สำนักหนังสือพิมพ์กับเธอ! ฉันต้องการที่จะดูว่าคนงี่เง่านั้นขึ้นอยู่กับอะไร!” ฉูหยวนแสดงสีหน้าโมโหและกล่าวว่า:“ ซูบินเดียวฉันจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง นายไม่ต้องไปหรอก”
“ เธอจะจัดการอะไรได้ เธอจะทนให้พวกเขารังแกเธออยู่อีกหรอ หรือว่าจะนัดให้น้องชายเขามาเจอกันคืนนี้อีกล่ะ? อา? มันจะมีความหมายอะไร? ไปเพื่อคุยหรอ? บ้าไปแล้ว!” ดงซูบินโกรธจัด “ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหยุดฉันไปเมื่อคืนนี้ฉันจะไปตีเขา! ไอ้! เขาคิดว่าเขาเป็นรองบรรณาธิการและสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ? เขาคิดว่าเขาเป็นใคร!”
ฉูหยวนจ้องไปที่เขาและพูดว่า:“ เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่นั่น เชื่อฉันและอยู่บ้าน!” หลังจากถกเถียงกันมาระยะหนึ่งแล้ว ฉูหยวนก็ผลักดงซูบินไปที่บนโซฟา “ ฉันจะไปทำงานแล้ว อย่างมากฉันก็จะลาออกจากที่นั่น นายไม่ต้องตามฉันไปที่ทำงานหรอก ฟังฉัน. อยู่บ้านและดูทีวไม่ก่อเล่นเกม นายพักอยู่ที่บ้านนั้นแหละ หยุดวิ่งและพักผ่อนที่บ้าน” เธอพูดจู้จี้ก่อนที่จะเดินออกไป
แต่ดงซูบินไม่ฟังเธอเลย หลังจากเธอออกจากบ้านไปได้ 10 นาทีต่อมา ‘ฉูหยวนโดนรังแกขนาดนั้นแถมโดยทำร้ายอีก’รองบรรณาธิการกงคนนั้นรังแกฉูหยวนที่มีค่าของเขาและเธอก็ต้องกลืนความภาคภูมิใจของเธอและลาออกได้? ‘บ้าไปแล้ว! เขาจำฉากของฉูหยวนที่ถูกกระฉากผมที่หางโจวได้และความโกรธของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้ติดตัวไปได้! เขาต้องชำระแค้นในครั้งนี้!
ตาม สำนักข่าวปักกิ่งรายวัน
พนักงานของสำนักข่าวและผู้สื่อข่าวกำลังเดินช้าๆผ่านทางเข้าหลัก
ดงซูบินเดินทางมาถึงก่อนจะเข้าไปที่สำนักข่าวมองไปรอบ ๆ เขานั้นไม่ได้โง่ที่จะให้ใครมาจับพิรุจได้ เขารู้ว่าฉูหยวนเป็นคนขี้อายและไม่ต้องการให้หลายคนรู้ว่ารองบรรณาธิการบังคับให้เธอออกเดทกับน้องชายของเขา ดงซูบินมาที่นี่เพื่อให้เหตุผลกับผู้อำนวยการที่สำนักข่าว เขาเชื่อว่าจะต้องมีผู้อำนวยการที่มีเหตุผลพอ ตราบใดที่พวกเขาตรวจสอบว่ามีการยกเลิกข้อตกลงการโฆษณาพวกเขาก็จะรู้ว่าฉูหยวนเป็นผู้บริสุทธิ์และเปิดเผยสันดานที่แท้จริงของไอ้นั่น และจริงๆน่าจะลดตำแหน่ง ไอนั้นส่ะมากกว่า
เมื่อดงเซวปิงกำลังจะเข้าไปในสำนักข่าวเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ผู้ชายคนนี้มีความคล้ายคลึงกับคนที่มองหาฉูหยวนด้วยดอกกุหลาบ แต่หน้าของเขาแก่กว่าเล็กน้อยและมีรอยย่นบนหน้าผากของเขา นี่ต้องเป็นรองบรรณาธิการกง!แน่ๆ
“ บรรณาธิการกง”
“ อรุณสวัสดิ์บรรณาธิการกง”
รองบรรณาธิการกองกงยิ้มและพยักหน้าให้คนที่ทักทายเขา เขาถือกระเป๋าเอกสารและเดินเข้าไปในอาคารสำนักข่าวอย่างรวดเร็ว
ดงซูบินควบคุมความโกรธของเขาและไม่ได้เดินหนีไปไหน หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโจวเกา เขาก็รู้ถึงความสำคัญของการควบคุมอารมณ์ของเขาขึ้นมาทันที การเอาชนะผู้อื่นไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด มันอาจปล่อยให้เขาระบายความโกรธของเขา แต่เขาก็จะมีปัญหา ท้ายที่สุดดงซูบินก็เป็นข้าราชการเช่นกัน เขาจะสามารถทำตัวแย่ๆได้ถ้าเขาเป็นนักเลงหัวไม้ตามท้องถนน แต่ที่นี่เป็นสำนักข่าวของปักกิ่งรายวัน หนังสือพิมพ์ภายใต้กลุ่มปักกิ่งรายวัน เป็นหน่วยงานภายใต้กรมประชาสัมพันธ์เทศบาลกรุงปักกิ่ง นี่คือสาเหตุที่ดงซูบินไม่สามารถหุนหันพลันแล่นได้
หลังจากรองบรรณาธิการกงเข้าไปยังในอาคารและหายตัวไปรับสายตาของเขาดงซูบินสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปในอาคาร
หน่วยรักษาความปลอดภัยเห็นดงซูบินแต่เขาก็ไม่ได้ถูกห้ามให้เข้าไปในตึก
ดงซูบินจึงคิดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคงตกตะลึงจาก“ ออร่าความเป็นข้าราชการของเขา” และไม่ได้หยุดเขา แต่ที่จริงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นเขาเดินเข้ามาอย่างเปิดเผยและรู้สึกว่าเขามาที่นี้เพื่อมาทำธุระบางอย่าง นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุดดงซูบินไว้
“ เอ๊ะหัวหน้าซูบิน?” มีคนเรียกเขาจากด้านหลัง “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?”
ดงซูบินหันหลังกลับมาและเห็นเฉาปิง “ โอ้ผมมีธุระพอดีนะครับ กำลังมองหาคนอยู่”
“ มองหาฉูหยวนหรอ? หรือเปล่า? นายกำลังมองหาใคร ฉันพาไปหาได้นะ” เฉาปิงนั้นมีความประทับใจที่ดีกับดงซูบิน หลังจากที่เธอรู้ว่าดงซูบินเป็นหัวหน้าจากหน่วยงานรัฐบาลเธอจึงเรียกดงซูบินว่าหัวหน้า
ในตอนนี้ดงซูบินกำลังต้องการรู้ว่าจะพบกับผู้อำนวยการสถาณีได้อย่างไร เขาตอบว่า:“ ขอบคุณมาก ผมมาที่นี่เพราะฉูยวน เธอเล่าทุกอย่างให้ผมฟังเมื่อวานนี้” ดงซูบิน เห็นเฉาปิงประหลาดใจและเขาก็พูดต่อ “ผมมาที่นี่เพื่อให้เหตุผลกับผู้อำนวยการของคุณ คุณพอจะบอกผมได้ไหม ว่าหัวหน้าแผนกของคุณนั้นอยู่ที่ไหนและจะพบกับเขาได้อย่างไร”
เฉาปิงกล่าวว่า:“เอาจริงๆนะฉันจะไม่โกหก คุณ แต่ฉูหยวนพยายามพูดคุยกับคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าแล้ว แต่ก็ไม่เกิดผลอะไร”
“ พี่เฉาช่วยบอกผมด้วยเถอะ”
“ตกลง. ที่นั่น……คุณเห็นอาคารสีขาว 6 ชั้นนั้นหรือป่าว แผนกนักข่าวของเราอยู่ที่ชั้นสอง คุณไปที่ชั้นบนสุดและสำนักงานแห่งแรกทางซ้ายของคุณหลังจากออกจากลิฟต์คือสำนักงานหัวหน้าบรรณาธิการของเรา แต่มันก็ไร้ประโยชน์แม้ว่าคุณจะรู้ว่าออฟฟิศของเขาอยู่ที่ไหน แต่คุณไม่ได้นัดไว้ก่อน และคุณเองก็ไม่ใช่พนักงานยังไงก็ตาม หัวหน้าคงจะไม่ยอมให้คุณเข้าพบแน่ๆ”
เมื่อเห็นอย่างงั้นเขาก็ตรงไปที่ล็อบบี้เพื่อไปพบกับพนักงานต้อนรับก่อนที่จะแจ้งชื่อเข้าพบกับบรรณาธิการ
ณ ที่เคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับ ดงซูบินบอกกับพนักงานต้อนรับว่า“ ผมมาที่นี่เพื่อพบหัวหน้าบรรณาธิการของคุณ”
“ คุณได้นัดหมายไว้ก่อนรึเปล่าค่ะ?”
“ไม่ครับ”
“ อย่างงั้นดิฉันขอชื่อคุณไว้ก่อน”
“ดง.”
“ แล้วคุณต้องการพบเขาด้วยเหตุผลอะไร?”
“ ผมมีเรื่องที่จะต้องแจ้งให้กับบรรณาธิการรับทราบ”
“สิ่งนั้นคือ…….”
หลังจากคำถามหลายข้อดงซูบินยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปชั้นบน พนักงานต้อนรับบอกเขาว่าหัวหน้าบรรณาธิการอยู่ในที่ประชุมและไม่มีเวลาพบเขา ‘นี่เธอพยายามหลอกฉันหรอ’ ตอนนี้อารมณ์ของดงซูบินกำลังจะระเบิดออกมา แต่เขาพยายามบอกกับตัวเองให้สงบลง เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกพนักงานต้อนรับว่า “ อย่างงั้นผมอยากพบฉูหยวน จากแผนกผู้สื่อข่าว”
พนักงานต้อนรับทำการโทรศัพท์แล้วพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ข้างลิฟต์
ดงซูบิน เข้าไปในลิฟต์และลิฟต์หยุดที่ชั้นสอง มีคนจากแผนกนักข่าวเดินออกมา แต่ดงซูบินยังคงอยู่ในลิฟต์และกดที่ชั้นหก “ดิ้ง!” ลิฟต์เปิดออก มีเคาน์เตอร์ที่ลิฟท์ล็อบบี้และมีกระจกกั้นกั้นแยกลิฟท์ล็อบบี้และสำนักงาน ห้องทำงานของหัวหน้าบรรณาธิการอยู่ด้านหลังกระจกกั้น หากไม่มีบัตรการเข้าถึงของพนักงานสำนักข่าวไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ ผู้เยี่ยมชมสามารถลงทะเบียนได้ที่เคาน์เตอร์ก่อนเท่านั้น
“ ครับคุณกำลังมองหาใคร”
“ ฉันต้องการพบหัวหน้าบรรณาธิการของคุณ”
“ คุณนัดเขาไว้ไหม?”
มันเป็นคำถามอีกแบบ ในท้ายที่สุดพนักงานต้อนรับใช้ข้ออ้างในการประชุมเพื่อปฏิเสธ ดงซูบินเพียงตอนที่ดงซูบินต้องการถามเวลาการประชุมจะสิ้นสุดลงก็มีเสียงบี๊บ ชายในวัยห้าสิบเดินออกจากประตูกระจก พนักงานต้อนรับเห็นชายคนนั้นและต้อนรับเขาในฐานะหัวหน้าบรรณาธิการ จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ดงซูบิน“ ท่านครับชายคนนี้ต้องการพบกับท่านครับ เขาบอกว่าเขาต้องการสะท้อนบางสิ่ง”
ดงซูบินเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “ สวัสดีครับผมต้องการเวลาเพียงเล็กน้อยที่จะพูดอะไรบางอย่าง …….”
หัวหน้าบรรณาธิการกดลิฟท์และขัดจังหวะดงซูบิน“ คุณรอที่นี่ได้ไหม ฉันจะกลับมาหาคุณหลังจากเสร็จงาน”
ดงซูบินขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร
ผ่านไปสองชั่วโมง เกือบจะเป็นเวลาเที่ยงเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกและหัวหน้าบรรณาธิการปรากฏตัวขึ้นมา
‘เวรเอ๋ย! คุณแอบไปวางไข่มารึยังไง?’ ดงซูบินพยายามควบคุมอารมณ์ของเขาและยืนขึ้นจากส่วนที่เหลือ เขากล่าวว่า:“ ฉันต้องการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของรองบรรณาธิการหน่วยงานของคุณ เมื่อไม่นานมานี้เขาอยู่กับลูกค้าและขอให้ลูกค้าร้องเรียนเกี่ยวกับฉูหยวนของแผนกโฆษณาเกี่ยวกับทัศนคติของเธอ รองบรรณาธิการกงใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างในการลดระดับและโอนไปยังแผนกนักข่าว เขายัง……” ดงซูบินลดเสียงของเขาและพูดต่อไป “ บังคับให้เธอไปเดทกับน้องชายของเขา แต่เธอปฏิเสธและเธอถูกส่งตัวไปสอบสวนเรื่องอันตรายที่หางโจว นี้พนักงานของคุณเสี่ยงอันตรายขนาดนี้คุณจะไม่ทำอะไรเลยรึยังไง”
หัวหน้าบรรณาธิการคิดว่า ดงซูบินต้องการบอกเขาเรื่องที่สำคัญ แต่เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้เขาก็หงุดหงิด:“ ผมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอก คุณไปหาคนอื่นที่รับผิดชอบเรื่องนี้ดีกว่า”
“ แล้วหัวหน้าคนไหนกันเหล่าที่รับผิดชอบเรื่องนี้”
หัวหน้าบรรณาธิการไม่สนใจดงซูบินและหยิบซองสีน้ำตาลจากพนักงานต้อนรับก่อนเข้าลิฟต์อีกครั้ง