บทที่ 39 โอกาสมาถึงแล้ว กลายเป็นสมาชิกพรรค!!
ผู้แปล loop
โรงพยาบาลปักกิ่ง เจียงกง
หอผู้ป่วยในศัลยกรรมกระดูกและข้อ
ดงซูบิน ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลและมีจ้วงจื่อมากับเขาด้วย หลังจากช่วงบ่ายผ่านไป ดงซูบินได้การตรวจร่างกายและรักษาบาดแผลที่มีอยู่เต็มตัวทั้งแขนและขาของเขา เขามีแผลไหม้อยู่ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้เขายังมีแผลที่หัวไหล่และข้อเท้าของเขาด้วย มันเกิดจากหลอดไฟที่ร่วงลงมันแตกด้วยและกระเด็นใส่เขา โดยรวมแล้วอาการบาดเจ็บของดงซูบินในตอนนี้อยู่ในระยะปลอดภัย
ในตอนเย็นทุกคนจากสำนักงานกิจการรวมถึงผู้อำนวยการหลี่และหัวหน้าโจวเดินทางมาถึงโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมดงซูบิน
ดงซูบินที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอุณหภูมิร่างกายของเขาในตอนนี้อยู่ที่ 37.3 องศา เมื่อพยาบาลนำเทอร์โมมิเตอร์ออกหลังจากวัดไข้เสร็จ หลี่ชิงและโจวฉางจูก็เดินเข้าไปในห้องพอดี ดงซูบินเขาก็พยายามลุกขึ้นทันที “ ผู้อำนวยการหลี่ หัวหน้าโจว ” แต่ไหล่ของดงซูบินนั้นมีอาการเจ็บและไม่สามารถนั่งตัวตรงได้
หลี่ชิงรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพยายามหยุดซูบินไว้ “ อย่าพึงลุกขึ้นเลย นอนพักเถอะซูบิน”
เกาแพนเหว่ยมองดูไปที่ดงซูบินที่สวมชุดผู้ป่วยและไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเพียงน้ำเก้าอี้มาให้หัวหน้าทั้งสองคนนั่งเท่านั้น
โจวฉางจูและหลี่ชิงนั่งลงข้างเตียงแล้วถาม “ ซูบิน! นายเป็นยังไงบ้าง”
จริงแล้วดงซูบินไม่เคยถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายขนาดนี้มากก่อน เขาไอ “อะๆ … ขอบคุณครับที่เป็นห่วง. ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ผมคิดว่าผมสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันพรุ่งนี้เลย”
หลี่ชิงถามจ้วงจื่อถึงอาการของดงซูบิน และรู้ว่าดงซูบินนั้นเป็นคนกล้าหาญมากในสายตาของเขา เขาขมวดคิ้ว:“ พรุ่งนี้นายกลับบ้านได้แล้วจริงเหรอ? ตอนนี้นายเองยังลุกออกจากเตียงไม่ไหวเลยแล้วจะรีบกลับไปทำงานได้อย่างไรกัน? ซูบิน! นายไม่ต้องกังวลกับงานของนายนะ พี่โจวและฉันจะดูแลรายงานการคุมประพฤติของนายและค่ารักษาพยาบาลของนายให้เอง นายไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยในช่วงนี้และจดจ่ออยู่กับการพักฟื้นก็เพียงพอแล้ว”
โจวฉางจูพยักหน้า “ถูกต้อง. นายต้องพักผ่อนให้มากๆ”
หลี่ชิงและโจวฉางจูพ้นจากการถูกบังคับให้ลาออกเพราะดงซูบิน ทั้งคู่ต่างก็ขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้ง แม้แต่หลี่ชิงในตอนนี้เขาก็เทน้ำให้กับดงซูบินด้วยตัวเอง ฉางจี้ และ เกาแพนเหว่ยนั้นไม่เคยเห็น หลี่ชิง และ โจวฉางจูปฏิบัติต่อลูกน้องดีขนาดนี้มาก่อน พวกเขารู้สึกอิจฉาดงซูบินมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแสดงท่าทางใดๆออกมา เพราะท้ายที่สุดดงซูบินก็ได้ทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมออกมา
ดงซูบินยังบอกด้วยว่าเขาตั้งใจกลับไปทำงาน แต่เมื่อเห็นหัวหน้าของเขาอนุญาตให้เขาพักฟื้นตัวในโรงพยาบาล เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธมันแต่อย่างใด เพราะเขาไม่ต้องออกจากโรงพยาบาลในตอนนี้เช่นกัน นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงขนาดนี้และแม่ของเขาก็ไม่ได้อยู่ในปักกิ่งกับเขาด้วย จึงทำให้ตอนนี้อาจจะไม่มีใครดูแลเขาเมื่อเขากับไปห้องเหมือนเช่นเคย ประการที่สองถ้าเขาออกเร็วเกินไป หลี่ชิงและ โจวฉางจู จะไม่รู้สึกว่าพวกเขาเป็นหนี้บุญคุณดงซูบิน เขาต้องแกล้งทำเป็น “บาดเจ็บสาหัส” เพื่อแสดงให้หัวหน้าเห็นว่าเขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพวกเขาอย่างสุดความสามารถ
ถึงแม้ว่าดงซูบินไม่ได้ฉลาดมาก แต่เขาก็ยังฉลาดมาพอที่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปเช่นกัน
หลี่ชิงและโจวฉางจูผลัดกันพูดความยกย่องดงซูบิน หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งโทรศัพท์มือถือของหลี่ชิงก็ดังขึ้น เขาดูเบอร์ที่โทรเข้ามานั้น แล้วออกจากมาจากห้องพักรักษาตัวกับโจวฉางจูเพื่อออกไปรับสาย
หลังจากหัวหน้าของเขาหายไป เพื่อนร่วมงานของดงซูบินก็ดูผ่อนคลายมากขึ้น
ต้าหลินเหม่ยเองกหัวเราะและยกนิ้วให้กับดงซูบิน “ ซูบิน! ฉันประทับใจความกล้าของนาย ไฟนั้นแรงมาก และนายกล้าที่จะเข้าไปในนั้น ฉันนี้ตกใจมากๆเลยนะ”
ฉางจ้วงหัวเราะออกมา:“ เธอคิดว่าเธอเป็นคนเดียวหรือยังไง? ทุกคนก็ตกใจด้วยกันทังหมดแหละ โชคดีที่น้องซูบินไม่เป็นไร”
พี่หยางพูดเบา ๆ :“ ซูบิน! นายทำให้พวกเราภูมิใจในตัวนายมากๆ”
ตอนนี้ดงซูบินรู้สึกดีมาก แต่เขาก็ตอบอย่างสุภาพ:“ หยุดชมผมได้แล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรมาก และถ้าหากเอกสารถูกเผาจริงๆสำนักงานกิจการทั้งหมดจะต้องมีปัญหาแน่ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมรีบเข้ามาในนั้น”
ฉ้างจี้รู้ว่าดงซูบินกำลังพูดถึงอะไร
เกาแพนเหว่ยเองก็ก็คิดเช่นเดียวกัน ‘หากไม่เพราะชื่อเสียง นายก็คงไม่เสี่ยงชีวิตขนาดนั้นหรอกจริงไม? นายหลอกฉันไม่ได้หรอก’
แต่พวกเขาก็พูดในใจได้เท่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉางจี้ และเกาแพนเหว่ยเองก็รู้สึกประทับใจกับความกล้าหาญของดงซูบินหากพวกเขาได้รับโอกาสอีกครั้ง ฉางจี้ และ เกาแพนเหว่ย ก็ไม่คิดจะเข้าไปเสี่ยงชีวิตของพวกเขาอยู่ดี
ประตูห้องเปิดออก
หลี่ชิงและโจวฉางจูเข้ามาในห้องอีกครั้ง ผู้คนรอบ ๆ เตียงของดงซูบิน เขยิบตัสออกไปเพื่อหลีกทางให้กับหัวหน้าของพวกเขา
หลี่ชิงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงแล้วตบมือของดงซูบิน “ ฉันเพิ่งได้รับข่าวจากทางสำนักว่าพวกเขาอนุมัติใบสมัครของนายและตอนนี้นายได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนแล้ว”
ต้าหลินเหม่ยและคนอื่นๆรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก “ ซูบินนะเหรอ! เขาพึงส่งใบสมัครไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนไม่ใช่หรือไงค่ะ”
ดงซูบินเองก็ตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ผมได้รับอนุมัติแล้วหรอ?” เขายังไม่ทันได้ส่งรายงานเป็นระยะและยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรใดๆ จริงๆแล้วเขาต้องการเวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งปีจึงจะมีคุณสมบัติเป็นฝ่ายกิจกรรม และอีกหนึ่งปีในการเป็นสมาชิกของพรรค แล้วเขาจะได้เป็นสมาชิกพรรคได้อย่างไรหลังจากสองสัปดาห์หลังจากส่งใบสมัคร สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง
โจวฉางจูหัวเราะ “ การอนุมัติของนายเป็นกรณีพิเศษ”
ทุกคนในห้องนั้นเข้าใจทันทีว่าทำไม
การเข้าร่วมพรรคด้วยการอนุมัติพิเศษเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในระหว่างการช่วยเหลือประชาชนจากภัยธรรมชาติ เช่นแผ่นดินไหวหรือสงคราม บุคคลเหล่านั้นที่มีการแสดงที่พิเศษและเงินสมทบจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพรรคในทันที
หลี่ชิงอธิบาย “ บ่ายวันนี้หลังจากเราดับไฟ พี่โจวและฉันได้คุยกันและตัดสินใจที่จะส่งจดหมายสมัครพเข้าพรรคของนายไปยังผู้บริหารระดับสูง เพื่อขอการอนุมัติพิเศษสำหรับนาย สายที่โทรเข้ามาก่อนหน้านี้เป็นการแจ้งให้ฉันทราบว่าคำขอของฉันได้รับการอนุมัติแล้ว และเมื่อนายกลับมาทำงาน นายจะต้องไปสาบานตน หลังจากนั้นนายจะเป็นสมาชิกของฝ่ายคุมประพฤติของพรรค” จริงๆคุณสมบัติของดงซูบินนั้นยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้ได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษ แต่เพื่อทดแทนบุญคุณหลี่ชิงและโจวฉางจูได้เดินทางไปยังสำนักงานของหัวหน้าของพวกเขาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการอนุมัติพิเศษในครั้งนี้ ผู้อำนวยการหยานเองก็ได้เห็นความกล้าหาญของดงซูบินไปแล้ว และด้วยความช่วยเหลือของเขาก็ทำให้ดงซูบินได้รับการอนุมัติในทันที
เกาแพนแหว่ยและฉางจี้เองก็อิจฉาดงซูบินอยู่ไม่น้อย เพราะมันยากมากที่จะเห็นคนที่จะได้รับการอนุมัติแบบพิเศษเช่นนี้
ดงซูบินดีใจมาก! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังไว้ก่อน ว่าเขาจะเป็นสมาชิกพรรคและเมื่อเป็นนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูดีขึ้น ดงซูบินแสดงสีหน้าที่มีความปิติยินดีเป็นอย่างมาก”:“ ขอบคุณผู้อำนวยการหลี่ ขอบคุณหัวหน้าโจวครับ ผมจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวัง ผมจะทำงานหนักขึ้นเพื่อนพรรคคอมมิวนิสต์และจะพร้อมที่จะเสียสละตัวเองเพื่องานพรรคและประชาชนคนเรา……”
หลี่ชิงหัวเราะ:“ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่นายจะแสดงความภักดีต่อพรรค”
“ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…….” ทุกคนหัวเราะ
หลังจากคนที่มาเยี่ยมทั้งหมดกลับไป ดงซูบินได้นอนซุกผ้าห้มและหัวเราะออกมา การเสี่ยงตายในครั้งนี้มันคุ้มค่าจริงๆ ไม่เพียง แต่เขาจะได้รับความไว้วางใจจากหลี่ชิงและโจวฉางจูแม้แต่ผู้อำนวยการสำนักและเพื่อนร่วมงานทุกคนก็ประทับใจเขาเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสตต์ได้สำเร็จ
‘ฮ่าฮ่าฮ่า…… .. ตอนนี้ฉันเป็นสมาชิกพรรคแล้ว !!!’